พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้เสด็จประพาสยุโรป 2 ครั้งในปี พ.ศ. 2440 และ พ.ศ. 2450 ซึ่งทำให้ทรงสามารถสร้างพันธมิตรทางการทูตกับมหาอำนาจตะวันตกและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระราชวงศ์ในยุโรป นอกจากนี้ ทรงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในประเทศตะวันตกเนื่องจากทรงเป็นพระมหากษัตริย์จากเอเชียพระองค์แรกที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับกษัตริย์ยุโรปได้อย่างคล่องแคล่วโดยไม่ต้องใช้ล่าม Show การเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสยุโรปด้วยเรือหลวง ”มหาจักรี” ในปี พ.ศ. 2440 โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 เรือหลวงได้เข้าเทียบท่ากรุงโคเปนเฮเกนพร้อมกับเรือรบ Helgoland และ Tordenskjold ของเดนมาร์ก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบจอมพลและประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล Order of the Elephant ของเดนมาร์ก ทั้งนี้ ในขบวนเสด็จประกอบด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช รวมทั้งสมาชิกในพระราชวงศ์และข้าราชบริพารอีกจำนวนมาก โดยในการเสด็จประพาสเดนมาร์กครั้งนี้ทรงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ซึ่งทรงจัดให้ประทับที่พระราชวัง Amalienborg ด้วย ระหว่างการประทับที่เดนมาร์ก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยือนสถานที่ต่างๆ ในกรุงโคเปนเฮเกนและเกาะซีแลนด์ เช่น โรงงาน Royal Danish Porcelain หรือ Royal Copenhagen ในปัจจุบัน โดยทรงซื้อเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมากกลับไปยังสยาม นอกจากนี้ ทรงได้เยี่ยมชมพระราชวัง Frederiksborg พระราชวัง Fredenborg สวน Tivoli พิพิธภัณฑ์รูปปั้นและประติมากรรมสลักหินอ่อน Thorvaldsen และโรงเบียร์ Carlsberg ซึ่งได้ทอดพระเนตรกระบวนการหมักดอกฮ็อปส์และมอลท์ รวมทั้งการหมักและการเก็บรักษาเบียร์ นอกจากนี้ ทรงได้ประทับล่องเรือ “Dannebrog” ร่วมกับพระราชวงศ์เดนมาร์กไปยังเมือง Helsingør ด้วย การเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่สองเมื่อปี พ.ศ. 2450 ในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ เยือนเดนมาร์กเป็นครั้งที่ 2 ด้วยในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2450 ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสยามและเดนมาร์กแนบแน่นยิ่งขึ้น โดยทรงได้รับการต้อนรับจากสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 8 ให้ประทับที่พระราชวัง Bernstorff ในระหว่างการเสด็จฯ เยือนเดนมาร์กครั้งนี้ ได้เสด็จฯ ไปยังเมือง Roskilde และเยี่ยมชมวิหาร Roskilde Cathedral ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพเก่าแก่ของกษัตริย์และราชินีแห่งเดนมาร์ก โดยทรงวัดส่วนสูงบน “เสาวิหารหลวง” ร่วมกับพระมหากษัตริย์เดนมาร์กในอดีต นอกจากนี้ ได้เสด็จฯ ไปเยือนที่พำนักของ Andreas du Plessis de Richelieu และ H.N. Andersen โดยมีสมาชิกในครอบครัวของบุคคลทั้งสองเฝ้าฯ รับเสด็จ ในวันสุดท้ายของการเสด็จฯ เยือนเดนมาร์ก ได้ทรงล่องเรือไปยังคาบสมุทร Jutland และทรงหยุดประทับที่เมือง Aarhus ก่อนจะทรงล่องเรือต่อไปยังท่าเรือเมือง Frederikshavn และประทับรถไฟไปยังเมือง Skagen ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือสุดของคาบสมุทร Jutland โดยเสด็จฯ ถึงเมือง Skagen ในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 และเสด็จฯ เยือนแหลมเกรเนนซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเดนมาร์กและทรงปักธงช้างเผือกไว้ที่แหลมดังกล่าว ต่อมาได้พระราชทานธงช้างเผือกดังกล่าวให้แก่เมือง Skagen เป็นของขวัญ ในโอกาสรำลึกวันครบรอบ 100 ปี ของการเสด็จประพาสเมือง Skagen ในปี พ.ศ. 2550 สโมสรไลออนส์เดนมาร์กและประเทศไทยร่วมกับ พญ. คุณหญิงอัมพร สุคนธมาน ที่ปรึกษากิตติศักดิ์สโมสรไลออนส์กรุงเทพ ได้จัดสร้างองค์หล่อพระบรมรูปทรงม้าสัมฤทธิ์เพื่อจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เมือง Skagen โดยเป็นองค์หล่อจำลองของพระบรมรูปทรงม้าที่ตั้งอยู่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม หลังจากนั้น พระบรมรูปทรงม้าสัมฤทธิ์จำลองดังกล่าวได้ถูกย้ายไปประดิษฐานที่อาคาร Asia House ณ กรุงโคเปนเฮเกนจนถึงทุกวันนี้ โดยชุมชนไทยในเดนมาร์กและนักท่องเที่ยวชาวไทยจะเดินทางไปสักการะพระบรมรูปทรงม้าดังกล่าวเนื่องในโอกาสสำคัญ เช่น วันปิยมหาราช เป็นประจำทุกปี แหล่งข้อมูลและภาพ: 1) หนังสือ “A Tale of Two Kingdoms” จัดพิมพ์โดยบริษัท อีสเอเชียติก (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2539 2) หนังสือ Admiralen, Kongen & Kaptajnen, Danskere i Elefanternes Rige จัดพิมพ์โดยบริษัท Høst & Søn ในเดนมาร์กเมื่อปี พ.ศ. 2541 3) https://aarhuswiki.dk/wiki/Kong_Chulalongkorns_bes%C3%B8g_i_Aarhus_i_1907 4) https://scandasia.com/2547-the-exhibition-celebrating-100-years-of-king-rama-v-visit-denmark/ 5) http://thai-dansk.dk/indvielse%20Kong%20Chulalongkorns%20rytterstatue.htm 6) www.kanalfrederikshavn.dk 7) www.siraphisut.com พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ถึงท่าเรือด่านศุลกากรกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2440 สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ทรงให้การต้อนรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการเสด็จประพาสเดนมาร์กเมื่อปี พ.ศ. 2440 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ รัชการที่ 5 และรัชการที่ 9 ทรงวัดส่วนสูงบน “เสาวิหารหลวง” ในวิหาร Roskilde Cathedral ร่วมกับพระมหากษัตริย์เดนมาร์กในอดีต ในการเสด็จประพาสเดนมาร์กครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการต้อนรับจากสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 8 และพระราชวงศ์เดนมาร์กเมื่อเสด็จฯ ถึงสถานีรถไฟใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน ก่อนที่จะเสด็จฯ ไปยังพระราชวัง Amalienborg โดยรถม้า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปักธงช้างเผือกที่แหลมเกรเนนซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเดนมาร์กเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ธงช้างเผือกเมื่อครั้งที่ได้จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เมือง Skagen เมื่อปี พ.ศ. 2550 สถานเอกอัครราชทูตฯ และชุมชนไทยในเดนมาร์กร่วมสักการะพระบรมรูปทรงม้าที่อาคาร Asia House เนื่องในโอกาสวันปิยมหาราช ปี 2562 ผลที่ได้จากการเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 คือข้อใดนอกจากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น การเสด็จประพาสต้นยังทำให้เห็นความมีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อเต็มใจต้อนรับผู้มาเยือนเห็นได้ชัดจากผู้ที่ถวายเลี้ยงพระยาหารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นความจงรักภักดีของประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สาเหตุสำคัญของการเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 คืออะไรการเสด็จประพาสต้นนั้นเป็นพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์ เนื่องจากมีพระราชประสงค์ที่จะบำรุงดูแลทุกข์สุขราษฎรอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะทอดพระเนตรเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของราษฏรและการปฏิบัติหน้าที่ของราชการอย่างแท้จริง
ข้อใด คือการเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ ๕การเสด็จประพาสต้น ร.ศ. 123 (พ.ศ. 2447) เป็นการเสด็จทางชลมารคและทางรถไฟเป็นหลัก มีจุดเริ่มต้นจากพระราชวังบางปะอินเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2447 ผ่านจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ ธนบุรี สมุทรสาคร ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กลับสู่บางปะอิน แล้วเสด็จโดยทางรถไฟกลับสู่กรุงเทพฯ ...
การเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 มีกี่ครั้งสมเด็จกรมพระยาดารงราชานุภาพ ได้ทรงอธิบายความหมายของการเสด็จประพาสต้น ใน สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นับได้มีจ านวน 3 ครั้ง (สมเด็จกรมพระยาด ารง ราชานุภาพ, 2560)
|