1.ทักษะด้านการทำงาน (Technical Skills) วิธีหา ทักษะความสามารถพิเศษ มีอะไรบ้าง ที่น่าเอามาเขียน ลงใน ประวัติส่วนตัว หรือ เรซูเม่ นั้น เราจะต้อง เลือกทักษะ ให้เฉพาะ และ ตรงกับงานที่กำลังจะสมัคร ถึงแม้ว่า เราจะมี ความสามารถพิเศษ มากมาย แต่ถ้า มันไม่ตรงกับ คุณสมบัติ หรือ สิ่งที่บริษัทต้องการ มันก็ไม่พิเศษอีกต่อไป สำหรับสายตากรรมการ นะคะ 1.หาจากป้ายประกาศหางานที่ บริษัทระบุไว้ว่า ต้องการ ผู้เข้าสมัคร ที่มีคุณสมบัติ อะไรบ้าง หรือในหัวข้อ ภาษาอังกฤษ
ลองหา มาอ่านซึ่งในหัวข้อเหล่านี้ บริษัทจะระบุ ว่า รูปแบบงานเป็นอย่างไร จะต้องเข้าไปทำงานอะไรบ้าง โดยจะต้องใช้โปรแกรมอะไร ในการจัดการข้อมูล ซึ่งหลายๆบริษัท จะระบุไว้เลย ว่า ต้องใช้โปรแกรมนั้น โปรแกรมนี้นะ สำหรับใครที่ คิดว่าตัวเอง ไม่มีความสามารถพิเศษ หรือ น้องๆ นักเรียนที่ กำลังหา ความสามารถพิเศษ เพิ่มเติม ใน พอร์ตฟอลิโอ้ ให้ เริ่มหา ทั้ง ความสามารถเทคนิคเฉพาะ หรือ ทักษะในการจัดการต่างๆ 2. ให้นึกถึง Soft Skill กับ Hard Skill เวลาหา ทักษะพิเศษของตัวเองSoft Skill คือ ทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นลักษณะ ลักษณะการทำงาน ลักษณะเฉพาะตัว ที่เราทุกคนสามารถฝึกได้ เช่น มี ทักษะผู้นำ (Leadership skill) มีทักษะในการแจกจ่ายงาน (Delegation skills) มี ความสามารถในการโน้มน้าวใจผู้คน (Influencing skills) เป็นต้น Hard Skill คือ ความสามารถพิเศษ เฉพาะ ทางเทคนิค มีใบประกาศนียบัตร และ สามารถวัดผล ได้ ตัวอย่างเช่น ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ ความสามารถทางงภาษา IT ทักษะในการใช้ โปรแกรม กราฟฟิก ต่างๆ เช่น การใช้โปรแกรม Microsoft Word การเขียนโค้ด html เป็นต้น 3. ความสามารถพิเศษง่ายๆ หา ได้จาก สิ่งที่สนใจ งานอดิเรกอีกวิธีหนึ่ง ในการหา ความสามารถพิเศษง่ายๆ คือให้ใส่ สิ่งที่เราสนใจ หรือ งานอดิเรก ที่เรา ถนัดลงไปใน เรซูเม่ เช่น ความสามารถในการเล่นกีฬา ความสามารถทางดนตรี ความสามารถทางศิลปะ ข้ามไปยังเนื้อหา หลักการและเหตุผล การที่องค์กรต่างๆ ได้นำเอาระบบการบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบการบริหารผลงาน (Performance Management System) นั้น ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายองค์กร การกระจายเป้าหมายองค์กรสู่หน่วยงาน และกากรเชื่อมโยงถึงระบบการประเมินผลงานประจำปีของพนักงาน ถือเป็นสิ่งที่ดีและมีความสำคัญต่อการนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
แต่ถ้าองค์กรต้องการจะให้ระบบการบริหารผลงาน ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่บุคลากรในทุกระดับต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการกำหนดเป้าหมายในการทำงานได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่รอแต่เป้าหมายที่กระจายมาจากหัวหน้างานและองค์กรเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญยิ่งไปกว่านี้ คือ บุคลากรในทุกๆ ระดับควรจะต้องสามารถทำแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับเป้าหมายในการทำงานได้ เพื่อการนำแผนปฏิบัติการนั้นไปปฏิบัติงานจริงต่อไป
ดังนั้นองค์กรอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ในการดำเนินกิจการอยู่บ่อยครั้ง หากยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย และถ้ามีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ แผนการปฏิบัติงานก็ต้องปรับเปลี่ยน ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์นั้นๆด้วย เพราะต้องทำผลงานให้ได้ตัวเลขตามตัวชี้วัด(KPI) ที่ได้กำหนดไว้ และแผนปฏิบัติงานนั้นๆ ต้องทำให้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย คือ ต้องคำนึงถึงความสำเร็จตามเป้าหมาย การประหยัดทรัพยากร เงินทุน กำลังพล เวลา และอื่นๆในส่วนของปัจจัยการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายแบบยั่งยืน วัตถุประสงค์
หัวข้อการอบรม
ประโยชน์ที่จะได้รับ
รูปแบบหลักสูตร 1.การบรรยาย 40 % 2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop 60% สถาบันฝึกอบรม Happy-Training "สุนทรียะแห่งการฝึกอบรม" |