เฉลยใบงาน เรื่อง Wild animals ป. 4

1

แผนการจดั การเรียนรู้

Unit 4 Wild animals

รหัสวิชา/ช่อื รายวชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 13 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 2

ผ้สู อน นางสาวนูรอีราวานี กูโน โรงเรียน บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ช้ีวดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอื่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี

เหตุผล

ตวั ชี้วัด ต.1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคำ สะกดคำ อา่ นกลมุ่ คำ ประโยค ข้อความงา่ ยๆ และบท

พูดเข้าจังหวะถกู ต้องตามหลกั การอา่ น

ตวั ชี้วัด ต.1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ าพ หรอื สัญลกั ษณ์ หรอื เครอื่ งหมาย ตรงตามความหมายของ

ประโยคและข้อความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน

ตัวชว้ี ัด ต.1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านง่ายๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและความ

คิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชว้ี ัด ต.1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับตนเอง เพือ่ น และครอบครวั

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูดและการ

เขียน

ตัวชว้ี ดั ต.1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง และเรอ่ื งใกล้ตวั

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้อยา่ ง

เหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชี้วัด ต.2.1 ป.4/3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกบั วยั

สาระท่ี 3 ภาษากับความสมั พนั ธก์ ับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อื่น

มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พน้ื ฐานใน

การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชว้ี ดั ต.3.1 ป.4/1 ค้นควา้ รวบรวมคำศพั ท์ท่ีเกยี่ วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่ และนำเสนอ

ดว้ ยการพดู /การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม

2

ตวั ชว้ี ดั ต.4.1 ป.4/1 ฟงั และพดู /อา่ น ในสถานการณ์ท่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครอ่ื งมือพนื้ ฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และการ

แลกเปล่ยี นเรียนร้กู ับสงั คมโลก
ตัวช้ีวัด ต.4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ

2. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัย โครงสร้างประโยค Present Simple Tense

คำถามแบบ Wh-questions ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดขอและให้ข้อมูล เขียน e-mail
และเขียนบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน และยังนำไป
บรู ณาการร่วมกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ น่ื

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

- Pronunciation: long vowel /ea/

- กลุ่มคำ ประโยคเดยี่ ว และความหมาย เกยี่ วกับสตั ว์ปา่

- ประโยค บทสนทนา เนื้อเรอ่ื งสัน้ ๆ ทีม่ ภี าพประกอบ

- คำศัพท์ สำนวน และประโยคท่ีใชข้ อและใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั สง่ิ ใกลต้ ัว

เชน่ What does it eat? It eats meat.

Where do they live? They live in the mountains.

When do they sleep? They sleep during the day.

- ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการพดู ให้ข้อมูลเก่ยี วกบั สัตว์

- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม การร้องเพลง

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพท์ที่เกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน

(วิทยาศาสตร์)

- การใช้ภาษาในการฟังและพูด/อ่านสถานการณ์ท่ีเกิดขนึ้ ในหอ้ งเรียน

- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ท่ีเกีย่ วข้องใกลต้ วั จากส่ือและ

แหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ

- การเปรยี บเทียบขัน้ กว่า

- Present Simple Tense

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่

-

3

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
4.2 ความสามารถในการสอื่ สาร

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
- ซ่อื สตั ย์สุจรติ

6. ชิน้ งาน/ ภาระงาน
- การทำรูปสตั วจ์ ากกระดาษและพูดนำเสนอ
- การอา่ นเน้อื เรอื่ งและตอบคำถาม
- งานเขยี น e-mail ถงึ เพอ่ื นและพดู นำเสนอ
- งานเขยี นเก่ียวกบั สถานทท่ี ชี่ อบ
- การทำแผน่ พับเกี่ยวกบั สถานทท่ี ชี่ อบ
- การรวบรวมคำศัพทใ์ น My word book

7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทำแบบฝกึ หดั
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นชว่ งการทำกจิ กรรม
7.3 การประเมนิ หลังการเรียน
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
7.4 การประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การทำรปู สตั วจ์ ากกระดาษและพดู นำเสนอ
- ประเมนิ การอ่านเนื้อเร่อื งและตอบคำถาม
- ประเมินงานเขียน e-mail ถงึ เพอื่ นและพูดนำเสนอ
- ประเมนิ งานเขียนเก่ยี วกับสถานท่ที ่ชี อบ
- ประเมนิ การทำแผน่ พบั เก่ียวกับสถานทท่ี ี่ชอบ

4

- ประเมินการรวบรวมคำศัพท์ใน My word book

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
- กจิ กรรมนำสูก่ ารเรียน
- กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้ดังแนบมาพรอ้ มนี้
- กิจกรรมรวบยอด

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บัตรภาพ บตั รคำ

5

แผนการจดั การเรยี นรู้ 1

Unit 4 Wild animals

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี 2

ผูส้ อน นางสาวนรู อรี าวานี กโู น โรงเรยี น บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคัญ

การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่า โครงสร้างประโยค Present Simple Tense คำถามแบบ

Wh-questions ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดขอและให้ข้อมูล เขียนบรรยายส้ันๆ และ

เปรียบเทียบเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจำวัน และยังนำไปบูรณาการ

รว่ มกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น

2. ตัวช้วี ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายคำศพั ทเ์ กยี่ วกับสัตว์ป่าได้
- ออกเสยี งคำศพั ท์ทมี่ เี สยี ง /ea/ ได้
- ฟงั และอ่านจบั ใจความได้
- พดู และเขียนเปรยี บเทยี บข้ันกว่าได้
- เขียนบรรยายง่ายๆ เกีย่ วกบั สัตวป์ ่าได้
- พูดขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับสัตวป์ ่าได้
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ ูกตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- Pronunciation: long vowel /ea/
- กลุ่มคำ ประโยคเดี่ยว และความหมาย เกย่ี วกบั สตั วป์ ่า
- ประโยค บทสนทนา เน้ือเร่ืองส้ันๆ ท่มี ีภาพประกอบ
- คำศัพท์ สำนวน และประโยคทใี่ ชข้ อและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิง่ ใกล้ตัว
เช่น What does it eat?
It eats meat.
- ประโยคและขอ้ ความท่ีใชใ้ นการพูดให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สตั ว์
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม
- การรวบรวมและการนำเสนอคำศพั ท์ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื

6

(วทิ ยาศาสตร์)
- การใช้ภาษาในการฟังและพดู /อ่านสถานการณท์ ่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เกย่ี วข้องใกลต้ ัว จากส่อื และแหลง่ การ

เรียนรู้ต่างๆ
- การเปรยี บเทยี บข้ันกวา่
- Present Simple Tense
3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่
-

4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- การคิดอย่างสรา้ งสรรค์

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
- ซ่อื สตั ยส์ ุจริต

6. ชิน้ งาน/ภาระงาน
- การทำรูปสตั ว์จากกระดาษและพูดนำเสนอ
- การอ่านเน้ือเรือ่ งและตอบคำถาม

7. การวดั และการประเมินผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝึกหัด
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นชว่ งการทำกิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลังการเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
7.4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

7

- ประเมนิ การทำรปู สตั วจ์ ากกระดาษและพูดนำเสนอ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
กจิ กรรมนำสกู่ ารเรยี น

1. ครูถามนักเรียนเป็นภาษาไทยว่านักเรียนรู้จัก “สัตว์ป่า” หรือไม่ จากน้ันครูอธิบายคำว่า “สัตว์ป่า”
กบั “สัตว์เลยี้ ง” ให้นักเรยี นฟัง

2. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันบอกชอ่ื สตั ว์ปา่ ทีน่ ักเรียนรจู้ ักเปน็ ภาษาอังกฤษ ดังนี้
Teacher: Can you tell me the names of wild animals?
Student: Tiger, snake, giraffe, elephant, lion, zebra…

3. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 46 ข้อ 1 What can you see? ครูชูบัตรภาพรูปสัตว์ป่าแต่ละชนิด
แลว้ ให้นกั เรยี นชภี้ าพในหนังสือเรียนท่ีตรงกบั บัตรภาพน้นั ๆ แลว้ ครถู ามนกั เรียนว่า
Teacher: What’s this? (ชูบัตรภาพ)
Students: (ชภ้ี าพในหนังสือเรียน) It’s a/an ________.

4. ครูนำบัตรภาพติดไว้บนกระดาน และวางบัตรคำไว้ตามมุมต่างๆ ของห้อง จากนั้นให้นักเรียนเล่นเกม
จับค่บู ัตรภาพและบัตรคำ โดยแบ่งนักเรยี นในห้องเปน็ 2 ทีม แล้วส่งตัวแทนมาทมี ละ 1 คน ชว่ ยกนั หา
บัตรคำที่ตรงกับบัตรภาพท่ีครูติดไว้บนกระดานให้ถูกต้อง ตัวแทนทีมใดที่หาเจอแล้ว ให้รีบว่ิงออกมา
หน้าหอ้ ง พรอ้ มกบั แสดงบัตรคำใหค้ รูดู และตอบคำถาม ดังนี้
Teacher: What’s this?
Students: It’s a/an _______.
Teacher: Can you spell that, please?
Students: (ใหน้ กั เรยี นสะกดตวั อกั ษร)
ครตู ดิ บตั รภาพสตั วช์ นิดอืน่ อีก 4-5 ชนดิ และให้แตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนคนใหม่ออกมาทำกิจกรรม

5. นักเรียนอ่านคำศัพท์ 5 คำที่กำหนดให้ในหนังสือเรียน หนา้ 46 ข้อ 2 Read, look and find. พรอ้ มๆ
กัน แล้วช่วยกันหาภาพของคำศัพท์เหล่าน้ีในภาพ ข้อ 1 จากนั้นครสู ุ่มเรียกนักเรียน 5 คน ให้ลุกขึ้นที
ละคน แล้วช้ีภาพให้เพอื่ นๆ คนอื่นดู

6. นักเรียนดูภาพสัตว์ต่างๆ ในแบบฝึกหัด หน้า 34 ข้อ 1 Look and label. แล้วอ่านออกเสียงคำศัพท์
ในกรอบตามครู จากนัน้ ครูใหเ้ วลานักเรยี น 2 นาที ในการนำคำศัพท์เหล่าน้ี เติมลงในรปู ภาพท่ีสมั พันธ์
กัน จากนนั้ ครูเฉลยคำตอบ โดยชไ้ี ปที่สัตว์แตล่ ะตวั ในรปู ภาพและถามคำถามนักเรียน ดงั น้ี
Teacher: What is this?
Students: It’s a/an (ช่ือสัตว์).
Teacher: Student A, how do you spell it?
Student A: (สะกดคำศัพท)์

8

1. bat 5. snake
2. rhino 6. crocodile
3. dolphin 7. tiger
4. bear 8. elephant

7. ครูเปิด CD/track 50 ให้นักเรียนฟังคำถาม 2 ครั้ง จากน้ันให้นักเรียนวงกลมเลือกคำตอบท่ีถูกต้องใน
แบบฝึกหัด หน้า 34 ข้อ 2 Look at the picture. Listen and circle the answers. เม่ือนักเรียน
ทำเสรจ็ แล้ว ครูเปิด CD โดยหยดุ CD เมื่อจบคำถามแตล่ ะข้อ แลว้ ถามนักเรียนในห้องวา่ ใครตอบขอ้ a
และใครตอบข้อ b บ้าง (ให้ยกมือข้ึน) จากนั้นครูจึงเฉลยคำตอบ ครูทำกิจกรรมเช่นนี้กับคำถามข้อท่ี
เหลือ

1. Is there a dog? 1. b No, there isn’t.
2. Is there a tiger? 2. a Yes, there is.
3. Is there an elephant? 3. a Yes, there is.
4. Is there a ladybird? 4. b No, there isn’t.
5. Is there a monkey? 5. a No, there isn’t.
6. Is there a dolphin? 6. a Yes, there is.

เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครูทบทวนเก่ียวกับการใช้ there is/there are และยกตัวอย่างประโยคให้
นกั เรยี นเขา้ ใจชัดเจนย่ิงข้ึน
8. ครูบอกนักเรียนว่าใน Unit 4 นี้ นักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเร่ืองสัตว์ป่า (Wild animals) คำนาม
พหพู จน์ (plural), article (a, an), การใช้ประโยคเปรยี บเทยี บขนั้ กวา่ (Comparative degree)

กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้
1. นักเรียนดูภาพและคำศัพท์ใน Word box ในหนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 1 Listen, point and
repeat. แล้วอ่านออกเสียงคำศัพท์ทีละคำตามครู ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์เหล่าน้ีใน
ภาษาไทย จากน้ันครูเปิด CD/track 48 ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง ครั้งแรกให้นักเรียนฟังและชี้น้ิวท่ีภาพ
ตามไปดว้ ย ครงั้ ท่ี 2 ให้นกั เรยี นฟงั และอา่ นออกเสียงคำศัพท์ตาม CD

9

eagle, bear, bat, crocodile, snake, tiger, zebra, rhino, elephant,
ants, dolphin, leaves

2. นกั เรียนดูภาพ A-H ในหนงั สอื เรียน หน้า 47 ขอ้ 2 Listen and number. แลว้ ครูถามวา่ เป็นสัตว์ชนดิ ใด

Teacher: What animals do you see in picture A?

Students: Bats. etc.

จากน้นั ครูให้นักเรยี นเขียนตัวอักษร A-H ลงในสมุด ครอู ธบิ ายว่า นักเรยี นจะได้ฟังประโยค 8 ประโยค

ซง่ึ บรรยายสัตว์แต่ละตวั ในภาพ A-H รอบแรกให้นักเรยี นฟังจับใจความเพียงอย่างเดียว รอบท่ีสอง ให้

นักเรียนเรยี งลำดับรูปภาพ A-H ตามที่ไดย้ ินจาก CD โดยให้เขียนหมายเลขหลังตัวอักษร A-H ในสมุด

เม่อื นักเรยี นเขา้ ใจวิธกี ารแลว้ ครเู ปดิ CD/track 49 ให้นกั เรยี นฟัง

1. An elephant is very big.
2. An eagle can fly.
3. A snake hasn’t got any legs.
4. Tigers eat other animals.
5. Dolphins can swim.
6. Bats eat insects.
7. Zebras eat grass.
8. Crocodiles have got a big mouth.

A. 6 B. 8 C. 2 D. 1
E. 5 F. 7 G. 3 H. 4

3. ครูอธิบายการใช้ Articles (a, an) ว่า ‘a’ และ ‘an’ มีความหมายว่า “หน่ึง” ใช้นำหน้าคำนาม

เอกพจน์ ซ่ึง a (อา่ นว่า อะ) จะใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์ท่ีข้นึ ต้นดว้ ยพยญั ชนะ เช่น

A boy A cat

A tree A van etc.

สว่ น an (อา่ นว่า แอ็น) จะใชน้ ำหนา้ คำนามเอกพจนท์ ี่ขน้ึ ต้นด้วยสระ (a, e, i, o, u) เชน่

An elephant An ant

An orange An umbrella etc.

10

เมื่ออธิบายหลักการใช้ a/an แล้ว ครูเลือกคำนามจากในหนังสือเรียน หน้า 47 ประมาณ 8 คำ

แล้วเขียนลงบนกระดาน และให้นักเรียนช่วยกันบอกว่า คำนามดังกล่าวใช้ a หรือ an นำหน้า เม่ือ

เฉลยเสร็จแล้วให้นกั เรยี นจดวิธกี ารใช้ a และ an สัน้ ๆ พรอ้ มคำศัพทบ์ นกระดานลงสมุดของตนเอง

(an) eagle (an) elephant

(a) bat (a) crocodile

(an) ant (a) dolphin

(a) snake (a) zebra

ครูอาจส่มุ เรียกนักเรยี นในห้องลกุ ขน้ึ ยืนทีละคน และบอกคำนามท่ใี ช้ a และ an นำหน้าอย่างละ หนึ่ง

คำ เพอื่ ตรวจสอบวา่ นกั เรียนเข้าใจวิธกี ารใช้ a และ an

4. ครเู ขยี นประโยคเปรียบเทยี บข้นั กว่าใหน้ ักเรียนดบู นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั สรปุ กฎเกณฑ์

โครงสรา้ ง คำนาม 1 + v. to be + adj. เตมิ er + than + คำนาม 2

เช่น A bear is bigger than a monkey.

My sister is shorter than me.

Those girls are older than these girl.

จากน้ันครใู ห้นกั เรียนลองฝึกแต่งประโยคเปรยี บเทยี บมาคนละ 2 ประโยค โดยให้นักเรยี นเปรียบเทียบ

เก่ียวกับเพื่อนๆ ของนักเรียน หรือส่ิงของต่างๆ ที่อยู่ในห้องเรียน โดยครูกำหนด adjectives ให้บน

กระด าน ดั งนี้ tall, short, slow, fast, fat, thin, old, young, big, small, long ค รูอ ธิบ าย

ความหมายของคำศัพท์ที่นักเรียนไม่เข้าใจ แล้วให้นักเรียนแต่งประโยคลงในสมุด เม่ือนักเรียนทำงาน

เสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4-5 คน ให้อ่านประโยคของตนเองให้เพื่อนๆ ฟัง จากนั้นให้รวบรวม

สมดุ มาส่งครู เพอ่ื ให้ครูนำไปตรวจในเวลาวา่ ง

เชน่ Noi is older than Din. Kim is taller than Pang.

Jan is fatter than Nid. A ruler is longer than a pencil.

A book is bigger than an eraser.

11

Background Information
กฎการเตมิ er หลัง adjectives ในการเปรียบเทียบขน้ั กวา่ (ในบทเรียนนี)้
• คำคณุ ศัพท์ (adjectives) โดยท่ัวไป เตมิ er ทา้ ยคำได้เลย

เชน่ short  shorter
cheap  cheaper

A blue shirt is cheaper than a red shirt.
เสือ้ เชติ้ สีฟา้ ถูกกวา่ เส้ือเชต้ิ สแี ดง
• คำคณุ ศพั ทท์ ล่ี งทา้ ยด้วย e ให้เติม r ทา้ ย e ได้เลย
เช่น wide  wider
• คำคุณศัพท์ท่ีลงท้ายด้วย y และ y อยู่หลังพยัญชนะ ให้เปล่ียน y เป็น i แล้ว
เติม er
เชน่ busy  busier

easy  easier
• คำคุณศัพท์ท่ีออกเสียงสั้น พยางค์เดียว มีสระและตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่ม

พยัญชนะตัวสดุ ท้าย 1 ตวั แล้วจึงเติม er
เชน่ hot  hotter (สระ 1 ตวั คือ o และตัวสะกด
1 ตวั คอื t)
big  bigger (สระ 1 ตวั คอื i และตวั สะกด
1 ตวั คือ g)

5. นักเรียนอ่านประโยค 1-5 ในหนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 3 Listen and write. แล้วครูเปิด CD/track
51 ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง เพ่ือให้นักเรียนเติมคำศัพท์ในช่องว่างให้ถูกต้อง โดยทำลงในสมุด เสร็จแล้ว
ครเู ปดิ CD อกี ครั้ง โดยหยุด CD เม่ือจบแตล่ ะประโยค เพือ่ เฉลยคำตอบ

1. An eagle is bigger than a bat.
2. A snake is smaller than a crocodile.
3. A bear is bigger than a monkey.
4. A zebra is shorter than a giraffe.
5. An elephant is slower than a zebra.

12

กจิ กรรมรวบยอด
1. นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 5 คน ชว่ ยกนั คิดช่อื สตั ว์ชนิดตา่ งๆ ตามลำดับตัวอกั ษร A-Z โดยครอู นุญาต
ให้นักเรียนใช้พจนานุกรมได้ ครูเขียนเฉพาะอักษรนำ A-Z บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอก
คำศัพท์ ครูเขียนคำศัพท์ท่ีนักเรียนบอกบนกระดาน ถ้าเป็นคำศัพท์ท่ีเรียนมาแล้วให้นักเรียนสะกด
คำศพั ทด์ ว้ ย

A - ant, ass (ลา) N - nightingale (นกไนติงเกล)

B - bird, bear, bat, bee, butterfly O - owl, ox (ววั ตัวผู้), oyster (หอย)

buffalo ostrich (นกกระจอกเทศ)

C - cat, crab, crocodile, chicken P - pig, panda, parrot

D - duck, dog, donkey, dolphin, Q - quail (นกกระทา)

deer R - rat, rabbit, rhino (แรด)

E - elephant, eagle S - sheep, snake, spider, shark,

F - fish, frog, fox (หมาป่า) skunk, seal (แมวนำ้ ), seahorse

G - giraffe, goat, gorilla, goose T - toad, tortoise (เต่า), tiger, turkey

H - hippopotamus, hen, hamster, horse U - unicorn (มา้ มีเขาในเทพนยิ าย)

I - insect, iguana (อิกวั น่า) V - viper (งูพษิ ), vulture (แรง้ )

J - jaguar (เสือจากัวร์), W - whale (ปลาวาฬ), wolf (หมาปา่ ),

jellyfish (แมงกะพรุน) worm (หนอน)

K - koala, kangaroo (จิงโจ)้ X-

L - lion, lamb (แกะ), lobster (กงุ้ มังกร) Y - yak (ตัวจามรี)

M - mouse, monkey, mosquito (ยุง) Z - zebra (มา้ ลาย)

นกั เรียนบันทึกคำศัพท์เหล่าน้ีลงในสมุดของตนเอง จากนนั้ ครใู ห้นักเรียนช่วยกนั คิดว่าคำศัพท์เกยี่ วกับ
สัตว์เหล่านี้ คำศัพท์ในหมวดตัวอักษรใดบ้างท่ีเม่ือเป็นคำนามเอกพจน์ แล้วต้องใช้ an นำหน้า เม่ือ
นักเรียนตอบว่า หมวด a, e, i, o, u ครูอ่านออกเสียงคำศัพท์ให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนอ่านตาม
โดยมี an นำหนา้ เชน่

Teacher: ant
Students: an ant
Teacher: ass
Students: an ass
Teacher: elephant

13

Students: an elephant
เม่ือถึงตัวอักษร U ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า Unicorn อ่านออกเสียงว่า ยู-นิ-คอน ตัว U ออกเสียงเหมือน
เสียงพยัญชนะ จึงใช้ a นำหน้า เช่น a unicorn แต่คำว่า Umbrella ตัวอักษร U ออกเสียงเป็นสระ
จะใช้ an นำหน้าตามปกติ เชน่ an umbrella
2. นักเรยี นเล่นเกม Who am I? โดยฟังคำใบ้ ซง่ึ บอกลักษณะของสัตวแ์ ตล่ ะชนดิ แล้วช่วยกันทายว่าเป็น
สตั วช์ นดิ ใด

1. I have a long body. I haven’t gowt any legs. I haven’t got any hands.
But I can move very fast. Who am I? (Snake)

2. I live in the caves/mountains. I sleep during the day. I look like a
rat but I have 2 wings. I can fly. I eat fruits. Who am I? (Bat)

3. I have 4 legs. I have 2 big ears. I have small eyes. I have a long tail.
I have a long nose. I am big. Who am I? (Elephant)

4. I have 4 legs. I have small ears and eyes. I live in the mountains.
I eat honey but sometimes I eat fish. Who am I? (Bear)

3. นักเรียนเล่นเกม Body language (ใบ้คำจากภาษากาย) โดยครูนำบัตรคำหรือบัตรภาพมา 7-8 ใบ

ให้ตัวแทนนักเรียนมาเลือกบัตรคำหรือบัตรภาพคนละ 1 ใบ ตัวแทนคนไหนได้คำหรือภาพอะไร ให้

พยายามใบ้คำศัพท์ด้วยมือหรือร่างกาย ห้ามใชค้ ำพูดเด็ดขาด เม่ือแต่ละคนใบค้ ำเสร็จ ครูถามนักเรียน

ทุกคนวา่

Teacher: What’s this? (ตัวแทนนักเรียนทำทา่ ทางของหมี)

Students: It’s a monkey.

Teacher: Yes or no?

ตัวแทนนกั เรยี น: No.

ถ้าเพ่ือนๆ ยังทายไม่ถูก ให้ตัวแทนนักเรียนทำท่าของลักษณะสัตว์ตัวน้ันข้ันต่อไปหรือจะหาท่าทาง

ภาษามือใหมๆ่ กไ็ ด้

4. ครูช้ีท่ีภาพสัตว์ในแบบฝึกหัด หน้า 35 ข้อ 1 Look and unscramble the words. แล้วให้นักเรียน

ตอบเป็นภาษาไทยว่าภาพแต่ละภาพคือสัตว์ชนิดใด จากนั้นครูให้นักเรียนเรียงตัวอักษรใต้ภาพให้เป็น

คำศพั ทท์ ถ่ี ูกต้อง

1. snake 2. mwonkey 3. eagle

4. elephant 5. dolphin 6. zebra

14

5. นักเรียนจับคู่ อ่านคำบรรยายลักษณะของสัตว์ในแบบฝึกหัด หน้า 35 ข้อ 2 What animal is it?
Read and guess. แล้วให้นักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันเดาว่าคือสัตว์ชนิดใด นักเรียนคู่ใดทำเสร็จก่อน ให้
ยกมือขึน้ เพือ่ ให้ครเู ดินไปตรวจ ถา้ ถกู ต้องทกุ ขอ้ ครูมีรางวลั เล็กๆ นอ้ ยๆให้
w
1. mokey 2. snake 3. zebra 4. tiger 5. giraffe

6. นักเรียนอ่านประโยคท่ีกำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 35 ข้อ 3 Read and complete. แล้วให้
นักเรยี นนำคำศัพทใ์ นกรอบที่อยทู่ างด้านขวามือมาเติมลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง
1. bigger 2. smaller 3w. taller 4. slower 5. shorter

7. นักเรียนเล่นเกม My favourite animal โดยครูเขียนชื่อสัตว์ต่างๆ ใส่กระดาษแข็งจำนวน 8 แผ่น
แผน่ ละ 1 ช่ือ แลว้ แจกนักเรยี น 8 คน โดยไม่ให้นกั เรียนคนอื่นๆ ทราบ บัตรคำศัพทเ์ หลา่ น้ี ไดแ้ ก่

butterfly elephant giraffe koala panda

rabbit dolphin zebra

เม่ือครูให้สัญญาณ (เป่านกหวีด) นักเรียนท้ัง 8 คน ชูบัตรคำข้ึน นักเรียนในห้องคนอ่ืนๆ เลือกสัตว์ท่ี
ตนชอบ 1 ชนิด แล้ววิ่งไปเข้ากลุ่มตามบัตรคำนั้น แล้วน่ังลงเพ่ือแสดงว่าได้กลุ่มแล้ว นักเรียน
แต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั แตง่ ประโยคอย่างน้อย 4 ประโยค จากน้ันตัวแทนของกลุ่มลกุ ขนึ้ ยืนเพ่อื นำเสนอ

e.g. A dolphin is in the water. It is not a fish.
It is grey. It is smart.
It is smaller than a whale.

หรือ An elephant is a big animal.
It is grey. It has got 4 legs.
It has got a long nose.
It has got big ears. It is very strong.

9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Smile ป. 4
2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บัตรคำ

15

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปัญหาอุปสรรคในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ขการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.............................................ผู้สอน
(นางสาวนรู อรี าวานี กูโน)

16

แผนการจัดการเรียนรู้ 2

Unit 4 Wild animals

รายวิชา ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง ภาคเรียนที่ 2

ผูส้ อน นางสาวนรู อีราวานี กโู น โรงเรียน บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคัญ

การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่า โครงสร้างประโยค Present Simple Tense คำถามแบบ

Wh-questions ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดขอและให้ข้อมูล เขียนบรรยายส้ันๆ และ

เปรียบเทียบเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน และยังนำไปบูรณาการ

ร่วมกบั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่ืน

2. ตัวช้วี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพท์เก่ียวกับสตั ว์ปา่ ได้
- ออกเสยี งคำศัพทท์ มี่ ีเสยี ง /ea/ ได้
- ฟงั และอา่ นจับใจความได้
- พดู และเขียนเปรยี บเทยี บข้ันกวา่ ได้
- เขียนบรรยายง่ายๆ เกย่ี วกับสตั ว์ป่าได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับสตั ว์ป่าได้
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ กู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- Pronunciation: long vowel /ea/
- กลุ่มคำ ประโยคเดยี่ ว และความหมาย เก่ียวกับสัตว์ป่า
- ประโยค บทสนทนา เน้อื เร่อื งสั้นๆ ท่มี ีภาพประกอบ
- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคท่ีใช้ขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั ส่ิงใกลต้ วั
เช่น What does it eat?
It eats meat.
- ประโยคและขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการพูดให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สตั ว์
- กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม
- การรวบรวมและการนำเสนอคำศพั ท์ท่ีเกย่ี วข้องกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อื่น

17

(วทิ ยาศาสตร์)
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านสถานการณท์ ่ีเกดิ ขึน้ ในห้องเรยี น
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เกย่ี วข้องใกล้ตวั จากสื่อและแหลง่ การ

เรียนร้ตู ่างๆ
- การเปรยี บเทียบข้ันกวา่
- Present Simple Tense
3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่
-

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- การคดิ อยา่ งสร้างสรรค์

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝ่เรยี นรู้
- ซ่อื สัตย์สจุ ริต

6. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- การทำรูปสตั วจ์ ากกระดาษและพดู นำเสนอ
- การอา่ นเน้ือเรอื่ งและตอบคำถาม

7. การวดั และการประเมินผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในชว่ งการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรยี น
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

18

- ประเมนิ การทำรูปสัตวจ์ ากกระดาษและพูดนำเสนอ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
กจิ กรรมนำสกู่ ารเรียน

1. ครูทบทวนคำศัพทท์ ี่ผ่านมาด้วยบตั รภาพ และบตั รคำ
2. นักเรียนเขียนคำตามคำบอก (Dictation) คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ท่ีนักเรียนได้เรียนมาแล้วใน Unit 4

โดยครูย้ำให้นกั เรยี นทำงานดว้ ยตนเอง และมีความซ่ือสัตย์ ไม่ลอกผอู้ ่ืน
3. ครูบอกนักเรียนว่าในช่ัวโมงต่อไปน้ี นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า และการเปลี่ยนคำนาม

เอกพจน์ใหเ้ ปน็ พหูพจน์
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้

1. ครแู นะนำคำศพั ทใ์ หมใ่ นหนังสือเรียน หน้า 48 ข้อ 4 Listen and say what the animals eat.
จากนั้นครูเปดิ CD/track 52 ใหน้ กั เรียนฟงั บทสนทนา 2 ครั้ง แลว้ ตอบคำถามบนกระดานให้ถูกตอ้ ง
Question 1: Who eats fish?
(Dolphins, eagles, crocodiles and bears.)
Question 2: Who eats meat?
(Tigers and crocodiles.)
Question 3: Who eats leaves?
(Elephants, rhinos and bears.)
Question 4: Who eats honey?
(Bears.)
w

A: Can you tell us what these animals eat? Who eats
all these fish?

B: The fish is for different animals. The dolphins, the
bears and the eagles all eat fish. Oh, and the
crocodiles.

A: Is this meat for the tigers?
B: Yes, for the tigers and the crocodiles too.
A: The leaves are for the little animals, right?
B: Oh, no – they are for the elephants, rhinos and

bears.
A: And the honey!
B: It’s for the bears.

19

จากนั้นครูให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓หน้าข้อที่ถูกต้อง และกา  หน้าข้อที่ไม่ถูกต้อง
จากประโยคที่ครูให้ ต่อไปนี้

w
 1. The tigers eat honey.
✓ 2. The bears eat fish.
 3. The rhinos eat meat.
 4. The crocodiles eat leaves.
✓ 5. The rhinos and bears eat leaves.
✓ 6. The dolphins, crocodiles and eagles eat fish.
 7. The dolphins eat meat.
✓ 8. The bears eat honey.
✓ 9. The eagles eat fish.
 10. The tigers eat fish.
2. นกั เรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 48 ข้อ 5 Point, ask and answer. แลว้ อ่านออกเสียงคำศัพท์ตามครู
2 รอบ จากนนั้ ครูชไ้ี ปท่ีรปู ทีละรปู แล้วถามคำถาม ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบ
Teacher: What’s this?
Students: It’s a tiger.
Teacher: What does it eat?
Students: It eats meat.
เมื่อครูถามนักเรียนครบทุกภาพแล้ว ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนและผลัดกันถาม-ตอบเหมือน
ดังตัวอย่าง เสร็จแล้วให้นักเรียนบันทึกบทสนทนาลงสมุด และนำมาส่งครูท้ายชั่วโมง ครูสุ่มเรียก
นักเรยี น 6 คน ใหต้ อบคำถามครู ดังน้ี
Teacher: What’s this? (รปู โลมา)
Student 1: It’s a dolphin.
Teacher: What does it eat?
Student 1: It eats fish.
Teacher: What’s this? (รปู ชา้ ง)
Student 2: It’s an elephant.
Teacher: What does it eat?
Student 2: It eats leaves.
Teacher: What’s this? (รูปนกอนิ ทรี)
Student 3: It’s an eagle.

20

Teacher: What does it eat?
Student 3: It eats fish.
Teacher: What’s this? (รูปแรด)
Student 4: It’s a rhino.
Teacher: What does it eat?
Student 4: It eats leaves.
Teacher: What’s this? (รูปจระเข)้
Student 5: It’s a crocodile.
Teacher: What does it eat?
Student 5: It eats meat and fish.
Teacher: What’s this? (รปู หมี)
Student 6: It’s a bear.
Teacher: What does it eat?
Student 6: It eats fish, honey and leaves.
ครูอาจถามคำถามเพ่ิมเติม เพื่อให้นักเรียนได้นำความรู้รอบตัวมาใช้ โดยครูอนุญาตให้นักเรียนพูด
ภาษาไทยได้ ในกรณที ี่จำเป็น ดังน้ี
Teacher: What do elephants in Thailand eat?
Students: Bananas, pineapples (สับ ป ะรด ), corns (ข้าวโพ ด ), sugar

cane (ออ้ ย), …etc.
Teacher: What do crocodiles in Thailand eat?
Students: Chickens, fish,…etc.
3. ครอู ธบิ ายเรื่องคำนามเอกพจน์ (Singular) และพหพู จน์ (Plural)

Singular noun คือ คำนามเอกพจน์ เป็นคำนามทมี่ ีจำนวนเพียงหนึ่ง โดยปกติจะ

มี a หรือ an นำหนา้ เชน่

a boat an elephant a snake

Plural Noun คือ คำนามพหูพจน์ ซึ่งเป็นคำนามท่ีมีจำนวนมากกว่าหนึ่งขึ้นไป

โดยมีต้ังแต่ 2 จำนวนเป็นต้นไป คำนามพหูพจน์จะเติม -s หรือ -es ท้ายคำนาม

นัน้ ๆ และจะไม่มี a หรอื an นำหนา้ คำนาม เชน่

tigers snakes crocodiles

21

จากนั้นครูเขียนคำนามท้ังในรูปเอกพจน์ และพหูพจน์บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันสรุปกฎใน
การเปล่ียนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ เสร็จแลว้ ครูเขียนคำนามเอกพจนบ์ นกระดาน 7-10 คำ ให้
นกั เรยี นเปลย่ี นคำนามเอกพจน์เหล่านีใ้ หเ้ ปน็ พหูพจน์ เช่น

a watch  watches
a woman  women
a fish  fish
a bear  bears
a crocodile  crocodiles
a tomato  tomatoes
a dolphin  dolphins
a monkey  monkeys
a lady  ladies
an elephant  elephants

22

BackgroundwInformation

หลกั ในการเปล่ียนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหพู จน์ ท่ีจำเปน็ ตอ้ งใชใ้ นบทเรยี น มีดังน้ี

1) โดยท่ัวไปแล้ว คำนามสามารถเตมิ –s ท้ายคำนามนั้นๆ ไดเ้ ลย

เช่น a book  books

a car  cars

2) คำนามคำใดท่ลี งทา้ ยดว้ ย s, sh, ss, ch, x, z ให้เติม es

เชน่ a glass  glasses

a fox  foxes

3) คำนามท่ีลงท้ายด้วย o ให้เติม es

เช่น a mango  mangoes

a buffalo  buffaloes

ยกเว้น หนา้ o เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s

เชน่ a radio  radios

a piano  pianos

4) คำนามทล่ี งทา้ ยดว้ ย y ใหเ้ ปลี่ยน y เป็น i แล้วเตมิ es

เชน่ a baby  babies

a family  families

แต่ถา้ หน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s

เช่น a boy  boys

a day  days

5) คำนามคำใดทลี่ งท้ายด้วย f หรอื fe ให้เปลย่ี น f หรอื fe เป็น v กอ่ นแลว้ จึงเตมิ es

เชน่ a leaf  leaves

6) คำนามบางคำเปลีย่ นรปู คำไปจากเดิม

เชน่ a man  men

7) คำนามบางคำไม่เปลีย่ นรูป

เชน่ a fish  fish

4. นักเรียนฝึกทักษะการอ่าน โดยอ่านเน้ือเร่ืองท่ีกำหนดให้ในหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 6 Read and
answer the questions. โดยก่อนอ่านครูให้นักเรียนดูรูปภาพและช่ือเร่ือง แล้วลองเดาว่าเน้ือเรื่องท่ี
จะอ่านเป็นเร่ืองเก่ียวกับอะไร เมอ่ื ได้คำตอบวา่ เก่ียวกับยีราฟ (giraffe) แล้ว ครูให้นักเรยี นอ่านคำถาม
5 ขอ้ ทใี่ ห้มาพร้อมๆ กัน จากนน้ั ให้เวลานักเรียน 3 นาทีในการอ่านและตอบคำถามดงั กล่าวลงในสมุด

23

(Individual work) เม่ือครบกำหนดเวลาแล้ว ครูให้นักเรียนสลับสมุดกันตรวจ จากนั้นให้นักเรียน
ช่วยกันเฉลยคำตอบ พร้อมท้ังระบุด้วยว่า เจอคำตอบจากส่วนใดของบทอ่าน เสร็จแล้วครูให้นักเรียน
อา่ นเน้อื เรอ่ื งตามครทู ีละประโยค

w
1. It is brown and has got dark brown spots.
2. It eats leaves from tree and drink water every two days.
3. It has got short hair.
4. It’s got four stomachs.
5. It has got seven bones.

Background Information

ทำไม stomach เมอ่ื เปน็ พหพู จน์จงึ เติม –s ไม่ใช่ es

โดยท่ัวไปถ้าคำนามท่ีมีตัวสะกดลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x และ z เมือ่

เปลีย่ นเป็นพหูพจน์ใหเ้ ตมิ es ท่ีท้ายคำนน้ั เช่น

church - churches = โบสถ์

dish - dishes = จาน

fox - foxes = สนุ ขั จิ้งจอก

glass - glasses = แก้ว

match - matches = ไมข้ ดี ไฟ

ขอ้ ยกเวน้

คำว่า stomach ถงึ แม้จะลงท้ายดว้ ย ch แต่เมือ่ เปลยี่ นเป็นพหูพจน์ ให้เติม

–s หลังคำ ไมใ่ ช่ –es เน่ืองจากอยู่ในขอ้ ยกเวน้ ทีว่ า่ ถา้ คำนามมีตัวสะกดลงทา้ ยด้วย

ch แต่ ch นน้ั ออกเสียงเปน็ k ให้เตมิ s ไดเ้ ลย เชน่

stomach - stomachs = ท้อง กระเพาะ

epoch - epochs = ยุค

monarch - monarchs = พระมหากษัตริย์

ท่ีมา: http://www.konmun.com/Article/3-Regular-Verbs-id7393.aspx

5. นักเรียนอ่านคำส่ัง ในหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 7 Draw and write about your favourite
animal. พร้อมๆ กัน ครูให้เวลานักเรียนในการวาดรูปและเขียนบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ที่ตนเองชอบ 1
ชนิด ลงในสมดุ อยา่ งนอ้ ย 5 ประโยค (งานเด่ยี ว)

24

6. ครูเขียนตัวอักษร ‘ea’ บนกระดาน แล้วให้นักเรียนลองเดาว่า น่าจะออกเสียงว่าอะไร เม่ือได้คำตอบ
วา่ ‘อี’ แลว้ ครูเขียนคำว่า tea, sea, read, และ meat บนกระดาน จากน้ันครูอ่านออกเสียงคำศัพท์
แล้วให้นกั เรยี นออกเสียงตาม เพ่อื ฝึกการออกเสยี ง /ea/

7. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 8 Listen and say. แล้วอ่านประโยคที่กำหนดให้พร้อมๆ กัน
จากนั้นครูเปิด CD/track 53 ใหน้ ักเรียนฟงั และอ่านประโยคในหนังสือเรยี นตาม 5-6 คร้ัง จนนกั เรยี น
สามารถอ่านได้คล่อง จากนน้ั ครูสุ่มเรียกนักเรียน 7-8 คน ให้ลุกข้ึนยืนแล้วอ่านประโยคนี้ให้ครูฟังทีละ
คน

He reads and eats meat in the room.

กจิ กรรมรวบยอด
1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็นกลุ่มละ 3-4 คน ครูแจกกระดาษสี 4 สี ได้แก่ สีแดง เหลือง น้ำเงิน และ
ขาว กลุ่มละ 4 แผ่น (สีละ 1 แผ่น) พร้อมท้ังแจกกระดาษชาร์ตแข็ง 1 แผ่น เพ่ือรองรูปภาพ ให้
นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันฉีก ติด ปะ กระดาษสีท้ัง 4 สี ให้เป็นรูปสัตว์ 1 ชนิด เม่ือเสร็จแล้ว
ใหน้ ักเรียนโชวร์ ปู ภาพที่ประดษิ ฐ์พร้อมกบั พดู แนะนำตามประโยคต่อไปน้ี
w
Good morning. This is our wild animal. It’s a (สตั ว์). It eats (อาหารท่ีกิน).
It’s a big / small animal. A / An (สัตว)์ is bigger / small than (สตั ว์อกี หน่ึง
ชนิด).

2. นักเรียนดูรูปภาพที่กำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 36 ข้อ 4 Match the animals with the food
and say. แล้วครูถามคำถามนักเรยี นทลี ะขอ้ ดังน้ี
Teacher: What does a dolphin eat?
Students: It eats fish.
Teacher: What does an elephant eat?
Students: It eats leaves from trees.
Teacher: What does an eagle eat?
Students: It eats fish.
Teacher: What does a bear eat?
Students: It eats fish.
Teacher: What does a bat eat?
Students: It eats insects.

25

Teacher: What does a snake eat?
Students: It eats frogs.
จากน้ันนักเรียนจับคู่กันแล้วฝึกพูดถาม-ตอบ ครสู ุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คู่ ให้ยืนข้นึ และพูดถาม-ตอบให้
เพือ่ นๆ ดู

1. A 2. B 3. A 4. A 5. C 6. D

3. ครูให้นักเรียนทำงานเดี่ยว (Individual work) เขียนตอบคำถามที่กำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 36
ขอ้ 5 Answer the questions.
w
1. They eat meat.
2. They eat leaves from trees.
3. They eat fish.
4. They eat fish and honey.
5. Bats eat insects.

4. ครเู ขยี นคำศัพท์ 4 คำ ได้แก่ insects, mammals, birds และ reptiles บนกระดาน และสอนการ
ออกเสียง จากนั้นให้นักเรียนดูคำศัพท์เหล่านี้ในแบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 6 Look at the pictures
and classify the animals. และอธิบายว่าคำศัพท์เหล่านี้คือประเภทของสัตว์ ให้นักเรียนลองเดา
ความหมายของคำศัพท์เหล่าน้ีจากรูปเล็กๆ ท่ีอยู่ข้างๆ คำศัพท์ โดยครูอาจใช้ภาษาไทยในการอธิบาย
เชน่ ถามนกั เรยี นว่า เต่าทอง แมว และงู เปน็ สัตว์ชนดิ ใด
ครูให้เวลานักเรียนในการดูรูปสัตว์ท่ีกำหนดให้ แล้วเขียนชื่อสัตว์ลงในช่องประเภทของสัตว์ที่ถูกต้อง
เสร็จแล้วครูสุ่มถามคำถามนักเรียน 8 คน ว่าสัตว์ที่นักเรียนเห็นในรูป คือสัตว์อะไร และเป็นสัตว์
ประเภทใด ถ้านกั เรียนตอบผดิ ครูให้นกั เรียนตอบใหม่จนกวา่ จะถกู ตอ้ ง เชน่
Teacher: What animal is it? (ภาพแรด)
Students: It is a rhino.
Teacher: What type of animal is it?
Students: It is an insect.
Teacher: Sorry, that’s not correct. Try again.
Students: It is a mammal.
Teacher: That’s correct.

26

Insects w
= ant, butterfly

Mammals = rhino, bear

Birds = eagle, ostrich

Reptiles = snake, crocodile

5. นักเรียนอ่านเน้ือเรื่องใน แบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 7 Read and complete. แล้วนำคำศัพท์ท่ีกำหนดให้

ในกรอบไปเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง โดยก่อนทำครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เนื้อเร่ืองที่จะอ่านเป็น

เรื่องเก่ียวกับการเปรียบเทียบระหว่างช้างกับยีราฟ เม่ือนักเรียนทำเสร็จแล้ว ครูอ่านเนื้อเร่ืองทีละ

ประโยค โดยเมื่อถึงช่องว่างที่จะให้เติมคำ ครใู หน้ ักเรียนแขง่ ขนั กันยกมือข้ึน เพื่อเติมคำในช่องว่าง เสร็จ

แลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือเรือ่ งตามครูทลี ะประโยค

1. bigger 3. bwig 5. brown

2. grey 4. taller 6. long

6. ครูทบทวนการออกเสียง ea และอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับการออกเสียง it ว่า เสียง it จะออกเสียงส้ัน
กว่าเสียง ea จากนั้นครูให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ที่กำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 37 ข้อ 8 Listen: eat,
it. Listen, circle and say. ตามครูทีละคำ เมื่อนักเรียนเข้าใจความแตกต่างของท้ัง 2 เสียงแล้ว ครู
เปิด CD/track 54 ให้นักเรียนฟงั 2 รอบ และใหน้ ักเรยี นวงกลมคำศพั ทท์ ี่ได้ยินจาก CD

rid hit meal

9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคำ

27

10. บันทึกผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปัญหาอุปสรรคในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ขการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.............................................ผสู้ อน
(นางสาวนูรอรี าวานี กูโน)

28

แผนการจดั การเรยี นรู้ 3

Unit 4 Wild animals

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลาเรียน 2 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 2

ผู้สอน นางสาวนูรอีราวานี กโู น โรงเรยี น บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัย โครงสร้างประโยค Present Simple Tense

คำถามแบบ Wh-questions ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดขอและให้ข้อมูล เขียน e-mail

และเขียนบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจำวัน และยังนำไป

บรู ณาการร่วมกับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ืน่

2. ตัวชีว้ ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- อ่านออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพท์เกี่ยวกบั สตั ว์ปา่ และแหลง่ ที่อยู่อาศัยได้
- พูดขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสัตวป์ า่ โดยใช้ Wh-questions ได้
- ฟงั และอา่ นจบั ใจความได้
- พูดและเขียนบรรยายส้ันๆ เกี่ยวกบั สตั ว์ป่าได้
- อา่ นและเขยี น e-mail ถงึ เพ่อื นได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

- กลมุ่ คำ ประโยคเดีย่ ว และความหมาย เกย่ี วกบั แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของสัตว์

- ประโยค บทสนทนา เนื้อเร่อื งส้ันๆ ทีม่ ีภาพประกอบ

- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคที่ใช้ขอและใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับสิ่งใกล้ตัว

เชน่ What do they eat? They eat meat.

Where do they live? They live in the mountains.

When do they sleep? They sleep during the day.

- ประโยคและข้อความทใี่ ช้ในการพดู ใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับสัตว์

- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพทท์ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่นื (วิทยาศาสตร์)

- การใช้ภาษาในการฟังและพดู /อ่านสถานการณท์ ่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรียน

- การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศพั ท์ทีเ่ ก่ยี วข้องใกลต้ ัว จากสอื่ และแหลง่ การ

29

เรยี นร้ตู า่ งๆ
- Present Simple Tense
3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น
-

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
4.2 ความสามารถในการสอื่ สาร

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- ซื่อสัตย์สุจริต
- มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- การอา่ นเนือ้ เรอื่ งและตอบคำถาม
- งานเขียน e-mail ถึงเพื่อนและพดู นำเสนอ
- งานเขียนเก่ยี วกับสถานท่ที ช่ี อบ
- การทำแผน่ พบั เกยี่ วกับสถานทที่ ีช่ อบ
- การรวบรวมคำศัพท์ใน My word book

7. การวดั และประเมินผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั
- สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การอ่านเนือ้ เร่ืองและตอบคำถาม

30

- ประเมินงานเขยี น e-mail ถงึ เพื่อนและพูดนำเสนอ
- ประเมินงานเขียนเกย่ี วกบั สถานทที่ ช่ี อบ
- ประเมินการทำแผน่ พบั เกี่ยวกบั สถานที่ท่ชี อบ
- ประเมนิ การรวบรวมคำศัพท์ใน My word book

8. กจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรมนำส่กู ารเรยี น

1. นักเรียนเล่นเกม Memory game เพ่ือทบทวนคำศัพท์ใน Unit 4 Lesson 1 โดยให้ครูเรียงบัตรภาพ

บนกระดานแถว A และบัตรคำบนกระดานแถว B ดังตัวอย่าง แล้วให้เวลานักเรียนในการจำประมาณ

30 วินาที จากนัน้ ครูควำ่ บัตรภาพบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนจบั คู่บัตรภาพกับบตั รคำใหต้ รงกนั

ภาพชา้ ง ภาพงู ภาพนกอินทรี ภาพลิง ภาพหมี A (บัตรภาพ)

monkey eagle elephant bear snake B (บตั รคำ)

ตัวอย่าง Student 1: A3 ภาพนกอินทรี คู่กับ B2 eagle

2. ครูแสดงบัตรภาพเก่ียวกับสัตว์ ประมาณ 2-3 ภาพ แล้วถามนักเรียนเก่ียวกับสัตว์ในภาพว่า คืออะไร

และกนิ อะไรเป็นอาหาร เชน่

Teacher: What’s this?

Students: It’s a/an ( สตั ว์ ).

Teacher: What does it eat?

Students: It eats _________.

3. ครูแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้นักเรยี นช่วยกันเรยี งบัตรคำให้เป็นประโยคให้ถูกต้อง
เชน่

is a than a slower .

= Atuturtrltele is slower than a rabrbaibt.bit

4. ครูบอกนักเรียนว่าใน Unit 4 Lesson 2 นี้ นักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับสัตว์ป่าเพ่ิมเติม และการใช้

Nouns (Singular/Plural), Verb to do และ Wh-questions

กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้

1. ครูนำบัตรภาพ อูฐ หญ้า แม่น้ำ ป่า ทะเล ภูเขา ทะเลทราย มาติดบนกระดานทีละภาพ จากนั้นให้

นักเรียนเล่นเกม Hangman โดยผู้เล่นจะต้องเดาตัวอักษรทีละตัวให้ถูกต้อง ถ้าเดาผิด ครูจะลากเส้น

คนถูกแขวนคอทีละเส้น ทมี ใดที่ถกู แขวนคอก่อน จะถือวา่ แพ้

31

2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 50 ข้อ 1 Listen, point and repeat. แล้วครูชี้ท่ีภาพทีละภาพ และ
ให้นักเรียนบอกเป็นภาษาไทยวา่ คือรปู อะไร จากนั้นครูอ่านออกเสยี งคำศัพท์ทีละคำ และใหน้ ักเรียนช้ี
รูปภาพในหนังสือเรียน พร้อมออกเสียงตามครู จากน้ันครูเปิด CD/track 55 ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง
และออกเสียงตาม CD ไปด้วย

camel grass river jungle

sea desert mountain

3. นักเรียนเขียนตัวอักษร A-G ลงในสมุด จากน้ันครูให้นักเรียนดูภาพ A-G ในหนังสือเรียน หน้า 50 ข้อ
2 Listen and number. โดยครูช้ีท่ีภาพทีละภาพ แล้วถามนักเรียนว่าคือภาพอะไร ครูอธิบายว่าให้
นักเรียนเรียงลำดับภาพเหล่าน้ีตามท่ีได้ยินจาก CD เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว ครูเปิด CD/track 56 ให้
นักเรียนฟัง 2 คร้ัง โดยให้นักเรียนเขียนคำตอบหลังตัวอักษร A-G ในสมุดของตนเอง จากนั้นครูเปิด
CD อกี คร้ัง โดยหยดุ CD หลังจบแต่ละประโยค แลว้ ใหน้ กั เรยี นระบวุ ่าตรงกบั ภาพใด
w
1. Snakes live in the desert.
2. Zebras eat grass.
3. Fish are in the river.
4. Bears live in the mountains.
5. Dolphins are in the sea.
6. Thousands of animals live in the jungle.
7. I like camels.

1. E 2. B 3. C 4. F
5. G 6. D 7. A

4. นักเรียนเล่นเกมจับคู่คำศัพท์ โดยครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันจับคู่

บัตรคำภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษ กลมุ่ ใดจับค่ไู ด้ถูกต้องและเรว็ ทีส่ ุด ถอื วา่ เปน็ ผชู้ นะ

desert = ทะเลทราย river = แม่นำ้

mountain = ภูเขา jungle = ป่า

sea = ทะเล grass = หญ้า

camel = อฐู bear = หมี

32

eagle = นกอินทรี elephant = ช้าง

ant = มด bat = คา้ งคาว

snake = งู dolphin = โลมา

5. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 50 ข้อ 3 Where do animals live? Listen and say. ครูทบทวน

คำศัพท์ให้นักเรียน จากน้ันให้นักเรียนฟังบทสนทนาใน CD/track 58 จำนวน 2 รอบ พร้อมตอบ

คำถามว่าสัตว์ท่ีนักเรียนเห็นในภาพอาศัยอยู่ที่ใด โดยเขียนตอบลงในสมุดของตนเอง จากน้ันครูเปิด

CD อีก 1 รอบ พร้อมเฉลยคำตอบ

w

A: Can you tell me about Africa?
B: Africa has got deserts, jungles, the sea, rivers,

and mountains. In the deserts there are
thousands of snakes and camels.
A: What about the mountains?
B: In the mountains there are bears, eagles,
butterflies, bats and thousands of ants. Oh, and
snakes, too.
A: And what about the rivers and the jungles?
B: Hmmm ….., there are crocodiles in the river. In
the jungle you can see rhinos, elephants, tigers,
monkeys and snakes.
A: Yes, thank you. And, Mr. Whites, what is your
favourite habitat?
B: The sea. I lowve the sea! I love dolphins.
A: Thank you, Mr. Whites.

A - Bears live in the mountains.
B - Eagles live in the mountains.
C - Elephants live in the jungles.
D - Ants live in the mountains.
E - Snakes live in the desert and in the mountains.
F - Dolphins live in the sea.
G - Bats live in the mountains.

33

ครูถามคำถามนกั เรยี น แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ เชน่

Teacher: Where do the bears live?

Students: They live in the mountains.

Teacher: Where do the eagles live?

Students: They live in the mountains. etc.

6. ครชู บู ตั รภาพทีเ่ ป็นตอนกลางวนั และกลางคืนพรอ้ มออกเสยี งคำศพั ท์

day = กลางวนั

night = กลางคนื

ครูหยิบบตั รภาพคนและนกฮกู แล้วถามคำถามเปน็ ภาษาอังกฤษ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบ

Teacher: When do people sleep?

Students: Night.

Teacher: That’s correct. We sleep at night.

ครูเขียนคำว่า at night บนกระดาน

Teacher: When do owls sleep?

Students: Day.

Teacher: The owls sleep during the day.

ครูเขียนคำวา่ during the day (ระหวา่ งวนั ) บนกระดาน

จากนั้นให้นักเรียนลองเดาว่าสัตว์ในภาพ A-G ในหนังสือเรียน หน้า 51 ข้อ 4 When do animals

sleep? Listen and say. นอนหลับในช่วงเวลาใด กลางคืน หรือ กลางวัน เมื่อนักเรียนเดาคำตอบ

เรยี บรอ้ ยแล้ว ครเู ปดิ CD/track 59 ใหน้ กั เรียนฟงั 2 รอบ

A: Look at these animals. They live in different places.
Some live in the jungle and some in the mountains.
But when do they sleep?

B: Elephants sleep at night. They sleep for around 4
hours a day.

A: Yes, but some animals find something to eat at
night. They sleep during the day. These animals are
tigers and lions. They sleep 18-20 hours a day.

B: Bears and bats sleep during the day too. How
about zebras and eagles? When do they sleep, at
night or during the day?

A: Zebra and eagles sleep at night.

34

เม่ือฟัง CD จบแล้ว ครูให้นักเรียนแก้ไขคำตอบท่ีตนเองเดาไว้ ให้ถูกต้องตามที่ได้ยินจาก CD จากน้ัน
ครถู ามคำถาม เพือ่ ใหน้ กั เรยี นตอบ ดังน้ี

Teacher: What animals sleep at night?
Students: Elephants, zebras and eagles.
Teacher: Very good. Elephants, zebras and eagles sleep at night.

And what do animals sleep during the day?
Students: Tigers, lions, bears and bats.
Teacher: Good. Tigers, lions, bears and bats sleep during the day.

A. Elephants – at night
B. Bears – during the day
C. Lions – during the day
D. Zebras – at night
E. Bats – during the day
F. Tigers – during the day
G. Eagles – at night

7. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 51 ข้อ 5 Look and say. Then write in your notebook. โดยให้
นักเรยี นดูรูปและแต่งประโยคตามโครงสร้างทก่ี ำหนดให้ลงในสมุด ครูเขียนประโยคตวั อย่างให้นักเรยี น
ดูบนกระดาน เช่น It’s a bear. It lives in the mountain. It eats honey. It sleeps during the
day.
w
It’s a bear. It lives in the mountain. It eats honey. It sleeps
during the day. It’s an eagle. It lives in the mountain. It eats fish. It
sleeps at night.
It’s a zebra. It lives in the jungle. It eats grass. It sleeps at
night. It’s a bat. It lives in the mountain. It eats insects. It sleeps
during the day.

8. ครูสอนการใช้ Verb to do ร่วมกับคำกริยาและคำสรรพนาม ในโครงสร้างของ Present Simple
Tense ดังน้ี

35

V. to do Pronouns
do I

does You
We
They
คำนามเปน็ พหพู จน์
He
She
It
คำนามเป็นเอกพจน์

ถ้า Verb to do เป็นคำกริยาแท้ จะมีความหมายว่า “ทำ” แต่ถ้าเป็นคำกรยิ าช่วย Verb to do จะไม่
มีความหมาย แต่จะเขา้ มาช่วยทำให้ประโยคบอกเลา่ เป็นประโยคปฏิเสธหรือคำถาม ในกรณีที่ประโยค
นนั้ ไมม่ กี รยิ าช่วยตัวอ่นื

ตัวอย่าง Does he go to school?
Yes, he does./ No, he doesn’t.
(Does เปน็ กริยาชว่ ย เมือ่ ใช้ does แล้ว กริยาแทไ้ ม่ตอ้ งเติม s/es)

โครงสรา้ งประโยค ในกรณที ่ี Verb to do เปน็ คำกริยาชว่ ย
ปฏเิ สธ โครงสรา้ ง ประธาน + do / does + not + กรยิ าแทไ้ มเ่ ติม s/es

+ กรรมหรือสว่ นขยาย.
เช่น She does not go to school.

They do not go to school.

คำถาม โครงสรา้ ง Do/Does + ประธาน + กริยาแทท้ ี่ไม่เติม s/es +
เชน่ กรรมหรอื สว่ นขยาย?
Does she go to school?
Do they go to school?

ครูแบ่งนักเรียนออกเปน็ 5 กลุ่ม และแจกบัตรคำให้กลุม่ ละ 1 ชุด ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มเรยี งบัตรคำ
ที่ได้รับให้เป็นประโยค โดยครูอธิบายว่าแต่ละกลุ่มจะได้ประโยคที่ไม่ซ้ำกัน เม่ือกลุ่มใดเรียงบัตรคำ
เสร็จ ให้เชิญครูมาตรวจเพ่ือให้คะแนน เสร็จแล้วครูให้แต่ละกลุ่มเวียนบัตรคำให้กลุ่มถัดไป (เวียนไป

36

ทางขวาหรือตามลำดับหมายเลขกลุ่ม) ซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้เรียงบัตรคำ 5 ครั้ง โดยมีรปู ประโยคที่จะให้
นักเรียนเรียง ดังตอ่ ไปนี้

1) What does it eat?
2) When do animals sleep?
3) Where do bears live?
4) They do not live in the sea.
5) It does not sleep at night.
ครูค้นคว้าหาแบบฝึกหัด Present Simple Tense ในรูปประโยคคำถาม และปฏิเสธท่ีเหมาะสมกับ
นักเรียน แล้วจัดพิมพ์เป็นใบงานเสริมเพิ่มเติมให้กับนักเรียน และมอบหมายให้นักเรียนไปทำมาเป็น
การบา้ น
กิจกรรมรวบยอด
1. ครูเขียนคำศัพท์ 7 คำ พร้อมหมายเลขบนกระดาน แล้วให้นักเรยี นอ่านพร้อมๆ กัน จากนั้นให้นักเรียน
ในห้องนับเลข 1-7 ต่อๆ กันไปเร่ือยๆ จนนักเรียนทุกคนได้หมายเลข ครูให้นักเรียนท่ีได้หมายเลขตรง
กับคำศพั ท์คำใด ใหน้ ำคำศพั ท์คำนนั้ มาแตง่ ประโยค 1 ประโยค

day night jungle mountain eat sleep live
1234567

ตัวอย่าง นักเรียนที่ได้หมายเลข 3 จะต้องแต่งประโยคที่มคี ำวา่ jungle เชน่
Elephants live in the jungle.

2. นกั เรยี นดูรปู ภาพในแบบฝึกหัด หนา้ 38 ข้อ 1 Write the words. แล้วเขียนคำศัพทใ์ ห้ตรงกบั รปู ภาพ

1. camel 2. grass 3. jungle
4. river 5. desert 6. mountain

3. นักเรียนอ่านประโยคท่ีกำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 38 ขอ้ 2 Listen and write. ในใจ จากน้ันครตู ิด
บัตรคำต่อไปนี้บนกระดาน mountains, camel, desert, jungle, river, sea แล้วให้นักเรียนอ่าน
คำศัพท์พร้อมๆ กันตามครู เสร็จแล้วครูเปิด CD/track 57 ให้นักเรียนฟังและเติมคำลงในช่องว่างให้
ถกู ตอ้ ง โดยใช้คำศพั ทใ์ นบตั รคำ

1. There are snakes in the desert.
2. Crocodiles and fish live in the river.
3. Some animals live in the mountains.
4. Dolphins live in the sea.
5. Thousands of animals live in the jungle.
6. A camel has got long legs.

37

4. นักเรียนดูภาพในแบบฝึกหัด หน้า 39 ข้อ 3 Look and answer. แล้วตอบคำถาม Where do they
live? (สตั วพ์ วกนั้นอาศยั อยทู่ ไ่ี หน) ลงในสมดุ ของตนเอง

1. Tigers live in the jungle.
2. Elephants live in the jungle.
3. Crocodiles live in the river.
4. Eagles live in the mountains.
5. Bats live in the mountains.
6. Camels live in the desert.

5. นักเรียนดูรูปภาพในแบบฝึกหัด หน้า 39 ข้อ 4 Look and answer. แล้วตอบคำถามว่า When do
they sleep? (สตั วช์ นดิ นนั้ นอนเมอื่ ไร) ลงในสมดุ ของตนเอง

1 Bears sleep during the day.
2 Bats sleep during the day.
3 Elephants sleep at night.
4 Tigers sleep during the day.
5 Eagles sleep at night.

9. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Smile ป.4
2. แบบฝึกหัด Smile ป.4
3. Audio CD Smile ป.4
4. บัตรภาพ บตั รคำ

10. บันทึกผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปัญหาอปุ สรรคในการปฏิบตั ิกจิ กรรม

38

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ขการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ .............................................ผ้สู อน
(นางสาวนูรอีราวานี กโู น)

39

แผนการจัดการเรยี นรู้ 4

Unit 4 Wild animals

รายวชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 2

ผู้สอน นางสาวนูรอีราวานี กโู น โรงเรียน บ้านตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่าและแหล่งท่ีอยู่อาศัย โครงสร้างประโยค Present Simple Tense

คำถามแบบ Wh-questions ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดขอและให้ข้อมูล เขียน e-mail

และเขียนบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน และยังนำไป

บรู ณาการรว่ มกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

2. ตัวชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพทเ์ กี่ยวกบั สัตว์ป่าและแหล่งท่ีอยู่อาศัยได้
- พดู ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกับสตั วป์ ่า โดยใช้ Wh-questions ได้
- ฟงั และอ่านจบั ใจความได้
- พดู และเขยี นบรรยายสั้นๆ เก่ยี วกับสัตว์ปา่ ได้
- อา่ นและเขยี น e-mail ถึงเพื่อนได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

- กลุม่ คำ ประโยคเดย่ี ว และความหมาย เกยี่ วกับแหล่งทีอ่ ยูอ่ าศัยของสัตว์

- ประโยค บทสนทนา เนอื้ เร่อื งสน้ั ๆ ทีม่ ีภาพประกอบ

- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคท่ีใชข้ อและให้ข้อมลู เกย่ี วกับสง่ิ ใกลต้ วั

เชน่ What do they eat? They eat meat.

Where do they live? They live in the mountains.

When do they sleep? They sleep during the day.

- ประโยคและข้อความที่ใช้ในการพูดใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั สัตว์

- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพทท์ เี่ ก่ยี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อ่ืน (วทิ ยาศาสตร์)

- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อา่ นสถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรยี น

- การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพทท์ ่ีเกี่ยวข้องใกล้ตัว จากสื่อและแหลง่ การ

40

เรยี นร้ตู า่ งๆ
- Present Simple Tense
3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น
-

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
4.2 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- ซื่อสัตย์สุจริต
- มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- การอา่ นเนื้อเรอื่ งและตอบคำถาม
- งานเขียน e-mail ถึงเพ่ือนและพดู นำเสนอ
- งานเขียนเก่ยี วกับสถานทีท่ ่ีชอบ
- การทำแผน่ พบั เกยี่ วกับสถานทที่ ีช่ อบ
- การรวบรวมคำศัพท์ใน My word book

7. การวดั และประเมินผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั
- สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การอา่ นเนือ้ เร่ืองและตอบคำถาม

41

- ประเมินงานเขียน e-mail ถึงเพือ่ นและพูดนำเสนอ
- ประเมนิ งานเขยี นเก่ยี วกับสถานทที่ ีช่ อบ
- ประเมินการทำแผ่นพับเก่ยี วกบั สถานทีท่ ่ชี อบ
- ประเมินการรวบรวมคำศพั ทใ์ น My word book

8. กิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมนำสูก่ ารเรยี น

1. ครทู ดสอบคำศพั ท์ของนักเรียน โดยพดู บอกขอ้ มูลเกี่ยวกับสัตว์ง่ายๆ และให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ ดังน้ี

1. __ __ b __ __ t (ครพู ูดวา่ “It likes carrots.”) = rabbit

2. __ __ m __ __ (ครพู ูดวา่ “It lives in the desert.”) = camel

3. __ __ __ __ e (ครพู ูดว่า “It flies very high. It eats fish.”) = eagle

4. __ __ __ r (ครูพูดวา่ “It eats honey.”) = bear

5. __ __ e __ __ __ __ t (ครูพดู ว่า “It is the biggest animal on land.”) = elephant

6. __ n __ __ __ (ครูพูดวา่ “It has got a long body. It has no legs.”)

7. __ __ b __ __ (ครูพูดวา่ “It has got black and white stripes.”) = zebra

8. __ a __ (ครพู ูดว่า “It can fly. It sleeps during the day.”) = bat

2. ครูบอกนักเรียนว่า ในบทต่อไปนี้ นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของสัตว์ต่อ การใช้ Present

Simple Tense และคำถามแบบ Wh-questions ซึ่งเป็นคำถามเพื่อถามเก่ียวกับรายละเอียด เช่น

อะไร ท่ีไหน เม่อื ไร อย่างไร

กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้

1. ครูทบทวนโครงสร้างประโยคบอกเล่าของ Present Simple Tense และให้ทำแบบฝึกหัดง่ายๆ เพ่ือ

ทบทวนรว่ มกนั ดงั นี้

ประโยคบอกเลา่ Present Simple Tense

ประธานเอกพจน์ + กรยิ าชอ่ งท่ี 1 เติม s/es

เช่น A monkey eats bananas.

ประธานพหูพจน์ และ I/You + กรยิ าช่องท่ี 1

เช่น Tigers live in the jungle.

ครูเขยี นคำถามบนกระดาน และให้นกั เรียนชว่ ยกันทำ

จงเปล่ยี นคำกรยิ าในวงเลบ็ ต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง

1) I (read) __________ a book. (read)

2) They (speak) __________ very fast. (speak)

3) My father (go) __________ to the hospital. (goes)

42

4) Mary (buy) __________ the pencils. (buys)

5) He (watch) __________ television. (watches)

6) You (come) __________ to school everyday. (come)

7) The girls (wear) __________ skirts. (wear)

8) Somdej (speak) __________ English very well. (speaks)

2. ครทู บทวนเกยี่ วกับการใช้ Verb to do ในประโยคปฏเิ สธและคำถาม (Present Simple Tense)

จากนั้นครูอธิบายให้นักเรียนฟังเพ่ิมเติมว่า เมื่อใช้ Verb to do เข้ามาช่วยในการทำให้เป็นประโยค

ปฏิเสธและคำถามแลว้ แมป้ ระธานของประโยคจะเปน็ เอกพจน์ กรยิ ากไ็ ม่ต้องเติม s/es เช่น

บอกเล่า A bear eats honey.

ปฏิเสธ A bear does not eat honey. (กรยิ าไมเ่ ติม s)

คำถาม Does a bear eat honey? (กริยาไม่เตมิ s)

โดยคำถามที่ข้ึนตน้ ด้วย Verb to do น้ันเปน็ คำถามท่ีเรียกว่า Yes-No questions คือเม่ือตอบคำถาม

เหล่านี้ จะตอ้ งตอบวา่ Yes หรอื No เทา่ นนั้

3. ครูอ่านประโยคคำถามและให้นักเรียนอ่านประโยคคำตอบในหนังสือเรียน หน้า 52 ข้อ 6 Point, ask

and answer. แล้วถามนักเรยี นว่าคำถามทั้ง 3 ประโยคที่ครูอ่านมีอะไรท่ีเหมือนกัน จากน้นั ครูอธิบาย

ว่าทั้ง 3 ประโยค ข้ึนต้นประโยคด้วย Wh-words คำถามเหล่าน้ีจึงเรียกว่า Wh-questions ซึ่ง

นกั เรยี นไม่สามารถตอบคำถามเหลา่ นีว้ า่ Yes หรอื No ได้ แตจ่ ะต้องตอบเกี่ยวกับ

รายละเอียดตามแต่ว่าประโยคคำถามนนั้ ขน้ึ ต้นดว้ ย Wh-word คำใด เช่น

What (อะไร) จะใช้ถามเกีย่ วกับสัตวแ์ ละส่ิงของ เช่น What do bears eat?

When (เมื่อไร) จะใช้ถามเก่ยี วกับเวลา เชน่ When do bears sleep?

Where (ท่ไี หน) จะใช้ถามเก่ยี วกบั สถานท่ี เชน่ Where do bears live?

ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า Wh-words มีอีกหลายตัว แต่ในบทเรียนน้ีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับ What,

When และ Where เป็นหลัก จากน้ันครูชี้ไปที่รูปหมี (Bears) เสือ (Tigers) นกอินทรี (Eagles) และ

ชา้ ง (Elephants) และให้นักเรียนจบั คู่กบั เพอื่ น ฝึกพูดถาม-ตอบเกีย่ วกับสัตว์ท้งั 4 ชนดิ โดยใช้คำถาม

ท่ีข้นึ ต้นดว้ ย What, When และ Where เมื่อนักเรียนฝกึ พูดเสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนแต่ละคู่บันทึกบท

สนทนาของตนเองใส่กระดาษ 1 แผ่น และเขียนช่ือของคู่ตนเองลงไป และนำไปส่งครู ครูสุ่มเรียก

นกั เรียน 2-3 คู่ ให้ฝกึ พดู ถามและตอบใหเ้ พอื่ นๆ ดู

43

A: Where do tigers live? B: They live in the jungle.
A: What do they eat? B: They eat meat.
A: When do they sleep? B: They sleep during the day.
A: Where do eagles live? B: They live in the mountains.
A: What do they eat? B: They eat fish.
A: When do they sleep? B: They sleep at night.
A: Where do elephants live? B: They live in the jungle.
A: What do they eat? B: They eat leaves from trees.
A: When do they sleep? B: They sleep at night.

4. นักเรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 53 ข้อ 7 Read and match the questions with the

answers. แล้วครูถามนักเรียนว่าเนื้อเรื่องน่าจะเก่ียวกับอะไร เมื่อได้คำตอบว่า “Tigers” แล้ว ครูให้

เวลานักเรียนในการอ่านเน้ือเรื่อง และจับคู่คำถาม (1-4) กับคำตอบ (a-d) ให้ถูกต้อง โดยทำลงในสมุด

เสร็จแล้วครูอ่านคำถามทีละข้อ และถามนักเรียนในห้องว่าใครตอบข้อ a, b, c หรือ d ด้วยการให้

นักเรียนยกมอื จากน้นั ครูจงึ เฉลยคำตอบ

1. d 2. c w 3. b 4. a

เสร็จแล้วครูแบ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่มเลก็ ๆ ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ฝกึ อ่านออกเสียงเนือ้ เรื่องพรอ้ มๆ
กัน โดยให้นักเรียนท่ีเรียนเก่งช่วยเหลือนักเรียนท่ีอ่านไม่คล่อง ครูเดินสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรม
และใหค้ วามชว่ ยเหลอื เมอ่ื จำเปน็
5. นกั เรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 53 ข้อ 8 Draw and write about an animal. โดยวาดรูป
และเขียนเก่ียวกับสัตว์ 1 ชนิด ลงในสมุดของตนเอง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คน
ให้ออกมานำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น

w
(Suggested answers)
This is a bear. It lives in the mountains.
It eats honey and fish. It sleeps during the day.

6. นักเรียนเล่นเกม Music chair (เก้าอ้ีดนตรี) โดยครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน
(นกั เรยี นมีจำนวนมาก หากเลน่ เป็นวงใหญ่จะฝึกไดไ้ มท่ ่วั ถึง) วิธกี ารเล่น มีดงั น้ี
1) ผ้เู ล่น 10 คน ยนื เป็นวงกลมรอบเกา้ อี้ 9 ตวั

44

2) เมอ่ื ไดย้ นิ เสียงเพลง ให้นกั เรียนเดนิ รอบเกา้ อี้ และทำทา่ ประกอบเพลง
3) เม่อื เพลงหยดุ ให้ผเู้ ลน่ เข้านัง่ เกา้ อท้ี อี่ ยใู่ กล้ตัวมากทสี่ ดุ
4) ผทู้ ี่ยืน (แย่งเก้าอไี้ มไ่ ด)้ บอกว่าตนเองเป็นสัตว์อะไร และบอกลกั ษณะของสัตว์นัน้

มา 1 ประโยค เช่น I am an elephant. I have a long nose.
จากนน้ั จึงเดินออกจากวงไปพักผ่อน พรอ้ มนำเกา้ อ้ไี ป 1 ตวั ครูทำกจิ กรรมเช่นเดิมไปอกี เร่ือยๆ
จนเหลอื เกา้ อี้ผู้เลน่ คนสุดทา้ ย ซง่ึ ถือวา่ เปน็ ผูช้ นะ และต้องพูดประโยคเช่นกัน
กจิ กรรมรวบยอด
1. นักเรียนจับคู่คำถาม (1-6) และคำตอบ (a-f) ในแบบฝึกหัด หน้า 40 ข้อ 5 Match the questions
with the answers. ใหถ้ ูกต้อง

1. c 2. e 3. a 4. f 5. d 6. b

2. นักเรียนดูรูปภาพในแบบฝึกหัด หน้า 40 ข้อ 6 Animal interviews. Ask your partner questions.
แล้วครูถามคำถาม 3 ข้อ กับนักเรียน 3 คน ตามโครงสร้างทกี่ ำหนดให้ เพ่ือเป็นตัวอยา่ งให้กบั นกั เรียน
จากน้ันครูให้นกั เรยี นจบั คกู่ นั แล้วฝกึ พดู ถาม-ตอบเหมือนในหนงั สอื เรียน

dolphins

What snakes live?

Where + do + bears + eat ?

When elephants sleep?

crocodiles

Teacher: What do dolphins live?
Student 1: They live in the sea.
Teacher: Where do dolphins eat?
Student 2: They eat fish.
Teacher: When do dolphins sleep?
Student 3: They sleep during the day and at night.
ให้นกั เรยี นผลัดกนั ถาม-ตอบเก่ยี วกับสตั ว์ 2 ชนดิ พร้อมกบั ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรยี นนเ
3. นกั เรียนอ่านข้อความท่ีกำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 41 ข้อ 7 Read and match. แล้วจับคขู่ ้อความ
ทอี่ ่านกบั ภาพ (a-c) ด้านล่างใหถ้ กู ต้อง

1. b 2. c 3. a

45

4. นักเรียนจินตนาการว่าตนเองเป็นสัตว์ 1 ชนิด แล้วเขียนบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ชนิดน้ัน โดยใชค้ ำถามที่
กำหนดให้ในกรอบในแบบฝึกหัด หน้า 41 ข้อ 8 Imagine you are an animal. Write about
yourself and draw. เป็นตัวช่วยในการเขียน ซ่ึงได้แก่ นักเรียนเป็นสัตว์อะไร กินอะไรเป็นอาหาร
อาศัยอยู่ที่ไหน นอนหลับตอนไหน และมีความสุขหรือไม่ เม่ือนักเรียนเขียนเสร็จแล้ว ให้นักเรียนวาด
รปู สัตว์ดงั กล่าวลงในกรอบท่ีกำหนดให้ หรือครูอาจให้นักเรียนวาดรูปและเขยี นบรรยายลงในกระดาษ
วาดเขียน แล้วตกแต่งให้สวยงาม ครูอธิบายว่าเมื่อตรวจผลงานเสร็จแล้ว จะนำผลงานของนักเรียนไป
ติดแสดงที่บอร์ดหลังห้อง เพื่อให้นักเรียนมุ่งม่ันในการทำงานมากข้ึน เพราะต้องนำผลงานไปแสดงให้
เพ่อื นๆ ดู
w
(Suggested answer)
I am a bear. I live in the mountains. I eat fish and honey.
I sleep during the day. I am happy.

5. นักเรียนรวบรวมคำศัพท์ที่นักเรียนเรียนใน Unit 4 น้ี ลงใน My word book โดยให้นักเรียนวาดรูป
และเขียนคำศพั ทด์ ้วยตวั บรรจง

9. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น Smile ป.4
2. แบบฝึกหดั Smile ป.4
3. Audio CD Smile ป.4
4. บตั รภาพ บตั รคำ

10. บนั ทึกผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

46

10.2 ปัญหาอุปสรรคในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไขการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ.............................................ผู้สอน
(นางสาวนรู อีราวานี กูโน)

47

แผนการจดั การเรยี นรู้ 5

Unit 4 Wild animals

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลาเรียน 2 ช่วั โมง ภาคเรียนที่ 2

ผู้สอน นางสาวนูรอีราวานี กโู น โรงเรยี น บ้านตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่าและแหล่งท่ีอยู่อาศัย โครงสร้างประโยค Present Simple Tense

คำถามแบบ Wh-questions ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดขอและให้ข้อมูล เขียน e-mail

และเขียนบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ ซ่ึงเป็นการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสารในชีวิตประจำวัน และยังนำไป

บรู ณาการร่วมกับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ืน่

2. ตัวชีว้ ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- อ่านออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพท์เก่ยี วกับสตั ว์ป่าและแหล่งท่ีอยู่อาศัยได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกับสัตวป์ า่ โดยใช้ Wh-questions ได้
- ฟงั และอา่ นจบั ใจความได้
- พูดและเขียนบรรยายส้ันๆ เกี่ยวกบั สัตว์ป่าได้
- อา่ นและเขยี น e-mail ถงึ เพ่อื นได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

- กลมุ่ คำ ประโยคเดีย่ ว และความหมาย เกีย่ วกบั แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของสัตว์

- ประโยค บทสนทนา เนื้อเร่อื งส้ันๆ ท่ีมีภาพประกอบ

- คำศพั ท์ สำนวน และประโยคที่ใช้ขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั สิ่งใกล้ตัว

เชน่ What do they eat? They eat meat.

Where do they live? They live in the mountains.

When do they sleep? They sleep during the day.

- ประโยคและข้อความทีใ่ ช้ในการพดู ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั สัตว์

- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้องเพลง

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพทท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ (วิทยาศาสตร์)

- การใช้ภาษาในการฟังและพูด/อ่านสถานการณท์ ี่เกดิ ข้ึนในห้องเรียน

- การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องใกลต้ ัว จากส่ือและแหล่งการ

48

เรยี นร้ตู า่ งๆ
- Present Simple Tense
3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่ิน
-

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
4.2 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- ซื่อสัตย์สุจรติ
- มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- การอา่ นเนื้อเรอื่ งและตอบคำถาม
- งานเขียน e-mail ถึงเพ่อื นและพดู นำเสนอ
- งานเขียนเก่ยี วกับสถานทีท่ ่ีชอบ
- การทำแผน่ พบั เกยี่ วกับสถานทที่ ีช่ อบ
- การรวบรวมคำศัพท์ใน My word book

7. การวดั และประเมินผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั
- สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การอา่ นเนือ้ เร่ืองและตอบคำถาม

49

- ประเมินงานเขยี น e-mail ถึงเพ่อื นและพูดนำเสนอ
- ประเมินงานเขยี นเกย่ี วกับสถานท่ที ี่ชอบ
- ประเมินการทำแผ่นพบั เกีย่ วกับสถานท่ีท่ชี อบ
- ประเมนิ การรวบรวมคำศพั ทใ์ น My word book

8. กิจกรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมนำสู่การเรยี น

1. นักเรยี นเล่นเกม Bingo โดยครจู ดคำศัพท์ 16 คำ บนกระดาน ดังนี้

grass dolphin leaves crocodile

night desert eagle mountain

bear jungle snake elephant

river camel day insects

จากนั้นครแู จกกระดาษทเี่ ป็นช่องตารางให้นกั เรยี นคนละ 1 แผ่น ในตาราง X X
1 แผน่ มชี ่อง 16 ชอ่ ง ใหน้ ักเรียนเขยี นคำศพั ท์ทงั้ 16 คำ ลงในช่อง ช่องละ X
1 คำ จนครบ 16 ช่อง (ตำแหน่งใดก็ได้) ครูทำสลากคำศัพท์ แล้วจับสลาก X
ข้ึนมาทีละ 1 ใบ แล้วอ่านคำศัพท์ในฉลาก ถ้าตารางของนักเรียนมีคำศัพท์ X
ตรงกับคำไหน ให้นักเรียนทำเครื่องหมายทับลงไปในช่องดังกล่าว X

จนกวา่ จะมคี นชนะ (ทำเครอ่ื งหมาย  ตดิ กัน 4 ชอ่ งในแนวใดก็ได้) ผชู้ นะจะตอ้ งพูดวา่ Bingo

2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ในชั่วโมงนี้ ให้นักเรียนทราบว่า นักเรียนจะได้ทบทวนและฝึกซ้ำในส่ิงท่ี

นกั เรียนไดเ้ รยี นมาแลว้ ใน Unit 4

กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้

1. นักเรียนเปิดหนังสอื เรียน หน้า 54 ข้อ 1 Ask and answer about your favourite animal. แล้วให้

นกั เรียนจบั คกู่ บั เพ่อื น ถามและตอบเก่ยี วกับสัตวท์ ีน่ ักเรยี นชนื่ ชอบ ดงั ตวั อย่างในหนังสอื เรียน เช่น

A: What’s your favourite animal?

B: My favourite animal is tiger.

A: Where does it live?

B: It lives in the jungle.

A: When does it sleep?

B: It sleeps during the day.

A: What does it look like?

B: It looks like a big cat.