ปุญญะกะถา[1] นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย ความสั่งสมซึ่งบุญนำสุขมาให้. ณ บัดนี้จักได้อธิบายขยายความแห่งกระทู้ธรรมสุภาษิตที่ลิขิตไว้เบื้องต้นพอเป็นแนวทางแห่งการศึกษา และนำไปปฏิบัติสืบต่อไป คำว่า บุญ แปลว่า ธรรมชาติที่ชำระล้างหมายถึง ชำระล้างกิเลส หมายถึงชำระล้างกิเลสทางกาย วาจา และใจ บ่อเกิดบุญเรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ” มี 3 อย่าง คือ 1. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ทาน การให้มี 3 อย่าง คือให้ข้าว น้ำ โภชนาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เรียกว่า อามิสทาน การอบรมแนะนำสั่งสอนให้รู้จักสิ่งที่ดีหรือไม่ดี 2. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล รักษากาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย 3. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา คำว่า ภาวนา แปลว่าการทำให้มี ให้เป็น มี 2 อย่าง คือ ทำใจให้สงบนิ่งด้วยยึดนิมิตอย่างใดอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอารมณ์เรียกว่า สมถภาวนา หรือสมถกรรมฐานก็ได้ ถ้าพิจารณารูปนามเป็นอารมณ์ รูปและนามไม่เที่ยงแท้แน่นอน ย่อมเปลี่ยนแปรผันอยู่ตลอดเวลา มีสภาพเป็นทุกข์ทนอยู่ได้ยาก ยึดถือเป็นตัวตนมิได้ เป็นต้น เรียกว่า วิปัสสนาภาวนา หรือ วิปัสสนากรรมฐานก็ได้ ทาน ศีล ภาวนา ทั้ง 3 ทานมีหน้าที่กำจัดกิเลส ศีลมีหน้าที่กำจัดความโกรธ ภาวนามีหน้าที่กำจัดโมหะความโง่เขลา ฉะนั้น ทาน ศีล ภาวนา จึงเป็นเครื่องชำระล้างกิเลส 3 อย่าง กล่าวคือท่าน ชำระล้างความโลภ ศีล ชำระล้างความโกรธ และภาวนา ชำระล้างความหลง ชำระล้างกิเลสออกจากจิตใจทุกวัน จิตใจก็บริสุทธิ์สะอาด จิตใจก็มั่นคงไม่หวาดระแวงต่อภัยต่างๆ ความสุขก็จะบังเกิด มีแก่จิตใจอยู่ตลอดเวลา เพราะบุญอยู่ที่ใจ บุญเป็นสมบัติส่วนบุคคล ถ้าใครทำไว้คนนั้นก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของบุญนั้น ไม่ฉิบหายด้วยภัยนานาประการ สมดังพุทธสุภาษิตที่มาในสังยุตตนิกาย สคาถวรรคว่า ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรํ บุญอันโจรนำไปไม่ได้. ถ้าใครทำบุญไว้แล้วเปรียบเสมือนมีขุมทรัพย์อันประเสริฐ ทรัพย์คือบุญจะติดตัวตามไปเหมือนเงาติดตามตัว เพื่อไปเกิดในภพที่ดีเป็นคนมั่งมีศรีสุขในชาติหน้า สรุปความว่า คนทุกคนควรทำบุญไว้บุญนำสุขมาให้ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ผู้มีบุญมีอายุยืนยาว มีสุขกายสุขใจ สมดังกระทู้สุภาษิตที่ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้นว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย ความสั่งสมซึ่งบุญนำสุขมาให้ ดังอรรถาธิบายมา เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้ฯ [1] พระธนทร วรธมฺโม/อมรธำรงโชติ (เพ็ง). อายุ 33 พรรษา 1 น.ธ.ตรี, ม.6 (ชาวกรุงเทพฯ) บุญ คือ สภาวะที่เป็นสุข เป็นสภาวะที่ชำระจิตใจของคนให้สะอาดจากบาป เมื่อไม่มีบาปอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ จิตใจก็เป็นสุข เหตุแห่งบุญนั้นมีอยู่ ๓ ประการ คือ
บุญนั้นเราสามารถทำได้เรื่อย ๆ ทำได้บ่อย ๆ ทำได้มากเท่าที่อยากจะทำและมีกำลังทำ และเมื่อทำมากขึ้น ๆ บุญก็เพิ่มมากขึ้น ๆ เช่นเดียวกัน เมื่อบุญมากขึ้นเท่าไร ความสุขอันเกิดจากบุญก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น จึงควรสั่งสมบุญเอาไว้ให้มาก ๆ เท่าที่จะทำได้ |