เมื่อทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือเปรียบเสมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายในยุคดิจิทัลไปเสียแล้ว เพราะหลายคนใช้สมาร์ทโฟนทำงาน เรียนออนไลน์ ดูวิดีโอ หรือเล่นเกม ทำให้เห็นภาพผู้คนจดจ่อกับมือถือเกือบตลอดเวลา แม้กระทั่งก่อนนอนบางคนยังเล่นมือถืออยู่ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งแรกที่บางคนจับเมื่อตื่นนอน แล้วหลับไปพร้อมกับมือถือ แต่รู้หรือไม่ว่า การเล่นมือถือในที่มืดเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายไม่น้อยทีเดียว ทั้งแสงสีฟ้า แสงยูวี ที่พร้อมทำร้ายจอประสาทตาของคุณ Show แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์มือถือ คืออะไรแสงสีฟ้า (Blue Light) เป็นแสงที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ในช่วงแสงสีขาว โดยแสงขาวแบ่งได้ 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง โดยแสงสีฟ้าผสมอยู่ในช่วงสีน้ำเงินกับคราม ทั้งนี้ แสงสีฟ้าเป็นแสงที่มีพลังงานสูงใกล้เคียงรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) แล้วแสงสีฟ้าไม่ได้มาจากแหล่งพลังงานธรรมชาติ อย่างดวงอาทิตย์ (แสงแดด) ที่มีปริมาณของแสงที่มีความเข้มมากที่สุดเท่านั้น ยังพบเห็นแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหลอด LED, อุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ, โทรทัศน์, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก, แท็บเล็ต รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ ผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้มือถือในที่มืดนาน ๆกรณีที่ปิดไฟเตรียมพักผ่อนแล้ว แต่ยังหยิบสมาร์ทโฟนมาเช็ค Facebook ตอบ Line หรืออ่านฟิค รู้ตัวอีกทีก็เล่นมือถือไปเป็นชั่วโมงเรียบร้อยแล้ว ตามมาดูกันว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลเสียอะไรต่อสุขภาพดวงตาและสุขภาพกายบ้าง ความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา
ความผิดปกติต่อระบบกล้ามเนื้อ
ความผิดปกติด้านอื่น ๆ
หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล กับแผนประกันภัยสุขภาพที่ใช่สำหรับคุณ...คลิก
ใช้มือถืออย่างไร ไม่ให้เสียสุขภาพ
แว่นกรองแสงสีฟ้า เป็นไอเทมที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าซึ่งถูกปล่อยออกมาจากอุปกรณ์ดิจิทัลเข้าสู่ดวงตา ช่วยลดอาการปวดตาจากการจ้องมองหน้าจอแท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน รวมถึงลดอาการตาพร่ามัวได้เป็นอย่างดี หากถามว่าแว่นกรองแสงสีฟ้าจำเป็นสำหรับทุกคนไหม ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ในบุคคลทั่วไป แต่เหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอ และผู้ที่มีปัญหาจอตาเสื่อม เล่นโทรศัพท์ในที่มืด เสี่ยงจอประสาทตาเสื่อมหรือไม่พฤติกรรมการเล่นโทรศัพท์ในที่มืดซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เสี่ยงต่อเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม จากที่ปกติพบในผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยอาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม คือ การมองเห็นลดลง มองเห็นภาพตรงกลางไม่ชัด ภาพบิดเบี้ยวเหมือนมีจุดดำตรงกลางภาพ และหากอาการรุนแรงมากอาจถึงขั้นตาบอดได้ สำหรับใครที่ชอบเล่นมือถือในที่มืดน่าจะพอรู้แล้วว่า พฤติกรรมดังกล่าวมีอันตรายมากกว่าที่คิด ฉะนั้นควรเลิกทำร้ายตัวเองโดยการปรับพฤติกรรมการเล่นมือถือก่อนนอนให้น้อยลง พร้อมหันมาใส่ใจสุขภาพดวงตาให้มากขึ้น เพราะดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่มีเพียงคู่เดียว หากใช้งานสายตาหนักเกินไป อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ต้องรักษาต่อเนื่องในระยะยาว และเพื่อซื้อความเสี่ยงในอนาคตการทำประกันภัยสุขภาพติดตัวไว้ถือเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อแบ่งเบาภาระเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าห้อง หรือค่าชดเชยรายได้ในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษา และฮักส์ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ เป็นหนึ่งในกูรูประกันภัยออนไลน์ที่มากด้วยผลิตภัณฑ์ซึ่งตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกัน และซื้อความคุ้มครองทางออนไลน์ได้ภายในเว็บเดียว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 0 2975 5855 มือถือมีข้อเสียอะไรบ้างส่งผลเสียในด้านสายตา เช่น ตาแห้ง กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก หรือจอรับตาที่ผิดปกติ. ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น ปวดคอ บ่าไหล่ แขน นิ้วล็อค. สมองตอบสนองกับการเล่นสมาร์ทโฟน กระตุ้นให้สมองเกิดความสุข ทำให้เกิดโรคติดสุข อยากเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ. สมาธิสั้นลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน. ข้อใดเป็นผลกระทบระยะยาวจากการใช้โทรศัพท์มือถือ10 ผลเสียต่อสุขภาพ จากการเล่นสมาร์ทโฟนนานเกินไป. 1. รบกวนการนอนหลับ ... . 2. เกิดความเครียด ... . 3. ทำลายจอประสาทตา ... . 4. ปวดคอ ... . 5. พฤติกรรมก้าวร้าว ... . 6. เสียสมาธิ ... . 7. Cellphone Elbow. ... . 8. นิ้วล็อก. ผู้ที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างไรพฤติกรรมติดโทรศัพท์ก็ส่งผลต่อสุขภาพจิตได้เช่นกัน โดยมีการศึกษาพบว่าการใช้โทรศัพท์มากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือทำให้เกิดความรู้สึกบกพร่องในการติดต่อกับผู้อื่น รวมทั้งทำให้เสี่ยงต่อโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้าสูงขึ้นด้วย สังคมก้มหน้า กับผลกระทบด้านอื่น ๆ
ข้อใดเป็นผลระยะสั้นที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือดร.ดนัย ทิวาเวช กรรมการสมาคมพิษวิทยา และรองเลขาธิการของ สสวทท. กล่าวว่า ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีโดยตรง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คือ ในระยะสั้น จะมีอาการปวดหู ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว มึนงง ขาดสมาธิ และเกิดความเครียดนอนไม่หลับ สำหรับผลในระยะยาว อาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม โรคมะเร็งสมอง มะเร็งเม็ดเลือดขาว ...
|