�������㹾�Фس 3 ��� ��ͷ������ѡ��С���Ƕ֧�����㹤�������ҧ� �� 2 ��� �ѭ�� ��С�س� ��ǹ���ط�� �繾�Фس���ͧ����㹾�лѭ���������� �����繼��Դ�ͧ�ҡ��õ������ ������������¨֧����¡����繢��˹�觵�ҧ�ҡ Show
���ҹء���ط���ʵ�� ��Ѻ�����Ÿ��� �������駷�� �� �.�. ���� พระคุณของพระพุทธเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์ในโลกอย่างมาก คือ การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการละทิ้งความสุขสบายทั้งหลายทั้งปวง เพื่อออกผนวชและแสวงหาหนทางดับทุกข์ ซึ่งพระองค์ทรงมุ่งประโยชน์สุขของส่วนรวมมากกว่าสิ่งอื่นใดพระคุณของพระพุทธเจ้ามี ๓ ประการ ดังนี้พระปัญญาธิคุณพระพุทธเจ้ามีความรู้ทั้งด้านทางโลก รู้การเกิดและการตายของสัตว์โลก รู้การหลุดพ้นจากกิเลสของพระองค์ ในที่สุดพระองค์ทรงค้นพบความจริง ๔ ประการ คือรู้ทุกข์รู้เหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ (สมุทัย)รู้ความดับทุกข์ (นิโรธ)รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ (มรรค)ทั้งหมดนี้เป็นพระคุณของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่า พระปัญญาคุณพระบริสุทธิคุณพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญเพียรจนได้บรรลุธรรมและหลุดพ้นจากกิเลส คือความอยาก (โลภ)ความเกลียด ไม่พอใจ (โกรธ)ความหลง (โมหะ)ดวงจิตของพระองค์ที่สะอาดบริสุทธิ์ สงบผ่องใสทั้งหมดนี้ เป็นคุณของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่า พระบริสุทธิคุณพระกรุณาธิคุณหลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วพระองค์ได้เสด็จไปสั่งสอนประชาชนให้ได้รู้พระธรรมที่พระองค์รู้แจ้งโดยมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย พระองค์ทรงสั่งสอนคนทุกคนเสมอเหมือนกันหมดเป็นเวลา ๔๕ ปี การกระทำทั้งหมดนี้เป็นพระคุณของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า พระกรุณาคุณหลักกรรมหลักกรรมเป็นหลักธรรมคำสอนที่สำคัญประการหนึ่งของพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงสอนและเน้นเรื่องกรรมดังพระบาลีที่ว่ากลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ แปลว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วกรรม หมายถึง การกระทำทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ที่ประกอบด้วยเจตนาดีก็ตาม เจตนาชั่วก็ตาม กรรมเป็นคำกลาง ๆ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือกุศลกรรม หรือ กรรมดี คือ การกระทำที่ประกอบด้วยความไม่โลภความไม่โกรธความไม่หลงงมงายอกุศลกรรม หรือ กรรมชั่ว คือ การกระทำที่ประกอบด้วยความโลภความโกรธความหลงงมงายฉะนั้น คำว่า กฎแห่งกรรม จึงหมายถึง ความเป็นไปตามหลักเหตุและผลของการกระทำ สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า ผู้ใดกระทำสิ่งใดไว้ย่อมจะได้รับผลแห่งการกระทำนั้น ถ้าทำดีย่อมได้รับผลดีตอบแทนแต่ถ้าทำชั่วย่อมได้รับผลชั่วตอบแทนเช่นกันไตรสิกขาไตรสิกขา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สิกขา ๓ หมายถึง ข้อที่จะต้องศึกษา ๓ ประการ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา๑. ศีล คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมในทางความประพฤติ ในที่นี้ได้แก่ ศีล ๕ นักเรียนจะต้องปฏิบัติตามศีล ๕ อย่างครบถ้วน เพื่อจะเป็นรากฐานสำหรับสมาธิและปัญญา๒. สมาธิ คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมจิต เพื่อให้เกิดสมาธิ และเป็นรากฐานสำหรับการเจริญปัญญา จิตที่มีสมาธิจะทำให้มีความสุข ความสงบ มีความมั่นคง ว่องไวต่อการทำงาน และมีความจำดี๓. ปัญญา คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมปัญญา เพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง คือ รู้อริยสัจ ๔ อันเป็นธรรมอันประเสริฐผู้ที่รักษาศีลจะเกิดอานิสงส์ข้อหนึ่ง คือ ศีลจะส่งเสริมให้ผู้นั้นเกิดสมาธิได้โดยง่าย ในการฝึกสมาธินั้นปัญญาและสมาธิจะต้องมีความเกี่ยวข้องเสมอไป ในทางพุทธศาสนาแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสมาธิกับปัญญาไว้ว่า "ต้องมีสมาธิจึงจะมีปัญญา" ต้องมีปัญญาจึงจะมีสมาธิ" ซึ่งหมายถึงคนมีปัญญาจึงสามารถมีสมาธิมากขึ้นตามลำดับ เมื่อมีสมาธิมากขึ้นปัญญาก็ยิ่งมีกำลังมากขึ้นตาม ทั้ง ๒สิ่งนี้ ส่งเสริมซึ่งกันและกันไปในตัวถ้ามีปัญญาแล้วจะมีความเห็นแจ้ง จะตัดความยึดมั่นออกได้ จิตใจจะหลุดพ้นจากการเป็นทาสของสิ่งทั้งปวง แล้วจิตใจจะเป็นอิสระไม่เป็นทาสของสิ่งใดอย่างแต่ก่อนตลอดไปโอวาท ๓โอวาท ๓ คือ คำสอนที่เป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนามี ๓ ประการ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงแก่พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ที่มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ที่วัดเวฬุวนาราม กรุงราชคฤห์ ในวันมาฆบูชา หลักคำสอน ๓ ประการนี้ เรียกว่า โอวาทปาฏิโมกข์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา คือ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้ผ่องใส๑. การไม่ทำความชั่วทั้งปวง หมายถึง การไม่ทำความชั่วทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ การไม่ทำชั่วตรงกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ดังนี้เบญจศีล หรือ ศีล ๕ เป็นข้อปฏิบัติในการเว้นจากความชั่ว๑. เว้นจากที่การปลงชีวิต,เว้นจากการฆ่าการประทุษร้าย๒. เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้,เว้นจากการลัก โกง ละเมิดกรรมสิทธิ์ ทำลายทรัพย์สิน๓. เว้นจากการละเมิดสิ่งที่ผู้อื่นรักใคร่หวงแหน๔. เว้นจากการพูดเท็จ โกหก หลอกลวง๕. เว้นจากน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท,เว้นจากสิ่งเสพย์ติดให้โทษทุจริต ๓ทุจริต ๓ หมายถึง การกระทำความชั่วทางกาย (กายทุจริต) การกระทำความชั่วทางวาจา (วจีทุจริต) และการกระทำความชั่วทางใจ (มโนทุจริต)การประพฤติชั่วทางกาย ได้แก่๑. การฆ่าสัตว์และการทำร้ายสัตว์หรือการเบียดเบียนผู้อื่น๒. การลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น๓. การประพฤติผิดในกาม หรือแย่งชิงของรักของผู้อื่นการประพฤติชั่วทางวาจา ได้แก่๑. การพูดเท็จ๒. การพูดยุยงให้แตกแยกกัน๓. การพูดคำหยาบ๔. การพูดเพ้อเจ้อการประพฤติชั่วทางใจ ได้แก่๑. การโลภอยากได้ของของผู้อื่น๒. การคิดพยาบาทปองร้าย๓. การเห็นผิดเป็นชอบทำความดีให้ถึงพร้อมเมื่อเราละเว้นจากการทำความชั่วแล้ว ก็ต้องหมั่นทำความดีควบคู่กันไปด้วย จึงจะถือว่ามีความดีสมบูรณ์อย่างแท้จริง ส่งผลให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข ดังนั้น เมื่อเราปฏิบัติเบญจศีลแล้ว จะต้องปฏิบัติเบญจธรรมควบคู่กับไปด้วยเบญจธรรม หมายถึง คุณธรรม ๕ ประการ คู่กับเบญจศีล ได้แก่๑. เมตตากรุณา ความรักใคร่ปรารถนาให้มีความสุขความเจริญ และความสงสารคิดช่วยให้พ้นทุกข์ คู่กับศีลข้อที่ ๑๒. สัมมาอาชีวะ การหาเลี้ยงชีพในทางสุจริต คู่กับศีลข้อที่ ๒๓. กามสังวร ความสำรวม ระวัง รู้จักยับยั้ง ควบคุมตนไม่ให้หลงใหลในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส คู่กับศีลข้อที่ ๓๔. สัจจะ ความสัตย์ ความซื่อตรง คู่กับศีลข้อที่ ๔๕. สติสัมปชัญญะ ระลึกได้รู้ตัวอยู่เสมอ คือฝึกตนให้เป็นคนรู้จักยั้งคิดรู้สึกตัวเสมอ สิ่งใดควรทำและไม่ควรทำ ระวังมิให้เป็นคนมัวเมาประมาท คู่กับศีลข้อที่ ๕สุจริตสุจริต ๓ หมายถึง การประพฤติชอบทางกาย (กายสุจริต) การประพฤติชอบทางวาจา (วจีสุจริต) และการประพฤติชอบทางใจ (มโนสุจริต)การประพฤติชอบทางกาย ได้แก่๑. มีความเมตตากรุณา๒. เคารพในสิทธิและทรัพย์สินของผู้อื่น๓. สำรวมในกามการประพฤติชอบทางวาจา ได้แก่๑. พูดความจริง๒. พูดในทางส่งเสริม๓. พูดคำไพเราะสุภาพ๔. พูดแต่เรื่องที่มีประโยชน์การประพฤติชอบทางใจ ได้แก่๑. พอใจในสิ่งของที่ได้มาโดยถูกต้อง๒. มีเมตตาต่อผู้อื่น และไม่คิดร้ายต่อใคร๓. เห็นชอบตามทำนองคลองธรรมขอให้ท่านจงมีความสุขความเจริญ..เทอญ พุทธคุณสามมีอะไรบ้างพระพุทธเจ้าทรงพระคุณอันประเสริฐ 3 ประการ คือ พระวิสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ
พระพุทธคุณ 3 หมายถึงข้อใดน. คุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณและพระกรุณาคุณ, คำว่า คุณ มี ๒ ความหมาย คือ คุณความดี หมายถึงความดีของท่าน กับคุณประโยชน์ หมายถึงอุปการะที่ท่านมีต่อเรา, คำว่า พุทธคุณ ก็อาจ...
พุทธคุณข้อใดจัดอยู่ในพระปัญญาคุณพระปัญญาคุณ
รู้เหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ (สมุทัย) รู้ความดับทุกข์ (นิโรธ) รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ (มรรค) ทั้งหมดนี้เป็นพระคุณของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่า พระปัญญาคุณ
พระกรุณาธิคุณมีอะไรบ้าง3. พระกรุณาธิคุณ คือ ประกอบด้วยความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ทรงเลือกชาติชั้นวรรณะแต่ประการใด แม้แต่ในศีลของพระองค์ก็ทรงบัญญัติให้คนงดเว้นไม่ทำสิ่งมีชีวิตให้ตกล่วงไป และทรงแนะให้แผ่มตตาจิตต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข อันเป็นเป้าหมายของการดำรงชีวิต
|