เป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคน ส่วนใหญ่แล้วอาจด้วยเรื่องของแรงจูงใจด้านการเงิน บ้างก็เรื่องของสวัสดิการ ความเป็นอยู่ในชีวิตที่ดีมากขึ้นกว่าการทำงานในประเทศไทย Show
ไม่ว่าจะมีเหตุผลส่วนตัวอย่างไรก็ตาม ก่อนที่ตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ ลองมาฟังข้อมูลจากบทความชิ้นนี้หันก่อนดีกว่าว่า อาชีพที่ชาว Pantip ให้ความนิยมมีอะไรบ้าง!? เผื่อจะเป็นแนวทางและข้อมูลที่น่าสนใจอยากไปทำงานในต่างประเทศได้นำมาประกอบการตัดสินใจกัน! 5 อาชีพที่ชาว Pantip นิยมสมัครไปทำงานในต่างประเทศมีอะไรกันบ้าง!?1.อาชีพน่าสนใจในต่างประเทศที่ชาว Pantip แนะนำ: เจ้าหน้าที่ดูแลด้านสุขภาพสมาชิก Pantip : ป้านี่เอง ะทรวงแรงงานหรือเปล่า!?อยู่อเมริกาค่ะ เรียนจบธรรมศาสตร์ และ Sorbonne แล้วเรียนพยาบาลที่อเมริกา ทำงานบริษัทประกันสุขภาพ เป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน Health care fraud & abuse 2.อาชีพน่าสนใจในต่างประเทศที่ชาว Pantip แนะนำ: นางพยาบาลสมาชิก Pantip : 703994 อยู่เดนมาร์กค่ะ เคยทำงานพยาบาล ใช้คำว่าเคย เพราะตอนนี้ออกงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียว เรียนจบพยาบาลที่ไทย แล้วก็มาต่อเฉพาะทางที่นี่ จบก็ทำงานในโรงพยาบาลของมหาลัยเลย (ช่วงที่เรียนก็ทำงานทำความสะอาดไปด้วยช่วงเช้าและเย็น เงินดีมาก ๆ แต่ทำได้แค่ปีเดียวก็ต้องออก เพราะมีฝึกงานด้วย ไม่ไหวค่ะ และปกติไม่ชอบพวกทำความสะอาดด้วย แต่ที่ทำเพราะเห็นแก่เงินล้วน ๆ ) ช่วงที่ทำงานพยาบาล รายได้ดีจากการขึ้นเวรค่ะ ที่นี่คิดรายได้จากจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน รายได้ต่อชั่วโมงเยอะพอควร อยู่แบบสบาย ๆ เลยล่ะ งานก็ไม่หนักมาก แต่อึดอัด เพราะสังคมผู้หญิง ที่ไหน ๆ ก็เหมือน ๆ กัน อิจฉา ริษยา แบ่งพรรคพวก แต่เราก็ทำได้อยู่แค่ 3 ปีก็จำเป็นต้องออก เพราะท้อง และไม่อยากขึ้นเวร อดหลับอดนอนไม่เป็นเวลา ไม่ไหวจริง ๆ พอใจกับงานไหม ระดับหนึ่ง แต่ไม่ที่สุด Smilla อยู่เดนมาร์กค่ะ จบครูจากไทย จบด้าน IT จากสวีเดน และจบพยาบาลที่เดนมาร์ก ตอนนี้ทำงานเป็นพยาบาลที่วอร์ดคนไข้ในที่ รพ. แห่งหนึ่งในเดนมาร์ก สาเหตุที่เลือกทำงานพยาบาล เพราะตอนย้ายมาเดนมาร์ก หางานด้าน IT ไม่ได้ ก็เลยเปลี่ยนสายมันซะเลย 3.อาชีพน่าสนใจในต่างประเทศที่ชาว Pantip แนะนำ : งานด้านวิทยาศาสตร์สมาชิก Pantip : PinyZ อยู่อเมริกา เรียนจบป.ตรี biotech มาจากธรรมศาสตร์ ทำงานตรงกับที่เรียนมามากกก เป็น staff scientist ใน lab ได้ทำงานแบบที่เรียนมาทุกอย่าง เงินเดือนได้เท่ากับ คนอเมริกันที่จบสาขานี้ ประสบการณ์ทำงานที่เท่ากัน สรุปจบมาจากไทยก็ใช่้ได้ในอเมริกา (มีเพื่อนคนไทยและคนอเมริกันหลายคนเข้าใจว่าวุฒิของไทยใช้ที่นี้ไม่ค่อยได้ แล้วแต่คนและสาขาที่จบมาด้วยมั้ง) พอใจกับงานในระดับหนึ่ง เพราะเราอยู่ไทยเคยเป็นแอร์มาก่อน ชอบเดินทางมากกว่าทำงานในแล็บ พอมาทำแล็บเลยมีเบื่อๆบ้าง แต่ก็ทำๆไป เพื่อเงิน และไม่เบื่อเหมือนนอนอยู่บ้านอย่างเดียว 4.อาชีพน่าสนใจในต่างประเทศที่ชาว Pantip แนะนำ : งานด้านบริการสมาชิก Pantip : lilien อยู่ประเทศเดียวกับคุณข้างบนน่ะค่ะ จบการตลาดมา พอมาอยู่ที่นี่ เราหางานแรกเป็นงานบริการ ในร้านกาแฟแบบกึ่งบริการตัวเอง ราวๆ สตาร์บัค ความรู้สึก เราชอบค่ะ เพราะได้ติดต่อกับผู้คน มีสังคมเพื่อนร่วมงาน มีรายได้เป็นของตัวเอง ทำได้ 5 ปี เบื่อสถานที่ เพราะมันไม่ได้มีวี่แววว่าจะก้าวหน้า สมาชิก Pantip : 3263256 ะทรวงแรงงานหรือเปล่า!?อยู่อเมริกาค่ะ จบ ศิลปศาสตร์ เอก ภาษาอังกฤษและการสื่อสาร ช่วงแรก… ทำงานเด็กเสริฟ และห้องสมุด ค่ะ … 5.อาชีพน่าสนใจในต่างประเทศที่ชาว Pantip แนะนำ : งานด้านวิศวกรรมสมาชิก Pantip : 3669119 ก่อนอยู่ประเทศอะไร ในยุโรป เรียนจบอะไร Electromechanics ทำงานอาชีพอะไร Project leader เน้นไปทางไฟฟ้า -สาเหตุที่เลือกทำงานนี้ ชอบเทคโนโลยีการทำงานของไฟฟ้า เครื่องกลอยู่แล้ว ตรงกับสาขาที่เรียน เงิน -เงินเดินเท่าไหร่(อันนี้ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต่องบอกก็ได้ค่ะ) ไม่อยากบอก -ทำมาแล้วกี่ปี 5 ปี -พอใจกับงานแค่ไหน ให้ 7.5/10 บทสรุปส่งท้าย : ชาว Pantip แนะนำอยากไปทำงานต่างประเทศ ควรเลือกอาชีพไหนดี!?สำหรับการเลือกอาชีพในการไปทำงานในต่างประเทศ.. ชาว Pantip มีเทคนิคแนะนำที่น่าสนใจคล้ายกันคือ จำเป็นที่จะต้องเรียนภาษาทางการของประเทศดังกล่าวให้ได้ในระดับที่สามารถสนทนากับเจ้าของภาษาได้เสียก่อน ต่อมาคือ ต้องเลือกสายงานอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเองและมีความต้องการของตลาดแรงงานในช่วงเวลานั้นหรือเปล่า!? เพียงเท่านี้ การไปทำงานในต่างประเทศก็จะเต็มไปด้วยความสุข สนุกกับการทำงานและใช้ชีวิตในต่างประเทศได้อย่างแน่นอน.. เรียนต่อต่างประเทศ เป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆคน แล้วยิ่งสามารถทำงานหลังเรียนจบได้ จึงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากทำเป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่าในหลายประเทศในฝันที่หลายคนเพ่งเล็งอยู่นั้น มีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ต่างกัน ในเกือบจะทุกประเทศอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานต่อได้ แต่ในกฎเกณฑ์ที่กำหนดเท่านั้นวันนี้แอดมินเลยอยากนำข้อกำหนดของ 5 ประเทศในฝันอย่าง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา อังกฤษและแคนาดา ที่ได้ตั้งไว้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้ทำงานต่ออย่างถูกกฎหมายนั่นเองค่ะ แอดมินเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายคนที่กำลังมองหาแนวทางในหารเรียนต่อ จะได้แพลนถูกว่าจะหาช่องทางต่อยอดทำงานได้อย่างไรนั่นเอง ข้อกำหนดจะเป็นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ 1. ออสเตรเลียหนึ่งในประเทศที่เด็กไทยให้ความสนใจมากที่สุดอย่างออสเตรเลีย มีหลายต่อหลายคนสนใจไปเรียนต่อด้านภาษาและวิชาชีพ แน่นอนค่ะว่า ไปเรียนแล้วหลายคนก็อยากจะทำงานต่อเลย ทางรัฐบาลออสเตรเลียก็ได้เปิดให้นักเรียนต่างชาติขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบด้วย สิ่งที่ต้องมีและคุณสมบัติ ดังนี้ 1.1 ยื่นขอวีซ่า Temporary Graduate Visa – Subclass 485 1.2 ระยะเวลาที่สามารถทำงานได้หลังเรียนจบ - ป.ตรี สามารถทำงานต่อได้ 2 ปี - ป.โท สามารถทำงานต่อได้ 2 – 3 ปี - ป.เอก สามารถทำงานต่อได้ 4 ปี 1.3 ต้องเรียนจบระดับป.ตรีขึ้นไป ไม่จำกัดสาขาวิชา 1.4 หลักสูตรมีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี 1.5 ยื่นขอวีซ่า Subclass 485 (ด้านบน) ภายใน 6 เดือนหลังเรียนจบ 2. สหราชอาณาจักร หรือ อังกฤษปกติแล้วในสหราชอาณาจักรจะมี Post study work visa เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติได้ยื่นขอเพื่อทำงานต่อหลังเรียนจบ แต่วีซ่าตัวนี้ได้ถูกยกเลิกไปในปี 2012 และมีแพลนกลับมาใช้กับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนตั้งแต่ช่วง Autumn 2020 (กันยายน) - 2021 เป็นต้นไป โดย Post Study Work Visa จะมีสิทธิ์ประโยชน์ดังนี้ 2.1 ระยะเวลาที่สามารถทำงานได้หลังเรียนจบ - ป.ตรี และโท สามารถทำงานต่อได้ถึง 2 ปี - ป.เอก (Ph.D.) สามารถทำงานต่อได้สูงสุด 3 ปี 2.2 เปิดรับในทุกสาขาวิชา ไม่ว่าทักษะด้านใดก็สามารถยื่นขอวีซ่านี้ได้ 2.3 คะแนนไอเอล (IELTS) อย่างน้อย 6.5 ในแต่ละพาร์ท 2.4 ควรสมัครล่วงหน้าก่อนจบการศึกษาอย่างน้อย 3 เดือน - 1 ปี 2.5 อ่านเพิ่มเติม 3. แคนาดาอีกหนึ่งประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาที่ดีเป็นอันดับต้นๆของโลก แถมบรรยากาศภายในประเทศก็น่าอยู่มากๆเลยล่ะค่ะ จึงเป็นอีกประเทศในฝันของใครหลายคนที่อยากไปเรียนต่อตลอดจนทำงานหลังเรียนจบนั่นเอง โดยหากใครสนใจอยากทำงานหลังเรียนจบล่ะก็ ต้องทำตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้ 3.1 ยื่นขอวีซ่า Post-Graduation Work Permit (PGWP) 3.2 นักศึกษาสามารถทำงานหลังเรียนจบได้ประมาณ 8 เดือน – 3 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาที่จบ ในกรณีเรียนหลักสูตรสั้นกว่า 2 ปี จะได้วีซ่าตัวนี้เท่ากับระยะเวลาที่เรียน เช่น เรียนหลักสูตร A เป็นเวลา 8 เดือน หากยื่นขอวีซ่าตัวนี้ก็จะได้ระยะเวลาทำงาน 8 เดือน นั่นเองค่ะ 3.3 สำหรับผู้เรียนแบบ Full-time และหลักสูตรนานกว่า 8 เดือน จะต้องจบจากมหาวิทยาลัยที่รัฐรับรองเท่านั้น 4. สหรัฐอเมริกา USAประเทศมหาอำนาจอย่าง USA ประเทศที่หลายคนให้ความสนใจไปเรียนต่อและทำงานเป็นอย่างมาก มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ศึกษาต่อและทำงานอยู่ในอเมริกา จึงทำให้เป็นดั่งประเทศในฝันของใครเลยคนอีกเช่นกันค่ะ ข้อกำหนดในการอนุญาตทำงานต่อหลังเรียนจบได้แก่ 4.1 ยื่นขอวีซ่า F1 Optional Practical Training (OPT) 4.2 นักศึกษาสามารถทำงานต่อหลังเรียนจบได้ประมาณ 1 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับสาขาวิชา 4.31 ปีสำหรับสายอื่นๆ นอกจากสายวิทย์ 4.41 ปีขึ้นไป และขอเพิ่มได้อีก 2 ปี สำหรับสายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) 4.5 ไม่จำกัดสาขาวิชา แต่หากเป็นสาย (STEM : Science / Technology / Engineer / Mathematic ) จะสามารถหางานได้ง่ายกว่า 4.6 ระดับ ป.ตรี ขึ้นไป วีซ่า F1 Optional Practical Training (OPT) สามารถทำงานได้ทั้งก่อนและหลังเรียนจบ มีเงื่อนไขดังนี้ · Pre-completion OPT คือ การยื่นขอ OPT ก่อนจบการศึกษา โดยสามารถเริ่มทำงานได้หลังเข้าเรียน 1 ปี แต่ทำงานได้ไม่เกิน 20 ชม. / สัปดาห์ ระหว่างเรียน และไม่เกิน 40 ชม./สัปดาห์ ในช่วงปิดเทอม · Post-completion OPT คือการยื่นขอ OPT หลังเรียนจบ โดยสามารถเริ่มสมัครได้ 1 – 2เดือนก่อนเรียนจบ ทั้ง Part-time และ Full-time โดยระยะเวลาทั้งหมดจะถูกนำมานับรวมกัน เช่น หากยื่นขอ Pre-completion OPT และทำงานก่อนจบไปแล้ว 4 เดือน เพราะฉะนั้นหลังเรียนจบจะสามารถทำงานต่อไปอีก 8 เดือนเท่านั้น เพื่อรวมกันจะได้ระยะ 1 ปีหรือตามที่กำหนด **แนะนำว่าให้ยื่นหลังจบทีเดียวและทำหลังจบเลยจะดีกว่าค่ะ** 5. นิวซีแลนด์ประเทศที่มีระดับการศึกษาที่ดีอันดับต้นๆของโลก การบริหารจัดการภายในประเทศดีเยี่ยม แถมสิ่งแวดล้อมดีงามสุดๆต้องประเทศแห่งอิสรภาพอย่าง นิวซีแลนด์เลยค่ะ ทำให้ใครหลายคนไฝ่ฝันอยากไปเรียนต่อและทำงานเช่นเดียวกับแอดมินเอง และนี่คือข้อกำหนดคร่าวๆ 5.1 ยื่นขอวีซ่า Post Study Work Visa 5.2 นักศึกษาต่างชาติสามารถทำงานหลังเรียนจบได้ 1 – 3 ปี 5.3 ไม่จำกัดสาขาวิชา แต่ต้องทำงานถูกกฎหมาย 5.4 คุณสมบัติ ดังนี้ · สำหรับนักศึกษา Lv.7 หรือ ป.ตรี หรือ สูงกว่า ต้องเรียนจบหลักสูตรระยะเวลาไม่ต่ำว่า 30 สัปดาห์ขึ้นไป · สำหรับนักศึกษา Lv. 4 – 6 (ระดับ Diploma, Certificate) จะต้องผ่านข้อกำหนดอย่างน้อย 1 ข้อด้านล่าง - จบหลักสูตร Dip., Cert. ไม่ต่ำกว่า 60 สัปดาห์ + - ได้วุฒิจาก 2 หลักสูตร (รวมแล้วระยะเวลามากกว่า 60 สัปดาห์ และคอร์สที่ 2 ต้องะดับสูงกว่าคอร์สแรก) เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เพื่อนๆสนใจประเทศไหนเป็นพิเศษอยู่หรือเปล่า จะเห็นได้ว่าในบางประเทศจะยื่นขอค่อนข้างยากมากๆเลยล่ะค่ะ แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายามของเรา เพราะฉะนั้นเริ่มเตรียมความพร้อมกันเลย~
|