�Ԫ� �����¹������������������ͧ�� (���� �32101) �дѺ �Ѹ���֡�һշ�� 5 ����ͧ ��Դ�ͧ������ ��е���� �ӹǹ 10 ��� �� �س������������� �ҹ�Ӿѹ�� �ç���¹ ���ػ����� ����� ���͡ ���� ����ӵͺ���١��ͧ����ش ��ͷ�� 1) ��������誹Դ�ͧ����������ҫ� float string integer variable ��ͷ�� 2) ���㴨Ѵ�繢����Ż������ѡ�������ҫ� 'c' 0123 11.25 "c language" ��ͷ�� 3) �����繢����Ż�������ͤ��� 'c++' $js$ "joseph upatham" c language programing ��ͷ�� 4) �ѡ���¹�Դ����Ţ㹢����������ö���繢����Ż����� char 8 55 1 2 ��ͷ�� 5) ���㴼Դ����õ�駪��͵���� name_5 _name5 5name _name_5 ��ͷ�� 6) �ҡ⨷�� ��û�С�ȵ���ê�Դ� ��˹���� num=3.5 int float char string ��ͷ�� 7) ���㴤���ٻẺ��û�С�ȵ���� variable-name size; size variable-name; variable-name type; type variable-name; ��ͷ�� 8) ��ͧ��û�С�ȵ���� ���� i �����纤�ṹ���Ţ�ӹǹ��� 50 ���㴶١��ͧ int i = 50; char i = '50'; float i = "50"; string i = "50"; ��ͷ�� 9) ��С�ȵ���ê��� name ������纪�����蹢ͧ�ѡ���¹ int name; float name; char name; string name; ��ͷ�� 10) ���㴵�駪��͵�������١��ͧ register happy hotmail number ตัวแปรนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับในการเขียนโปรแกรมทุกภาษา มันถูกใช้เพื่อเก็บข้อมูลในหน่วยความจำและช่วยให้เราสามารถจัดการกับข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการที่จะจดจำบางอย่าง คุณจะต้องเขียนมันลงไปบนสมุดบันทึกของคุณ เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่ลืมเมื่อคุณบันทึกลงไปคุณสามารถนำมาใช้เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการ ดังนั้นในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตัวแปรถูกนำมาใช้ในแนวคิดเดียวกัน
ในตัวอย่าง เราเก็บค่า 3 ในตัวแปร 4 และ 5 เพื่อหาผลรวมของตัวแปร 4 และตัวแปร 5 เราจำเป็นต้องจดจำ 3 ไว้ใสตัวแปร 4 ก่อนจนกว่าเราจะมีค่าของ 5 และหลังจากนั้นเราได้ทำการรวมค่าของตัวแปรทั้งสองไว้ในอีกตัวแปรคือ 1คุณจะเห็นคำว่า 2 ก่อนชื่อของตัวแปรซึ่ง นั่นเราเรียกว่าคำสั่งที่ใช้กำหนดประเภทของตัวแปร หรือการประกาศประเภทของตัวแปร ถ้าคุณยังไม่เข้าใจในตอนนี้ ไม่ต้องกังวล เราจะเรียนในต่อไปของบทเรียนนี้ประเภทข้อมูลในภาษา C++ มีตัวแปรหลายประเภทที่ช่วยให้เราสามารถจัดการกับข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ฺBoolean, Number, Character, String และ Object เป็นต้น ในภาษา C++ จะมีกลุ่มของประเภทข้อมูลอยู่ทั้งหมด 4 กลุ่ม ที่คุณสามารถนำไปประกาศตัวแปรได้
ในตารางข้างล่างนี้ แสดงประเภทของตัวแปรทั้งหมดในภาษา C++ TypeSizeValueschar1 byte-128 to 127 (Char)char16_t2 bytes-32,768 to 32,767 (Char)char32_t4 bytes-2,147,483,648 to 2,147,483,647 (Char)wchar_tMultibytesshort int2 bytes-32,768 to 32,767int2 bytes-32,768 to 32,762long int4 bytes-2,147,483,648 to 2,147,483,647long long int8 bytes-9,223,372,036,854,775,808 to 9,223,372,036,854,775,807unsigned char1 byte0 to 255unsigned short int2 bytes0 to 65,535unsigned int2 byteso to 65,535unsigned long int4 bytes0 to 4,294,967,295unsigned long long int8 bytes0 to 18,446,744,073,709,551,615float4 bytes1.2E-38 to 3.4E+38double8 bytes2.3E-308 to 1.7E+308bool1 byte0 to 1void--decltype(nullptr)--การประกาศตัวแปรภาษา C++ เป็นภาษาที่มีรูปแบบเข้มงวดในการเขียน ตัวแปรจำเป็นต้องประกาศก่อนที่จะมีการใช้งาน นั่นหมายความว่าคอมไพเลอร์จะมีการจองหน่วยความจำที่เพียงพอสำหรับตัวแปร รูปแบบในการประกาศตัวแปรในภาษา C++ นั้นตรงไปตรงมา มาดูตัวอย่างสำหรับการประกาศตัวแปรในภาษา C++
ในตัวอย่างเราได้ประกาศ 3 ตัวแปร ตัวแปรแรกเราประกาศตัวแปรที่มีชนิดข้อมูลเป็น int และมีชื่อของตัวแปรว่า 4 ตัวแปรที่สองประกาศตัวแปรที่มีชนิดข้อมูลเป็น 4 และมีชื่อของตัวแปรว่า 5 ตัวแปรที่สามนั้นเป็นประเภท boolean ที่มีชื่อว่า 6 เมื่อตัวแปรถูกสร้าง มันจะสามารถถูกใช้ได้ในขอบเขตของโปรแกรม หลังจากที่เราได้ประกาศตัวแปรแล้ว เราสามารถกำหนดค่าให้มันในตอนเริ่มต้น หรือในตอนที่โปรแกรมรันได้ทันทีBooleanBoolean เป็นประเภทข้อมูลที่เก็บค่าเพียงสองค่าคือ 7 และ 8 และเป็นประเภทข้อมูลที่ใช้หน่วยความจำในการเก็บน้อยที่สุด Boolean มักจะใช้ในการเก็บข้อมูลที่มีเพียงสองสถานะ เช่น เปิดหรือปิด ใช้งานหรือไม่ใช้งาน ออนไลน์หรือออฟไลน์ เป็นต้น Boolean ใช้สำหรับคำสั่งเงื่อนไข เช่น คำสั่ง 9, 0 หรือ 1 และเราสามารถสร้างสร้าง Boolean expression ที่ซับซ้อนได้โดยการใช้ตัวดำเนินการกับ Boolean นี่เป็นตัวอย่างการใช้งาน Boolean ในภาษา C++
ในตัวอย่าง เป็นการประกาศตัวแปร Boolean นั้นจะใช้คำสั่ง 2 และตามด้วยชื่อตัวแปรที่ต้องการ ในตอนแรกเราได้ประกาศตัวแปร 3 ซึ่งเราได้ให้ความหมายของตัวแปรนี้ว่า ถ้าหากมีค่าเป็น 7 นั้นจะเป็นผู้ชาย และหากไม่ใช่คือมีค่าเป็น 8 จะเป็นผู้หญิง และเราใช้คำสั่ง 9 ในการตรวจสอบค่าของตัวแปร โดยคำสั่ง 9 นั้นจะใช้สำหรับการตรวจสอบ Boolean expression ที่คุณจะได้เรียนในบทต่อๆ ไปต่อมาเราประกาศตัวแปร 8 สำหรับการเก็บสถานะของการเล่นและกำหนดค่าให้กับตัวแปรเป็น 7 ในภาษา C++ นั้นค่าของ 7 จะแสดงเป็น 1 และค่าของ 8 จะแสดงเป็น 3 นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้งานค่าเหล่านี้ทดแทนกันได้ในการเขียนโปรแกรมต่อมาเป็นการทดสอบค่าของ boolean ด้วยตัวดำเนินการในภาษา C++ ซึ่งถ้าหากผลลัพธ์เป็นจริงจะได้ค่าที่แสดงออกมาเป็น 1 และถ้าไม่เป็นจริงจะได้ค่าที่แสดงออกมาเป็น 3
นี่เป็นผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมในการประกาศและใช้งานข้อมูลประเภท boolean ในภาษา C++ CharChar คือประเภทข้อมูลที่เก็บและแสดงข้อมูลในรูปแบบตัวอักษร ASCII ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 256 ตัวในภาษา C++ ค่าของ char นั้นสามารถเป็นได้ตั้งแต่ 0 - 255 ใน integer และในการแสดงผลจะแสดงเป็นรหัสของตัวอักษร ซึ่งตัวอักษรทุกตัวมีรหัส ASCII มัน char นั้นมีหลายขนาด เช่น 6, 7 เป็นประเภทของ 8 ที่เก็บข้อมูลได้มากกว่า แต่โดยปกติแล้วเรามักจะใช้ 8 ในการเขียนโปรแกรม นี่เป็นตัวอย่างการใช้งาน Char ในภาษา C++
ในตัวอย่าง เป็นการใช้งานตัวแปรประเภท 8 ซึ่งเราได้ประกาศค่าให้กับตัวแปรทั้งหมด โดยค่าของ 8 นั้นเป็นตัวอักษรในใดๆ ใน ASCII และจะต้องมีเครื่องหมาย single quote ( 2) ล้อมรอบอยู่ อย่างที่เราได้บอกว่า Char นั้นจะมีรหัสใน Integer ดังนั้นในสองตัวแปรสุดท้ายเราจึงกำหนดค่าแบบ Integer ให้กับตัวแปรหลังจากนั้นเราได้แสดงผลค่าของตัวแปรทั้ง 5 ตัวและค่า Integer ASCII ของมันโดยการใช้วิธี Type casting จากข้อมูลประเภท Char เป็น Integer และในคำสั่งสุดท้ายเป็นการใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบค่าของ Char
นี่เป็นผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมในการใช้ประกาศและใช้งานข้อมูลประเภท char ในภาษา C++ IntegerInteger คือประเภทข้อมูลแบบจำนวนเต็ม มันมักจะถูกใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ไม่มีทศนิยม เช่น จำนวนของผลไม้ คะแนนของผู้เล่นเกม จำนวนลูกกระสุนถูกยิงออกไป เป็นต้น ในภาษา C++ นั้นข้อมูลประเภท Integer มีหลายประเภท เช่น 3 2 หรือ ซึ่งมีขนาดของการเก็บที่แตกต่างกันออกไป และคำสั่ง 5 ใช้สำหรับประกาศตัวแปรที่เก็บเพียงจำนวนเต็มบวก นี่เป็นตัวอย่างของการใช้งานข้อมูลประเภท Integer ในภาษา C++
ในตัวอย่าง เป็นการใช้งานข้อมูลประเภท Integer ในสถานการณ์ต่างๆ ในตอนแรกเราประกาศตัวแปรประเภท 2 สำหรับเก็บจำนวนผลไม้ และนำมาบวกกันแล้วเก็บไว้ในตัวแปร 7 และแสดงผลออกทางหน้าจอ หลังจากนั้นเป็นการใช้ตัวแปรประเภท 3 ซึ่งเก็บข้อมูลได้น้อยกว่า 2 เนื่องจากค่าที่เราต้องการเก็บนั้นเป็นค่าของวันเดือนปี ที่มีค่าไม่มากกว่าค่าของ 3 อยู่แล้ว มันจึงสำคัญที่คุณจะตระหนักถึงในการเลือกใช้ประเภทข้อมูลที่ประหยัดหน่วยความจำมากที่สุด
ต่อมาเป็นการใช้งานคำสั่ง 5 สำหรับเก็บตัวเลขค่าบวกเท่านั้น และเราได้ใช้เก็บความสูงของภูเขาเพราะว่าเราทราบว่าความสูงนั้นไม่มีทางเป็นลบแน่นอน และสุดท้ายเป็นการทดสอบการเกิด Overflow ของตัวแปร เราได้กำหนดค่าสูงสุดที่ข้อมูลประเภท 2 จะเก็บได้ลงในตัวแปร 3 และพยายามเพิ่มค่าตัวแปรไปอีก 1 ผลลัพธ์ที่ได้คือค่าในตัวแปรจะเกิดการ Overflow ไปเป็นค่าต่ำสุดของมัน ดังนั้นคุณควรจะระวังในการเขียนโปรแกรม ถ้าหากข้อมูลของคุณมีขนาดใหญ่มากๆ คุณควรจะเลือกใช้ประเภทข้อมูลให้เพียงพอเป็นต้น ดังนั้นในตัวอย่างเราสามารถใช้ข้อมูลประเภท 4 ที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า 2
นี่เป็นผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมของตัวอย่างการใช้ Integer ในภาษา C++ Floating-point numberFloating-point number ใช้สำหรับเก็บข้อมูลตัวเลขแบบจำนวนจริงหรือตัวเลขที่มีทศนิยม ในภาษา C++ นั้นจะมีสองปะเภทคือ 4 และ 7 ซึ่งข้อมูลแบบ 4 นั้นมีขนาดเล็กกว่าและเก็บตัวเลขหลังจุดได้ 8 ตัว ในขณะที่ 7 นั้นสามารถเก็บได้ 16 ตัว ดังนั้นมันจึงถูกใช้กับข้อมูลที่มีความละเอียดของตัวเลขมาก เช่น ข้อมูลการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น มาดูตัวอย่างการใช้งานในภาษา C++
ในตัวอย่าง เป็นการใช้งานตัวแปรประเภท Floating-point number ใน 4 ตัวแปรแรกเป็นการใช้งานตัวแปรประเภท 4 ซึ่งในการกำหนดค่าให้กับตัวแปรนั้นต้องลงท้ายด้วย 1 เสมอ ส่วนข้อมูลประเภท 7 นั้นไม่ต้อง 0ในการกำหนดค่าให้กับตัวแปรนั้นสามารถกำหนดในรูปแบบย่อหรือสัญกรณ์วิทยาศาสตร์โดยการใช้เครื่องหมาย 3 เช่น ในตัวแปร 4 นั้นจะหมายถึง 5 และในตัวแปร 6 นั้นจะหมายถึง 7 และถ้าหากตัวเลขนั้นมีค่าใหญ่มากหรือน้อยมาก ภาษา C++ จะแสดงในรูปแบบย่ออัตโนมัติ 1นี่เป็นผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรม StringsString เป็นตัวอักษรที่เรียงต่อกันที่ถูกแสดงในรูปแบบอาเรย์ของตัวอักษร แต่ String ในภาษา C++ เป็นออบเจ็คของคลาสที่มากับ C++ ไลบรารี่ ในการที่จะใช้ String เราจำเป็นต้องนำเข้าไลบรารี่ของ String โดยใช้คำสั่ง 8 ข้อมูลประเภทสตริงนั้นจะเก็บข้อมูลในรูปแบบของคำหรือประโยค ที่เป็นตัวอย่างเพื่อใช้ String ในภาษา C++ 2ในบทนี้ คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเภทข้อมูลและตัวแปรในภาษา C++ เราได้พูดถึงความหมายของตัวแปร และแสดงตัวอย่างการประกาศตัวแปร และอธิบายถึงความแตกต่างของข้อมูลประเภทต่างๆ ในการใช้งานให้เหมาะสมในการเขียนโปรแกรม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะตระหนักถึงในการเลือกใช้ประเภทของข้อมูลให้เหมาะสมในการเขียนโปรแกรมเพื่อลดการใช้งานหน่วยความจำ ซึ่งจะทำให้โปรแกรมของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น |