เขียน เล่า ประสบการณ์ ภาษาอังกฤษ

ศัพท์ที่ควรรู้

  • consonant n. [คั๊นเสินเนิ่นทฺ] เสียงพยัญชนะ
  • vowel n. [ฝาวโอ็ลฺ] เสียงสระ (a letter representing a vowel sound, such as a, e, i, o, u.)
  • precede v. [พริซีดฺ] นำหน้า, อยู่ข้างหน้า
  • infinitive verb  คือคำกริยารูปปกติ (กริยาที่ไม่ได้เติม s, es, ed, หรือ ing ที่ท้าย)

การบอกเล่าเรื่องที่ผ่านไปแล้ว จบไปแล้วในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต(Past simple) ตัวแปรสำคัญที่เราต้องใช้เมื่อต้องการสื่อถึงเรื่องในอดีตก็คือ กริยาช่องที่2 นั่นเอง โดยจะมีหรือไม่มีคำบอกเวลาอยู่ในประโยคก็ได้ เช่นคำว่า yesterday,this morning, ago, last night, last week, last month, last year เป็นต้น

1. ประโยคบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีตในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นอดีตไปแล้ว

  • เขาอยู่ที่บ้าน ==> He was at home.
  • เธอล้างรถของเธอ ==> She washed her car.
  • เขาไม่ได้ล้างรถของเขา ==> He didn’t wash his car.
  • เขาเล่นกีตาร์ ==> He played the guitar.
  • เขาไม่ชอบผักมาก่อน ==> He didn’t like vegetables before.
  • ฉันดูหนังเมื่อวานนี้ ==> I saw a movie yesterday.
  • เขาทำงานที่โรงภาพยนตร์หลังเลิกเรียน (แต่ก่อน) ==> He worked at the movie theater after school.
  • ผมเรียนภาษาไทยมาตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ==> I studied Thai when I was a child.
  • เมื่อเดือนก่อนฉันเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ==> Last month, I traveled to Japan.
  • เมื่อวานนี้ฉันไม่ได้เดินทางไปเชียงใหม่ ==> yesterday, I didn’t travel to Chiang Mai.
  • ผมอาศัยอยู่ในจีนเป็นเวลาสองปี ==> I lived in China for two years. (Where do you live?)
  • เขาเรียนภาษาจีนเป็นเวลาสิบปี ==> He studied Chinese for ten years.
  • พวกเขานั่งอยู่ที่สนามหญ้าตลอดทั้งวัน ==> They sat at the lawn all day.
  • เราคุยกันทางโทรศัพท์เป็นเวลาห้านาที ==> We talked on the phone for five minutes.
  • คุณรอพวกเขานานเท่าไหร่ ==> How long did you wait for them?
  • พวกเรารอเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ==> We waited for half and hour.

2. การถามถึงเรื่องในอดีต ที่ผ่านไปแล้ว

  • เมื่อวานคุณกินทุเรียนใช่ไหม ==> Did you eat durian yesterday?
  • เมื่อคืนคุณมีดินเนอร์ใช่ไหม ==> Did you have dinner last night?
  • สมัยที่คุณเป็นเด็ก คุณอยากเป็นอะไรเมื่อคุณโตขึ้น ==> When you were a kid, what did you want to be when you grew up?
  • คุณได้เล่นเครื่องดนตรีไหมตอนที่คุณเป็นเด็ก ==> Did you play a musical instrument when you were a kid?

3. เมื่อเล่าถึงเรื่องในอดีตและจบลงในอดีต ที่มีสองประโยคขึ้นไป โดยใช้คำเหล่านี้เชื่อมเข้าหากัน

  • แต่(ขัดแย้งกัน) ==> but
  • และ(สอดคล้องกัน) ==> and
  • ดังนั้น(เป็นเหตุเป็นผลกัน) ==> so
  • เพราะว่า(เป็นเหตุเป็นผลกัน) ==> because

ตัวอย่างเช่น

  • เขาเดินทางมาจากสนามบินเวลา 12:00 เช็คอินเข้าโรงแรมเวลา 18:00 น. และได้พบกับบุคคลอื่นเวลา 19:00 น.
    He arrived from the airport at 12:00, checked into the hotel at 18:00, and met the others at 19:00.
  • เมื่อคืนฉันรู้สึกไม่สบาย ดังนั้นจึงเข้านอนแต่หัวค่ำ
    I fell sick so I went to bed early last night.

สำหรับ ผู้ที่มี ประสบการณ์การทำงาน

ให้หา งานที่เราเคยทำแล้ว ประสบความสำเร็จ ได้ผลประโยชน์ ที่ดีต่อ บริษัท ทั้งด้าน การเงินทอง เพิ่มชื่อเสียงที่ดีขึ้นของบริษัท การเพิ่มยอดขาย คำชมจากลูกค้า ผ่าน หน้าที่การทำงานของเรา ที่ได้รับมอบหมาย ในตำแหน่งงานนั้นๆ โดยเราสามารถ เขียน อธิบาย และ บรรยาย ว่า ใน เหตุการณ์ดีๆ เหล่านั้น ตอนนั้น เราทำอะไรไปบ้าง โดยให้เน้น ใช้คำศัพท์ ที่แสดงผลของการกระทำ ในเชิงบวก

คำศัพท์ ที่นิยม นำมาเขียน บรรยาย และ อธิบาย ประสบการณ์การทำงาน ในเรซูเม่ ภาษาอังกฤษ จะเน้น คำศัพท์ที่ แสดงให้เกิดผลของของการกระทำ

ตัวอย่างคำศัพท์ ที่ใช้เขียน บรรยาย ประสบการณ์การทำงาน

  • Initiate: เป็นผู้ริเริ่ม โปรเจคอะไร
  • Negotiate: เป็นผู้ต่อรอง กับ ลูกค้า หรือ บริษัทไหน แล้ว ได้อะไรต่อ
  • Perform: ดำเนินการ อะไร
  • Sell: ขาย อะไร
  • Reach: บรรลุเป้า ที่ตั้งไว้ กี่เปอร์เซ็น ถ้าระบุได้
  • Succeed: สำเร็จ ในสิ่งไหน โครงการอะไร
  • Develop: พัฒนา สินค้า ผลิตภัณฑ์ อะไร
  • Demonstrate: แสดงการสาธิต อะไรบ้าง
  • Establish: ก่อตั้ง อะไร
  • Create: สร้าง อะไร

อะไรที่เรียกว่า เป็น Feedback ที่ดี ได้รับคำชม จาก เจ้านาย ลูกค้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมทีม ในบริษัท ให้ดึงออกมา เขียน อธิบาย ตรงจุดนั้น เพราะเป็น การแสดง ความสามารถ ที่คุณมี ด้วยผลงาน ที่เป็นหลักฐาน ไม่ได้พูดออกมา ลอยๆ

สำหรับ ผู้ที่ไม่มี ประสบการณ์การทำงาน (นักศึกษาจบใหม่)

สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน เวลาเขียน เรซูเม่ ให้นำ ประสบการณ์การทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เช่น โปรเจคงานกลุ่ม งานอาสาสมัคร การฝึกงาน ที่อาจจะไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ได้ทำงานเป็นกลุ่ม เป็นทีม มาเขียน แทน

และแนะนำให้เลือก เทมเพลต เรซูเม่ ที่โชว์ ทักษะด้านอื่นๆ ด้วยการใช้ infographic มาช่วย อาทิเช่น

  • Soft Skill : ทักษะทางอารมณ์ การอยู่ร่วมกับผู้อื่น
  • Language Skill : ทักษะด้านภาษา
  • Certificate : ใบประกาศต่างๆ
  • Professional Achievement : ความสำเร็จที่ผ่านมา
  • Technical Skill : ทักษะเทคนิคพิเศษ

ซึ่งจะช่วยให้ เราได้นำเสนอ จุดเด่น ด้านอื่นๆ ของเราออกมา