โครงงานคุณธรรม ระเบียบ วินัย 5 บท doc

โครงงานคุณธรรม ระเบียบ วินัย 5 บท doc
ดาวน์โหลดไฟล์ แก้ไขได้ โครงงานคุณธรรม โครงงานความดี เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการทําความดี

ดาวน์โหลดไฟล์ แก้ไขได้ โครงงานคุณธรรม โครงงานความดี เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการทําความดี

โครงงานคุณธรรม หรือโครงงานความดี เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการทําความดี มี คุณธรรมแบบเชิงรุก โดยให้ผู้เรียนที่เป็นเด็กและเยาวชนเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจกรรมการเรียนรู้ นี้เอง ผ่านเทคนิควิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Approach) โดยประเด็นที่เลือกทําโครงงาน นั้นเกิดขึ้นมาจากความสนใจและความคิดริเริ่มของผู้เรียนเอง เน้นการเรียนรู้ผ่านกระบวนการกลุ่มที่ ลงมือปฏิบัติงานจริง ด้วยความพากเพียรพยายามอย่างจดจ่อต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน พอสมควร (ต้องทํางานจริงไม่น้อยกว่า ๒ เดือน) ในลักษณะวิจัยปฏิบัติการ (action research) นําไปสู่ การแก้ไขปัญหาด้านความเสื่อมทรามทางศีลธรรม และส่งเสริมการบ่มเพาะความดีมีคุณธรรมอย่าง เป็นรูปธรรมและเป็นระบบ

โครงงานคุณธรรม การออมอนุบาลและประถม
โครงงานคุณธรรม เช้านี้ที่เสาธง
โครงงานคุณธรรม เดินขวา
โครงงานคุณธรรม ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน
โครงงานคุณธรรม ธรรมชาติ
โครงงานคุณธรรม พิสูจน์คนดี
โครงงานคุณธรรม พูดสวยรวยเสน่ห์
โครงงานคุณธรรม อยากมีเกรดดี
โครงงานคุณธรรม อยากมีเกรดดีแค่รับผิดชอบ
โครงงานคุณธรรม ห้องสวยด้วยมือเรา
โครงงานคุณธรรม ห้องเรียนสวยปิ้ง
โครงงานคุณธรรม ห้องน้ำสดใสหัวใจริง
โครงงานคุณธรรม ใส่ใจการแต่งกาย
โครงงานคุณธรรม สามัคคีมีพลัง
โครงงานคุณธรรม สามัคคีคือพลัง
โครงงานคุณธรรม สอนเต็มที่
โครงงานคุณธรรม สอนเต็มที่สอนเต็มเวลา
โครงงานคุณธรรม สวยใสตามวัยนักเรียน
โครงงานคุณธรรม สร้างวินัยสร้างน้ำใจ
โครงงานคุณธรรม วินัย สร้างได้แค่ปลายเท้า
โครงงานคุณธรรม วินัยดีสร้างได้ที่นี้
โครงงานคุณธรรม วินัยดีเริ่มจากเสื่อผ้า
โครงงานคุณธรรม เรียนรักหรือจะสู้รักเรียน
โครงงานคุณธรรม ร่วมด้วยช่วยทำ
โครงงานคุณธรรม ร่วมใจสร้างวินัย
โครงงานคุณธรรม ทั้งหมดตรง เคารพธงชาติ
โครงงานคุณธรรม แต่งกายเป็นศรีแก่ตน
โครงงานคุณธรรม แต่งกายดีชีวิมีสุข
โครงงานคุณธรรม แต่กายดี ซีรีมีสุข60
โครงงานคุณธรรม เด็กรุ่นใหม่ใส่ใจการออม
โครงงานคุณธรรม เช้านี้ที่เสาธง
โครงงานคุณธรรม พูดสวยรวยเสน่ห์
โครงงานคุณธรรม พิสูจน์คนดี
โครงงานคุณธรรม ธรรมชาติ
โครงงานคุณธรรม ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน
โครงงานคุณธรรม เดินขวา
โครงงานคุณธรรม เช้านี้ที่เสาธ
โครงงานคุณธรม การออมอนุบาลและประถม
โครงงานคุณธรรม เกลียวเชือก
โครงงานคุณธรรม เข้าคิวสร้างวินัย
โครงงานคุณธรรม แก้ศูนย์รอไม่งอครู
โครงงานคุณธรรม เกลียวเชือกแห่งคุณธรรม
โครงงานคุณธรรม กู๊ตบายศูนย์ s new
โครงงานคุณธรรม การแต่งกาย

ดาวน์โหลดไฟล์โครงงานคุณธรรม

Back to top button

โครงงานคณุ ธรรมประจาหอ้ งเรียนระดบั ปฐมวยั

เรือ่ ง “เด็กดีมรี ะเบียบวินยั ตอ่ แถวไวไ้ ม่แซงหนา้ ”
นกั เรยี นช้นั อนบุ าลปีที่ 2/4
ประจาปกี ารศกึ ษา 2563

นางธิดา สพั โส
นางสาวสุมาลี บา้ นนาพไิ ล
คณุ ครทู ีป่ รกึ ษาโครงงานประจาช้นั อนบุ าลปีที่ 2/4

โรงเรียนตากสนิ ราชานุสรณ์ อาเภอเมือง จังหวดั ตาก
สังกดั สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาตาก เขต 1

กระทรวงศึกษาธิการ

บทที่ 1 บทนา

1. ชือ่ โครงงาน “เดก็ ดมี รี ะเบยี บวนิ ัย ตอ่ แถวไวไ้ ม่แซงหน้า”
2. ทมี่ าและความสาคญั

การฝึกระเบยี บวนิ ัยเปน็ ส่งิ สาคญั ในชีวิตเด็ก พ่อแม่ ผูป้ กครอง ครูจาเปน็ ตอ้ งสอนให้เด็กรู้ว่าอะไรควรทา อะไรไม่
ควรทา และขอบเขตของพฤติกรรมอย่แู ค่ไหน การฝกึ วินัย คอื การสอนเด็กให้รจู้ กั ควบคุมพฤติกรรมของตนเอง เม่อื เด็กยัง
เลก็ พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครูจะตอ้ งเปน็ ผู้ชว่ ยเดก็ ควบคมุ พฤติกรรมของเขา ดว้ ยการอบรมอยา่ งเสมอตน้ เสมอปลายตง้ั แตเ่ ลก็
เมอื่ โตข้ึนเดก็ จะควบคุมตนเองไดใ้ นทสี่ ุด

เดก็ นกั เรยี นชัน้ อนบุ าลปีท่ี 2/4 ซง่ึ สว่ นมากเป็นเดก็ ท่ยี ้ายมาเรียนในระดบั ชน้ั อนบุ าล 2 เป็นเด็กใหม่ การเขา้ สังคม
และการฝกึ ระเบยี บวินัยท่เี ป็นแบบแผนในแนวเดียวกนั จงึ จาเปน็ อยา่ งยง่ิ เม่ือเด็กมาอยรู่ วมกนั

จากการสงั เกตพฤติกรรมของเดก็ ชน้ั อนุบาลปที ี่ 2/4 เวลาครูใหเ้ ด็กไปทากจิ กรรมต่างๆในชวี ติ ประจาวัน เด็กจะไม่
ยอมเดนิ แถวให้เปน็ ระเบียบ เวลาไปหยิบของจะชอบแยง่ กันไม่ตอ่ คิวหรอื แถวตามลาดบั กอ่ นหลัง

ครูจงึ นาปัญหาจากพฤตกิ รรมดังกล่าว มาคุยกบั เด็กๆว่าเราจะทาอย่างไรดีกบั พฤตกิ รรมแบบน้ี และแนวทางและ
วิธกี ารแก้ไขในเร่อื งของระเบียบวนิ ัยจากการทากจิ กรรมตา่ งๆของเด็ก

3. วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน

วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน ( K P A )
Knowledge : ดา้ นความรู้

a. เพ่ือให้นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ ระเบียบวนิ ัยและอดุ มการณ์คณุ ธรรม
Process : ด้านกระบวนการปฎบิ ัติ

b. เพอ่ื ฝึกใหน้ ักเรียนรจู้ ักความเปน็ ระเบยี บ การมีวินยั ในการตอ่ แถวทากิจกรรมตา่ งๆ
Attitude : ด้านเจตคติ

c. เพ่อื ให้นักเรียนร้จู กั ความเปน็ ระเบียบ การมีวนิ ัย ตามข้อตกลงในห้องเรยี นร่วมกับผอู้ น่ื ได้

4. ปญั หา

เดก็ นกั เรียนช้นั อนุบาลปีท่ี 2/4 ทากิจกรรมตา่ งๆไม่รู้รอคอยตอ่ แถวทากิจกรรมต่างๆตามลาดบั ไมม่ รี ะเบียบวินยั

5. สาเหตุ

เด็กนกั เรียนช้ันอนบุ าล 2/4 ขาดระเบยี บวินัยในการเขา้ แถวทากิจกรรมต่างๆ

6. กลุ่มเป้าหมาย / ระยะเวลา
- เชิงปรมิ าณ กลุ่มนักเรียนชนั้ อนุบาล 2/4ปกี ารศกึ ษา 2563 โรงเรียนตากสินราชานุสรณ์จานวน 13 คน

- เชิงคุณภาพ นักเรยี นช้ันอนบุ าล 2/4 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนตากสนิ ราชานสุ รณจ์ านวน 13 คน
มรี ะเบยี บวินยั ในการตอ่ แถว/ระยะเวลา ( ตัง้ แต่เดือนกรกฎาคม – เดือนกันยายน 2563 )

7. วิธกี ารแกป้ ัญหา

- สร้างขอ้ ตกลงรว่ มกันในการรอคอยต่อเดนิ แถวตามลาดบั ใหเ้ ป็นระเบียบในการทากิจกรรมต่างๆ
- ครูเลา่ นทิ าน/เสริมแรง/ให้คาแนะนา

8. หลกั ธรรม/พระบรมราโชวาท

"วินัยนนั้ เมือ่ นามาฝึกหดั ปฏิบัตจิ ะเปน็ ดังขอ้ บังคับทีค่ วบคมุ บุคคลใหป้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ิเป็นระเบียบ จึงอาจทา
ให้เกิดความอึดอดั ลาบากใจ เพราะตอ้ งฝนื กระทา แตเ่ มื่อปฏิบัติไปให้ชินจนรู้สึกวา่ เป็นไปโดยอตั โนมตั ิแล้วกจ็ ะ
สาเรจ็ ผล ทาให้เปน็ คนมีระเบียบ และเป็นระเบยี บ คอื คิดก็เป็นระเบยี บ ทากเ็ ปน็ ระเบยี บ ตามลาดับขน้ั ตอนตาม
กาลเทศะ ตามความพอเหมาะพอควร หายสับสน หายลงั เล และหายขดั แยง้ ท้ังในความคดิ ทงั้ ในการทางาน
สามารถนาวิชาความรู้และความชานาญทุก ๆ ประการ ไปใช้อยา่ งถูกต้องคลอ่ งแคลว่ สาเร็จผลเต็มเมด็ เต็มหนว่ ย
ช่วยใหเ้ กิดผลสมบรู ณ์ตามจุดหมาย ทงั้ จะเกือ้ กูลรักษาผมู้ ีวินัยใหเ้ จรญิ สวัสดที ุกเม่ือ"

(พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวภมู ิพลอดลุ ยเดช 26 มีนาคม 2527)

9. เชื่อมโยงคณุ ธรรมอัตลักษณ์

เชอื่ มโยงกบั คณุ ธรรมเปา้ หมาย : ความรับผดิ ชอบ

คุณธรรมอัตลกั ษณ์ของนักเรียน : การรอควิ ต่อแถวด้วยตนเองอยา่ งเปน็ ระเบยี บวนิ ยั

ตวั ช้ีวดั – พฤตกิ รรมที่พงึ ประสงคข์ องนกั เรียนเพม่ิ ขึน้

เชอ่ื มโยงกับคณุ ธรรมเปา้ หมาย : อุดมการณ์คุณธรรม

คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ของนักเรยี น : รูจ้ ักรอคอยในการต่อแถวรอควิ ทากจิ กรรมต่างๆ

ตัวช้ีวัด – พฤติกรรมท่พี ึงประสงค์ของนักเรยี นเพมิ่ ขน้ึ

เช่อื มโยงคุณธรรมอตั ลกั ษณโ์ รงเรียนตากสินราชานุสรณ์

ยึดมน่ั อุดมการณค์ ณุ ธรรม เลิศล้าความรับผดิ ชอบ

เชิดชูกตญั ญู ซื่อสัตย์ สุจริต สบื สานวิถชี ีวติ แหง่ ความพอเพยี ง

เชอ่ื มโยงคุณธรรมอัตลกั ษณห์ ้องเรียน
เรียนเล่นอย่างมีวนิ ยั เกบ็ และรกั ษาของใชอ้ ย่างประหยัดพอเพียง

10. วธิ กี ารวดั ผลประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั ผล : การสงั เกตพฤติกรรม
เคร่อื งมือ : แบบสงั เกต
ระยะเวลา : ตง้ั แตเ่ ดือนตง้ั แตเ่ ดอื นกรกฎาคม – เดอื นกนั ยายน 2563

11. ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ ช่อื เล่น
นอ้ งปงั ปอนด์
ที่ ชอ่ื -สกลุ นอ้ งชนิ จัง

1 เดก็ ชายณชั พล พริ มทอง นอ้ งคมิ
2 เดก็ ชายนมิ ติ ร ชยั เรอื งรอง น้องอังเปา
3 เด็กชายธนภัทร เพยี จันทกึ น้องบอส
4 เดก็ ชายณภทั ร กก๊ รัมย์ นอ้ งข้าวตงั
5 เดก็ ชายจริ ภัทร ปรเี ปรม นอ้ งเอม
6 เด็กชายอิทธิกร บุญจนั ทร์ น้องกาฟิวส์
7 เด็กหญงิ กมลวรรณ หอมหวล น้องอะตอม
8 เด็กหญงิ อารยา สายเสน นอ้ งน้าหน่ึง
9 เดก็ หญงิ ศรัณย์พร โทนสังขอ์ ินทร์ น้องเจสต์
10 เดก็ หญงิ จรรยาภรณ์ ปรเี ปรม นอ้ งขา้ วหอม
11 เด็กหญงิ กานต์พชิ ชา ดว้ งหริ ัญ นอ้ งการต์ นู
12 เดก็ หญงิ ปภาวรินทร์ กลน่ิ เดช
13 เด็กหญงิ สวุ ิมล จนั ทร์ออ่ นแสง

12. ท่ปี รกึ ษาโครงงาน ครูประจาชนั้ อนบุ าลปีท่ี 2/4
นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครูช้นั อนุบาลปีท่ี 2/4
นางธดิ า สัพโส
นางสาวสมุ าลี บา้ นนาพไิ ล

13.ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั

Knowledge : ด้านความรู้
a. นกั เรียนมคี วามร้คู วามเข้าใจเกย่ี วกบั ความรับผิดชอบ ความมีระเบยี บวินัยและอุดมการณ์คุณธรรม

Process : ดา้ นกระบวนการปฎบิ ัติ
b. นกั เรยี นตอ่ แถวโดยร้จู ัก รอคอยต่อควิ ให้เปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยได้

Attitude : ด้านเจตคติ
c. นักเรยี นร้จู กั เข้าแถวต่อคิวใหเ้ ป็นระเบียบตามข้อตกลงในหอ้ งเรยี นรว่ มกบั ผูอ้ น่ื ได้

บทท่ี 2
เอกสารและทฤษฎที ี่เกย่ี วขอ้ ง

1. เอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง
การดาเนินโครงการคณุ ธรรม เรือ่ ง “เด็กดมี รี ะเบยี บวินยั ตอ่ แถวไว้ไม่แซงหน้า”ของนกั เรียนชัน้ อนบุ าลปีที่ 2/4

โรงเรยี นตากสนิ ราชานสุ รณ์ ปีการศึกษา 2563 ในคร้ังนี้ คณะผูจ้ ัดทาได้ทาการศึกษาค้นควา้ เอกสารและทฤษฎีต่างๆ ที่
เก่ยี วข้องเกยี่ วกับการจดั ทาโครงงานในคร้งั นี้ ตามประเด็นความสาคญั ในการดาเนนิ งานโครงงาน ดงั นี้

- ความรบั ผิดชอบ
- ความมวี ินัย ความมรี ะเบียบ
- เอกสารทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับพระบรมราโชวาท
- เอกสารงานวจิ ัยท่เี ก่ียวขอ้ ง
ความรับผดิ ชอบ
ความหมายของความรบั ผิดชอบ

กลุม่ ประชาสมั พันธ์ (สานกั งานรฐั มนตรี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, 2552) ได้ให้คานยิ ามของ คาวา่ ความรบั ผดิ ชอบ
หมายถงึ การตระหนกั ในสิทธแิ ละหนา้ ที่ ความสานึกในความรับผดิ ชอบต่อสงั คม การใสใ่ จปัญหาการบริหารจัดการ การ
กระตอื รอื รน้ ในการแก้ปัญหาและเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง รวมท้งั ความกลา้ ที่จะยอมรับผลดีและผลเสยี จากกระทา
ของตนเอง

เตมิ ศักด์ิ สวุ รรณ (2553) ความรบั ผิดชอบ หมายถึง การมีความมุ่งมัน่ ต้งั ใจปฏบิ ัติหนา้ ท่ีการงานให้บรรลุ
ความสาเร็จตามความมงุ่ หมายยอมรบั ผลการกระทานนั้ และพยายามปรับปรุงการปฏิบัติหนา้ ที่ให้ดียง่ิ ข้นึ หรอื อกี
ความหมายหนง่ึ ความรับผิดชอบ หมายถึง ความสานกึ ไดอ้ ยู่เสมอในการปฏิบตั ิงาน เอาใจใสต่ ิดตามผลไม่ทอดท้งิ ยอม
รับผดิ ชอบผลของหน้าที่การงานทีต่ นเองกระทาท้ังดีและไม่ดี ไม่ปดั ความรบั ผดิ ชอบในหนา้ ท่ีของตนแกผ่ ู้อืน่

พระธรรมกติ ตวิ งศ์ (ทองดี สุรเตโช) (2553) ความรับผดิ ชอบ หมายถึง ความรบั ผิดชอบเมื่อดาเนนิ การผิดพลาดไป
และรับผดิ ชอบด้วยความเต็มใจ เมือ่ เกดิ ผลงานทีด่ ีเดน่ สาเรจ็ ตาเป้าหมาย หรอื อีกนยั หน่ึง “ความรบั ผดิ ชอบ คือความตั้งใจ
ปฏิบัติภารกจิ ของตน ให้เกดิ ผลสาเร็จเรยี บร้อย ถกู ตอ้ งและตรงเวลา ดว้ ยความสุจรติ ความเต็มใจและความจริงใจ”

ความรบั ผดิ ชอบ หมายถงึ ความมงุ่ มน่ั และความพยายามในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้บรรลุผลสาเร็จ ยอมรับ
ผลของการกระทานั้นๆ ทัง้ ด้านดแี ละดา้ นเสยี พรอ้ มท่ีจะปรับปรงุ งานของตนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ

ยง่ิ ข้นึ โดยความรับผดิ ชอบนจี้ ะเปน็ สง่ิ เกือ้ หนุนใหน้ กั เรียนปฏิบตั หิ นา้ ที่ของตนโดยไม่ต้องมีการบังคับจากบุคคลอื่น
(หนา้ 27)

ความรับผิดชอบ RESPONSIBILITY หมายถึง ลกั ษณะของบุคคลที่แสดงออกถึงความเอาใจใส่ จดจ่อต้งั ใจ มงุ่ มนั่
ต่อหนา้ ทีก่ ารงาน การศึกษาเลา่ เรยี น และการเป็นอย่ขู องตนเอง และ ผอู้ ยใู่ นความดแู ล ตลอดจนสังคม อยา่ งเตม็
ความสามารถ เพ่อื ให้บรรลุผลสาเร็จตามความมงุ่ หมายในเวลาท่กี าหนด ยอมรับผลการกระทาทงั้ ผลดแี ละผลเสียท่ีเกดิ ขนึ้
รวมทงั้ ปรบั ปรงุ การปฏิบตั ิงานให้ดีขน้ึ เป็นความผูกพนั ในการท่จี ะปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ให้สาเร็จลุลว่ งไปได้ และความสาเรจ็ นี้
เก่ยี วขอ้ งกับปัจจัย 3 ประการ คอื พนั ธะผกู พัน หนา้ ทกี่ ารงาน และวัตถปุ ระสงค์แบ่งประเภทความรับผดิ ชอบไวด้ ังนี้

1. ความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง หมายถงึ การรับรู้ฐานนะและบทบาทของตนท่ีเปน็ สว่ นหน่ึงของสงั คมจะตอ้ งดารงตนให้
อยู่ในฐานนะทีช่ ว่ ยเหลือตัวเองได้ รจู้ ักวา่ สิง่ ใดถูก สง่ิ ใดผดิ ยอมรบั ผลการกระทาของตนเองท้งั ทเ่ี ปน็ ผลดีและผลเสีย
เพราะฉะน้ันบคุ คลทีม่ คี วามรบั ผดิ ชอบในตนเองย่อมจะไตร่ตรองดูใหร้ อบคอบก่อนวา่ สิ่งท่ีตนเองทาลงไปนนั้ จะมีผลดี
ผลเสียหรอื ไมแ่ ละจะเลอื กปฏิบัติแต่สิ่งท่ีจะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลดีเทา่ นนั้

2. ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม หมายถึง ภาระหนา้ ท่ีของบุคคลทีจ่ ะตอ้ งเก่ยี วข้อง และมีส่วนรว่ มต่อสวัสดีภาพของสังคมท่ี
ตนเองดารงอยู่ ซ่งึ เปน็ เรือ่ งท่ีเก่ยี วข้องกบั หลายสิ่งหลายอย่าง ต้งั แต่สังคมขนาดเลก็ ๆ จนถึงสงั คมขนาดใหญ่ การกระทา
ของบุคคลใดบุคคลหน่ึงยอ่ มมีผลกระทบตอ่ สงั คมไม่มากกน็ ้อย บุคคลทกุ คนจึงต้องมภี าระหน้าท่ีและความรบั ผิดชอบที่
จะตอ้ งปฏิบตั ติ อ่ สังคม ดงั ต่อไปนี้

2.1 ความรับผิดชอบตอ่ หน้าทพ่ี ลเมือง ได้แก่ การปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของสังคม การรักษาทรัพย์สนิ ของสังคม
การชว่ ยเหลอื ผู้อื่น และการให้ความร่วมมอื กบั ผู้อน่ื

2.2 ความรับผิดชอบตอ่ ครอบครวั ได้แก่ การเคารพเชอ่ื ฟังผู้ปกครอง การชว่ ยเหลืองานบ้านและการรักษาชอ่ื เสียง
ของครอบครวั

2.3 ความรบั ผดิ ชอบตอ่ โรงเรียน ไดแ้ ก่ ความตงั้ ใจเรยี น การเชอื่ ฟงั ครู – อาจารย์ การปฏิบตั ิตามกฎของโรงเรยี น
และการรกั ษาสมบตั ิของโรงเรยี น

2.4 ความรับผิดชอบตอ่ เพ่ือน ได้แก่ การช่วยตักเตือนแนะนาเมื่อเพื่อนกระทาผิด การช่วยเหลือเพ่ือนอยา่ ง
เหมาะสม การให้อภยั เมอ่ื เพ่ือนทาผิดการไม่ทะเลาะและ เอาเปรยี บเพือ่ น และการเคารพสิทธิซ่ึงกันและกนั

ความรับผิดชอบ หมายถึง ภาระหรือพนั ธะผูกพนั ในการจะปฏิบัติหน้าท่กี ารงานของผู้รว่ มงานให้เปน็ ไปตาม
เปา้ หมายขององคก์ ารเน่อื งจากบคุ คลตอ้ งอยรู่ ่วมกันทางานในองค์การ จาเปน็ ตอ้ งปรับลักษณะนิสัย เจตคติของบุคคลเพอื่
ช่วยเปน็ เครื่องผลักดันให้ปฏบิ ัติงานตามระเบียบรู้จกั เคารพสิทธขิ องผ้อู ่นื ปฏิบตั ิงานในหน้าทท่ี ี่ตอ้ งรบั ผดิ ชอบและมีความ
ซื่อสตั ยส์ ุจรติ คนที่มีความรับผิดชอบ จะทาใหก้ ารปฏิบัติงานไปส่เู ปา้ หมายทวี่ างไว้ และชว่ ยให้การทางานร่วมกันเปน็ ไป
ด้วยความราบรื่น ความรับผิดชอบจึงเป็นภาระผูกพนั ทีผ่ ้นู าตอ้ งสรา้ งข้นึ เพือ่ ให้องคก์ ารสามารถบรรลุเป้าหมายไดอ้ ย่างดี ถ้า
ในองค์การใดมบี ุคคลท่ีมีความรับผิดชอบ จะทาให้เกิดผลดีต่อองคก์ ารดงั นคี้ อื

1. องคก์ ารจะไดร้ บั ความเชอ่ื ถือและไว้วางใจจากผรู้ ว่ มงานและผอู้ ืน่
2. การปฏบิ ัติงานจะพบความสาเรจ็ ทนั เวลาและทันต่อเหตกุ ารณ์ ภายใต้สถานการณท์ ีเ่ ปลีย่ นแปลงตลอดเวลา
3. ทาให้เกิดความเชือ่ ถือในตนเอง เพราะปฏบิ ตั หิ น้าท่ีไดอ้ ย่างเรยี บร้อย
4. องค์การเกิดความมน่ั คงเป็นท่ียอมรบั นบั ถือจากผู้อน่ื
5. องคก์ ารประสบความสาเร็จสามารถพฒั นาไปสู่ความเป็นปกึ แผน่ และมั่นคง
6. สามารถปฏบิ ตั ิงานได้อย่างราบร่นื ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอยา่ งดี

จากคากล่าวของบคุ คลต่าง ๆ เกย่ี วกับความหมายของความรบั ผดิ ชอบในมมุ มอง
หลากหลาย ดังน้นั ในความคิดเหน็ ของผ้วู จิ ัยจึงสรุปเกยี่ วกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีการปฏิบัติงาน
ไดว้ า่ การปฏิบตั ิงานตามภาระหน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมายใหเ้ กดิ ผลสาเร็จภายในเวลาท่ีกาหนด หรือ
ภายในเวลาที่เหมาะสม อันประกอบดว้ ย การตรงต่อเวลา การมวี นิ ยั และความซ่ือสตั ย์
ความมวี ินัย ความมีระเบียบ

ความหมายของความมวี ินัยในตนเอง
ความมีวินัยในตนเอง หมายถึง ความสามารถของบุคลในการควบคุมอารมณ์หรือพฤติกรรมของตนเองให้เป็นไป
ตามที่มุ่งหวงั การทีบ่ คุ คลปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของสังคม ซึ่งเกิดจากสานึกของตนเองให้มีคุณลักษณะตามท่ีสังคม
ยอมรับ เพอ่ื ความสงบสขุ ของสังคม
ความสาคญั ของวินัยในตนเอง
ความมีวินัยเป็นส่ิงสาคัญท่ีครูผู้สอนต้องให้ความสาคัญในการส่งเสริมให้เกิดข้ึนในวัยเด็ก ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้
นักเรยี นเหน็ คณุ ค่าของการมวี ินัยเพือ่ ความสุขและความสาเร็จของตนเองและสังคม ดงั นนั้ การท่จี ะให้เกดิ วินัยข้ึนในหมู่คณะ
ไมว่ า่ จะเปน็ วินัยด้านใดก็ตามล้วนแต่มคี วามสาคญั และจาเป็นต่อการอยู่ร่วมกนั ในสังคมหากแต่วินัยในตนเองน้นั เปน็ พน้ื ฐาน
ท่ีนาไปสคู่ วามมีวินยั ในหมคู่ ณะและสังคมตอ่ ไป
ประโยชนข์ องวนิ ยั ในตนเอง
วินัยเป็นส่ิงสาคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้มีประสิทธิภาพเพ่ือท่ีจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีความ
รบั ผิดชอบและเป็นผูใ้ หญท่ ี่มีคณุ ภาพเพราะเด็กในวนั น้ีคือผู้ใหญ่ในวันหน้า การฝึกวินัยต้ังแต่เด็กจึงมีความสาคัญเป็นอย่าง
มาก ดงั นนั้ ผ้ปู กครอง ครู โรงเรียน จึงเป็นสว่ นสาคญั ในการฝึกฝนและส่งเสริมการสร้างวินัย เพราะวินัยเกิดจากการฝึกฝน
อบรม ฝึกปฏิบัติ หากนักเรียนมีวินัยในตนเองดีแล้วก็จะเป็นประโยชน์ในทุกๆ ด้าน เป็นประโยชน์กับตนเอง สังคม และ
ประเทศชาติต่อไป
เอกสารทเ่ี กยี่ วข้องกับพระบรมราโชวาท
“ วนิ ยั นนั้ เมอ่ื นามาฝึกหัดปฏิบตั ิจะเป็นดังขอ้ บังคับทคี่ วบคมุ บุคคลให้ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิเป็นระเบยี บ จงึ อาจทาให้เกดิ
ความอึดอดั ลาบากใจ เพราะตอ้ งฝนื กระทา แต่เม่ือปฏิบตั ไิ ปใหช้ นิ จนรู้สกึ ว่าเป็นไปโดยอัตโนมตั ิ
แลว้ กจ็ ะสาเรจ็ ผล ทาใหเ้ ปน็ คนมรี ะเบียบ และเป็นระเบยี บ คือคิดกเ็ ปน็ ระเบยี บ ทากเ็ ปน็ ระเบยี บ ตามลาดับขั้นตอนตาม
กาลเทศะ ตามความพอ”พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช 26 มีนาคม 2527
เอกสารงานวิจัยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
(กาญจนา พงษเ์ จริญ 2555)จากเอกสารงานวิจยั ทีเ่ กย่ี วข้อง สรุปได้ว่า การพัฒนาวินัยในตนเองด้วยกิจกรรม
การจัดเก็บของเล่นสาหรบั เด็กปฐมวยั วินัยในตนเองเป็นสง่ิ ทีม่ คี วามสาคญั ตอ่ เด็กปฐมวัย สามารถท่ีจะสอนและปลกู ฝงั ให้
เกดิ ข้นึ ในตัวเดก็ ได้ ดงั นนั้ ผู้เกี่ยวขอ้ งกบั เดก็ จงึ ควรไดต้ ระหนกั ถึงการคดิ หาวธิ โี ดยเฉพาะการให้แรงเสรมิ เพอ่ื พัฒนาความมี
วนิ ัยในตนเองซง่ึ เป็นการวางรากฐานท่ดี ีตอ่ ไปในอนาคต
สภุ ัค ไหวหากิจ (2543) ไดศ้ ึกษาเปรยี บเทียบการรับรวู้ นิ ยั ในตนเองของเด็กปฐมวยั ที่ได้รับกิจกรรมการเล่านิทาน
คติสอนธรรม และการเล่นเกมแบบร่วมมือ กลมุ่ ตวั อยา่ งเป็นเด็กปฐมวัยชนั้ อนุบาลปีที่ 2 อายุระหว่าง 5 – 6 ปี จานวน

30 คน ผลการศกึ ษาพบวา่ เดก็ ปฐมวัยท่ีไดร้ ับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานคติสอนธรรมมีการรับรู้วินัยในตนเองสูงกว่า
เดก็ ปฐมวัยท่ีไดร้ ับการจัดกิจกรรมการเล่นเกมแบบร่วมมอื แตไ่ ม่แตกตา่ งกนั

ทฤษฎมี าร์ชเมลโลเ่ ทส : กฏแห่งการรอคอยความสาเร็จ
ในการวจิ ัยของ มหาวทิ ยาลยั สแตนฟอร์ด แหง่ สหรัฐอเมรกิ า นักวิจยั ไดท้ ดลอง โดยปลอ่ ยให้เด็กๆ อย่ใู นหอ้ งตามลาพัง
และแจกขนม “มาร์ชเมลโล” ใหเ้ ด็กคนละก้อนจากน้นั เสนอใหเ้ ด็กเลอื กวา่ จะกินมันเขา้ ไปทนั ที หรอื จะคอยอกี สบิ ห้านาที
ถ้าเดก็ คนไหนคอยได้ พวกเขาก็สัญญาวา่ จะให้ มาร์ชเมลโลแก่เดก็ คนนน้ั เพม่ิ อีกก้อนซึง่ จากการทดลองพบว่า เด็กบางคน
เลอื กทก่ี ินขนมมาร์ชเมลโลเข้าไปทันที ในขณะที่บางคนเลือกท่ีจะคอย
** ผลวจิ ยั ออกมาว่า เด็กที่สามารถยับย้ังช่ังใจไม่กนิ ขนมมารช์ เมลโลไดน้ ้นั มีผลการเรยี นทีด่ ีกวา่ สามารถเขา้ กบั คนอนื่ ได้
ดีกวา่ และจดั การกบั ความเครียดได้ดกี ว่าเดก็ ที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ใหก้ ินขนม มาร์ชเมลโลก้อนแรก

จากการวจิ ัยของนักจิตวิทยามหาวิทยาลยั โคลัมเบยี พบวา่ เด็กทส่ี ามารถหักหา้ มใจตัวเองไมแ่ อบกินขนมมารช์ เมลโล่
ท่ีทิ้งไว้ใหเ้ ด็กตาม ลาพงั นัน้ มกั จะสอบเขา้ มหาวิทยาลยั ได้ด้วยคะแนนทสี่ งู กว่า ทางานท่ีมรี ายไดด้ กี วา่ มีสุขภาพและชวี ิต
แตง่ งานท่ีประสบความสาเรจ็ มากกวา่ เดก็ ทห่ี ักหา้ มใจตัวเอง ไม่ได้และแอบกนิ ขนม โดยได้ทดลองในเดก็ วัยกอ่ นประถม
จานวนถงึ 650 คน แล้วตดิ ตามดูการดาเนินชวี ิตของเดก็ ๆ เหลา่ นั้นจนกระท่งั เตบิ โตเป็นผ้ใู หญ่
https://www.youtube.com/watch?v=Yo4WF3cSd9Q&feature=related
ความแตกตา่ งท่ีสาคัญของ 'ความสาเร็จ' และ 'ความล้มเหลว' มิได้อยู่ที่การทางานหนกั หรอื มีสตปิ ัญญาทเี่ หนอื กว่า แต่กลับ
อยู่ท่ีความสามารถในการ “หา้ มใจตวั เองให้ชะลอความพอใจลงก่อน หรือ การรู้จักอดเปร้ยี วไว้กินหวาน”นน่ั คอื คนท่ี
“หา้ มใจไม่รีบกนิ มารช์ เมลโล จะเป็นคนท่ีประสบความสาเร็จมากกวา่ ”อกี ท้ังยังแสดงให้เห็นว่า “การกระทาของเราในวนั น้ี
สามารถส่งผลอนั ใหญ่หลวงตอ่ อนาคตของเราเอง" ถ้าเพียงแค่ไม่รีบกนิ มาร์ชเมลโล ในตอนน้ีเท่านน้ั

การฝกึ ควบคมุ ตวั เองหรอื จะเรยี กง่ายๆว่าการฝึกเอาชนะใจตัวเองนีจ้ าเป็นตอ้ งเริ่มฝกึ ตัง้ แตเ่ ลก็ ๆ เพราะถา้ รอใหเ้ ลย
ไปจนเกนิ 7 ขวบก็จะฝกึ ไดย้ ากเพราะมันจะกลายเปน็ นสิ ัย ทาให้เดก็ เปน็ คนตามใจตวั เอง อยากทาอะไรก็จะทา หรอื เรียก
งา่ ยๆว่า เป็นคนเอาแต่ใจคนเอาแตใ่ จตัวเองมักไม่มีความสขุ เพราะในโลกเราน้ีไมม่ อี ะไรไดอ้ ยา่ งใจเราทกุ อย่าง พอคนเรา
ไม่ได้อะไรดั่งใจก็มักจะเปน็ ทุกข์ เหมือนตอนทเ่ี ดก็ ๆ รอ้ งไห้ โวยวาย เพราะไมไ่ ด้ทาอะไรตามใจตัวเอง ถ้าอยากให้เดก็ ๆ มี
ความสุข ตอ้ งรบี ฝึกใหเ้ ดก็ ๆ หดั ควบคุมตวั เอง ( บ้าน กอ.ไก่ เนอสเซอร่ี )

บทท่ี 3
วธิ กี ารดาเนนิ การ

ในการดาเนินงานโครงการคุณธรรม เรอ่ื ง“เด็กดมี รี ะเบยี บวินัย ตอ่ แถวไว้ไม่แซงหนา้ ” เก็บรกั ษาของเล่นได้อยา่ ง
เปน็ ระเบียบ” นักเรยี นระดับช้ันอนบุ าลปีที่ 2/4 ปีการศึกษา 2563 โรงเรยี นตากสินราชานุสรณ์ มีขัน้ ตอนการดาเนินงาน
ดังน้ี

1. ขัน้ วางแผนดาเนนิ งาน
2. ขน้ั ดาเนินงานตามแผน
3. ขั้นสรุปและประเมนิ ผล
4. ข้ันนาเสนอผลการดาเนนิ งาน
5. ปัญหาและอุปสรรค
6. วธิ กี ารแก้ไข

ข้นั ตอนและวิธีการดาเนินงาน

ขน้ั วางแผนดาเนนิ งาน
 ประชุมวางแผนรว่ มกนั
 แต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนนิ งาน
 วางแผนจดั กจิ กรรมตามปฏทิ นิ ปฏิบัติกจิ กรรม
 กาหนดวัน/เวลา/และกิจกรรมในการดาเนินงาน
 ตง้ั กติกา ขอ้ ตกลง ในการทากิจกรรมรว่ มกัน

ขนั้ ดาเนนิ งานตามแผน
 ประชมุ วางแผนร่วมกัน
- วิเคราะหป์ ญั หา
- เขียนโครงงาน
 วางแผนตามกิจกรรม
- แนะนาการต่อแถวทากจิ กรรมต่างๆโดนไมแ่ ยง่ หรอื แซงหนา้ กัน
- สร้างข้อตกลงร่วมกนั เกีย่ วกบั การตอ่ แถวทากิจกรรมต่างๆอย่างเปน็ ระเบยี บ
- สาธิตการตอ่ เป็นระเบยี บโดยสรา้ งขอ้ ตกลงร่วมกนั

- สงั เกตและบันทกึ พฤติกรรมในแต่ละวันในการเลน่ ตามมมุ
- ประเมนิ ผล
 กาหนดวัน/เวลา/และกจิ กรรมในการดาเนนิ งาน
- ตง้ั แตเ่ ดือนกรกฎาคม – เดอื นกนั ยายน 2563
 ตั้งกติกา ขอ้ ตกลง ในการทากิจกรรมร่วมกนั
- เวลาทากิจกรรมตา่ งๆใหต้ ่อแถวให้เป็นระเบยี บไมแ่ ซงคนอื่น
- ถา้ ไม่ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงใครแซงหน้าเพ่อื นใหไ้ ปต่อทา้ ยสุด
- ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงเสรมิ แรงดว้ ยดาวคนเก่ง
ข้นั สรุปและประเมินผล
 รวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม
 วเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยนาขอ้ มูลท่ไี ด้มาคิดเปน็ รอ้ ยละ
 สรปุ ผลการดาเนินงาน เม่อื เสร็จสิ้นการดาเนนิ งานตามโครงการ
ข้ันนาเสนอผลการดาเนนิ งาน
 สรุปรวบรวมข้อมลู
 จัดทารูปเลม่ โครงงานเสนอผู้บรหิ ารโรงเรียน
 นาเสนอผลการดาเนินโครงงาน
ปญั หาและอปุ สรรค
 นกั เรียนบางคนอยากอยูล่ าดับที่ 1 วิง่ มาต่อแถว

วธิ กี ารแกไ้ ข
 ครเู ล่านทิ านใหค้ าแนะนา/ใครไม่ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงใครมาต่อท้ายแถว

บทท่ี 4
ผลการดาเนินงาน

1. ผลท่ีเกดิ ข้ึนกับสมาชกิ ช้ันอนุบาลปีที่ 2/4

โครงงานคณุ ธรรมเร่อื ง“เดก็ ดีมีระเบียบวนิ ยั ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ” เปน็ โครงงานเกยี่ วกบั การนาหลักพระบรม
ราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในการแกป้ ัญหานักเรียนในชั้นเรียนอนบุ าลปีที่ 2/4 โรงเรียนตากสนิ
ราชานสุ รณม์ ีระเบยี บวนิ ัยในการต่อแถวทากิจกรรมต่างๆโครงงานคณุ ธรรมทีน่ ักเรยี นชน้ั อนุบาลปที ่ี 2/4 ขนึ้ มาเพ่อื ลด
ปัญหาการไม่มีระเบียบวินยั ในการการตอ่ แถวในการทากจิ กรรมตา่ งๆเมอ่ื คิดแก้ปญั หาและดาเนนิ กจิ กรรมตามโครงงาน
ทาใหน้ กั เรียนชั้นอนบุ าล 2/4 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงร่วมกันในการเข้าเขา้ แถวทากิจกรรมตา่ งๆอย่างเป็นระเบยี บ

2. ผลจากการดาเนนิ โครงการคุณธรรม

ผลจากการดาเนนิ กิจกรรมตามโครงงานคณุ ธรรม พบว่า นักเรยี นชนั้ อนบุ าลปีท่ี 2/4 มคี วามรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกบั เรอื่ งความรับผิดชอบ ระเบยี บวนิ ยั การรอคอยในการเข้าแถวต่อควิ ทากิจกรรมตา่ งๆมากข้นึ นักเรยี น นกั เรยี นที่
ร่วมกิจกรรมโครงงาน เร่ือง“เด็กดมี รี ะเบียบวินยั ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ” มคี วามรบั ผดิ ชอบและมีระเบยี บวินัยรอคอยในการ
เขา้ แถวต่อควิ ทากจิ กรรมต่างๆตามข้อตกลงในชัน้ เรียนได้ ร้อยละ100

3. คุณธรรมเป้าหมาย ที่ไดร้ ับการพัฒนาจากการทาโครงงาน

จากการดาเนินโครงงานคุณธรรม เร่ือง“เด็กดีมีระเบียบวนิ ัย ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ” นักเรียนช้นั อนบุ าลปีที่ 2/4
โรงเรียนตากสนิ ราชานสุ รณ์ ไดร้ บั การพฒั นาคุณธรรมเป้าหมาย 5 ประการ ดังน้ี

ความรบั ผิดชอบ – นกั เรียนรหู้ น้าทใี่ นการต่อแถวตามคิวในการทากิจกรรมต่างๆ
ระเบยี บวนิ ยั – นักเรียนตอ่ แถวตามควิ ในการทากิจกรรมตา่ งๆอยา่ งมีระเบยี บวนิ ัย
อุดมการณ์คุณธรรม – นักเรยี นรู้จกั รอคอยต่อแถวตามลาดับในการทากจิ กรรมตา่ งๆอยา่ งมีระเบียบวินยั
เรียบร้อยตามข้อตกลงในชัน้ เรยี น

บทท5ี่
สรปุ ผล อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ

1. สรุปผลการดาเนินโครงการคุณธรรม

การดาเนินโครงงานคุณธรรมเรอ่ื ง“เด็กดมี รี ะเบยี บวนิ ยั ตอ่ แถวไวไ้ ม่แซงหนา้ ”มวี ตั ถุประสงคเ์ พือ่ ใหน้ กั เรียนมี
ความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ความรบั ผิดชอบ และอุดมการณ์คุณธรรมความมรี ะเบียบวนิ ยั เพ่อื ใหน้ กั เรยี นตอ่ แถวทากิจกรรม
ต่างๆอย่างมีระเบยี บวินัย ตามข้อตกลงในห้องเรยี นร่วมกบั ผอู้ น่ื กล่มุ ตัวอย่างท่ีใชด้ าเนินโครงการในครัง้ นี้ ไดแ้ ก่ นักเรยี น
ระดับชั้นอนบุ าลปที ี่ 2/4 ประจาปกี ารศึกษา 2563 โรงเรยี นตากสินราชานสุ รณ์ สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา
ประถมศึกษาตากเขต1

หลังจากส้นิ สุดระยะเวลาการดาเนินโครงงานคุณธรรมเร่ือง“เดก็ ดีมีระเบยี บวินยั ตอ่ แถวไวไ้ ม่แซงหน้า”พบวา่
นักเรยี นระดบั ช้นั อนุบาลปีที่ 2/4 ประจาปีการศกึ ษา 2563 มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบและอดุ มการณ์
คุณธรรมเรอื่ งของความมีระเบยี บวนิ ัยในตอ่ แถวตามลาดับทากจิ กรรมต่างๆ ตามข้อตกลงในห้องเรยี นรว่ มกับผอู้ ื่น
นอกจากน้ีโครงงานคุณธรรมเรือ่ ง“เด็กดมี ีระเบียบวินยั ต่อแถวไว้ไมแ่ ซงหน้า”ยงั ได้รับการพัฒนาในเรอ่ื งของคณุ ธรรม
เป้าหมาย 5 ประการ ดา้ นความรบั ผิดชอบ และอุดมการณค์ ุณธรรมอีกด้วย

2. อภิปรายผล

โครงงานคุณธรรมสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงค์ท่ีวางไว้
จากการดาเนิน โครงงานคุณธรรมเร่ือง“เด็กดีมรี ะเบียบวนิ ัย ต่อแถวไว้ไม่แซงหนา้ ”ในครงั้ นี้ พบว่า โครงงานน้ี

สาเร็จตามวตั ถปุ ระสงคท์ วี่ างไว้ ท้ังนีเ้ นอ่ื งมาจากนกั เรียนระดบั ชน้ั อนุบาลปที ี่ 2/4 ประจาปีการศึกษา 2563 ต่อแถว
ตามลาดบั ทากิจกรรมตา่ งๆ อย่างเป็นระเบยี บตามข้อตกลงในหอ้ งเรียนร่วมกบั ผู้อ่ืน

ข้อเสนอแนะสาหรบั การจดั ทาโครงงานคณุ ธรรมคร้งั ต่อไป

- เพอื่ ปลกู ฝงั ใหเ้ ดก็ มพี ฒั นาการดา้ นตา่ งๆเหมาะสมตามวัย ฝึกเรอ่ื งของระเบียบวนิ ัยการรอคอยในการตอ่ แถว
ตามลาดบั กอ่ นหลงั ตามขอ้ ตกลงในหอ้ งเรียนควรมกี ารขยายกลุ่มตัวอยา่ งในการดาเนินโครงงานคุณธรรมเรอ่ื ง

- “เด็กดมี รี ะเบียบวินยั ตอ่ แถวไวไ้ ม่แซงหนา้ ”เพมิ่ มากขึน้ เชน่ มีการดาเนนิ โครงงานต้งั แต่ชนั้ อนุบาลปที ่ี 1-3

บรรณานกุ รม
ณัฐพร ตุก๊ ไชยเดช . (2555).การบรหิ ารจดั การช้ันเรยี น. GotoKnow.
https://sites.google.com/site/.../khwam-hmay-khxng-rabeiyb-winay ( สบื ค้นวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 )/
aamkru.com/th/การแบ่งปนั ( สบื คน้ วันที่ 4 กนั ยายน 2564 )/
https://sites.google.com/site/knkwrrnxupla/bth-thi5khwam-mi-winay-ni-taw-xeng ( สบื ค้นวันท่ี 6 กนั ยายน 2560 )
https://saoc.rtaf.mi.th/images/OneDsOne_ARTICLE/02Responsibility.pdf ( สืบค้นวันท่ี 4 กนั ยายน 2564)
https://www.youtube.com/watch?v=Yo4WF3cSd9Q&feature=related ( สบื ค้นวันท่ี 4 กนั ยายน 2564)

ภาคผนวก

ภาพถ่ายกิจกรรม

จากการสงั เกตบรบิ ทในหอ้ งเรียนระดับช้ันอนบุ าลปีท่ี 2/4 พบปัญหาขาดระเบยี บวินยั ในการเข้า
แถวรอคอยเรียงลาดับในการทากิจกรรมต่างๆ

จากการสงั เกตบริบทในหอ้ งเรยี นครถู ามนกั เรียนเกีย่ วกบั ปญั หาท่เี กดิ ขนึ้ ในห้องเรยี น พบปัญหาจากการเลน่ ของ
เลน่ นกั เรยี น ครแู ละนกั เรยี นชน้ั อนบุ าล 2/4 นาปัญหาที่พบเจอมาวเิ คราะห์หาสาเหตุและแก้ปัญหาร่วมกนั โดยได้
ขอ้ สรุปจะทาโครงงานคุณธรรมประจาห้องเรยี น เรอ่ื ง “เดก็ ดีมรี ะเบียบวินัย ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหน้า”

แนะนาการตอ่ แถว ใหก้ ับนักเรียนทราบโดยท่ัวกันและปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในห้องเรยี นในการตอ่ แถวทา
กิจกรรมต่างๆโดยเรยี งลาดับก่อนหลังอย่างเป็นระเบียบ

ภาพกจิ กรรมโครงงานคุณธรรมประจาหอ้ งเรยี น
เรื่อง “เด็กดีมรี ะเบยี บวนิ ยั ตอ่ แถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ”

ภาพกจิ กรรมโครงงานคุณธรรมประจาหอ้ งเรยี น
เรื่อง “เด็กดีมรี ะเบยี บวนิ ยั ตอ่ แถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ”

ภาพกจิ กรรมโครงงานคุณธรรมประจาหอ้ งเรยี น
เรื่อง “เด็กดีมรี ะเบยี บวนิ ยั ตอ่ แถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ”

ภาพกิจกรรมโครงงานคุณธรรมประจาห้องเรยี น
เรอ่ื ง “เดก็ ดีมีระเบียบวนิ ยั ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ”

ได้รับรางวัล
จากการสังเกตเด็กมีระเบียบวินัยในการเรียงลาดบั ตอ่ แถวทากิจกรรมต่างๆได้ดว้ ยตนเองและมคี รคู อยแนะนาเปน็ บางครั้ง

แบบบนั ทึกพฤตกิ รรมนกั เรียนในการทากิจกรรม
โครงงานเรอ่ื ง “เดก็ ดมี ีระเบยี บวนิ ยั ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหนา้ ”

ประจาเดือนกรกฎาคม

เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ
เ ็ดก ่ตอแถวเรียงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอย่าง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเรียงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอ ่ยาง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเ ีรยงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอย่าง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเ ีรยงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอ ่ยาง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน

สปั ดาหท์ ี่ 1 สัปดาห์ที่ 2 สปั ดาห์ท่ี 3 สปั ดาห์ที่ 4

เกณฑก์ ารประเมิน จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ

1 เดก็ ชายณัชพล พริ มทอง
2 เด็กชายนิมิตร ชัยเรอื งรอง
3 เด็กชายธนภทั ร เพียจันทึก
4 เดก็ ชายณภทั ร ก๊กรัมย์
5 เดก็ ชายจิรภัทร ปรีเปรม
6 เดก็ ชายอทิ ธกิ ร บญุ จนั ทร์
7 เด็กหญงิ กมลวรรณ หอมหวล
8 เด็กหญิงอารยา สายเสน

9 เด็กหญิงศรณั ยพ์ ร โทนสงั ข์อินทร์

10 เดก็ หญิงจรรยาภรณ์ ปรเี ปรม
11 เดก็ หญงิ กานต์พิชชา ดว้ งหิรญั
12 เด็กหญงิ ปภาวรินทร์ กลิ่นเดช
13 เดก็ หญงิ สุวิมล จนั ทร์อ่อนแสง

รวมท้งั หมด
คิดเปน็ ร้อยละ

เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั 2 หมายถงึ ปฏบิ ัตไิ ด้โดยมคี รคู อยแนะนาบางครั้ง
ระดับ 1 หมายถึง ปฏบิ ัตไิ ด้โดยมีครูคอยแนะนาตลอดเวลา

ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ ลงช่อื .....................................................ผ้ปู ระเมนิ โ
( นางธดิ า สพั โส ) ( นางสาวสุมาลี บา้ นนาพิไล )

แบบบันทกึ พฤตกิ รรมนักเรยี นในการทากิจกรรม
โครงงานเรอ่ื ง “เด็กดีมีระเบียบวนิ ยั ตอ่ แถวไวไ้ มแ่ ซงหน้า”

ประจาเดือน สงิ หาคม

เลขท่ี ช่ือ – สกุล
เ ็ดก ่ตอแถวเรียงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอย่าง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเรียงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอ ่ยาง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเ ีรยงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอย่าง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเ ีรยงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอ ่ยาง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน

สปั ดาห์ที่ 1 สปั ดาหท์ ี่ 2 สัปดาห์ท่ี 3 สปั ดาห์ที่ 4

เกณฑก์ ารประเมิน จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ

1 เดก็ ชายณัชพล พิรมทอง
2 เดก็ ชายนิมติ ร ชยั เรอื งรอง
3 เด็กชายธนภทั ร เพียจันทกึ
4 เดก็ ชายณภทั ร ก๊กรัมย์
5 เด็กชายจริ ภัทร ปรเี ปรม
6 เด็กชายอทิ ธิกร บญุ จันทร์
7 เดก็ หญิงกมลวรรณ หอมหวล
8 เด็กหญงิ อารยา สายเสน

9 เด็กหญงิ ศรัณย์พร โทนสังขอ์ นิ ทร์

10 เดก็ หญงิ จรรยาภรณ์ ปรีเปรม
11 เด็กหญิงกานตพ์ ิชชา ด้วงหิรญั
12 เดก็ หญิงปภาวรินทร์ กล่นิ เดช
13 เดก็ หญงิ สวุ ิมล จนั ทรอ์ ่อนแสง

รวมทงั้ หมด
คิดเปน็ รอ้ ยละ

เกณฑ์การประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ปฏบิ ัตไิ ดด้ ้วยตนเอง
ระดับ 2 หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ด้โดยมีครคู อยแนะนาบางคร้ัง
ระดับ 1 หมายถึง ปฏิบตั ไิ ด้โดยมีครูคอยแนะนาตลอดเวลา

ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมนิ ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมนิ โ
( นางธดิ า สพั โส ) ( นางสาวสุมาลี บา้ นนาพไิ ล )

แบบบนั ทึกพฤติกรรมนกั เรยี นในการทากจิ กรรม
โครงงานเร่ือง “เดก็ ดีมรี ะเบียบวินยั ต่อแถวไวไ้ มแ่ ซงหน้า”

ประจาเดอื นกนั ยายน

เลขท่ี ช่ือ – สกุล
เ ็ดก ่ตอแถวเรียงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอย่าง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเรียงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอ ่ยาง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเ ีรยงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอย่าง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน
เ ็ดก ่ตอแถวเ ีรยงลา ัดบทา ิกจกรรม
่ตางๆอ ่ยาง ีมระเบียบวิ ันยตาม ้ขอตกลง
ของห้องเรียน

สปั ดาหท์ ี่ 1 สปั ดาห์ที่ 2 สปั ดาห์ท่ี 3 สปั ดาหท์ ่ี 4

เกณฑ์การประเมิน จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ จ อ พ พฤ ศ

1 เดก็ ชายณัชพล พิรมทอง
2 เดก็ ชายนมิ ิตร ชยั เรอื งรอง
3 เดก็ ชายธนภัทร เพยี จนั ทกึ
4 เด็กชายณภทั ร ก๊กรมั ย์
5 เด็กชายจิรภัทร ปรเี ปรม
6 เด็กชายอทิ ธกิ ร บญุ จนั ทร์
7 เดก็ หญิงกมลวรรณ หอมหวล
8 เด็กหญงิ อารยา สายเสน

9 เดก็ หญิงศรณั ยพ์ ร โทนสงั ขอ์ นิ ทร์

10 เด็กหญงิ จรรยาภรณ์ ปรีเปรม
11 เด็กหญงิ กานต์พิชชา ดว้ งหริ ัญ
12 เด็กหญงิ ปภาวรินทร์ กล่ินเดช
13 เดก็ หญงิ สวุ ิมล จนั ทรอ์ อ่ นแสง

รวมท้ังหมด
คิดเปน็ ร้อยละ

เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ปฏบิ ตั ิได้ด้วยตนเอง
ระดับ 2 หมายถงึ ปฏบิ ัติได้โดยมคี รคู อยแนะนาบางครง้ั
ระดบั 1 หมายถงึ ปฏิบัติได้โดยมคี รคู อยแนะนาตลอดเวลา

ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมนิ โ
( นางธิดา สัพโส ) ( นางสาวสมุ าลี บ้านนาพิไล )