โครงงานผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ บทที่5

โครงงาน เร่ือง สยี ้อมผ้าจากต้นคราม จดั ทาโดย น.ส. ณฏั ฐธิดา มีกล่า เลขท่ี 8 น.ส.ธญั ลกั ษณ์ เตชนนั ท์ เลขที่ 9 น.ส.จิดาภา ตลิ ะ เลขท่ี 13 นายปรัญชยั กะรัตน์ เลขท่ี 26 นายธีรภทั ธ์ ดวงใจ เลขที่ 33 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 5/8 รายวชิ า I30201 ภาคเรียนท่ี 1 ประจาปี การศกึ ษา 2562 โรงเรียนปัว อาเภอปัว จังหวัดน่าน สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาน่านเขต 37

เก่ียวกับโครงงาน เร่ือง สยี ้อมผ้าจากต้นคราม ผ้จู ดั ทา 1. น.ส. ณฏั ฐธิดา มกี ลา่ เลขท่ี 8 2. น.ส.ธญั ลกั ษณ์ เตชนนั ท์ เลขที่ 9 3. น.ส.จิดาภา ตลิ ะ เลขที่ 13 4. นายปรัญชยั กะรัตน์ เลขท่ี 26 5. นายธีรภทั ธ์ ดวงใจ เลขที่ 33 ครูท่ปี รีกษา คณุ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ตาแหนง่ ครู สถานศกึ ษา โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั นา่ น สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษานา่ นเขต 37 ปี การศกึ ษา 2562

กิตติกรรมประกาศ โครงงานวิจยั ฉบบั นีส้ าเร็จอยา่ งสมบรู ณ์ได้ด้วยการชว่ ยเหลอื อย่างย่ิงจาก คณุ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ คณุ ครูที่ปรึกษา ที่ได้ให้คาแนะนาปรึกษา และให้ข้อมลู ตา่ งๆ ขอกราบขอพระคณุ อย่างสงู ณ โอกาสนี ้ ขอขอบคณุ ทางโรงเรียนปัว อาจารย์ พ่อแม่ เพื่อนๆ ทคี่ อ่ ยให้ความสนบั สนนุ ทาให้โครงงาน ประสบความสาเร็จ ขอขอบคณุ เพื่อนทกุ คนท่ีคอ่ ยช่วยเหลอื ทงั้ หาข้อมลู รวบรวมข้อมลู และวธิ ีทา สีย้อมผ้าจากต้นครามและขอบคณุ กาลงั ใจดๆี จากผ้ทู ี่มีความเมตตากรุณาทกุ ท่าน ที่มีสว่ นผลกั ดนั ให้มแี รงบนั ดาลใจในการทีจ่ ะทาโครงงานสีย้อมผ้าจากต้นครามตอ่ ไป ซง่ึ ผ้จู ดั ทาโครงงานนีม้ คี วามซาบซงึ ้ อย่างย่ิง และขอขอบคณุ ณ โอกาสนี ้ ท้ายที่สดุ นีผ้ ้จู ดั ทาหวงั เป็นอย่างยิ่งวา่ โครงงานนีจ้ ะเป็นประโยชน์ตอ่ การศกึ ษาสีย้อมผ้าจากต้นคราม หรือผ้ทู ่ีสนใจตอ่ ไป

ผู้เสนอโครงงาน : นางสาว ธญั ลกั ษณ์ เตชนนั ท๋ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เลขท่ี 9 ครูท่ีปรึกษาโครงงาน : นายดารงค์ คนั ธะเรศย์ ปี การศึกษา : 2562 บทคัดย่อ โครงงาน เร่ือง สยี ้อมผ้าจากต้นคราม เป็นการนาต้นครามท่ีมอี ยแู่ ล้วในท้องถ่ิน มาทาให้เกิด ประโยชน์สงู สดุ ซึ่งสามารถนามาย้อมผ้าได้ และผ้าท่ีได้กไ็ มเ่ ป็นอนั ตรายตอ่ ร่างกาย วตั ถปุ ระสงคท์ ี่จดั ทาโครงงานนีข้ นึ ้ เพื่อ เพื่อศกึ ษาสีย้อมผ้าจากธรรมชาตจิ ากต้นคราม ท่ีปราศจาก สารเคมที ่ีเป็นอนั ตราย

บทท่ี 1 บทนา ท่มี าและความสาคญั ของโครงงาน สีธรรมชาติมบี ทบาทเกี่ยวข้องกบั วถิ ีการดารงชีวติ ของมนษุ ย์มายาวนานนบั ตงั้ แต่สมยั โบราณ มนษุ ย์ได้เรียนร้ทู ่ีจะนาสีจากวสั ดธุ รรมชาติมาใช้ในกจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ ทาสีตามร่างกาย ทาสบี นภาชนะ เคร่ืองปัน้ ดนิ เผา ย้อมสง่ิ ทอ เครื่องใช้ เคร่ืองน่งุ หม่ ภาพวาดฝาผนงั และเป็นสว่ นประกอบในพิธีกรรมตา่ งๆ ตามความเชื่อของแตล่ ะท้องถ่ิน สีธรรมชาตคิ ือสที ี่สกดั ได้จากวตั ถดุ ิบท่ีมาจาก พชื สตั ว์ และแร่ธาตตุ า่ งๆ ซ่ึงเกิดขนึ ้ จากกระบวน การตามธรรมชาติ แหลง่ วตั ถดุ บิ ของสีธรรมชาตสิ ามารถหาได้จากต้นไม้ ใบไม้ และจากบางสว่ นของสตั ว์ หลายชนิด สามารถให้สสี นั ตามท่ีเราต้องการ และด้วยกรรมวธิ ีการผลติ ท่ีแตกตา่ งกนั ทาให้ผลติ ภณั ฑท์ ่ีได้มี ความสวยงามและสีสนั ที่หลากหลาย หน่ึงในผลิตภณั ฑ์ที่นิยมมากคือ สีย้อมผ้า แหลง่ วตั ถดุ ิบสาหรบั สีย้อม ผ้าธรรมชาตทิ ่ีมกั นามาใช้กนั มกั เป็น พืช สตั ว์และแร่ธาตทุ ี่มอี ยใู่ นแตล่ ะท้องถ่ิน เพ่ือการนาทรัพยากร ท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สงู สดุ และเป็นการถ่ายทอดภมู ิปัญญาในท้องถ่ิน ตารางด้านลา่ งแสดงแหลง่ วตั ถดุ บิ ที่เป็นพืชและสตั วท์ ี่นิยมนามาใช้ทาสีธรรมชาตใิ นการย้อมสีผ้า เชน่ ต้นคราม ครามเป็นสยี ้อมผ้า ธรรมชาติ ท่ีเกา่ แก่ท่ีสดุ ในโลกและทวั่ โลกร้จู กั ดีคือ คราม ในชื่อสากลวา่ อนิ ดโิ ก Indigo เป็นชื่อตามสถานท่ี หรือแหลง่ ผลิตท่ีใหญ่ท่ีสดุ ของโลก คือประเทศอินเดยี เคยตกเป็นเมืองขนึ ้ ของประเทศองั กฤษ และถกู เกณฑ์เอาทาสที่มีความชานาญด้านการทาครามไปผลิตครามสง่ ขายในทวปี ยโุ รป ตามเส้นทางสาย เคร่ืองเทศ ในช่วงการปฏวิ ตั ิอตุ สาหกรรม ความนิยมกางเกงยีนสล์ ีวายย้อมคราม มีสงู มาก เม่ือ ค.ศ. 1883 ครามธรรมชาติผลิตไมท่ นั ตอ่ ความต้องการ ประเทศเยอรมนั และฝร่ังเศสจงึ ได้ทาการวจิ ยั ครามเคมแี ละสี อ่ืนๆ ได้สาเร็จ สีเคมจี งึ เป็นที่นิยมใช้กนั อยา่ งแพรห่ ลายทว่ั ทกุ มมุ โลกมาจนถึงปัจจบุ นั เพราะใช้งานง่ายและ ไมม่ ีขนั้ ตอนย่งุ ยาก แตผ่ ลตามมาคือสขุ ภาพของผ้ใู ช้สเี คมใี นการย้อมผ้า เกิดการสะสมโลหะหนกั ใน ร่างกายสงู เป็นเวลานานหลายปี จึงทาให้เป็นมะเร็ง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ ผ้ใู ช้สเี คมเี สยี ชีวิตจากมะเร็งจานวน มาก จึงทาให้สงั คมตะหนกั ในเรื่องการซือ้ ผ้าย้อมสเี คมี จนเกิดเป็นกระแสสขุ ภาพตาม

วัตถุประสงค์ของการทาโครงงาน เพ่ือศกึ ษาสีย้อมผ้าจากธรรมชาตจิ ากต้นคราม ขอบเขตของการศกึ ษาค้นคว้า 1. สิ่งท่ีศกึ ษา ต้นคราม ที่ บ้านห้วยสาวแลว 2. ทดลองย้อมสกี บั ผ้า ผ้าทีใ่ ช้ต้องเป็นสีขาวเท่านนั้ ผลท่คี าดว่าจะได้รับ 1.สามารถเรียนรู้สธี รรมชาติได้จากต้นคราม 2.สามารถทาสีย้อมผ้าจากธรรมชาตไิ ด้ 3.สามารถทาเป็นอาชีพเสริม

บทท่ี 2 เอกสารและโครงงานท่เี ก่ียวข้อง ที่มา : https://th.wikipedia.org/คราม ครามหรือนาโค ช่ือวิทยาศาสตร์: Indigofera tinctoria อย่ใู นวงศ์ Leguminosae เป็นไม้พนื ้ เมืองใน เอเชีย เป็นไม้พมุ่ ขนาดเลก็ ฝักตรงหรือโค้งงอเลก็ น้อย ใบประกอบแบบขนนก ดอกช่อ ใช้ทาสยี ้อม ต้นคราม มีกลโู คไซดอ์ ินดแิ คน เมอ่ื นาต้นไปแชน่ า้ สารนีถ้ กู เปลีย่ นเป็นอนิ ดอกซิลและเมอ่ื ถกู อากาศจะถกู เปลีย่ นเป็น อินดโิ ก-บลู ให้สีคราม ใช้เป็นยารกั ษาอาการทางประสาท บรรเทาอาการปวดแผลทเ่ี กดิ ในบริเวณเยื่อออ่ น คนสมยั โบราณนิยมนากิ่งครามทงั้ ใบมาแชน่ า้ ดา่ ง เพื่อหมกั เอานา้ คราม มาย้อมผ้า สที ี่ได้คอื สนี า้ เงิน เข้ม เรียกวา่ สคี ราม นนั่ เอง แตต่ ้องย้อมซา้ หลายครงั้ ครงั้ แรก ๆ อาจได้เป็นสฟี า้ เข้ม ในการหมกั นนั้ มี กรรมวิธีที่เรียกวา่ การ 'เลยี ้ งคราม' หากทาไมถ่ กู ขนั้ ตอน ครามจะไมใ่ ห้สี เรียกวา่ 'ตาย' นา้ สีท่ียงั ไมส่ มบรู ณ์ จะเหน็ เป็นสเี ขียวเข้ม เมื่อโดนอากาศ จะเข้มขนึ ้ จนเป็นสีนา้ เงิน ถึงสคี รามในที่สดุ ชาวอสี านเรียกสคี รามวา่ สีนิล สีหม้อ หรือสหี ม้อนิล ชาวอีสานตอนบนนิยมนาไปย้อมผ้า และมดั เป็นลาย เรียกวา่ ผ้าย้อมคราม แหลง่ ผลิตผ้าทอมือย้อมครามท่ีมคี ณุ ภาพมากท่ีสดุ แห่งหนึ่งคอื จงั หวดั สกลนครเนื่องจากเป็นภมู ิปัญญา ท้องถ่ินของชาวผ้ไู ทและมกี ารตอ่ ยอด ออกแบบสแี ละลวดลายให้มีความประณีตสวยงาม

บทท่ี 3 วิธีการจดั ทาโครงงาน วัสดแุ ละอุปกรณ์ 1. ต้นคราม 2. นา้ 3. ปนู แดง 4. ถงั 5. ขนั นา้ 6. เสอื ้ สขี าว วธิ กี ารจดั ทาโครงงาน 1 คิดหวั ข้อโครงงานเพื่อนาเสนอครูท่ีปรึกษาโครงงาน 2 ศกึ ษาและค้นคว้าข้อมลู ที่เกี่ยวข้องกบั เร่ืองที่สนใจ วา่ มีเนือ้ หามากน้อยเพียงใด และต้องศกึ ษาค้นคว้า เพิ่มเตมิ เพยี งใดจากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ และเกบ็ ข้อมลู ไว้เพ่ือจดั ทาเนือ้ หาตอ่ ไป 3 ศกึ ษาการศกึ ษาการย้อมสีผ้าจากต้นคราม 4 จดั ทาโครงร่างโครงงานและนาเสนอ 5 ปฏิบตั ิการ สยี ้อมผ้าจากตนคราม สมาชิกสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างท่ีเสนอไว้แล้ว 6 นาเสนอรายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ เพื่อให้จดั ทาเนือ้ หาและการนาเสนอที่น่าสนใจตอ่ ไป ทงั้ นเี ้ม่ือ ได้รบั คาแนะนากจ็ ะนามาปรบั ปรุง แก้ไขให้เป็นที่สนใจยิ่งขนึ ้ 7 ประเมนิ ผลงาน แล้วให้ครูที่ปรึกษาประเมนิ ผลงาน

บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา จากการศกึ ษา สยี ้อมผ้าจากต้นคราม ผ้จู ดั ทาได้ ทดลองจะได้สเี ข้มมากหรือเข้มน้อยขนึ ้ อยกู่ บั เวลาที่หมกั และปริมาณต้นครามและนา้ ปนู ใส ซ่งึ สี ท่ีได้นนั้ ไมเ่ ป็นอนั ตรายตอ่ ร่างกาย การศกึ ษาเรื่องสยี ้อมผ้าจากต้นคราม ศกึ ษาเฉพาะการออกสีของต้น คราม

บทท่ี 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลการศกึ ษา สรุปผลการศกึ ษา โครงงานพบวา่ การย้อมผ้าจากต้นคราม การนาต้นครามมาย้อมผ้า เราสามารถ นามาทาเป็นผลิตภณั ฑใ์ นการย้อมสีผ้า เราได้ผลิตภณั ฑ์ตามที่เราต้องการและ มปี ระสทิ ธิภาพไมเ่ ป็น อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ สีย้อมผ้าเราย้อมมาจะเป็นสีธรรมชาติ และท่ีสาคญั เป็นการประหยดั คา่ ใช้จา่ ยและ สามารถสร้างรายได้เพ่ิมขนึ ้ อีกด้วย ข้อเสนอแนะ 1.เราสามารถนาของธรรมชาตชิ นิดอ่นื ที่มีสารแทนนินไปย้อมผ้าได้ 2.เราอาจนาผลทดลองนีไ้ ปใช้กบั ของธรรมชาติอืน่ ๆได้

บรรณานุกรม https://sites.google.com/site/jutamaspasalung/txy-xd/kar-yxm-pha-si- thrrmchati?fbclid=IwAR0232tfkvH05BVBAxzIR09z_A64-Qwof1hXGN9A6K28HRFbwFbvjKYoDQk (วนั ท่ีค้นข้อข้อมลู 19/07/62 )