จุดมุ่งหมายการทำงานคืออะไร

พูดถึงสิ่งที่อยากทำในอนาคต และต้องบอกวิธีที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ ซึ่งควรจะเกี่ยวข้องกับงานที่สัมภาษณ์อยู่ เช่น อีก 5 ปีข้างหน้าอยากเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพและความสามารถในการพัฒนาพนักงานและองค์กรให้มีประสิทธิภาพ การที่จะถึงจุดนั้นได้ต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี เช่น การได้มีโอกาสทำงานที่บริษัทนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งในการเตรียมตัวสำหรับอนาคต และอาจเพิ่มเติมตัวอย่าง เช่น วิธีการทำงานของตน เป็นต้น

"เป้าหมาย” เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้เรากำหนดแนวทางการใช้ชีวิต ทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน ซึ่งหากมีเป้าหมายที่ชัดเจนก็จะสามารถวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น และถ้าพูดถึงเป้าหมายในอาชีพ คำถามนี้จากผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ต้องการรู้ว่าเราอยากเติบโตไปในทางไหนเท่านั้น แต่เขาอยากเห็นด้วยว่าเราเป็นคนมีความมุ่งมั่นมากน้อยแค่ไหน เพราะเป้าหมายที่สูงก็จะช่วยให้เราพัฒนาศักยภาพของเราให้สูงตามด้วย และคำตอบของเราก็จะเป็นเหมือนกระจกสะท้อนแนวคิดและทัศนคติว่าเราเป็นคนยังไง 

JobThai เลยอยากมาแนะนำแนวทางการตอบคำถามสัมภาษณ์งานทั้งสำหรับคนมีประสบการณ์ และนักศึกษาจบใหม่ ซึ่งจะแบ่งแนวทางของการตอบคำถามเป้าหมายในอาชีพเป็น 2 แบบ นั่นคือเป้าหมายในระยะสั้น และระยะยาว

เป้าหมายระยะสั้น

เป้าหมายระยะสั้น อาจเป็นเป้าหมายในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า เป็นเป้าหมายที่เราควรตั้งเอาไว้เพื่อเป็น Check Point เล็ก ๆ ก่อนไปถึงเป้าหมายระยะยาว ซึ่งเป้าหมายนี้เราอาจตั้งเป้าไว้ในเรื่องของการเรียนรู้ เช่น เด็กจบใหม่ตั้งเป้าว่าอยากเรียนรู้งานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ชำนาญ ในขณะที่คนมีประสบการณ์ที่ชำนาญและสามารถรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้แล้วก็อาจตั้งเป้าไปในเรื่องของความท้าทายใหม่ ๆ การเรียนรู้ Tools หรือโปรเจกต์ใหม่ที่ตัวเองอยากทำ

เป้าหมายระยะยาว

เป้าหมายระยะยาว เป็นเป้าหมายที่เราต้องใช้ระยะเวลานาน อาจมีระยะเวลาตั้งแต่ 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป้าหมายนี้อาจเป็นได้ทั้งทางที่ราบเรียบหรือทางลาดชัน แต่การตั้งเป้าหมายไว้ก่อนก็จะทำให้เราไม่หลงทางในขณะที่เดินไปหามัน เป้าหมายในอาชีพระยะยาวของเรา อาจเริ่มจากการเชี่ยวชาญในสายงานและตำแหน่งงานนั้น ๆ จากนั้นก็เป็นการเตรียมพร้อมเดินหน้าเข้าไปสู่ความสำเร็จในตำแหน่งที่สูงขึ้น โดยการพัฒนาศักยภาพของตัวเองและต่อยอดไปสู้การพัฒนาองค์กรในอนาคต

อ่านเคล็ดลับและฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิตทั้งหมด ได้ที่นี่ 

tags : freshgrad, หางาน, สมัครงาน, career & tips, เปลี่ยนงาน, เทคนิคสัมภาษณ์งาน, เทคนิคสำหรับเด็กจบใหม่, เคล็ดลับสำหรับเด็กจบใหม่, นักศึกษาจบใหม่, เด็กจบใหม่, ไม่มีประสบการณ์, job interview, เคล็ดลับสัมภาษณ์งาน, เคล็ดลับการทำงาน, สัมภาษณ์งาน, คำถามสัมภาษณ์งาน, คำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิต

กว่าจะถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานได้ เราต้องสู้กับ Resume นับสิบนับร้อยใบที่ HR ได้รับในแต่ละวัน เราเลยต้องทำให้ Resume ของเราโดดเด่นเข้าตา HR มากที่สุด แต่การโดดเด่นที่ว่าไม่ได้หมายถึงเรื่องของรูปแบบ Layout หรือความคิดสร้างสรรค์ที่ใส่ไปใน Resume แต่หมายถึงเราใส่ข้อมูลต่าง ๆ ได้ครบและดึงดูดความสนใจจาก HR ภายในเวลาไม่กี่วินาทีที่เขาดู Resume ของเราได้ต่างหาก

JobThai จะพาไปดูกันว่าในเวลาไม่กี่วินาทีที่ HR แสกนเรซูเม่แต่ละใบ เขาให้ความสำคัญกับส่วนไหนบ้าง

1. ข้อมูลส่วนตัว

ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำ Resume เพราะมันจะบอกว่าเราคือใคร หน้าตาแบบไหน โดยจะประกอบไปด้วย ชื่อ-นามสกุล ประวัติการศึกษา เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลติดต่อ และรูปถ่าย

เราจะต้องตรวจสอบให้ดีว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่เราใส่ไปถูกต้องไหม โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์และอีเมล เราคงไม่อยากเสียโอกาสที่จะถูกเรียกสัมภาษณ์ไปเพราะ HR ติดต่อเราไม่ได้หรอกใช่ไหม นอกจากนั้นอีเมลที่ใช้ก็ควรจะเป็นทางการด้วย เช่น ชื่อ.นามสกุล@mailservice.com ส่วนรูปถ่ายที่เป็นจุดแรกที่ HR จะเห็นจากเรซูเม่ ก็ควรเป็นรูปหน้าตรง เห็นหน้าชัดเจน แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย

2. ประสบการณ์การทำงาน

สำหรับคนที่เคยทำงานมาแล้ว ควรจะโชว์ให้ HR เห็นว่าเรามีประสบการณ์การทำงานตำแหน่งอะไร ที่ไหนมาบ้าง รวมถึงขอบเขตหน้าที่ที่รับผิดชอบ รวมถึงการอบรมต่าง ๆ ที่เคยเข้าร่วม ซึ่งควรจะเรียงลำดับจากประสบการณ์ปัจจุบันไปหาอดีต

ส่วนนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน เราก็เอาประสบการณ์พิเศษต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร การออกค่าย การฝึกงาน หรือการทำงาน Part-time มาใส่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ Resume ได้ และจะยังเป็นการสนับสนุนว่าเราเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน และมีความรับผิดชอบอีกด้วย

3. ทักษะและความสามารถ

ยิ่งเรามีทักษะและความสามารถหลากหลายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ Resume เราน่าสนใจและได้เปรียบคู่แข่ง เราจึงต้องพยายามหาจุดเด่นและเอามานำเสนอให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานที่สมัคร เช่น ทักษะทางภาษา หรือภาษาที่สาม สำหรับตำแหน่งที่ต้องใช้ความสามารถด้านภาษาโดยตรง หรือ ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จำเป็นและนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ในหลาย ๆ สายงาน

นอกจากนี้เรายังมี Tips เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้เรซูเม่ของเราน่าประทับใจและดู Professional มากขึ้นไปอีก

จุดมุ่งหมายในอาชีพที่ชัดเจน ดึงดูดความสนใจจาก HR ได้

จุดนี้คืออีกจุดนึงในเรซูเม่ที่คนมักไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเขียนอะไรดี การเขียนจุดมุ่งหมายในอาชีพ หรือ Career Objective นั้นเราควรจะเขียนให้สอดคล้องกับตำแหน่งที่เราสมัคร เช่น ตั้งเป้าหมายระยะสั้นว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้อย่างไร หรือการตั้งเป้าหมายระยะยาวในช่วงเวลา 3-5 ปีข้างหน้าในเส้นทางอาชีพว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ถ้าเรามีจุดมุ่งหมายในอาชีพที่ชัดเจน ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างแรงจูงใจให้ HR เลือกเราเพื่อสร้างผลงานและขับเคลื่อนองค์กรได้

ทำ Resume ให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย แต่ครบถ้วน

เพราะว่า HR ใช้เวลาสแกน Resume แค่ไม่นาน Resume ของเราก็เลยควรที่จะสั้น กระชับ เข้าใจง่าย แต่ใส่ข้อมูลครบถ้วน ซึ่งความยาวที่เหมาะสมก็คือไม่ควรเกิน 2 หน้ากระดาษ A4 เราจึงควรเลือกเอาแต่ข้อมูลที่สำคัญและคิดว่าน่าสนใจ และจำเป็นกับตำแหน่งงานที่สมัครจริง ๆ เท่านั้น เพื่อให้ HR อ่าน Resume ของเราได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือต้องตรวจทานทั้งการสะกดคำ ภาษาที่ใช้ และการเรียงลำดับข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อนส่งด้วย

ตั้งชื่อและเลือกประเภทได้ดี อาจมีโอกาสมากขึ้น

ถึงเวลาทำ Resume เราจะแก้จะปรับและเซฟไฟล์ใหม่อยู่หลายรอบ จนมีทั้งไฟล์ resume, resume_edit, resume_final แต่อย่าเผลอเอาไฟล์ที่มีชื่อแบบนี้ส่งไปสมัครงานเด็ดขาด ไฟล์ที่เราส่งไปควรจะตั้งชื่อให้ชัดเจนและเป็นทางการ โดยใช้ชื่อ-นามสกุลจริงของเรา และระบุด้วยด้วยเป็น Resume เช่น Resume_ชื่อ การทำแบบนี้ HR จะได้รู้ว่าเป็นไฟล์อะไร ของผู้สมัครคนไหน เพราะไฟล์ที่แนบไปในการสมัครงานแต่ละครั้งอาจจะมีไฟล์อื่น ๆ ด้วย เช่น Portfolio หรือ Transcript

นอกจากนั้นเราควรจะดูที่ประกาศงานก่อนด้วยว่าเขาต้องการให้เราส่งไฟล์ประเภทไหน แต่ถ้าไม่ได้ระบุไว้ การเลือกส่งเป็น PDF เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะว่าไฟล์ Microsoft Word นั้นมีโอกาสที่เนื้อหาที่ถูกจัดวางมาเป็นอย่างดีอาจเคลื่อนได้เวลา HR เปิดดู

ตัวอย่างจุดมุ่งหมายในการทํางาน มีอะไรบ้าง

จุดมุ่งหมายในการทำงานที่ดีประกอบไปด้วย.
1.การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่โลเล ... .
2.มีการแสดงแรงบันดาลใจอย่างเห็นได้ชัด ... .
3.มีการพัฒนา กระหาย กระตือรือร้นอยู่เสมอ ... .
4.มีการกำหนดเป้าหมายระยะ สั้น-กลาง-ยาว ... .
5.เป็นจุดมุ่งหมายในทางบวก ... .
จุดมุ่งหมายในการทำงานทั่วๆไป ที่ใช้ได้ทุกสายงาน ... .
งานการตลาด ... .
การเงินการธนาคาร.

Resume Objective คืออะไร

2) resume objective คือ การบอกจุดประสงค์ว่าทำไมเราอยากทำงานตำแหน่งนี้ เราจะใช้ทักษะ ประสบการณ์ การฝึกอบรมที่มี ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร เหมาะสำหรับผู้สมัครระดับเริ่มต้นและผู้สมัครที่กำหนดตำแหน่งงานที่ต้องการอย่างเจาะจง

Objective เขียนยังไง

objective.

Career Objective เขียนยังไงดี

เทคนิคการเขียน จุดมุ่งหมาย หรือ จุดประสงค์ในการทำงาน (Career Objective) ที่ดี คือ เขียน สั้นๆ ความยาวไม่เกิน 50 คำ (ภาษาอังกฤษ) สัก 3 จะ Full stop กำลังดี เขียน เหตุผล แสดงทักษะ และ ประสบการณ์ที่ผ่าน ให้ตรงกับตำแหน่งงานที่สมัคร เขียน ให้เน้น ถึงคุณค่าของเรา ที่จะ เป็นโยชน์ ให้กับบริษัท