ปัจจุบัน โลกกลมๆ ใบนี้ได้เข้าสู่ “ศตวรรษที่ 21” มาเป็นปีที่ 19 ย่างเข้าปีที่ 20 หรือ “2 ทศวรรษ” แล้ว และที่เราได้อ่าน ได้ดู ได้ฟัง เกี่ยวกับคำว่า “การศึกษาในศตวรรษที่ 21” ก็มีเยอะแยะมากมายหลายต่อหลายแหล่ง อีกคำหนึ่งซึ่งตีคู่มากับ “การศึกษาในศตวรรษที่ 21” ก็คือ “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” หรือ 21st Century Skills“ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” คือเป้าหมายของการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ที่จะช่วยชี้นำวิธีการสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่พัฒนาชีวิตของผู้เรียนให้มีคุณภาพและประสบความสำเร็จเพื่อการดำรงชีวิตศตวรรษที่ 21
โดย Bernie Trilling และ Charles Fadel ได้นำเสนอ “สมการ 3R x 7C x 2L” ขึ้น “สมการ 3R x 7C x 2L” ประกอบด้วย 3R หรือ “ทักษะการรู้หนังสือ 3 ประการ” ได้แก่ Reading (ทักษะการอ่าน), Writing (’Riting-ทักษะการเขียน) และ Arithmetic (’Rithmetic-ทักษะเลขคณิต) 7C ประกอบด้วย “ทักษะใหม่ 7 ด้าน” ดังนี้
2L คือ ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) และภาวะผู้นำ (Leadership Skills)
ความหมายของ “สมการ 3R x 7C x 2L” ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ก็คือ การเปลี่ยนรูปแบบห้องเรียนแบบดั้งเดิม หรือ Traditional Classroom ที่มีครูยืนอยู่หน้าห้อง หันหน้าให้นักเรียน และหันหลังให้กระดานดำ มาสู่ห้องเรียนสมัยใหม่ หรือ Modern Classroom และอาจเป็นห้องเรียนหลังสมัยใหม่ หรือ Post-Modern Classroom ลักษณะสำคัญของ “ห้องเรียนสมัยใหม่” นั้น หลักใหญ่ใจความก็คือ บทบาทของครูบาอาจารย์ เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็น “ผู้สื่อสารทางเดียว” มาสู่การจัดการเรียนการสอนที่เอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ (Interactive) ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ด้วยกระบวนการเรียนรู้ใหม่ ได้แก่ 1.การเรียนรู้บนฐานปัญหา (Problem-Based Learning) เพื่อเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา เพื่อตอบโจทย์ “การศึกษาในศตวรรษที่ 21” ให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 และการเกิดขึ้นของ EEC ที่เป็นธงนำในการพัฒนาประเทศเข้าสู่ยุค 5G รองรับ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ 12 S-Curve หลายท่านอาจเคยได้ยินชื่อ “สัตหีบโมเดล” ที่ปัจจุบันได้รับการต่อยอดเป็น EEC Model ภายใต้การขับเคลื่อนของ EEC HDC หรือ Eastern Economic Corridor Human Development Center นำโดย นายอภิชาติ ทองอยู่ ประธาน EEC HDC และที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ดร.คณิศ แสงสุพรรณ) โดย EEC HDC มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่อาคารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และมีคณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญ
เพราะ EEC Model มีนโยบายปฏิรูประบบการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการอาชีวศึกษาในพื้นที่ EEC มีวัตถุประสงค์ในการสร้างทักษะแก่ผู้เรียนไปพร้อมๆ กับการฝึกงานในสถานประกอบการ เพื่อตระเตรียมตัวผู้เรียนให้เข้าสู่โลกแห่งการทำงานที่มีผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะในสายอาชีวศึกษาสาขาที่ขาดแคลนของ 12 S-Curve โดยความร่วมมือแบบไตรภาคีระหว่างสถาบันการศึกษา สถานประกอบการ และ EEC HDC ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบาย มีเป้าหมายคือการสร้างกำลังคนรองรับ 12 อุตสาหกรรมใหม่ และผู้เรียนที่เข้าร่วมโครงการมีงานทำ 100% จึงกล่าวได้ว่า แนวคิดใหม่ของ EEC HDC ดังกล่าว คือการ “ผ่าตัดการศึกษาไทย” ที่สถาบันการศึกษาจำนวนมากในวันนี้ที่ยังคงอยู่ในโลกของ “การศึกษาในศตวรรษที่ 20” ซึ่งยังคงใช้ “ห้องเรียนแบบดั้งเดิม” หรือ Traditional Classroom คือครูยืนอยู่หน้าห้อง หันหน้าให้นักเรียน และหันหลังให้กระดานดำ เพราะยุทธศาสตร์ของ EEC HDC นั้นจะไม่ใช่ค่การสร้างนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้ “แค่เรียนจบ” รับประกาศนียบัตรหรือใบปริญญา ซึ่งเป็นแนวคิดของ “การศึกษาในศตวรรษที่ 20” แต่ก้าวหน้าไปถึงขั้นความมุ่งมั่นที่จะสร้างนักเทคโนโลยี และนวัตกร ตามปรัชญา “การศึกษาในศตวรรษที่ 21” การเกิดขึ้นของ EEC HDC จึงเป็นโมเดลการศึกษาใหม่ เสมือนการ “ผ่าตัดใหญ่เปลี่ยนอวัยวะระบบการศึกษาไทย” ที่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา แต่จะเปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าของประเทศ EEC HDC จึงเป็นโมเดลการศึกษาที่จะเป็นเรือธง ผู้อาสานำพา “ระบบการศึกษาไทย” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของศตวรรษที่ 21 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ Thailand 5.0 ในอนาคตนั่นเองครับ อยากรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับความสำคัญและหมุดหมายของ EEC HDC ติดตามได้ในบทความเหล่านี้
Post Views: 7,762
Previous articleสาลิกาคาบข่าว Vol.241/62 Next articleเมื่อ ‘อ้อย’ กลายเป็น ‘พลาสติก’ Jakkrit Siririn ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี ทั้งนักข่าว นักเขียน บรรณาธิการ มาเป็น ดร.ด้านการศึกษา ผ่านประสบการณ์ทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน จะมาแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม |