เพือ่ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น โดยเน้นภาษาสุภาพ หลีกเล่ยี งการใช้คำศัพท์ทีย่ าก ๆ เป็นสำนวนท่ี เข้าใจง่าย ส่วนใหญ่มักใช้ในกลุ่มผู้มีการศึกษา ในวงราชการในหมู่ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษาตล อดจน หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ตัวอย่าง สำนวนภาษาสามัญ คำสุภาพ คำสามัญ/คำสภาพ คำราชาศพั ท์ ผกั บงุ้ ผักทอดยอด ผักตบ ผักสามหาว ผักกระเฉด ผกั รนู้ อน ผกั อี้รื้น ผักนางร้ิน ดอกซ่อนชู้ ดอกซ่อนกลนิ่ 1.5.2 สำนวนภาษาการประพันธ์ เปน็ สำนวนท่สี ะดดุ ตาและสะดุดใจผู้อ่านไมว่ า่ จะเป็นสำนวนภาษา ร้อยแก้วหรือร้อยกรองประเภทใดประเภทหนึ่ง โดยผู้แต่งมีจุดมุ่งหมายเพ่ือให้ผู้อ่านเกิดจินตนาการและ จินตนาการและเกิดอารมณ์สะเทือนใจ ผู้แต่งมักใช้โวหารต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความไพเราะทั้งเรื่องเสียงและ ความหมาย มักพบสำนวนภาษาการประพันธ์จากงานเขียนต่าง ๆ เช่น บทร้อยกรองทุกประเภท เรื่องสั้น การโฆษณาต่าง ๆ ยกเวน้ งานเขยี นทางวทิ ยาศาสตร์ ตัวอย่าง สำนวนภาษาการประพนั ธ์ จากบทเสภา เรอื่ ง ขุนช้างขนุ แผน “...ฝงู ลงิ ไต่กิง่ ลางลิงไขว่ ลางลงิ แล่นไล่กันวุ่นวง่ิ ลางลงิ ชิงค่างขนึ้ ลางลิง กาหลงลงกง่ิ กาหลงลง เพกากาเกาะทุกก้านกิ่ง กรรณิกากาชงิ กนั ชมหลง มดั กากากวนล้วนกาดง กาฝากกาลงทำรงั กา เสือมองยอ่ งแอบตน้ ตาเสอื ร่มหกู วางกวางเฝอื ฝูงกวางป่า ออ้ ยช้างช้างนา้ วเป็นราวมา สาลกิ าจบั ก่ิงพิกลุ กิน...” 1.5.3 สำนวนภาษาสื่อมวลชนและสำนวนภาษาโฆษณา สำนวนภาษาทั้งสองประเภทนี้ปะปนกัน ตวั อย่าง สำนวนภาษาส่ือมวลชน 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 6 1.5.4 สำนวนภาษาบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ตัวอยา่ ง สำนวนภาษาใช้สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 1.6 ระดับภาษาทีใ่ ช้ในการสอื่ สาร ภาษานอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารความรู้ ความคิด ความรู้สึก ทัศนคติแล้ว ยังใช้สร้าง ระดับของภาษา หมายถึง ความลดหลั่นของถ้อยคำและการเรียบเรียงถ้อยคำที่ใช้โดยพิจารณาตาม 1.6.1 ระดับพธิ กี าร หรอื เรียกอีกชื่อว่า ระดับแบบแผน เปน็ ภาษาท่เี รียบเรยี งมาเป็นอย่างดี มีความ ตวั อย่าง ภาษาระดบั พธิ ีการ ครบ ๖ รอบ ปวงประชาชาวไทยขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันทรง ๒. ระดับกึ่งพิธีการ เรียกอีกชื่อว่า ระดับกึ่งแบบแผน เป็นภาษาที่ใช้ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ทั่วไป 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 7 ตัวอย่าง ภาษาระดบั กึ่งพธิ ีการ วิธกี าร อันได้รบั การพิสูจน์แล้ววา่ ประสบความสำเร็จในการประกอบการและการจดั การธุรกิจ ได้ ๓. ระดบั ไม่เป็นพธิ กี าร/ไม่เปน็ แบบแผน (ภาษาปาก) เปน็ ภาษาท่ีใช้สอื่ สารกับบุคคลท่ีสนิทคุ้นเคย เป็นกันเอง จึงไมจ่ ำเป็นต้องใชใ้ ห้ ถูกตอ้ งตามแบบแผนมากนกั ภาษาปากเหล่านีไ้ ด้แก่ คำพดู ระหวา่ งบุคคลใน ชีวติ ประจำวัน คำถิ่น และคำคะนอง เชน่ “เป็นไงบ้าง” มาจาก “เป็นอย่างไรบ้าง” “กินข้าวยงั ” มาจาก “กินข้าวหรอื ยงั ” “ทานขา้ วหรอื ยัง” “เปน็ จะไดพ่อง” มาจาก “เปน็ อยา่ งไรบ้าง” (คำถน่ิ เหนือ) “อยา่ มาแอ๊บมึน” (คำคะนอง) แปลว่า อยา่ ทำเปน็ วา่ ไม่รู้เรอื่ ง “แดงเรียนจบจากรามคำแหง” มากจาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง “เมย์โดนแม่คา้ ตนุ๋ ซะเปอ่ื ยเลย” แปลว่า ถกู หลอก แม้ว่าภาษาจะเป็นออกเป็น ๓ ระดับ แต่บางครั้งการสื่อสารอาจมีการใช้ระดับภาษาที่คาบเกี่ยวกัน 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 8 แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 1 ตอนท่ี 1 จงตอบคำถามต่อไปน้ี ตอนท่ี 2 จงเลอื กเติมคำในช่องวา่ งให้ถูกต้อง (เกษียร เกษยี น เกษยี ณ) (อานสิ งส์ อานสิ งฆ์ อาพาด อาพาธ อาพาธ) (พันธุ์ พนั ธ์ สัน สรร น่า หนา้ ) (กฏเกณฑ์ กฎเกณฑ์ กฎหมาย กฏหมาย) (ทรวดทรง ซวดซง อะรา้ อะร่าม อะร้าอรา่ ม อรา้ อร่าม) ตอนที่ 3 จงจดั หมวดหมขู่ องคำต่อไปนีต้ ามระดับของภาษา สกุ ร สนุ ขั ดวงตราไปรษณียากร งานแตง่ งาน รถเมล์ พระราชทาน โก้จงั เทร่ ะเบิด ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพร พระราชกุศล ซปุ ’ตาร์ จักรยานยนต์ ระดับพิธกี าร ระดบั กง่ึ พธิ ีการ ระดับไมเ่ ป็นทางการ ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... .................................................... ................................................... .................................................... 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 9 แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 1 คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ตัวเลอื กทีถ่ กู ตอ้ งทสี่ ุด 1. องค์ประกอบของการสอื่ สารตรงกับข้อใด 6. สำนวนในข้อใดที่ชี้ให้เห็นว่าภาษาไทยเป็น ก. ผูร้ บั สาร ผูส้ ่งสาร สาร สื่อ ภาษามีระดบั ข. ผู้รับสาร ผูส้ ่งสาร เอกสาร สือ่ ก. ปลาหมอตายเพราะปาก ค. ผู้นำสาร ผู้ส่งสาร เอกสาร สือ่ ข. คนยากวา่ ผี คนดีว่าศพ ง. ผูร้ ับสาร ผสู้ ง่ สาร สาร ตวั นำสาร ค. สำเนยี งสอ่ ภาษา กริ ยิ าส่อสกุล ง. พดู ไปสองไพเบีย้ นิง่ เสียตำลงึ ทอง 2. ขอ้ ใดใชค้ ำผดิ ความหมาย ก. สมพรอ่านหนังสือฆา่ เวลา 7. ขอ้ ใดเขียนสะกดถูกต้องทุกคำ ข. วาสนาทำตวั แหลกเหลว ก. นอต ย่อมเยา ค. สมหญงิ หวิ จนหอู อ้ื ตาลาย ข. พจนานุกรม มงกุฎ ง. ออ้ ยทำงานหนักจนเหง่ือไหลโทรมกาย ค. เครอื่ งสำอางค์ น้ำแขง็ ไส ง. ไตรยางค์ กระเพรา 3. ขอ้ ใดใช้ภาษาได้ดีทีส่ ุด ก. แจ็คดูอาการหนักฉันว่าไมร่ อดแน่ 8. ขอ้ ใดใช้ภาษาก่ึงทางการ ข. ยนิ ดีดว้ ยนะท่เี ธอได้รบั รางวลั วันน้ี ก. บิ๊กไปทำบญุ กบั เพ่ือน ๆ ค. วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐานเธอไม่เกง่ เลยนะ ข. ดาวคยุ โทรศพั ท์กับนกทุกวัน ง. เธอทำงานช้าทกุ อยา่ งเลย ไม่ทนั กนิ หรอก ค. แอว๋ ไปรว่ มงานแตว่ งนอ้ งสาวดา ง. ครสู มศรกี ำลังบรรยายเรื่องปัญหาเดก็ เร่ร่อน 4. ขอ้ ใดมคี วามหมายโดยนยั ก. เขามอี าชพี เปน็ ลกู หาบ 9. ลักษณะเดน่ ของภาษาส่อื มวลชนคอื ข้อใด ข. แม่มีลูกมือทำขนมหลายคน ก. สั้น กระชบั สะดุดตา สะใจ ค. ลูกมะพรา้ วลอยมาตามน้ำ ข. สนั้ กระชบั สะดดุ ตา เน้นข้อคิด ง. ลูกพข่ี องเด็กแว้นกลุ่มนคี้ ่อนข้างมีเหตุผล ค. สนั้ กระชบั สะดุดตา สะเทือนใจ ง. สน้ั กระชบั สะดุดตา เกิดความรู้ 5. ขอ้ ใดเป็นการสง่ สารด้วยอวจั นภาษา ก. เขาหัวเราะรว่ น เมื่อได้ฟงั เร่ืองตลก 10. ขอ้ ใดไมจ่ ัดเป็นการสื่อสาร ข. เม่อื เขากวักมือเรียก เธอกเ็ ดินเข้ามา ก. การชมภาพยนตร์ ค. พออา่ นนวนิยายจบ นำ้ ตาเธอก็ไหลริน ข. การตะโกนในห้องนำ้ ง. เมื่อเขาฟังเพลงที่เกี่ยวกับพระคุณแม่ ค. การเขียนจดหมายลาครู เขาถงึ กบั นำ้ ตาซมึ ง. การกวักมือเรียกคนข้างหลัง 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 10 หนว่ ยที่ 2 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินคา่ สารจากการฟงั และการดู ในสังคมปัจจุบันมีช่องทางการนำเสนอข้อมูลให้ฟังและดูจำนวนมาก การรู้จักเลือกที่จะฟังและดู 2.1 ลกั ษณะการสอื่ สารท่ีมีประสทิ ธภิ าพ กระบวนการของการสื่อสารท่ีมีประสิทธภิ าพนั้น ท้ังผสู้ อ่ื สารและผูร้ บั สารเป็นองค์ประกอบที่สำคัญย่ิง แผนภาพแสดงความสมั พันธ์ของความคดิ กับทักษะการส่งสารและรับสาร จากแผนภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบทุกส่วนในการสื่อสารสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 11 2.2 ความหมายของการวเิ คราะห์และการประเมินคา่ สาร พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ใหค้ วามหมายของคำว่า วิเคราะห์และสาร ดังนี้ 2.3 ประเภทของสาร สารทใี่ ช้ส่อื สารในชีวติ ประจำวนั มี ๒ ประเภท ดังนี้ ๒.๑ ข้อคิดเห็นเชิงประมาณค่า เป็นการระบุว่า ดี–ไม่ดี เป็นประโยชน์–เป็นโทษ หรือ ยังไม่ดี– ๒.๒ ข้อคิดเห็นเชิงแนะนำ คือ การบอกล่าวให้ทราบว่าสิ่งใดควรทำหรือควรปฏิบัติ มีขั้นตอนการ ๒.๓ ข้อคิดเห็นเชิงตัง้ ข้อสังเกต คือ การชี้ให้เห็นลกั ษณะบางประการที่แฝงอยู่ซึ่งอาจมองข้ามไป ๒.๔ ขอ้ คดิ เหน็ เชงิ ตดั สินใจ คอื การยอมรับหรอื ไมย่ อมรับในข้อเสนอนน้ั เมื่อผ้สู ่งสารสรุปผลการ ๒.๕ ขอ้ คดิ เหน็ เชงิ แสดงอารมณ์ คือ สารท่แี สดงภาพอารมณ์ ความรสู้ ึกทศั นคติและอัธยาศัยของ 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 12 ขอบคุณทกุ ๆ คนทเ่ี ลือกฉนั เป็น ส.ส.หญิงเขต ๘ รัฐอิลลนิ อยส์ ฉนั ไม่สามารถขอบคุณไดเ้ พยี งพอสำหรับทุกส่ิง 2.๔ การวเิ คราะห์และประเมนิ คา่ สารจากการฟงั การฟังเป็นกระบวนการรับรู้โดยผ่านสื่อคือเรียงในรูปแบบต่าง ๆ ขณะฟัง ผู้ฟังต้องให้ความสนใจ ๑. กระบวนการรับรสู้ ารด้วยการฟัง แผนภมู กิ ระบวนการรบั รสู้ ารด้วยการฟงั จากแผนภูมิข้างต้นอธิบายไดด้ งั น้ี 2. ประโยชนข์ องการฟัง ต้องฟังคำอธิบายให้รู้เรื่องและจับใจความสำคัญให้ได้จึงจะทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการฟัง ๒.๑.๒ การฟังช่วยให้ผู้ฟังพัฒนาความสามารถในการพูด พัฒนาความสามารถในการใช้ ๒.๑.๓ การฟังช่วยปูพื้นฐานความคิดที่ดีให้กับผู้ฟัง ซึ่งจะได้จากการฟังเรื่องราวทีม่ ีคณุ ค่ามี ๒.๑.๔ การฟังช่วยให้ผู้มีมารยาทในการฟัง สามารถเข้าสังคมกับผู้อื่นได้เช่น รู้จักฟังผู้อื่น 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 13 ๒.๒ ประโยชน์ทางสังคม ปราศรัย ฟงั การอภปิ ราย เปน็ ตน้ การอบรม เป็นต้น ชาญฉลาด ชีวิตประจำวันได้เปน็ อยา่ งดี ๓. ลักษณะการฟังเพอื่ วิเคราะหแ์ ละประเมินคา่ แยกแยะข้อเท็จจริงจากเนื้อหาต้องพิจารณาทั้งวัจนภาษา (Verbal communication) และอวัจนภาษา ๓.๑.๑ ท่าทางและรูปร่างหน้าตาของผู้พูด โดยไม่เกิดอคติต่อรูปร่างหน้าตาที่ไม่สวยงามของ ๓.๑.๒ เสียงหรอื อากัปกิรยิ าของผู้พดู ตอ้ งไมเ่ ปน็ สาเหตุสำคัญที่ทำใหเ้ ส่อื มศรัทธาต่อผู้พูด 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 14 ๓.๒.๒ ไมใ่ ชอ้ ารมณ์หรือความรู้สึกของผู้ฟังเป็นเกณฑ์ในการตัดสินส่ิงท่ีได้ฟงั ว่าถูกต้องหรือไม่ ๓.๒.๓ ความสำคญั ผิดทางเหตุผลและการชวนเชื่อ อาจเกิดข้ึนโดยการอา้ งเหตุผลที่ไม่สมควร 2.5 วธิ กี ารวิเคราะหแ์ ละประเมนิ คา่ จากการฟัง กอ่ นการประเมนิ คา่ สารจากการฟงั ผู้ฟงั ควรปฏบิ ัตดิ ังนี้ กิจกรรมเรยี งลำดบั กระบวนการรบั ร้สู ารด้วยการฟัง (https://h5p.org/node/453784) 2.6 การวเิ คราะห์และประเมินคา่ สารจากการดู การดูเป็นการใชส้ ายตาเพื่อให้เหน็ ประกอบกับการพจิ ารณาเพ่ือใหเ้ กดิ ความเข้าใจในการดูนัน้ การดู ๑. จุดมงุ่ หมายในการดู การละเล่น ดูกีฬา ดรู ายการต่าง ๆ ทางสอ่ื โทรทัศน์ เป็นตน้ 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 15 ๑.๒ เพื่อความรู้และความเข้าใจ เช่น รายการข่าว สารคดี หรือรายการปกิณกะอื่น ๆ เช่น ๑.๓ เพือ่ ให้เกิดความคิด นำแงค่ ดิ ที่ได้ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน เช่น รายการสแู้ ล้วรวย เร่ืองจริง ๑.๔ เพื่อความจรรโลงใจ ทำให้เกิดความรู้สึกดี เบิกบานผ่องแผ้ว ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น เช่น ๑.๕ เพื่อประเมินผลและวิจารณ์ ผู้ดูต้องพิจารณาว่าการส่งสารนั้นควรเชื่อถือได้เพียงใด เป็น ๒. ลกั ษณะของการดู ได้แก่ การดูการแสดง เช่น ลิเก ดนตรี มายากล กายกรรม ฯลฯ การดูกีฬา กรีฑา เช่น ฟุตบอล ตะกร้อ ๒.๒ การดูโดยผ่านสอื่ ไดแ้ ก่ สื่อสิง่ พิมพ์ เช่น หนงั สอื หนงั สอื พิมพ์ นิตยสาร แผ่นพบั ป้ายโฆษณา ๓. วิธวี ิเคราะหแ์ ละประเมนิ คา่ จากการดโู ดยทว่ั ไป เหตุผล สิ่งทด่ี ู ๔. การวิเคราะห์และประเมนิ ค่าสารจากการดูโทรทศั น์ ยุคปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการเข้าถึงทุกครัวเรือน ความรวดเร็วในการสื่อสารความดึงดูดใจจาก ๔.๑ ประเภทของรายการโทรทศั น์ 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 16 ๔.๑.๑ รายการแนวข่าวสารและสารคดี ได้แก่ รายการข่าวและวิเคราะห์ข่าว รายการ ๔.๑.๒ รายการแนวบันเทิงคดี ได้แก่ รายการละคร รายการตลก ภาพยนตร์ การ์ตูน เกม ๑) รายการแนวที่มีส่วนรว่ มของผ้ชู มและวิทยากรรับเชิญ ไดแ้ ก่ รายการเปิดสายจาก ๒) รายการโฆษณา ได้แก่ โฆษณาสินค้า ประกาศบริการ รายการรณรงค์เพื่อสังคม ๔.๒ การวิเคราะห์ข่าวจากการดู รายงานไปให้ผู้รับสารรับรู้ แต่ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดในด้านเนื้อที่และเวลาของสื่อ จึงทำให้ไม่สามารถรายงาน ๔.๒.๑ องคป์ ระกอบของข่าว เหตุการณท์ มี่ คี วามรวดเร็วในการนำเสนอและเป็นเหตกุ ารณ์ท่ีมคี วามทันสมยั สดใหม่ ทนั ต่อเหตกุ ารณ์ จะให้ความสนใจตอ่ ขา่ วมากยง่ิ ขน้ึ อาจเป็นเรื่องของบุคคลที่มีความเด่น ฐานะของผู้เป็นข่าว เวลาหรือสถานที่ที่เป็นข่าวจะมีความสำคัญต่อข่าว ๔) ผลกระทบ (Impact) คือ ความใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับผู้รับสารโดยตรงหรือมี ๕) ความมีเงื่อนงำ (Suspense) เงื่อนงำ คือ การค้นหาข้อเท็จจริง การมีปมในข่าว ๖) ความผิดธรรมดา (Oddity) อาจเป็นเรื่องของคนในข่าว สิ่งของหรืออื่น ๆ ท่ี ๗) ความขดั แย้ง (Conflict) อาจเป็นความขดั แย้งระหวา่ งบุคคล กลุม่ บคุ คลประเทศ ๘) องค์ประกอบของเพศ (Sex) เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง เช่น ๙) อารมณ์ (Emotion) เป็นข่าวที่สะเทือนอารมณ์ผู้รับสาร เมื่อรับรู้แล้วรู้สึก ๑๐) ความก้าวหน้า (Development) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๑๑) ความตลกขบขนั ของชวี ิต (Drama) 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 17 ๔.๒.๒ คณุ ภาพของข่าว ๔.๒.๓ ข้อสงั เกตการนำเสนอขา่ วทางโทรทัศน์ สัญญาณจากรายการปกติ ภาพการนำเสนอขา่ วทางโทรทัศน์ ของ รายการเร่อื งเล่าเช้าน้ี ๔.๒.๔ แนวคดิ สำคญั ต่อคณุ ลักษณะและคุณค่าของข่าว แล้วโดยธรรมชาติในบางเรื่องหรือบางเหตุการณ์ สื่อมวลชนนำเสนอเพื่อช่วยให้สังคมทราบความเคลื่อนไหว ๒) แนวคิดเชิงวิพากษ์ แนวคิดนี้เชื่อว่าข่าวเป็นเสมือนสินค้าที่ถกู ผลิตขึ้นมาโดยถูก 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 18 ๓) แนวคดิ ทางวฒั นธรรมศึกษา แนวคิดนี้เช่ือว่า “ขา่ ว” ไม่ใชร่ ายงานตามความเป็น ๕. การวเิ คราะห์จากการดูละครโทรทศั น์ มาผกู เป็นเรือ่ งราวแล้วนำเสนอแกผ่ ชู้ มโดยมีผู้แสดงเปน็ ผู้ส่ือความหมาย จรงิ สะทอ้ นชีวติ ในสังคมและความเปน็ อยู่ของชุมชนออกมาเปน็ เรือ่ งราว ดังคำกล่าวทีว่ า่ “ละครคอื ชีวติ ” หลุดออกไปจากชีวิตประจำวัน โดยยึดคนดูเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อให้คนดูเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน ๕.๒ องคป์ ระกอบของละคร การแสดงทีเ่ ปน็ ละครจะต้องมอี งคป์ ระกอบ ดังน้ี ความสามารถในการบรรยายบคุ ลิกลักษณะนสิ ยั ของตัวละครไดช้ ัดเจน ความรักชาติหรอื มงุ่ สอนจรยิ ธรรม เนอื้ หาสรุป ละคร เพ่อื ชว่ ยให้ผชู้ มละครมคี วามรสู้ กึ คล้อยตามไปกบั ตัวละคร ดังน้ี บางครงั้ อาจกระตนุ้ อารมณ์ใหเ้ กดิ ความรสู้ ึกตน่ื เตน้ ทำใหม้ นษุ ย์มคี วามสขุ กระตือรือรน้ ในการดำเนนิ ชวี ิต เก่ยี วกับตนเอง เก่ียวกบั สังคมสว่ นรวม ตะวนั ออกและตะวนั ตกล้วนถือกำเนดิ มาจากพิธบี วงสรวงเทพเจ้า เพ่อื ขอพรพระและให้เทพเจ้าบันดาลส่ิงที่ตน ดังนั้น ผู้ดูละครจึงควรดูอย่างวิเคราะห์ว่า ละครสามารถให้ได้ทั้งความบันเทิงกระตุ้นเร้าความคิด 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 19 แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 2 ตอนท่ี 1 จงตอบคำถามต่อไปน้ี ตอนท่ี 2 ใหน้ กั ศกึ ษาดโู ฆษณาทางสถานีโทรทัศน์มาคนละ ๑ โฆษณาแลว้ ตอบคำถามต่อไปนี้ 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 20 แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 2 คำชี้แจง ให้ทำเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ตัวเลือกทถ่ี ูกต้องทส่ี ุด 1. ข้อใดสำคัญทส่ี ดุ ในการฟงั สารแบบจรรโลงใจ 7. ขอ้ ใดเปน็ รายการท่ีมุ่งให้ผูช้ มนำแง่คิดท่ีได้ไปใช้ ก. สรา้ งความเพลดิ เพลนิ ในชวี ติ ประจำวัน ข. นำความรู้ที่ได้ไปใชป้ ระโยชน์ ก. คนค้นฅน ค. จบั ใจความสำคัญของเรอ่ื งได้ ข. คุณพระช่วย ง. ไดร้ บั แง่คิดที่สามารถนำไปปรบั ใช้ในชีวิตได้ ค. กบนอกกะลา 2. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของการฟงั ง. เรือ่ งจรงิ ผา่ นจอ ก. ทำใหผ้ ู้ฟงั มคี วามรกู้ ว้างขึน้ 8. เหตุใดจึงกล่าวว่า“ข่าว” ไม่ใช่รายงานตาม ข. สามารถเขา้ สงั คมกบั ผู้อื่นไดด้ ี ความเปน็ จรงิ ทง้ั หมดท่เี กดิ ข้ึน ค. ทำใหผ้ ฟู้ ังตัดสินใจไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ก. ประชาชนรับฟังวามจริงของข่าวเพียง ง. ไมต่ กเป็นเหย่อื ของคำโฆษณาชวนเชือ่ บางสว่ นเท่านั้น 3. ข้อใดเปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ข. ข่าวถูกกำหนดและควบคุมโดยชนช้ัน ก. วนั นอ้ี ากาศคร้มึ มากฝนคงจะตกหนัก ปกครองหรือเจ้าของทนุ ข. แมวไทยมีหนา้ ตาน่ารกั และเฉลียวฉลาด ค. สื่อมวลชนช่วยนำเสนอให้สังคมทราบความ ค. การตื่นนอนแต่เช้าตรเู่ ป็นกำไรของชีวิต เคลอ่ื นไหวของข่าว ง. พ่อขุนรามคำแหงเปน็ ผู้ประดษิ ฐอ์ กั ษรไทย ง. ผรู้ ายงานขา่ วจะเปน็ ผูส้ ร้างความหมายให้กับ 4. เมื่อราตรีพูดจบ วิทวัสก็ปรบมือให้ทันที แสดง เรือ่ งที่เกิดขน้ึ ในสงั คม ว่าวิทวัสมีกระบวนการรับรู้สารดว้ ยการฟังขั้นตอน 9. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ กู ตอ้ งเกี่ยวกับการประเมนิ คา่ สาร ใด ก. ต้องทำโดยปราศจากอคติ ก. ได้ยนิ ข. อย่าให้คนอ่นื มาครอบงำความคดิ ข. เขา้ ใจ ค. ควรใช้อารมณ์หรือความรู้สึกของตนเข้า ค. ตคี วาม ประเมิน ง. ตอบสนอง ง. ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อหาคุณค่า 5. ขั้นตอนแรกในการจบั ประเด็นสำคัญจากเร่อื งท่ี ของสาร ฟงั และดคู อื อะไร 10. ขอ้ ใดไม่ใช่สงิ่ ทีไ่ ด้จากการดูละคร ก. มีสมาธิจดจอ่ อย่กู บั การฟงั และการดู ก. ไดร้ ับความเพลดิ เพลิน ข. สรปุ ประเดน็ เป็นภาษาของตนเอง ข. เสริมสรา้ งโลกทศั นใ์ ห้กวา้ งข้นึ ค. แยกแยะข้อเทจ็ จริงข้อคดิ เห็น ค. ได้รับแงค่ ิดทส่ี ามารถนำไปปรับใชใ้ นชวี ิต ง. ทำความเข้าใจกบั จุดมุ่งหมายของการรับสาร ง. สามารถเลยี นแบบพฤติกรรมของตัวละครได้ 6. ข้อใดไม่ใช่วิธีการวิเคราะห์และประเมินค่าจาก การฟงั ก. ฟังดว้ ยความตง้ั ใจ ข. ฟงั แลว้ จบั ใจความได้ ค. ฟงั แล้ววิจารณ์เร่อื งทฟ่ี ังได้ ง. ตีความถอ้ ยคำสำนวนโวหารท่ผี ู้พดู พูดได้ 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 21 หนว่ ยที่ 3 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าสารจากการอา่ น การอ่านเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาหาความรู้และพัฒนาชีวิตซึ่งนอกจากจะท ำให้เกิด 3.1 ความหมายและความสำคญั ของการอา่ น อมรรัตน์ ชำนาญรักษา (2555, สื่อออนไลน์) ให้ความหมายไว้ว่า การอ่าน หมายถึง การแปล การอ่านมีความสำคญั ดงั นี้ 3.2 จุดมุ่งหมายของการอา่ น การอ่านจากหนังสอื และสื่อแต่ละครั้งของแตล่ ะคนจะมีจุดมุ่งหมายแตกตา่ งกันออกไป อาจจำแนกได้ 3.2.1 อ่านเพื่อหาความรู้ การอ่านเพื่อหาความรู้ ได้แก่ การอ่านหนังสือจากหนังสือประเภทตำรา 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 22 เนื้อหาวิชาที่ตนชอบเท่านั้น ควรอ่านอย่างหลากหลายเพราะความรู้ในวิชาหนึ่ง อาจนำไปช่วยเสริมในอีกวิชา 2. อ่านเพื่อความบันเทิง การอ่านเพื่อความบันเทิง ได้แก่ การอ่านจากหนังสือประเภทสารคดี 3. การอ่านเพอ่ื ทราบขา่ วสาร ความคดิ การอา่ นเพอ่ื ทราบข่าวสาร ความคิด ไดแ้ ก่ การอ่านหนังสือ 4. การอ่านเพื่อจุดประสงค์เฉพาะแต่ละครั้ง การอ่านเพ่ือจุดประสงค์เฉพาะแต่ละครั้ง ได้แก่ 3.3 ลักษณะของการอา่ น ลกั ษณะของการอา่ น แบง่ เป็น ๒ ประเภท ดงั น้ี 3.4 ขน้ั ตอนของการอ่านโดยท่วั ไป การอ่านโดยทั่วไปมีข้นั ตอนดงั นี้ ๑) อ่านผ่าน ๆ หรืออ่านคร่าว ๆ การอ่านแบบนี้ไม่ต้องอ่านรายละเอียดแต่จะอ่านเฉพาะ 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 23 2) อ่านอย่างละเอียด วิธนี ต้ี ้องอา่ นละเอียดทุกตัวอักษร ต้องให้ ความสนใจมาก อ่านอย่างมี 3) อา่ นอยา่ งวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ หมายถงึ การอ่านอย่างละเอยี ด ทุกตวั อักษร และเม่ืออ่านจบ 4) พยายามทความเข้าใจกับเร่อื งทอี่ ่าน 3.5 ประโยชนจ์ ากการอ่าน การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ต้ังแต่เกิดจนโต และจนกระทั่งถึงวัยชรา การอ่านทำให้รู้ข่าวสาร 3.5.1 ช่วยใหเ้ ปน็ คนเรียนเก่ง เพราะเมอื่ อ่านเกง่ แล้วจะเรียนวชิ าตา่ ง ๆ ไดด้ ี ๓.6 การอา่ นวิเคราะห์ การอ่านวิเคราะห์ หมายถึง การอา่ นเพ่อื แยกแยะขอ้ ความท่ีอา่ นอย่างถี่ถ้วน เพ่ือใหท้ ราบถึงโครงสร้าง 3.6.1 วธิ ีการอ่านด้วยความวิเคราะห์ สม่ำเสมอ 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 24 3) ควรอ่านบทความทมี่ กี ารวเิ คราะห์วิจารณ์ เพราะจะช่วยให้ผ้อู า่ นได้รู้ความคิดของคนอนื่ ๆ 4) ถ้าผู้อ่านมีโอกาสแสดงความคิดเห็นต่อบทวิเคราะห์วิจารณ์ของผู้เขียนคนอื่น จะทำให้ 5) ถ้าผู้อ่านมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อ่านคนอื่น จะทำให้รู้และเข้าใจความคิด 3.6.2 ข้อเสนอแนะในการอ่านด้วยความวิเคราะห์ เป็นเหตุเป็นผล นัน้ ๆ เช่น ได้รบั ความรู้ ความบันเทิง ข้อคิดเห็นที่เปน็ ประโยชน์ และเรื่องนั้นมีคุณคา่ อยา่ งไร เป็นต้น 3.6.3 ประโยชน์ของการอา่ นด้วยความวเิ คราะห์ ถามตนเองอยเู่ สมอ ๆ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน ในสังคม หรือแมแ้ ตใ่ นการศึกษาวิชาอ่นื ๆ ได้ 3.7 การอา่ นประเมนิ คา่ การอา่ นประเมินค่า เป็นการอา่ นเพ่ืออธิบายลักษณะดี ลักษณะบกพร่องของงานเขียนในแง่มุมต่าง ๆ 3.7.1 การอา่ นประเมนิ คา่ โดยทวั่ ไป 3.7.2 รูปแบบของงานเขียน 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 25 1. สารคดี เสนอความรู้ที่น่าสนใจ ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ เสนอความเห็นที่มีเหตุผล มี 2. บนั เทิงคดี ลกั ษณะสมจรงิ ๒) การเสนอเรอ่ื งชวนตดิ ตาม เร้าความสนใจของผอู้ า่ น 3.7.3 คุณสมบัติของผปู้ ระเมินคา่ 3.7.๔ หลักการอ่านประเมนิ ค่า ความคลาดเคลื่อนไปจากความหมายที่แท้จริง ความถูกต้องของภาษามีหลายลักษณะ เช่น การใช้คำผิด 2) พิจารณาความต่อเนื่องของประโยค ว่าเป็นข้อความที่ไปกันได้ ไม่ขัดแย้งกันหรือข้อความ 3) พิจารณาความต่อเนื่องของความหมาย ความหมายที่ต่อเนื่องต้องมีแกนหลักในการ 4) เมอื่ อา่ นแล้วต้องแยกข้อเทจ็ จริงออกจากความคิดเหน็ และความรู้สึกจากเร่ืองท่อี า่ น 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 26 ตวั อยา่ ง ปกครองด้วยระบบสังคมนิยม ไม่มีศาสนา ไม่มีพระมหากษัตริย์ ถ้าข้าพเจ้าต้องมีชีวิตอยู่ที่นั่นคงจะอึดอัดมิใช่ (การพูดตามนัย เนื้อหา : อรวรรณ ปิลันธนโ์ อวาท) ข้อเท็จจริง – ประเทศหนึ่ง ๆ ต่างมีระบอบการปกครองของตนเองไม่เหมือนประเทศอื่นประเทศ ความคดิ เห็น – เพราะขา้ พเจ้าถอื ว่าทงั้ สองสถาบนั น้ี คือศูนย์รวมจิตใจของทุกคน 5) พิจารณาดูความสัมพันธ์ของหลักการและตัวอย่างว่ามีความจริงอย่างไรสมเหตุผลหรือไม่ 6) ประเมินข้อเท็จจริง ความคิดเห็น และความรู้สึก วิเคราะห์ ความเป็นไปในความคิดของ ตัวอยา่ ง การประเมินค่าหนงั สือรวมเรื่องสั้น “ความน่าจะเปน็ ” ของปราบดา หย่นุ “ความน่าจะเป็น” แสดงความสามารถของผู้เขียนในการนำเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องมาเขียนให้เป็น เรื่องสั้นในรวมเรื่องสั้นชุดนี้มีลีลาและกลวิธีการเขียนเฉพาะตัว และมีความหลากหลายแปลกใหม่ใน ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น หนังสือรวมเรื่องสั้น “ความน่าจะเป็น” ของ ปราบดา หยุ่น จึงมี ทม่ี า : คำประกาศของคณะกรรมการตัดสนิ รางวลั ซีไรต์ การรู้เทา่ ทนั การส่อื สาร เป็นทักษะชีวิต เปน็ วิธีคดิ ท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อผเู้ รยี น การวเิ คราะห์และประเมิน 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวชิ าชีพ 27 การที่ผู้สื่อสารสามารถวางท่าทีต่อการสื่อสารครั้งนั้น ๆ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม มีวิธีคิดและวิธีทำ *************************** 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 28 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 3 ตอนที่ 1 จงตอบคำถามต่อไปน้ี ตอนที่ 2 ให้นักศึกษาวิเคราะห์สังเคราะห์และประเมินค่าสารจากการอ่านบทความ มา 1 บทความ จากนั้น 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 29 แบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยท่ี 3 คำชี้แจง ให้ทำเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงหน้าตัวเลอื กที่ถูกต้องท่ีสดุ 1. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะเบื้องต้นที่สำคัญของ 5. ข้อใดไมจ่ ำเป็นต้องวเิ คราะห์สาร ผ้อู ่านท่ีดี ก. ป้องเลือกซื้อครมี กนั แดด ก. ผูอ้ า่ นที่ดีตอ้ งเชือ่ ในส่ิงทอี่ ่านเปน็ สำคัญ ข. นกให้อาหารแมวอยู่ริมระเบียง ข. ผู้อ่านที่ดีต้องเข้าใจองค์ประกอบของการ ค. ครฟู งั นกั เรียนเลา่ ปัญหาในการเรยี น สือ่ สาร ง. ตกุ๊ ตาอ่านนวนิยายเรอ่ื ง “ความสขุ ของกะท”ิ ค. ผู้อ่านที่ดีต้องอ่านเฉพาะประเด็นที่ตนเอง 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ ีการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าจากการฟงั สนใจเท่าน้ัน ก. ฟังด้วยความต้งั ใจ ง. ผูอ้ ่านทีด่ ตี อ้ งสามารถถา่ ยทอดตามความรู้สึก ข. ฟงั แล้วจบั ใจความได้ นกึ คดิ ของตนเองได้ ค. ฟังแลว้ วจิ ารณเ์ รอ่ื งท่ฟี ังได้ 2. แม้วอ่านสารคดีเรื่อง ภัยธรรมชาติ โดยมุ่งที่จะ ง. ตคี วามถอ้ ยคำสำนวนโวหารทผ่ี ู้พดู พดู ได้ เข้าใจเนื้อหาสาระอย่างละเอียดและพิจารณาหา 7. ข้อใดคอื ความหมายของการวเิ คราะหส์ าร เหตุผลของ เรื่องที่อ่าน แม้วควรใช้วิธีการอ่าน ก. คุณคา่ ราคา ประโยชน์ ประเภทใด ข. คาดคะเน กะดู คาดเดา ก. อ่านเกบ็ ความรู้ ข. อ่านเอาเรื่อง ค. รับรู้ เขา้ ใจ ใครค่ รวญ ค. อ่านวเิ คราะห์ ง. อา่ นตคี วาม ง. พจิ ารณา ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง 3. ข้อใดกลา่ วถึงขน้ั ตอนการอ่านได้ถกู ต้อง อา่ นข้อความตอ่ ไปนี้แล้วตอบคำถามขอ้ 8-10 ระลึกถงึ ทบทวน มดแดงบอกให้ขอโทษ แต่ลิงน้อยไม่ยอมขอโทษ มดแดงจึง ทบทวน ระลึกถงึ 8. ขอ้ ใดเหมือนพฤติกรรมของลิงน้อย ง. สำรวจ อ่านจริงจัง ตั้งคำถามและหาคำตอบ ก. กล้า วิ่งไปชนตอไม้จนหกล้ม ทบทวน ระลกึ ถึง ข. ชยั ทำการบา้ นส่งครูทนั เวลาทุกวัน 4. ขอ้ ใดไม่ใช่ลักษณะการอ่านท่ีดี ค. วินัย วิง่ ไล่เตะฟุตบอลในสนาม ก. ปานวาดอ่านวารสารแม่และเด็กแล้วนำ ง. วนั ดี วงิ่ เล่นลิงชงิ หลัก วธิ ีการเลยี้ งเดก็ มาชว่ ยดแู ลนอ้ ง 9. คำพูดใดตรงกบั การกระทำของลิงน้อย ข. ธาดาอ่านนวนิยายเรื่องใหม่แลว้ นำมาเล่าให้ ก. ไมร่ ู้จักเข็ดหลาบ ข. ไมด่ ูตาม้าตาเรือ เพอ่ื นๆ ฟังอย่างสนกุ สนาน ค. ไม่รู้จกั เอาตวั รอด ง. ไมร่ ู้จกั ประมาณตนเอง 3. นิชาอ่านข่าวสินค้าจะขึ้นราคาจึงรีบไปซ้ือ 10. ลิงควรทำตามข้อใดเหตุการณจ์ ึงจะไมจ่ บลง สนิ ค้ามากกั ตุนไว้ที่บ้านทนั ที แบบนี้ 4. สุชาติอ่านวิธีการทำอาหารเพื่อสุขภาพ แล้ว ก. เรียกเพ่ือนมาฆ่ามดแดง ข. ขอโทษมดแดง นำมาทำให้ที่บ้านลองรบั ประทาน ค. จับมดแดงกนิ เปน็ อาหาร ง. ว่งิ ไปใหไ้ กลทสี่ ุด 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวชิ าชพี 30 หนว่ ยที่ 4 การพดู ตามมารยาททางสงั คม การพดู เปน็ ทักษะการส่งสารท่ีมนุษยเ์ ราใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีความสำคญั อย่างย่ิงในชีวิตประจำวัน 4.1 ความหมายและความสำคัญของการพูด การพดู เปน็ การสง่ สารจากผสู้ ง่ สารไปยังผู้รับสารด้วยเสยี ง ไม่วา่ จะเป็นเสียงพูดโดยตรงหรือเสียงพูดท่ี ภาพการพูดสอ่ื สารในงานอาชพี การพูดตามมารยาททางสังคมเป็นการพูดเพื่อแสดงความรู้สึกในสถานการณ์ต่าง ๆ มีความสำคัญต่อ 4.2 หลักการสำคัญของการพดู ตามมารยาททางสงั คม การพูดตามมารยาททางสงั คมหรอื การพดู ในโอกาสต่าง ๆ มหี ลกั การทค่ี วรคำนึง 4 ประการดังนี้ 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 31 4. การนำเสนอ ผู้พูดควรพูดปากเปลา่ กล่าวชือ่ บุคคล สถานท่ี ชื่องานให้ถูกต้อง ควรคำนึงถึงโอกาส 4.3 การแนะนำตนเองและผู้อน่ื การแนะนำตนเองและผู้อืน่ ในแตล่ ะคร้ังมจี ดุ มงุ่ หมายแตกต่างกัน เชน่ การแนะนำตนเองในงานสังคม 1. เร่มิ บทสนทนาส้ัน ๆ กอ่ น แลว้ จงึ กล่าวแนะนำตนเอง 1.1 ช่อื -นามสกุล 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี 32 4.4 การกล่าวทกั ทายและการโต้ตอบ การกล่าวทักทายและการโต้ตอบ เป็นการกล่าวทักทายเมื่อพบกันครั้งแรก เป้นการผูกมิตรกับผู้อื่น 1. ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส แสดงความยนิ ดีทไ่ี ด้พบกนั “สวัสดีครบั /ค่ะ” 7. หากเปน็ ผคู้ ้นุ เคย อาจกลา่ วคำที่เป็นเรื่องทว่ั ไป เช่น “สวัสดีครับคุณแกว้ ไม่ได้เจอกันนานคุณแก้ว 8. จบการทกั ทาย ควรกล่าวคำอำลา และแสดงความคาดหวังว่าจะพบกันใหม่ กรณคี ูส่ นทนาอายุน้อย 4.5 การตอบรบั และปฏเิ สธ ในการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้เรียนต้องพูดตอบรับและปฏิเสธในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นมารยา ททาง การพูดตอบรับ การพดู ปฏิเสธ 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 33 4.6 การกลา่ วแสดงความยินดี การกล่าวแสดงความยินดีเป็นการพูดเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้พูดมีความชอบใจและดีใจในสถานการณ์ 1. การกล่าวมอบของขวัญหรือรางวัล เป็นการกล่าวเพื่อแสดงความยินดีแก่ผู้รับมอบของขวัญหรือ 1.1 กล่าวถงึ ความสำคัญของโอกาส หรอื จุดมุ่งหมายของการมอบรางวัล ตัวอย่าง การกล่าวตอบรับในโอกาสท่ไี ด้รบั รางวลั ในการประกวดคัดลายมอื ร่วมการประกวด ดิฉันรู้สึกยินดีและดีใจมากที่ได้รบั รางวัลดังกล่าว การได้รับรางวัลในครั้งนี้นำมา 3. การกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส ผู้พูดพูดเพื่อแสดงความปรารถนาให้ผู้ฟังประสบสิ่งที่เป็น 3.1 ควรเรมิ่ ดว้ ยการกลา่ วแสดงความรสู้ กึ ยนิ ดี ภาพการกลา่ วอวยพรในงานมงคลสมรส 34 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชพี ตวั อยา่ ง การกลา่ วอวยพรในงานมงคลสมรส คุณธนาวิทย์ และคุณรงุ่ นภา ผใู้ ต้บังคบั บัญชาของกระผม คุณธนาวทิ ยไ์ ดร้ ่วมงานกบั ผมตลอดระยะเวลา 3 ปี ได้แสดงศักยภาพ ท้ายที่สุดนี้ กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย จงบันดาลให้คู่สมรสประสบแต่ความสุข 4. การกล่าวอวยพรวันเกิด ใช้ในโอกาสที่มีคุณวุฒิและอาวุโสกล่าวอวยพรให้กับผู้ที่อ่อนอาวุโสกว่า 4.1 กลา่ วแสดงความรสู้ กึ ยินดีทีไ่ ดร้ บั เกียรติเปน็ ผกู้ ลา่ วอวยพร ตวั อยา่ ง การกลา่ วอวยพรวันเกดิ วันเกิดเพื่อนดิฉันในวันนี้ เพื่อดิฉันคนนี้สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลแล้วค่ะ เป็นคน โอกาสนี้ ดฉิ นั ขออวยพรให้เพื่อนรักคนน้ี จงมแี ตค่ วามสุข ความเจรญิ อายุม่ันขวัญยืน อีกทั้ง 4.7 การกล่าวแสดงความเสียใจ การกล่าวแสดงความเสียใจเป็นการพูดที่ถือว่าเป็นมารยาททางสังคม เพื่อแสดงความไม่สบายใจหรือ 1. การกลา่ วอำลา กลา่ วในโอกาสย้ายจากสถานที่ทำงาน เกษียณอายรุ าชการ หรอื ออกจากงานด้วย 1.1 กลา่ วแสดงความขอบคณุ ในกรณที ม่ี กี ารจัดงานเล้ียงเพื่ออำลา 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 35 1.4 กลา่ วถงึ ความสัมพันธ์ทดี่ ีทีม่ ตี อ่ บคุ คลและหน่วยงานที่ไดร้ ับตลอดมา ซ่งึ ยงั คงมอี ยูต่ ลอดไป ภาพการกลา่ วอำลาในงานเกษยี ณอายุราชการ ตวั อย่าง การกลา่ วอำลาในโอกาสยา้ ยที่ทำงานใหม่ ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งใจต่อท่านทั้งหลายมากยิ่งกว่าการจัดงานเลี้ยงคือ การที่ดิฉันได้รับความเมตตา ในความรู้สึกส่วนลึกของดิฉัน ดิฉันไม่อยากจะจากเพื่อนรวมงานไปเลยแต่ด้วยความจำเป็น สุดท้ายนี้ หากดิฉันได้ทำสิ่งใดล่วงเกิน หรือไม่เป็นที่พอใจต่อเพื่อนร่วมงานผู้ใด ดิฉันขออภัย 2. การกล่าวไว้อาลัย เป็นการกล่าวเน่ืองในโอกาสงานศพ เพื่อแสดงความอาลัยแกผ่ ู้ตาย ซึ่งเป็นงาน 2.1 กล่าวแสดงความเสียใจแกค่ รอบครวั ผู้เสยี ชวี ิต 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 36 ภาพการกล่าวไว้อาลัย ตัวอย่าง คำกลา่ วไวอ้ าลยั การสูญเสียท่ียิง่ ใหญ่ต่อครอบครัวและพวกเราทง้ั หลายเป็นอยา่ งยิ่ง หนว่ ยงานตา่ ง ๆ นนั้ เป็นเคร่อื งยนื ยันถงึ คณุ งามความดีของทา่ นได้เปน็ อย่างดี งดงาม ตั้งมั่นอยู่ในกฎแห่งกรรม และทำบุญอยู่เสมอ ดิฉันเชื่อว่าคุณงามความดีของท่านจะไม่ ท่านได้จากไปโดยไม่มีวันกลับตามธรรมดาของสังขารของมนุษย์ แต่ชื่อเสียงและความน่ารัก โอกาสน้ี ดฉิ นั ขอเรยี นเชิญท่านทั้งหลายโปรดยนื ขึ้น เพอื่ ไวอ้ าลยั แก่ทา่ นผูน้ ี้เป็นเวลา 1 นาที การพูดคือการส่งสารให้ผู้อื่นทราบความต้องการของผู้พูดและได้รับผลสำเร็จตามท่ีผู้พูดต้องการ โดย 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วชิ าชีพ 37 แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 ตอนท่ี 1 จงตอบคำถามต่อไปน้ี ตอนที่ 2 จากสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ นักเรยี นจะพดู อยา่ งไร 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 38 แบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 4 คำชี้แจง ให้ทำเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงหน้าตวั เลือกทีถ่ ูกต้องที่สุด 1. เหตใุ ดจึงต้องวเิ คราะหผ์ ู้ฟังกอ่ นการพูดทกุ คร้งั ก. ผูฟ้ ังสำคญั ข. ต้องการรจู้ ักผฟู้ งั ค. ชว่ ยกำหนดแนวทางการพูด ง. เพราะการพูดไม่ได้เตรียมตัว 2. การวิเคราะหผ์ ู้ฟงั ในการพูด ควรวเิ คราะหส์ งิ่ ใดบา้ ง ก. เพศ การศึกษา ข. เพศ วัย อาชพี ค. หนา้ ตา พนื้ ฐานความรู้ ง. เพศ วยั อาชพี พืน้ ฐานความรู้ 3. ข้อใดถูกตอ้ ง ก. ควรใชภ้ าษาทางการทกุ คร้ังทีพ่ ูด ข. ควรจดั ลำดบั ในการพูดโดยเฉพาะเนื้อหา ค. ในการพูดแตล่ ะครง้ั ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งวิเคราะหผ์ ู้ฟงั ง. ควรใช้อวจั นภาษาใหเ้ ปน็ ธรรมชาตใิ นการพูด 4. การปฏิเสธทดี่ ีควรมีลักษณะอย่างไร ก. รกั ษานำ้ ใจเพอ่ื น ข. รกั ษานำ้ ใจผู้ชวน ค. อ้างความรสู้ ึกประกอบ ง. ปฏเิ สธอยา่ งชัดเจนท้ังทา่ ทาง นำ้ เสียง และคำพดู 5. การพูดโอกาสใดท่ีผรู้ ว่ มงานตอ้ งสงบนิง่ และสำรวมกาย วาจา ใจ ก. การกล่าวอำลา ข. การกลา่ วคำไว้อาลยั ค. การกลา่ วมอบของขวญั ง. การกลา่ วอวยพรวนั เกิด 6. สง่ิ ใดเปน็ ส่งิ ทค่ี วรคำนงึ ในการพูดตอบรับ ก. ถ่อมตนอย่าโอ้อวด ข. ไมค่ วรถ่อมตนจนไร้ความหมาย ค. ควรยกย่องสรรเสริญชมเชยเพอ่ื นรว่ มงาน ง. แสดงความขอบคณุ ถา้ ไม่พอใจกบ็ อกวา่ ไม่พอใจ 7. ข้อใดไม่ใช่ประโยคปฏเิ สธทด่ี ี ก. การถามความคดิ เห็นเป็นการรกั ษาน้ำใจผู้ชวน ข. การอา้ งความรสู้ กึ ท่ีดีประกอบแทนการใช้เหตผุ ล ค. ปฏิเสธอยา่ งชัดเจนทง้ั ทา่ ทาง นำ้ เสียง และคำพดู ง. อยากปฏเิ สธอะไรก็พูดออกไปเลยไมต่ ้องออ้ มค้อม 8. ข้อใดเป็นการพูดแสดงความยนิ ดี ก. งานศพ ข. งานเกษยี ณ ค. งานมงคลสมรส ง. งานประชุมทางวชิ าการ 9. สำนวนในข้อใดแสดงให้เห็นถงึ ความสำคัญของการพดู ก. ปากหวานก้นเปรยี้ ว ข. ปากปราศรัย ใจเชือดคอ ค. พดู ดีเป็นศรีแกต่ วั พูดชวั่ อัปราชยั ง. พดู ไปสองไพเบีย้ น่งิ เสยี ตำลงึ ทอง 10. ข้อใดเปน็ เหตผุ ลสำคัญท่ีทำใหเ้ กดิ การพูดการตามมารยาททางสงั คม ก. มนุษยจ์ ำเปน็ ต้องสร้างปฏิสัมพนั ธ์กบั คนในสงั คม ข. เพราะทุกคนเกดิ มาตอ้ งมเี พอื่ นและจำเป็นต้องเข้าสงั คม ค. เพราะเปน็ มารยาทท่ีดแี ละปฏิบตั ติ ามประเพณีของสังคม ง. เพราะมนุษย์อยู่รวมกนั เปน็ หมู่ เปน็ กลมุ่ กจิ กรรมทยี่ ่อมเกิดข้นึ 30000-1101 ทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ 39 หน่วยท่ี 5 การเขียนในงานอาชีพ สังคมปัจจุบันการตดิ ตอ่ ในแตช่ ่องทางเปน็ สิง่ สำคญั และเป็นสว่ นหน่ึงที่ทำใหก้ ารดำเนินงานเป็นไปด้วย 5.1 การเขยี นรายงานการประชมุ 1. ความหมายของรายงานการประชุม รายละเอียดหรือสาระของการประชุมทจี่ ดไว้อยา่ งเป็นทางการ แจง้ ให้ผเู้ ก่ยี วข้องทราบ ใชเ้ ปน็ แนวทางการปฏบิ ตั ิงานและเป็นหลกั ฐานอา้ งอิง 2. ความสำคัญของรายการงานประชุม มีการประชุมเพื่อรายงานผลการดำเนินงานให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบความก้าวหน้า หรือปัญหาในการ 2.3 เปน็ เครือ่ งมอื ในการตดิ ตามงาน 3. คุณสมบัตขิ องผบู้ ันทึกรายงานการประชุม 4. คำศพั ท์ที่ใชใ้ นการประชมุ รองประธาน (ถ้าม)ี กรรมการหรือสมาชิก เลขานกุ าร กรรมการเกินคร่ึงหน่ึงของคณะกรรมการหรือสมาชิกท้ังหมด ถา้ มานอ้ ยถือว่าไมค่ รบ องคป์ ระชมุ ตามที่กำหนด 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชิงวิชาชพี 40 4.3 ญัตติ หมายถึง ข้อเสนอที่สมาชิกเสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาลงมติ การเสนอโดยปกติจะ 4.4 การแปรญัตติ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงญัตติด้วยการเพิ่ม ตัดออก หรือเสนอซ้อน ทั้งด้าน 4.5 มติ คอื ข้อตกลงของท่ีประชุม การออกเสียงลงมติน้ีถือเสียงขา้ งมาก ซงึ่ ทกุ คนต้องยอมรับแม้ 4.6 ท่ีประชมุ หมายถงึ บรรดาผ้เู ข้าประชุมทง้ั หมด (ไม่รวมผ้จู ัดการประชุม) 1) การประชมุ สมยั สามญั หมายถึง การประชุมตามทไี่ ด้มกี ารกำหนดเวลาไวอ้ ย่างแนน่ อน 5. หลักในการเขยี นรายงานการประชมุ บันทึกเสียงในขณะประชมุ ซึง่ การจดบันทกึ การประชมุ อาจทำได้ ๓ วิธี คือ นำไปสมู่ ติของท่ปี ระชุม พรอ้ มด้วยมติ นั้นเองเป็นผกู้ ำหนด หรือใหป้ ระธานและเลขานกุ ารของที่ประชมุ ปรึกษาหารอื กนั และกำหนด คณะกรรมการ............” 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชพี 41 ๒.1 ลงครั้งที่ท่ีประชุมเป็นรายปี โดยเริ่มครั้งแรกจากเลข ๑ เรียงเป็นลำดับไปจนสิ้นปีปฏิทิน ๒.๒ ลงจำนวนครั้งที่ประชุมทั้งหมดของคณะทีป่ ระชมุ หรือการประชุมนัน้ ประกอบกับครั้งที่ท่ี ๓. เมื่อให้ลงวัน เดือน ปี ที่ประชุมโดยลงวันที่ พร้อมตัวเลขของวันที่ ชื่อเต็มของเดือนและตัวเลข ๔. ณ ใหล้ งชื่อสถานท่ี ท่ีใช้เป็นทีป่ ระชมุ วาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานแจ้งใหท้ ่ีประชุมทราบ ผจู้ ดรายงานการประชุม ให้เลขานุการหรือผซู้ ึง่ ได้รบั มอบหมายใหจ้ ดรายงานการประชุม ลงลายมือช่ือ การบันทกึ มติท่ีประชุม 30000-1101 ทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ 42 ตัวอยา่ ง รูปแบบรายงานการประชุม รายงานการประชุม…………………………………………. ผมู้ าประชุม 1.................................................................................................. 2.................................................................................................. ผไู้ มม่ าประชมุ 1.................................................................................................. 2.................................................................................................. ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ (ถา้ ม)ี 1.................................................................................................. |