'พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็น กระบือ ' เล่มนี้ อาจทำให้เราหลายๆ คนได้สติ และปัญญาจาก ขันติ และ เมตตาธรรม ของพระพุทธเจ้า 'พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็น กระบือ ' เล่มนี้ อาจทำให้เราหลายๆ คนได้สติ และปัญญาจาก ขันติ และ เมตตาธรรม ของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ และเสวยพระชาติเป็น 'พญากระบือ' บารมี ผู้เรียบเรียง และวาดภาพ หนังสือเรื่องนี้เล่าว่า กระบือ หรือควาย เป็นชื่อของสัตว์ที่คนไทยมักนิยมใช้เรียกเป็นสัญลักษณ์แทน 'ความโง่เขลา ไร้สติปัญญา ' โดยเฉพาะคำกล่าวที่ใช้ดูถูกว่า "โง่เหมือนควาย" เป็นคำที่คุ้นหูคนไทยมาโดยตลอดหลายยุคหลายสมัย "แต่ความเชื่อนี้จะถูกลบล้างให้หายไปจากความรู้สึกนึกคิดของคนไทย หากได้ทราบความจริงว่า ในอดีตกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เคยเสวยพระชาติเป็น 'พญากระบือ' ผู้มีจิตใจอันประเสริฐดีงาม พร้อมทั้งสติปัญญาอันเฉลียวฉลาด ดังนั้น การศึกษาเรื่อง พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็น กระบือ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คนไทยหลายคนต้องหันกลับมาย้อนพิจารณาดูตัวเองว่า ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์กันอยู่ทุกวันนี้ เป็นสัตว์ประเสริฐที่มีจิตใจสูงส่งและเฉลียวฉลาดกว่ากระบือ จริงหรือไม่ ?" เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ก่อนที่การสร้างสมบารมีอันยาวนานของเจ้าชายสิทธัตถะจะถึงความบริบูรณ์จนได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ด้วยอำนาจอกุศลกรรมที่พระองค์ได้เคยกระทำไว้เมื่อสมัยยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ ส่งผลให้ในพระชาติหนึ่ง พระองค์เคยมีกำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เสวยพระชาติเป็นพญากระบือ ดังเรื่องราวปรากฎอยู่ในประไตรปิฎก มหิสชาดก ทุกขนิบาต ตอนหนึ่ง ดังนี้ ครั้งนั้น พระมหาโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญากระบือ มีร่างกายสูงใหญ่ และเขาอันยาวงามแหลมคม อาศัยอยู่ภายในป่าหิมวันต์ วันหนึ่ง ภายหลังจากการเที่ยวหากินจนอิ่มท้องแล้ว พญากระบือได้เข้าไปอาศัยหลบร้อนอยู่ภายใต้โคนไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง อันมีใบดกหนาทึบเป็นที่น่ารื่นรมย์ ระหว่างนั้นมีลิงอันธพาลตัวหนึ่งซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ก่อน ทันทีที่มันเห็นว่ากระบือมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่มันอยู่ มันก็นึกสนุก กระโดดลงจากต้นไม้ แล้วขึ้นไปขี่บนหลังของพญากระบือ จับเขาเล่นบ้าง ดึงหูเล่นบ้างอย่างสนุกสนาน แต่พญากระบือก็มิได้ใส่ใจในกิริยาอันซุกซนของมัน เจ้าลิงอันธพาลได้ใจ สำคัญตนผิด คิดว่ากระบือตัวโตเสียเปล่า แต่กลับไม่กล้าทำร้ายมันที่ตัวเล็กกว่า จึงจับเขาอันยาวข้างหนึ่งของพญากระบือเล่นห้อยโหนอยู่ไปมา และได้แสดงกิริยาอันต่ำทราม ด้วยการขึ้นไปเหยียบย่ำอยู่ระหว่างเขาทั้งสอง แล้วนั่งถ่ายอุจจาระปัสสาวะราดศีรษะของพญากระบือด้วยความคึกคะนอง แต่เพราะพญากระบือนั้นเป็นมหาโพธิสัตว์ มีน้ำใจ ประกอบด้วยขันติและเมตตาธรรม จึงมิได้ใส่ใจในอากัปกิริยาอันหยาบช้าของลิงตัวนี้ เมื่อเป็นดังนี้ ลิงอันธพาลจึงได้ใจ คิดกำเริบเสิบสานหนักขึ้นทุกทีๆ และทำกิริยาเช่นนี้ทุกวัน จนกระทั่งรุกขเทวดาทนไม่ได้ ถามพญากระบือว่า ทำไมท่านจึงไม่เอาเขาอันแหลมคมหรือกีบเท้าฆ่ามันให้ตายโหงเสียเล่า? พญากระบือตอบว่า ดูก่อน ท่านรุกขเทวดาผู้เจริญ! จำเดิมแต่ครั้งโบราณกาลมาแล้ว ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ย่อมอดทน อดกลั้นต่อการดูหมิ่นของผู้ที่เลวกว่าตน ผู้ที่เสมอกับตน และผู้ที่ประเสริฐกว่าตนได้ดังใจปรารถนา "หากเรายังไม่สามารถอดทนต่อพฤติกรรมอันต่ำช้าของลิงตัวนี้ได้แล้ว ความปรารถนาในพระโพธิญาณอันสูงสุด เพื่อการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราจะสำเร็จได้อย่างไร ?" ต่อมา เมื่อเวลาล่วงไปได้สองถึงสามวัน พญากระบือก็ย้ายไปอาศัยหลบร้อน ณ โคนไม้อื่น ส่วนโคนไม้เดิม มีกระบือดุร้ายต่างถิ่นตัวหนึ่งเข้ามาอาศัยอยู่แทนพญากระบือ เมื่อลิงอันธพาลเห็นมีกระบือมายืนอยู่มันก็คิดว่าเป็นกระบือตัวเก่า จึงกระโดดลงมา แล้วแสดงกิริยาเหมือนอย่างที่เคยทำกับพญากระบือ ในที่สุด มันก็ถูกกระบือดุร้ายตัวนั้นสลัดจนร่วงตกลงมาบนพื้นแล้วใช้เขาขวิด และกีบเท้ากระทืบเหยียบจนขาดใจตาย ณ โคนไม้นั้นเอง อุทาหรณ์สอนใจจากพญากระบือ กับลิงอันธพาล ทำให้เราเห็นวิธีการแก้ปัญหาไม่น้อย เช่นว่า หากใช้วิธีแกล้งมาโกรธตอบ สุดท้ายก็มีแต่ความอาฆาตมาดร้ายตามมา รวมทั้งการกระทำที่สร้างภพชาติต่อไปอีกไม่สิ้นสุด แต่ที่พญากระบือใช้ขันติและเมตตา จึงเป็นหนทางตัดภพชาติที่ดีที่สุด ไม่ก่อเวรกรรมในภายภาคหน้าอีกต่อไป ทีนี้ ผมว่าผมไม่ได้เขียนไปเรื่องนึง จะย้อนกลับไปแก้ในบล๊อกเก่าก็เดี๋ยวจะทำให้บทความยาวยืดไป เลยตัดสินใจเขียนใหม่ครับ ************************************************************ อย่างที่ทราบกับ พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่กำลังสั่งสมบารมีเพื่อที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆคือ อนิยตโพธิสัตว์ – ผู้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า แต่ยังไม่ชัวร์ว่าจะสำเร็จ … อาจจะถอดใจไปก่อน นิยตโพธิสัตว์ – ผู้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า และ มั่นคงแน่นอนว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนในอนาคต ท่านที่เป็น นิยตโพธิสัตว์ เนี่ย ท่านก็ยังต้องวนเวียนไปเกิดตามภพภูมิต่างๆ แต่ว่า จะมีลักษณะสำคัญอยู่ เราเรียกว่า อานิสงค์ ๑๘ ประการ ของการเป็นนิตยโพธิสัตว์ครับ ซึ่งก็คือ
อานิสงค์อีกอย่างคือ ถ้าท่านเป็นเทวดาหรือพรหม แล้วเกิดเบื่อหน่ายขึ้นมา ท่านสามารถอธิษฐานแล้วลงมาจุติได้ครับ ซึ่งอันนี้เทวดาทั่วๆไปทำไม่ได้ ที่มาครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=zen-why-n&date=09-04-2011&group=12&gblog=10 ที่มาของรูปครับ http://www.mysteriousclub.com/forum.php?mod=viewthread&tid=51&page=1 ************************************************************ จากที่เห็นนะครับ เราก็จะเข้าใจได้ว่า ทำไมในพระไตรปิฏกมีการกล่าวถึงอดีตชาติของพระพุทธเจ้าว่า ท่านเคยเป็น กระต่ายบ้าง นกแขกเต้าบ้าง กินนรบ้าง พระยานาคบ้าง (นาคเนี่ย ถือว่าเป็นเดรัจฉานนะครับ) |