2. วงขับไม้ ประกอบด้วยผู้บรรเลง 3 คน คือ คนขับลำนำ 1 คน คนสี ซอสามสาย คลอเสียงร้อง 1 คน และ คนไกว บัณเฑาะว์ ให้จังหวะ 1 คน 3. วงปี่พาทย์ เป็นลักษณะของวงปี่พาทย์เครื่อง 5 มี 2 ชนิด คือ 4. วงมโหรี เป็นลักษณะของวงดนตรีอีกแบบหนึ่ง ที่นำเอา วงบรรเลงพิณ กับ วงขับไม้ มาผสมกัน เป็นลักษณะของ วงมโหรีเครื่องสี่ เพราะประกอบด้วยผู้บรรเลง 4 คน คือ 1. คนขับลำนำและตี กรับพวง ให้จังหวะ 2. คนสี ซอสามสาย คลอเสียงร้อง 3. คนดีดพิณ และ 4. คนตีทับ (โทน) ควบคุมจังหวะ 1. เครื่องดีด เป็นเครื่องดนตรีที่มีสาย และกะโหลกหรือกล่องเสียงเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้เกิดเสียงโดยการใช้นิ้วหรือไม้ดีดไปที่สายให้สายสั่นสะเทือน เช่น จะเข้ กระจับปี่ พิณน้ำเต้า พิณเปี๊ยะ เป็นต้น จะเข้ กระจับปี่ 2. เครื่องสี เป็นเครื่องดนตรีที่ดัดแปลงมาจากดครื่องดีด มีสายและกะโหลกเสียงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญเช่นเดียวกับเครื่องดีด ทำให้เกิดเสียงโดยใช้คันชักสีที่สาย เช่น ซอสามสาย ซออู้ ซอด้วง สะล้อ ซออู้ ซอด้วง 3. เครื่องตี แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 3.1 เครื่องตีที่ทำด้วยไม้ เช่น เกราะ กรับ ระนาดทุ้ม โปงลาง เป็นต้น ระนาดเอกระนาดทุ้มกรับ 3.2 เครื่องตีทำด้วยโลหะ เช่น ฉิ่ง ฉาบ ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก โหม่ง 3.3 เครื่องตีที่ขึงด้วหนัง ประกอบด้วยกลองชนิดต่างๆ ตะโพน กลองแข 4. เครื่องเป่า แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 4.1 เครื่องเป่าที่ไม่มีลิ้น เช่น ขลุ่ยหลีบ ขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยอู้ สังข์ เป็นต้น ขลุ่ยอู้ 4.2 เครื่องเป่ามีลิ้น เช่น ปี่นอก ปี่ใน ปี่ชวา ปี่มอญ ปี่อ้อ แคน เป็นต้น เพิ่มคำอธิบายภาพ เพิ่มคำอธิบายภาพ เพิ่มคำอธิบายภาพ เพิ่มคำอธิบายภาพ แคน |