วิธีการสืบค้นในรูปแบบ search engine

ในการค้นหาข้อมูลด้วย Search  Engine ส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่ผู้ใช้งานน่าจะพบเห็น หรือประสบอยู่เสมอๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นข้อมูลที่ค้นหาได้มีขนาดมากจนเกินไป  ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการใช้งานจึงน่าจะเรียนรู้เทคนิคต่างๆเพื่อช่วยลดหรือจำกัดคำที่ค้นหาให้แคบลงและตรงประเด็นกับเรามากที่สุด  ดังวิธีการต่อไปนี้

อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ซึ่งมีข้อมูลหลากหลายประเภทและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับแหล่งข้อมูลนี้ นั่นคือ มักประสบปัญหาไม่ทราบว่าข้อมูลที่ต้องการนั้นอยู่ในเว็บไซต์ใด ดังนั้นจึงได้มีเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า เครื่องมือช่วยค้น หรือ เสิร์ชเอ็นจิน (Search Engine) Search Engine คือ เครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต การสืบค้นข้อมูล คือ การนำความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต มาประยุกต์ใช้ในการศึกษาหาความรู้ ได้แก่ การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ในการสืบค้นข้อมูลนั้นถ้าหากเราทราบแหล่งข้อมูลหรือเว็บไซต์ เราก็สามารถพิมพ์หรือระบุ URL ในช่อง Address ได้เลย แต่ถ้าหากเราไม่ทราบว่าแหล่งข้อมูลนั้นอยู่ที่ใด เราสามารถใช้เว็บไซต์ที่เป็น Search Engine ช่วยในการค้นหาได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการสืบค้นในรูปแบบ search engine
Search Engine
วิธีการสืบค้นในรูปแบบ search engine

     การค้นหาข้อมูล (Search Engine) หมายถึง  การค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเราเปิดไปทีละหน้าจออาจจะต้องเสียเวลาในการค้นหา และอาจหาข้อมูลที่เราต้องการไม่พบ การที่เราจะค้นหาข้อมูลให้พบอย่างรวดเร็วจะต้องใช้เว็บไซต์สำหรับการค้นหาข้อมูลที่เรียกว่า Search Engine Site ซึ่งจะทำหน้าที่  รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่Web search engine ที่นิยมใช้กันมากที่สุด 3 อันดับ คือ  1. Google  2. Yahoo  3. MSN/Windows Live

ประเภทของการค้นหาข้อมูล Search Engine

     1.  Search Engine  การค้นหาข้อมูลด้วยคำที่เจาะจง
     Search Engine ประเภทนี้ ช่วยให้สามารถค้นหาข้อมูลได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด  เพียงแค่ระบุคำที่ต้องการค้นหาข้อมูล  เป็นรูปแบบที่นิยมมาก  เว็บไซต์ที่นิยมใช้ในการค้นหาข้อมูลในแบบนี้  เช่น  http://www.google.co.th
2. Subject Directories การค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่  มีเว็บไซต์ที่เป็นตัวกรองในการรวบรวมข้อมูล  ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต   จัดข้อมูลเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกข้อมูลตามที่ต้องการได้
การค้นหาข้อมูลวิธีนี้มีข้อดี  คือ  สามารถเลือกจากชื่อไดเรกทอรี่ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการค้นหา  และสามารถเลือกเข้าไปดูว่ามีเว็บไซต์บ้างได้ทันที  เช่น 
http://www.sanook.com
3. Meta search Engines การค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่งข้อมูล  เป็นการค้นหาข้อมูลจากหลาย ๆ  Search Engine ในเวลาเดียวกัน  เพราะเว็บไซต์ที่เป็น Meta search จะไม่มีฐานข้อมูลของตนเอง  แต่จะค้นหาเว็บเพจที่ต้องการ  โดยวิธีการดึงจากฐานข้อมูลของ Search Site  จากหลายแหล่งมาใช้แล้วจะแสดงผลให้เลือกตามความต้องการ  เช่น  www.thaifind.com
 การค้นหาโดยใช้  Search Engine  แบ่งเป็น 2 วิธี
      1.  การระบุคำเพื่อใช้ในการค้นหา  หรือเรียกว่า “คีย์เวิร์ด (Keyword) โดยในเว็บไซต์ต่าง ๆ  ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลจะมีช่องเพื่อให้กรอกคำที่ต้องการค้นหาลงไป  แล้วจะนำคำดังกล่าวไปค้นหาจากข้อมูลที่ได้จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของระบบ  เว็บไซต์ที่ให้บริการ  เช่น  www.google.co.th  การใช้คีย์เวิร์ดในการค้นหาข้อมูลต้องพยายามระบุคำให้ชัดเจน
2.  การค้นหาจากหมวดหมู่  หรือไดเรกทอรี่ (
Directories)  การให้บริการค้นหาข้อมูลด้วยวิธีนี้เปรียบเสมือนเราเปิดเข้าไปในห้องสมุด  ที่จัดหมวดหมู่ของหนังสือไว้แล้ว  ภายในหมวดใหญ่นั้น ๆ ประกอบด้วยหมวดหมู่ย่อย ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น  หรือแบ่งประเภทของข้อมูลให้ชัดเจน  จะสามารถเข้าไปหยิบหนังสือเล่มที่ต้องการได้แล้วก็อ่านเนื้อหา  มีเว็บมากมายที่ให้บริการค้นหาข้อมูลในรูปแบบนี้  เช่น  www.siamguru.com www.sanook.com   www.hunsa.com  www.thaiwebhunter.com
บทสรุปของการเลือกใช้ Search Engine การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต  เป็นการบริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง  เนื่องจากบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทีแหล่งข้อมูลอยู่มากมาย  และมีความสะดวกในการค้นหามากกว่าการค้นหาข้อมูลจากห้องสมุด  การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตจะต้องใช้เว็บไซต์ประเภท Search Engine  เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลข่าวสารได้
ประเภทของการค้นหาข้อมูลแบ่งเป็น  3  ประเภท  คือ  การค้นหาข้อมูลด้วยคำที่เจาะจง  การค้นหาข้อมูลตามหมวดหมู่  และการค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่งข้อมูล  ผู้ใช้สามารถเลือกวิธีการค้นหาและใช้เทคนิคในการค้นหาข้อมูลช่วย  เพื่อที่จะได้รับข้อมูลให้ตรงตามความต้องการและทำให้การค้นหาข้อมูลทำได้เร็วขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นเว็บไซต์ประเภท
Search Engine และเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลอยู่หลายเว็บไซต์  ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น  และการใช้บริการรูปแบบนี้เสมือนเป็นการเปิดประตูห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลอยู่มากมาย  ทำให้ข้อมูลที่ได้รับไม่เฉพาะเจาะจงอยู่เพียงในขอบเขตใดขอบเขตหนึ่งเท่านั้น  แต่สามารถหาได้จากหลายแหล่งข้อมูลทั่วโลก
ประเภทของ Search Engine
…….. 1. Keyword Index
…….. 2. Subject Directories
…….. 3. Metasearch Engines

Keyword Index เป็นการค้นหาข้อมูล
……..  โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจ ที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล ประมาณ 200-300 ตัวอักษร แรก ของเว็บเพจ วิธีการค้นหาของ
Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับ การเรียงลำดับข้อมูลก่อนหลัง การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความ รวดเร็วมาก แต่มีความละเอียด
ในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึง รายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่ถ้าต้องการแนวทาง ด้านกว้างของข้อมูล การค้นหา
แบบนี้จะเหมาะสมที่สุด เว็บที่ให้บริการ Search Engine แบบ Keyword Index ได้แก่เว็บ http://www.google.com/
และ http://www.altavista.com/

วิธีการสืบค้นในรูปแบบ search engine

Subject Directories การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine
……..  ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ของแต่ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้คนพิจารณาเว็บเพจ แต่ละเว็บ แล้วทำการ
จัดหมวดหมู่ โดยจะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้น ๆ อยู่ในกลุ่มของอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัด แบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป ได้แก่เว็บ http://www.thaiwebhunter.com/ และ
http://www.sanook.com

วิธีการสืบค้นในรูปแบบ search engine

Metasearch Engines
…….. จะเป็น Search Engine ที่ใช้ในการค้นหาเว็บ ด้วยตัวของ Search Engine แบบ Metasearch Engines เองแล้ว แต่ที่เด่นกว่านั้นคือ
Search Engine แบบ Metasearch Engines จะยังสามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ เพื่อเรียกดูข้อมูลที่ Search Engine
อื่น ๆ ค้นพบ โดยสังเกตได้จาก จะมีคำว่า [Found on Google, Yahoo!] ต่อทางด้านท้าย นั้นก็หมายความว่าการค้นหา ข้อความนั้น ๆ มาการเชื่อม
โดยไปค้นข้อมูลจาก เว็บ Google และ Yahoo แต่การค้นหา ด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษรและมักจะ
ไม่ค้นหาคำประเภท Natural Language (ภาษาพูด) และที่สำคัญ Search Engine แบบ Metasearch Engines ส่วนมากไม่รองรับภาษาไทย
http://www.dogpile.com และ http://www.kartoo.com/

วิธีการสืบค้นในรูปแบบ search engine

วิธีการทำงานของ Google Search

เมื่อคุณนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์และทำการค้นหาใน Google คุณจะเห็นรายการผลลัพธ์จากทั่วทั้งเว็บเกือบจะทันที Google ค้นหาหน้าเว็บที่ตรงกับข้อความค้นหาของคุณ และกำหนดลำดับของผลการค้นหาอย่างไร

กล่าวง่ายๆ คือ คุณสามารถเปรียบการค้นหาเว็บเป็นการดูหนังสือเล่มใหญ่มากๆ ซึ่งมีดัชนีอันน่าทึ่งที่บอกให้ทราบว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตรงไหนได้อย่างแม่นยำ เมื่อคุณทำการค้นหาโดย Google โปรแกรมของเราจะตรวจสอบดัชนีของเราเพื่อกำหนดผลการค้นหาที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุด ซึ่งจะส่งคืน (“แสดง”) ให้กับคุณ

ขั้นตอนหลักสามขั้นตอนในการแสดงผลการค้นหาให้แก่คุณ มีดังนี้

  • การรวบรวมข้อมูล: Google ทราบเกี่ยวกับไซต์ของคุณไหม เราสามารถหาเจอไหม
  • การจัดทำดัชนี: Google สามารถจัดทำดัชนีไซต์ของคุณได้ไหม
  • การแสดง: ไซต์นั้นมีเนื้อหาที่ดีและมีประโยชน์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้นหาของผู้ใช้ไหม

 

Google Docs  คือ

Google Documents หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Google Docs เป็นบริการออนไลน์ที่ให้คุณสามารถจัดการเอกสารได้แบบไม่ต้องเสียเงิน เพียงแค่คุณมีอีเมลของ Gmail และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพราะ Google Docs เตรียมมาให้คุณหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รายงานแบบที่คุ้นเคย การทําสไลด์เพื่อนําเสนองานสําคัญ หรือจะจัดการเอกสารแบบ Spreadsheets ได้เหมือน Excel ก็สามารถทําได้ Google Docs ทํางานเหมือน Microsoft Office แต่ทุกอย่างจะทํางานอยู่บนเว็บ สามารถทํางานได้ทันทีที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่อง หรือเสียเงินค่าลิขสิทธิ์ก่อนใช้งานแต่อย่างใด เพียงแค่เข้าไปยัง Google Docs เราก็สามารถสร้าง แก้ไข หรือเปิดอ่านเอกสารได้เลย โดยตัวเอกสารนั้นจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของ Google และที่สําคัญเราสามารถแชร์เอกสารให้กับเพื่อนเพื่อแก้ไขข้อมูลไปพร้อมๆ กัน โดยจะเห็นว่าอีกฝ่ายกําลังพิมพ์อะไรอยู่