การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

Preventing violence against women and girls: Community activism approaches to shift harmful gender attitudes, roles and social norms โดย What works และ UK AID แสดงให้เห็นว่า การสนทนาหรือการให้ความรู้เรื่องเพศวิถีศึกษาในประเด็น ‘ความยินยอม’ และ ‘การข่มขืน’ เพียงรอบเดียว แทบไม่มีอิทธิพลในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ดังนั้น การดำเนินการเพื่อให้ความรู้ด้านเพศวิถีที่มีประสิทธิภาพต้องมีการจัดการอย่างเป็นระบบและค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้เรียนได้ทำความเข้าใจบรรทัดฐานทางสังคมที่เป็นอันตรายและเป็นรากฐานของปัญหาต่างๆ เช่น วัฒนธรรมการข่มขืน การใช้ความรุนแรงต่อคู่ครอง และการรังแกคนรักเพศเดียวกัน เป็นต้น

Shelly Makleff นักวิจัยด้านสุขภาพโลกและผู้หญิง มหาวิทยาลัย Monash ประเทศออสเตรเลีย ได้ศึกษาการดำเนินงานของโปรแกรมการสอนเพศวิถีศึกษาด้วยแนวทางการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศ (Gender transformative sexuality education) ของ Mexfam ในประเทศเม็กซิโก พบปัจจัยที่สำคัญในแนวทางการสอนเพศวิถีศึกษาที่จะช่วยเปลี่ยนความเชื่อและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อประเด็นเรื่องเพศและความสัมพันธ์ได้

นั่นคือ:

ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการถกเถียงในห้องเรียน

เพื่อเปลี่ยนความเชื่อและบรรทัดฐานทางเพศที่เป็นอันตรายซึ่งจะนำไปสู่ความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ จำเป็นต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีการแสดงความคิดไตร่ตรองเชิงวิพากษ์ (critical reflection) ต่อความคิดความเข้าใจเรื่องเพศ ความสัมพันธ์ และเพศวิถี

หน่วยงานที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนในเม็กซิโกซึ่งมีหน้าที่ให้บริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ได้พัฒนาหลักสูตรเพศวิถีศึกษาขึ้นมาในปี 2016 และจัดการสอนทุกสัปดาห์ในตลอดหนึ่งภาคการศึกษาให้แก่นักเรียน 185 คนในโรงเรียนหนึ่ง โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20 คน ระหว่างอายุ 14-17 ปี ต่อกระบวนกร 1 คน ซึ่งกระบวนกรต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี และได้รับการอบรมให้เป็นผู้ให้ความรู้ด้านสุขภาพมืออาชีพ เขา/เธอจะช่วยนำกระบวนการกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้คิดไตร่ตรองเชิงวิพากษ์ต่อความเชื่อและบรรทัดฐานทางสังคมที่ตนเองเข้าใจและยึดถือ

บทสนทนาดังกล่าวอาจเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น ธรรมชาติของความรัก และพฤติกรรมที่ดีและไม่ดีในความสัมพันธ์ บทบาททางเพศ และบรรทัดฐานทางสังคม

ในบางสถานการณ์ การสนทนาเรื่องนี้อาจทำให้ผู้เข้าร่วมไม่พอใจและอาจกระตุ้นให้เกิดการคุกคามทางวาจาหรือความรุนแรงในห้องเรียน กระบวนกรต้องใช้โอกาสนี้ในการชี้นำให้เห็นผลที่ตามมาจากการมีบรรทัดฐานทางสังคมที่เป็นอันตรายเหล่านั้น

ภาครัฐและองค์กรระดับชุมชนที่มีประสบการณ์ต้องร่วมมือกัน

ภาครัฐต้องกำหนดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องเพศวิถีสำหรับเยาวชนที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานเท่าเทียมกันทุกสถานศึกษา โดยต้องมีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระดับชาติและองค์กรระดับชุมชนที่มีประสบการณ์ด้านเพศวิถีศึกษาโดยตรง เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมได้

การมีการเรียนเพศวิถีศึกษาที่ดีจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองที่อาจไม่พร้อมเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องสุขภาพทางเพศแก่เยาวชน อีกทั้งยังเป็นสะพานให้เกิดการสนทนาที่เปิดกว้างและสะท้อนความคิดความเชื่อในครอบครัว นอกจากนั้น เรายังพบว่านักเรียกมักบอกเล่าเรื่องที่ได้เรียนมาให้คนใกล้ตัวฟัง ผู้ปกครองเองก็จะได้รับประโยชน์จากการเรียนไปพร้อมกับนักเรียนด้วย

หลายครั้งความรุนแรงทางเพศก็เกิดขึ้นในโรงเรียน การลงทุนเพื่อเพศวิถีศึกษาที่มีคุณภาพในสถานศึกษาให้เยาวชนจะช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากความเชื่อและบรรทัดฐานที่เป็นอันตรายได้ตั้งแต่ต้นทาง

การพัฒนาหลักสูตรเพศวิถีศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับเยาวชน เพื่อป้องกันการเกิดความรุนแรงทางเพศ เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในเป้าประสงค์ที่ 4.5 ขจัดความเหลี่อมล้ำทางเพศด้านการศึกษา และสร้างหลักประกันว่ากลุ่มที่เปราะบางซึ่งรวมถึงผู้พิการ ชนพื้นเมือง และเด็ก เข้าถึงการศึกษาและการฝึกอาชีพทุกระดับอย่างเท่าเทียม ภายในปี 2030 และเป้าหมายที่ 5 บรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน ในเป้าประสงค์ที่ 5.2 ขจัดความรุนแรงทุกรูปแบบที่มีต่อผู้หญิงและเด็กหญิงทั้งในที่สาธารณะและที่รโหฐาน รวมถึงการค้ามนุษย์ การแสวงประโยชน์ทั้งทางเพศ และในรูปแบบอื่น

ที่มา: https://theconversation.com/young-people-are-hungry-for-good-sex-education-i-found-a-program-in-mexico-that-gets-it-right-156742

เพราะเพศเป็นเรื่องที่ติดตัวมาแต่เกิดและอยู่กับเราไปจนตาย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะต้องทำความรู้จักและเข้าใจตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผ่านวิชา เพศวิถี

‘ เพศวิถี ศึกษา’ หรือ Sexuality คือวิชาที่ว่าด้วยเรื่องเพศครอบคลุมในทุกมิติตั้งแต่เรื่องทางสรีรวิทยา ไปจนถึงบริบททางวัฒนธรรม โดยที่สำคัญคือ ต้องให้ข้อมูลการเรียนการสอนอย่างถูกต้องชัดเจนในเชิงวิทยาศาสตร์โดยปราศจากการตัดสินเชิงคุณค่า (UNESCO, 2552)

การศึกษาเรื่องเพศ เพศวิถี กลายมาเป็นคุณค่าสากลร่วมของโลกในเรื่องความเท่าเทียมและหลากหลาย ความตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งทั้งในบริบททางร่างกายและสังคมเริ่มขยายวงกว้างจากกระแสความเคลื่อนไหวเรื่องประชาธิปไตยและความเสมอภาค

“ความเคลื่อนไหวทุกเรื่องในตอนนี้เป็นเรื่องของการใช้อำนาจ แล้วเรื่องเพศก็เป็นอีกเรื่องของการใช้อำนาจ เราเลยเห็นผู้คนจำนวนมากที่ออกมาบอกว่า ‘เราไม่ต้องการเป็นเพศที่ถูกกำหนดแบบที่สังคมบอก’ ” ดาราณี ทองศิริ ผู้ก่อตั้ง Feminista สื่อเฉพาะทางว่าด้วยความเท่าเทียมทางเพศ และศิษย์เก่าสาขาการศึกษาเพศภาวะ วัฒนธรรม และการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยปูเน่ ประเทศอินเดีย จะมาเป็นผู้ขยายความเรื่องราวของเพศวิถีในชีวิตของทุกคน

เส้นทางการศึกษาเพศวิถีในไทย และก้าวใหม่ที่ความเข้าใจเป็นตัวตั้ง

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

เราต่างก็คุ้นเคยกับวิชาสุขศึกษาที่เป็นภาคบังคับในโรงเรียน เนื้อหาที่ว่าด้วยบทบาทเพศที่ถูกต้อง การรักนวลสงวนตัว และอนามัยเจริญพันธุ์ ว่าด้วยการดูแลรักษาและเพศสัมพันธ์ปลอดภัย “ลักษณะการสอนจะตั้งอยู่บนบรรทัดฐานแบบคนตรงเพศ ในระบบแบบสองเพศหรือ Gender Binary คือมีหญิงกับชายเท่านั้น นอกจากนั้นคือผิดปกติ”

บรรยากาศความเปลี่ยนแปลงในทางการศึกษาเรื่องเพศเริ่มเติบโตขึ้นนอกโรงเรียน ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิวัฒน์ของสังคมที่เดินไปข้างหน้า พร้อมกับคำถามในหัวของเด็กที่ไม่ได้รับคำตอบจากการศึกษาในระบบ เริ่มทำให้ผู้คนออกตามหาคำตอบในเรื่องที่อยากรู้ด้วยตัวเอง ทั้งจากผ่านการค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเองในกลุ่มเพื่อน รวมทั้งการให้การศึกษาโดยองค์กรที่ทำงานด้านเด็กและความหลากหลายทางเพศ ด้วยความสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ

“ความพยายามเหล่านี้เกิดจากองค์กรพยายามจะเข้าไปทำงานในโรงเรียน จากหัวเรื่องการยุติการรังแกกลั่นแกล้ง หรือเลือกปฏิบัติเด็กที่มีความหลากหลายทางเพศ ไปถึงเรื่องการสร้างความเข้าใจว่า ความหลากหลายทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของเพศวิถีมนุษย์ กับอีกส่วนหนึ่งที่มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศเข้าไปช่วยดูเรื่องตำราเรียนของนักเรียนระดับมัธยม ให้อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจเรื่องความเท่าเทียม”

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

กับนักเรียนบางส่วนที่การเรียนรู้เรื่องเพศในโรงเรียนไม่ตอบโจทย์ การหาความรู้จากนอกห้องเรียนจึงเป็นเรื่องที่เขาออกตามหา “ตอนที่เปิดคอร์ส School of Feminists แบบออนไลน์ มีห้องเรียนหนึ่งที่รับเฉพาะรอบเยาวชน อายุต่ำสุดที่มาสมัครคือ 12 ปี ไปจนถึงมัธยมปลาย เพราะเขาบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีสอนเลยในโรงเรียน ยังไม่มีการเรียนการสอนเรื่องเพศวิถีแบบรอบด้านในระบบ”

เรื่องราวของเพศวิถีเป็นหัวข้อกว้างขวางรอบด้านตั้งแต่เรื่องทางสรีรวิทยา พฤติกรรม และวัฒนธรรม การจัดการเรียนการสอนเพศวิถีจึงเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้เรียน ยกตัวอย่างหัวข้อ อนามัยเจริญพันธุ์ กฎหมายการทำแท้ง การเคารพสิทธิทางเพศ ความหลากหลายทางเพศ ความรุนแรงทางเพศ การเลือกปฏิบัติทางเพศ “ที่สำคัญคือ การเรียนรู้ไม่ได้จบแค่เนื้อหา แต่ต้องมีทางออกให้ด้วย”

อินเดีย ดินแดนเบ่งบานด้านความรู้เรื่องเพศวิถี

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

“ที่ไหนมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อต้าน” ดาราณีเริ่มต้นเล่าประสบการณ์การเรียนด้านเพศวิถีและสตรีศึกษาที่ประเทศอินเดีย “อินเดียเป็นประเทศที่มีการกดขี่ทางเพศมายาวนานและสูงมาก เพราะฉะนั้นจึงมีกระบวนการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่แรก จนกระทั่งสามารถก่อตั้งศูนย์สตรีศึกษา จนขยายมาเป็นเควียร์ศึกษา และเพศสถานะศึกษา”

“ช่วงแรกมันอาจจะเป็นเฉพาะปัญหาของผู้หญิงอย่างเดียวก่อน เช่น การที่ผู้หญิงถูกข่มขืน อันนี้เป็นปัญหาใหญ่มากในอินเดีย ความรุนแรงในครอบครัว ความสำคัญของผู้หญิง การถูกบังคับแต่งงาน การถูกคลุมถุงชน การขลิบอวัยวะเพศ หรือเรื่องประจำเดือนคือสิ่งสกปรก พอมีการกดขี่มันเลยมีการต่อสู้ มีการตั้งสตรีศึกษาขึ้นมาในโรงเรียน ทุกวันนี้ทุกรัฐที่อินเดียจะมีองค์กรที่ทำประเด็นเรื่องเพศ การที่มีหลักสูตรมันแปลว่าเราต้องการแก้ปัญหา จึงต้องมีการสร้างองค์ความรู้ขึ้นมา”

นอกจากบทเรียนในหลักสูตร สถานการณ์นอกห้องเรียนในบรรยากาศของอินเดียก็รุนแรงไม่แพ้กัน “เราเจอการเลือกปฏิบัติทางเพศที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วเราก็ไปทำงานกับคนที่ถูกเลือกปฏิบัติทางเพศจริงๆ มันยิ่งกว่าตอนเป็นนักเรียนอีก อย่างภาวะความไม่ปลอดภัยที่อยู่รอบตัว เราถูกจ้องมอง ชวนคุย ถามเรื่องส่วนตัว มันเป็นภาวะที่เราเจอกับตัวเอง”

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
(ภาพจากงานประชุมผู้หญิง ดาลิต)
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
(ภาพกิจกรรมการฉลองปีใหม่)

“หรือเราอยากเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ตอนกลางคืนก็ทำไม่ได้ เราเคยเจอตำรวจมาบอกว่า ‘อย่ามายืนแถวนี้ คนเมาเยอะเดี๋ยวโดนข่มขืน’ มันทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่า สิ่งนี้คือความไม่เท่าเทียมทางเพศ เพราะวิธีการแก้ไขของคุณไม่ได้คุ้มครองผู้หญิง ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงมีสิทธิ์ที่จะไปเตร็ดเตร่ข้างนอกได้อย่างปลอดภัย แต่จะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้หญิงอยู่บ้าน จะได้ปลอดภัย”

“หรือในมหาวิทยาลัยเรา มีคนข้ามเพศเรียนแค่คนเดียว แล้วกว่าเขาจะฝ่าฟันเข้ามาเรียนปริญญาโทได้ ก็คือต้องทำงานเป็นขอทาน ขอเงินตามเทศกาลต่างๆ เพราะคนข้ามเพศจะโดนรังเกียจ ถ้าไม่ทำ Sex Work ก็เป็นขอทาน ซึ่งพอเขาเข้ามาเรียนได้ก็ต้องเผชิญกับการถูกเลือกปฏิบัติ ถูกรังแกเยอะ”

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมรุนแรงในเรื่องทางเพศ ในช่วงระยะเวลาที่ดาราณีเรียนอยู่ เธอก็ได้อยู่ร่วมในหมุดหมายของประวัติศาสตร์อินเดียเช่นกัน “ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังต่อสู้เพื่อที่จะยกเลิกกฎหมายลงโทษคนรักเพศเดียวกัน หรือมาตรา 377 แล้วทำสำเร็จ เขายกเลิกตอนเราเรียนปีสุดท้ายพอดี เราเลยได้อยู่ร่วมในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้โดยไม่ถูกกฎหมายเล่นงาน ที่คณะคือจัดงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เลย แล้วเรียกเรากับเพื่อนที่เป็นคนข้ามเพศและเกย์ ซึ่งเปิดตัวว่าเป็นคนมีความหลากหลายทางเพศ ไปตัดเค้กสีรุ้งและกล่าวถ้อยแถลง”

สังคมไทยกับการเติบโตของความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

“เรื่องเพศต้องบอกว่าเป็นเรื่องการหล่อหลอมทางวัฒนธรรมด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียว ในแง่กฎหมาย ถ้าผ่านสภาก็เปลี่ยนได้ แต่ความคิดคนที่จะเปลี่ยนเรื่องการมอง LGBTQ+ ให้เท่ากัน เผลอๆ มีกฎหมายแล้วก็ยังไม่เปลี่ยน เพราะมันคือการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม”

ทั่วไปในสังคม เราต่างก็อยู่กับความหลากหลาย เช่นเดียวกันกับเรื่องเพศที่นิยามในตัวตนของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามปัจเจก “มันเลยต้องตั้งคำถามกลับไปว่า จริงๆ แล้วบรรทัดฐานของคนรักต่างเพศหรือตรงเพศมันฝังมายาวนาน โดยที่คุณไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้ว LGBTQ+ มีอยู่ทั่วไป แค่ไม่เคยปรากฏบนพื้นที่แบบรักต่างเพศ ซึ่งพอมันปรากฏขึ้นมา หลายคนอาจรู้สึกว่าถูกยัดเยียด ทั้งที่จริงๆ แล้วเราอยู่ทุกที่ เราก็ใช้ชีวิตอยู่กับคนรักตรงเพศ กับคนทั่วไปในสังคมนั่นแหละ”

ความเติบโตในความรู้ความเข้าใจในเรื่องความหลากหลาย นำมาสู่การนิยามตนเองในเรื่องเพศ ความสำคัญของเรื่องนี้นอกจากเป็นการสร้างความตระหนักให้กับสังคมแล้ว ยังนำไปสู่การปฏิบัติที่เคารพต่อทุกคนในฐานะเพื่อนมนุษย์ และเคารพปัจเจกของแต่ละคน

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

“เวลาเรานิยามตัวเอง แปลว่าเรายอมรับว่าเรามีตัวตนบางอย่าง เรามีสำนึกบางอย่าง แล้วเราผูกพันกับคนอื่นในฐานะอะไร คนตรงเพศอาจจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไรเพราะอยู่ในกรอบถูกต้องที่สังคมให้การยอมรับ แต่กับคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เวลามีคนมาบอกว่าเราเป็นอะไรโดยที่เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นมันอึดอัด เพราะฉะนั้นมันก็เลยต้องยืนยันว่า เรานิยามตัวเองว่าอะไร เพื่อให้คนเข้าใจนิยามนั้น และเคารพที่เราเป็นเรา”

“แต่ละคนก็มีปัญหาที่ต่างกันออกไป ขนาดเราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เรายังมีปัญหาไม่เหมือนกันเลย เพราะฉะนั้นมันเลยต้องกำหนดนิยามว่า เพื่อให้การปฏิบัติและการแก้ปัญหาก็ต้องออกมาให้ตรงกับความต้องการ เพราะถ้าไม่นิยามตัวเอง ปัญหาเหล่านั้นจะถูกลบเลือนไป อย่างคู่เลสเบี้ยนที่แต่งงานกันในงานไพรด์ ก็ต้องนิยามตัวเองว่าเป็นคู่ชีวิต เพื่อความต้องการแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นำมาสู่ความต้องการกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อให้ปัญหาโดนแก้ไข”

“แต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าสมมติว่า สังคมนั้นมีกฎหมายรองรับทุกเพศแล้ว ทุกคนเคารพอัตลักษณ์ที่หลากหลายแล้ว ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องมานั่งต่อสู้เพื่อนิยามเหล่านี้แล้ว”

การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร
การเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นอย่างไร

การเรียนรู้เรื่องเพศแม้จะมีขอบเขตที่กว้างขวางหลากหลาย แต่ก็ไม่สายที่จะเรียนรู้ และยังเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต เพราะนอกจากเป็นเรื่องการสร้างความเข้าใจและตระหนักในความหลากหลายแล้ว ยังใช้รับมือการเปลี่ยนผ่านของวัฒนธรรมไปสู่ค่านิยมแบบใหม่ ให้เดินทางได้ตรงเส้นในวันที่โลกเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“ฝั่งยุโรป อย่างเนเธอร์แลนด์หรือสวีเดนมีการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมทางเพศในโรงเรียนและครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก ยกตัวอย่างครอบครัวที่มีลูกมีความหลากหลายทางเพศ ก็จะมีโปรแกรมให้หมดเลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มีสวัสดิการข้ามเพศให้กับเด็ก โดยที่รัฐและเอกชนให้ความร่วมมือกันเพื่อผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในทุกบริบท ทั้งทางสรีระ กฎหมาย และสังคม”

สำหรับเมืองไทยเอง เรายังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การสร้างความเข้าใจใหม่ในเรื่องราวทางเพศ เคล็ดลับไม่ยากสำหรับการเรียนรู้เรื่องนี้คือ ‘เปิดสมอง เปิดใจให้กว้าง และศึกษาในเรื่องที่อยากรู้’

“การเรียนรู้เรื่องเพศจะทำให้คนเข้าใจตัวเองด้วย เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และเคารพความหลากหลายของสังคมมากขึ้น” ดาราณีทิ้งท้าย

นักเรียนคิดว่าการเรียนวิชาเพศวิถีศึกษามีความจําเป็นหรือไม่ อย่างไร

เพศวิถีศึกษา จึงมีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนไทยในการสร้างความเข้าใจและเห็นคุณค่าของตนเอง ครอบครัวมีทักษะในการดำเนินชีวิตสามารถรู้เท่าทันภัยของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การให้ความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกำลังของชาติมีอนาคตที่ดี ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อ ...

การเรียนเพศวิถีศึกษาจำเป็นอย่างไร

3. เพศวิถีศึกษาช่วยให้เยาวชนสามารถควบคุมพฤติกรรมของตน ในทางกลับกันช่วยให้ผู้เรียนรู้จักปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วย ความเคารพ ยอมรับ อดทน และเอาใจใส่ โดยไม่เลือกเพศชาติพันธุ์ เชื้อชาติ หรือวิถีทางเพศ ท าให้มีแนวทางในการเลือก ดาเนินชีวิตทางเพศอย่างเหมาะสม เป็นสุข และปลอดภัย

เพศศึกษาเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง

เพศศึกษานั้นเป็นความรู้ที่ครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆของร่างกาย ระบบการเจริญพันธุ์ ระดับของฮอร์โมนเพศ อารมณ์เพศ ความรัก กามารมณ์ การครองชีวิตคู่ การวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิด การตั้งครรภ์และมีบุตร การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศและส่วนที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับวัย

เพราะอะไรนักเรียนจึงต้องเรียนวิชาเพศศึกษา

ความรู้เรื่องเพศสภาพช่วยให้นักเรียนมีกรอบแนวคิดพื้นฐานและคำศัพท์ในการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ตลอดจนการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ นอกจากนั้น ยังช่วยสร้างความเข้าใจและความรู้สึกสะดวกใจกับเส้นทางการเติบโตของตนเอง รวมทั้งความแตกต่างหลากหลายของเส้นทางการเติบโตที่อาจพบเจอในกลุ่มเพื่อนๆ