เขียน email ขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ

การเขียนอีเมลแบบเป็นทางการสิ่งที่สำคัญคือความกระชับ บวกกับความชัดเจนในจดหมายหนึ่งฉบับ เพราะนึกภาพดูสิคะว่าบริษัทหรือองค์กรๆหนึ่งจะต้องติดต่อกับคนหรือองค์กรอื่นๆอีกกี่องค์กร การที่อีเมลของเรามีความกระชับและชัดเจนจะทำให้คนอ่านเข้าใจจุดประสงค์ของเราได้ง่าย และไม่เสียเวลาสำหรับคนอ่าน

การเขียนอีเมลนี่ความจริงเค้าก็มีรูปแบบ และแนวทางการเขียนที่ชัดเจนนะคะ มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจนว่าส่วนไหนจะพูดถึงเรื่องอะไร เรียกได้ว่าในแต่ละส่วนไม่มีส่วนใดสำคัญน้อยไปกว่ากันเลย  และวันนี้เราจะพูดถึงในส่วนท้ายของอีเมลกันว่าควรจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

เขียน email ขอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ

สิ่งที่ควรใส่ไว้ในย่อหน้าสุดท้ายของจดหมาย

1. การย้ำสิ่งที่ต้องการให้ผู้รับจดหมายรับรู้ หรือกระทำตามอีกครั้ง ด้วยประโยคที่กระชับเข้าใจง่าย มักขึ้นต้นด้วยประโยคด้านล่างนี้ แล้วตามด้วยกริยาที่เราต้องการให้ผู้รับจดหมายกระทำ

We/I would like to ask you to…. (เรา/ฉัน อยากจะขอให้คุณ….)
We/I hope you will be able to…. (เรา/ฉัน หวังว่าคุณจะสามารถ….)
I am writing to ask you to please…. (ฉันเขียนมาเพื่อขอความกรุณาให้คุณ…)
Could you please look into this matter? (รบกวนให้คุณช่วยตรวจสอบปัญหานี้หน่อยได้หรือไม่?)
We/I should be glad if you would…. (เรา/ฉันจะมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าคุณ…)

2. ในช่วงสุดท้ายอาจใส่คำขอบคุณผู้รับในกรณีใดกรณีหนึ่ง อย่างการที่จะช่วยแก้ไขให้ หรือ แม้แต่การสละเวลาเพื่อช่วยเหลือ และถ้าคุณขอให้ทางผู้รับช่วยเหลือสิ่งใดก็ให้ขอบคุณล่วงหน้าไปด้วย อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงหนทางในการติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำคัญไม่แพ้กันคือการกล่าวถึงการติดต่อกันในอนาคตเพื่อเป็นการจบจดหมาย เช่น

I appreciate immediate attention on this matter. (ฉันหวังว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด)
We hope to continue relying on your valued input as a customer. (เราหวังว่าจะได้เป็นลูกค้าของคุณต่อไป)
I once again apologize for inconveniences this may cause. (ฉันขออภัยอีกครั้งสำหรับความไม่สะดวกในครั้งนี้)
If you require further information, don’t hesitate to ask. (หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เสมอ)
I look forward to our continue working relationship and its success. (ฉันจะเฝ้าคอยดูความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันของเราและความสำเร็จของมัน)
Please provide the necessary advice. (กรุณาเตรียมคำแนะนำที่จำเป็น)
I look forward to meeting with you. ( ฉันจะตั้งตารอคอยที่จะได้พบคุณ)
I look forward to receiving your response. (ฉันจะตั้งตารอคอยที่จะได้รับผลตอบรับจากคุณ)
I look forward to listening to/hearing your reply. (ฉันจะตั้งตารอคอยที่ได้ได้ยิน /ได้ฟังผลตอบรับจากคุณ)
I look forward to hearing from you. (ฉันจะตั้งตารอคอยการตอบรับจากคุณ)

3. ปิดท้ายจดหมาย เมื่อจบย่อหน้าสุดท้ายให้เว้นบรรทัดมาประมาณหนึ่งบรรทัด ลงท้ายในบรรทัดต่อไปด้วย คำลงท้ายเหล่านี้ เพื่อแสดงความเคารพ

Yours sincerely
Yours faithfully
Sincerely yours
Faithfully yours
Most sincerely
Sincerely
Respectfully
Respectfully yours
Thank you for your consideration
Thank you
Best wishes,
Best regards

4. บรรทัดถัดมาก็ลงลายเซ็นของคุณ ใส่ชื่อเต็ม (ชื่อจริงและนามสกุล) ถ้าเขียนมาในนามตัวแทนองค์กรก็ให้ใส่ชื่อตำแหน่งของคุณมาด้วย

เช่น Amanda Lee

Amanda Lee
Marketing manager

5. ใส่คำว่า enclosure ในกรณีที่มีข้อมูลอื่นๆแนบมาด้วยกับจดหมายให้ เขียนไว้ในส่วนท้ายของจดหมายว่า Enclosure หรือ หรือ Enc.โดยอาจจะใส่รายละเอียดของสิ่งที่แนบมาด้วย หรือจำนวนของสิ่งที่แนบมาด้วยก็ได้

เช่น  Enclosure: Article by John Graham
      Encl. (2)

นี่ล่ะค่ะคือสิ่งที่ควรมีในย่อหน้าสุดท้ายของอีเมล สิ่งสำคัญคือเมื่อเขียนเสร็จทุกครั้งให้กลับมาทบทวนใหม่ทุกครั้งเสมอ และถ้าอยากมีความชำนาญมากขึ้นก็ต้องฝึกเขียนบ่อยๆนะคะ รับรองว่าอีกหน่อยก็จะกลายเป็นมือโปรในการเขียนอีเมลแน่ๆ

สอนภาษาอังกฤษเรื่องการเขียนอีเมล (email) เป็นภาษาอังกฤษ บทเรียนภาษาอังกฤษบทนี้ อ.ต้นอมร รวบรวมประโยคที่จำเป็นต้องใช้ แต่ผู้เรียนภาษาอังกฤษอาจไม่กล้าเขียน email เองเพราะภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรงพอ กลัวว่าถ้าเขียนอีเมลเองจะผิดแกรมม่าไวยากรณ์ ก็สามารถมาดูประโยคสำเร็จรูปที่จำเป็นจะต้องได้ใช้ในการเขียนอีเมล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงาน ติดต่อสื่อสารธุรกิจครับ และถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ สามารถเรียนภาษาอังกฤษฟรีได้โดยคลิก >> สอนภาษาอังกฤษฟรี โดยเว็บ tonamorn.com สอนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐานภาษาอังกฤษ จนถึงระดับสูง ครบถ้วนทั้งคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ผู้เรียนสามารถเลือกเนื้อหาที่ต้องการเรียนได้ฟรี มีการเพิ่มบทเรียนภาษาอังกฤษใหม่อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอครับ ถ้าเข้ามาเรื่อยๆ จะรู้ว่ามีเนื้อหาใหม่ตลอดครับ ช่วยกันแชร์ และบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ

ใน โลกการทำงานปัจจุบัน เราแทบจะหลีกเลี่ยงการสื่อสารในภาษาอังกฤษไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารทางอีเมล์ การใช้ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ หรือว่า business English จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อความไม่โป๊ะ วันนี้ จึงจะขอพูดถึงการเขียนอีเมล์ภาษาอังกฤษสำหรับการติดต่องาน ไม่ว่าจะเป็นกับเจ้าของภาษา (ซึ่งพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่) ชาวต่างชาติที่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษา และแม้แต่พี่ไทยด้วยกันเอง

1. การใช้คำว่า Khun หรือ K

ถ้าสำหรับชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทยหรือติดต่อพูดคุยกับคนไทยเป็นประจำ การจะใช้ Khun หรือ K นำหน้าชื่อเค้าก็คงไม่ได้นำมาซึ่งความแปลกประหลาดใจเซอร์ไพรส์ใหญ่โต แต่สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมไทยเท่าไหร่ เรียกแค่ชื่อเค้าก็พอค่ะ จะขึ้นต้นว่า Dear Michael หรือ Hi Michael คุณไมเคิ่ลก็จะไม่ได้รู้สึกกระดากใจแต่อย่างไร

2. หลังจากทักทายแล้ว ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบเค้าสักนิดก็จะดี

ตามธรรมเนียมชาวต่างชาติ เมื่อเจอกันนอกจากจะสวัสดี ฮิฮะแล้ว ส่วนใหญ่มักจะถามกันตามมารยาทว่า how are you? หรืออะไรในทำนองเดียวกัน ฉะนั้น เมื่อเขียนอีเมล์ภาษาอังกฤษ หลังจากสวัสดีแล้ว ก็ถามไถ่เค้าสักหน่อยตามมารยาทว่าสบายดีมั้ย ลองเอาประโยคเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ How are you? How have you been? Hope you’re well.

3. แนะนำตัวนิด

ถ้าหากเป็นการติดต่อกันครั้งแรก แนะนำตัวเองสักนิดหลังจากทักทายและถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเรียบร้อยแล้ว I’m Somying, accountant at Thailand Exports. แนะนำชื่อ ตำแหน่ง และบริษัท ไปโลดเลยค่ะ

4. แจ้งจุดประสงค์ของการติดต่อ

หลังจากแนะนำตัวแล้ว ก็แถลงไปได้เลยว่าที่เขียนอีเมล์มานั้นเพื่ออะไร

  • I’m writing to follow up on… ฉันเขียนอีเมล์มาเพื่อถามถึงเรื่อง...
  • May I please follow up on… ขออนุญาตตามเรื่อง...
  • I would like to ask about… ฉันเขียนมาถามเรื่อง...
  • Referring to your email… ตามที่คุณเขียนอีเมล์มา...
  • I’m wondering if… ฉันสงสัยว่า...
  • May I ask about… ขอถามหน่อยว่า...
  • To answer your question… เพื่อตอบคำถามคุณเรื่อง... (ในกรณีที่อีกฝ่ายเขียนมาหาเราก่อน)

5. การลงท้ายประโยคด้วยคำว่า ka หรือkha หรือ krub หรือ krab หรือ krap หรือ crap หรือ...

เหตุเกิดจากความสุภาพของคนไทยที่ชาวต่างชาติที่ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมไทยอาจจะไม่เก็ทอีกเช่นกัน ลองนึกดูในทางกลับกันว่า ถ้าเราติดต่องานกับชาวต่างชาติแล้วเค้าเขียนลงท้ายทุกประโยคด้วยคำหนึ่งพยางค์ที่ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ เราอ่านเราก็คงงงอยู่พอประมาณ แม้แต่ชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทย เค้าก็ไม่ได้ expect ว่าเราต้องพูด คะ ครับ ท้ายประโยคหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นสำหรับ business English ตัดมันออกไปได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสะกดว่า “crap” นี่ถึงขั้นวงแตกนะคะ เพราะคำว่า crap ในภาษาอังกฤษมีความหมายในทางลบมากๆ

6. กรุณาเบิ่งไฟล์แนบ

อันนี้เป็นอีกอย่างที่สำคัญมากในการสื่อสารเกี่ยวกับธุรกิจคือการบอกให้อีกฝ่ายดูในไฟล์ที่แนบมาพร้อมกับอีเมล์ ประโยคที่ใช้กันบ่อยที่สุดคงหนีไม่พ้น Please find attached…  หรือ Please find the attached…  แต่เพื่อความหลากหลายและเก๋ไก๋ เราไม่จำเป็นจะต้องพูดแค่ประโยคนี้เสมอไปนะคะ ลองอะไรแปลกใหม่ดูบ้าง เช่น

  • Please see/ have a look at/ review the attached documents.
  • As requested, the contract is attached.
  • I’m sharing with you our…

7. ขอนัดประชุม

ไม่ว่าจะเป็นการประชุมแบบตัวเป็นๆ การนัดคุยทางโทรศัพท์ หรือการทำ conference call เราก็สามารถพูดได้หลายวิธีอยู่นะคะ เช่น

  • Let’s meet to discuss…  เรานัดเจอกันดีกว่าเพื่อพูดคุยเรื่อง...
  • Let’s schedule a meeting/ conference call to discuss… เรามาคุยกันในที่ประชุมหรือคอนคอลล์กันดีกว่า
  • Let’s catch up in a meeting/ conference call… เรามาคุยกันในที่ประชุมหรือคอนคอลล์กันดีกว่า
  • Could you please let me know your availability? บอกทีว่าว่างเมื่อไหร่ แบบค่อนข้างเป็นทางการ
  • Please let me know when you’re free. บอกทีว่าว่างเมื่อไหร่
  • Please let me know if you have a few minutes for a quick chat อันนี้มีความ informal หรือไม่เป็นทางการค่อนข้างสูงกว่าประโยคอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เหมาะสมที่จะใช้ค่ะ

8. ให้ช่วยอะไรอีกก็บอกมา

บางครั้งในการโต้ตอบอีเมล์ภาษาอังกฤษ หากอีกฝ่ายถามคำถามมาแล้วเราได้ตอบหรืออธิบายไปแล้ว ก็สามารถลงท้ายต่อได้ว่าถ้าหากยังสงสัยอยู่หรือมีอะไรให้ช่วย ก็บอกมาได้ โดยสามารถพูดได้หลายวิธี เช่น

  • Let me know if you have further questions. บอกมาถ้ามีคำถามเพิ่มเติม
  • I’m happy to answer your questions, if you have any. ฉันยินดีที่จะตอบคำถามของคุณ
  • Hope this helps. ฉันหวังว่านี่คงช่วยคุณ
  • Please do not hesitate to contact me if you have further questions. อย่ารีรอที่จะติดต่อมาถ้าหากว่าคุณมีคำถามเพิ่มเติม
  • Let me know if you need anything else. กรุณาแจ้งฉันได้เลยถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมอีก

9. ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ

ไม่ว่าจะเป็นการขอบคุณล่วงหน้าเมื่อเราเขียนไปขอความช่วยเหลือ หรือขอบคุณเมื่ออีกฝ่ายตอบคำถามเราแล้ว สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้

  • Thanks for your help/ support. ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ
  • Thanks for your help/ support as always. ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณเสมอ
  • I really appreciate your help/ support on this. ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณจริงๆ

10. ก่อนจะจากกันไป ลงท้ายสวยๆ

คำลงท้ายสำหรับอีเมล์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เป็นโอกาสในการสร้างความประทับใจและแสดงความเป็นมืออาชีพของคุณ การลงท้ายอีเมล์ภาษาอังกฤษ มีหลายแบบให้เลือกตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ลองนำไปใช้กันดูนะคะ