Var207 Locations de vacances près deRhône Alpes555 Locations de vacances près deChampagne-Ardenne14 Locations de vacances près deLandes35 Locations de vacances près deArdèche66 Locations de vacances près de[]4 Locations de vacances près deNord de la France1020 Locations de vacances près deMidi-Pyrénées122 Locations de vacances près deVaucluse113 Locations de vacances près deMorbihan72 Locations de vacances près deAquitaine254 Locations de vacances près deMoselle29 Locations de vacances près deAuvergne37 Locations de vacances près dePicardie38 Locations de vacances près deDrôme23 Locations de vacances près deLorraine68 Locations de vacances près deCentre de la France591 Locations de vacances près deNord Pas de Calais47 Locations de vacances près deDordogne159 Locations de vacances près deVendée41 Locations de vacances près deCentre31 Locations de vacances près deLimousin30 Locations de vacances près deCôte d'Azur199 Locations de vacances près deSud de la France1869 Locations de vacances près deGironde36 Locations de vacances près deAlsace23 Locations de vacances près deLanguedoc-Roussillon308 Locations de vacances près deLubéron61 Locations de vacances près deParis et alentours5 Locations de vacances près deProvence423 Locations de vacances près deNormandie178 Locations de vacances près deCorse78 Locations de vacances près deJura1 Locations de vacances près dePays de la Loire68 Locations de vacances près deFranche Comté9 Locations de vacances près deBretagne431 Locations de vacances près deCorse-du-Nord52 Locations de vacances près deLes Alpes françaises493 Locations de vacances près dePoitou-Charentes102 Locations de vacances près deVosges32 Locations de vacances près deÎle-de-France5 Locations de vacances près deBourgogne49 Locations de vacances près deCorse-du-Sud26 Locations de vacances près deLot-et-Garonne16 Locations de vacances près deCharente-Maritime31 Locations de vacances près deProvence-Alpes-Côte d'Azur456 Locations de vacances près deLot74 Locations de vacances près de
以下の商品に関しまして、あみあみオンラインショップ(通販本店 amiami.jp)にて抽選予約販売を実施させていただきますこと、お知らせいたします。 Show
対象商品: 応募期間:2023年1月5日(木)~2023年1月10日(火)13時59分 応募専用ページURL:
当店は、年末年始の以下の日程を休業期間として、お問い合わせへの返答や商品の発送業務をお休みさせていただきます。 【年末年始休業期間】 休業期間中にいただいたお問い合わせへの返信や商品の発送は、1月4日(水)から順次の対応となりますため、1月4日(水)からの当社対応に通常よりお時間いただきますこと、あらかじめご了承ください。 なお、例年年末年始時期は、宅配便取扱量の増加や天候不良、交通渋滞などの理由により、宅配便のお届けが通常よりも遅くなりますので、あらかじめご了承ください。 当社商品の配送に使用される佐川急便とヤマト運輸の配送遅延状況は、以下のサイトからご確認いただけます。 佐川急便 ヤマト運輸
昨今の人件費および原燃料価格高騰などに伴う物流関連費用の増加により、誠に勝手ながら以下の日時および金額にて、当店の送料を改定させていただきます。 改定日時:2023年1月17日(火) 00時00分 改定前 送料:全国一律500円(税込) 改定日時「2023年1月17日(火) 00時00分」より前にご注文された商品のみで構成されているご注文は、引き続き「改定前送料:全国一律500円(税込)」のままでお届けします。 これまで送料の価格維持に努めて参りましたが、やむを得ず改定いたしますことを心よりお詫び申し上げます。
「商品発送の遅れ(在庫品・予約商品とも)」 が生じる可能性が高くなってます。 なお、お問い合わせについては、以下もご確認ください。 ●お問い合わせ窓口 【メールでのお問い合わせ先】 新着商品 Design System คืออะไร? สำหรับบทความในวันนี้เราจะมาเล่าเรื่อง Design system แบบละเอียด ข้อดีของการมีระบบแบบแผนในการออกแบบนั้นช่วยเหลือทีมเราได้อย่างไร? ปูความรู้ให้กับผู้เริ่มต้นศึกษาไปพร้อม ๆ กันกับเรา และยังมีตัวอย่างจากแบรนด์ดังหลาย ๆเจ้าที่ทำออกมาน่าประทับใจเลยค่ะ Design System คืออะไร ภาพจาก from Airbnb ความเป็นมาของ Design Systemหากย้อนกลับไปในสมัยรูปแบบการทำสื่อที่ยังอยู่ในรูปของสื่อสิ่งพิมพ์ ในสมัยนั้นก็ต้องมี Guideline หรือรูปแบบในการออกแบบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกริด สี ตัวหนังสือ ระยะเว้น เพื่อช่วยให้ดีไซน์เนอร์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีระบบเบียบแบบแผนในโปรเจคเดียวกัน ยุคต่อมานั้นการทำเว็บไซต์เอง เราก็มีสิ่งที่เรียกว่า Style Guide ที่เป็น pdf, หรือเว็บไซต์เพื่อให้ทีมเข้าใจในการออกแบบ เช่น สี, ฟอนต์, ตัวหนังสือต่างๆ แต่มันก็ยังคงเป็นเหมือนกับสิ่งที่แยกที่แยกออกมาและใช้กันแค่เพียงทีมดีไซน์เนอร์เท่านั้น แต่ในปัจจุบันนั้นการทำงานร่วมกันระหว่าง Designer และ Developer เริ่มมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องใช้งาน components ส่วนต่างๆร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวของ โค้ด (Code), ตัวหนังสือ (Type), หรือสี (Colors), Components ส่วนต่างๆ ในโปรเจคที่ทำงานร่วมกัน เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ดีไซน์เนอร์ต้องการทำงานร่วมกันกับทีมใหญ่ ๆ แล้ว Design System ก็เปรียบเสมือนกับแบบแผนที่ช่วยให้การออกแบบในบริษัทออกไปในทิศทางเดียวกัน มีความสม่ำเสมอ หรือ Consistency ช่วยให้องค์กรนำเสนอภาพลักษณ์ เป้าหมาย แบรนดิ้งได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และที่สำคัญคือจะเป็นไกด์ไลน์ช่วยให้ทีมทำงานไวขึ้น
นอกจากนี้ถ้าหากคุณเคยประสบปัญหาต้องมานั่งเทส UI ทั้งระบบ แล้วมาเจอว่าดีไซน์เนอร์ใช้โค้ดสีไม่ตรงกัน สีน้ำเงินเหมือนกัน แต่คนละโค้ดสี … มีคนใช้ปุ่มที่มีขนาดและหน้าตาไม่เหมือนกันอีก … Alert แต่ละหน้าก็แตกต่างกันเหมือนอยู่กันคนละบริษัท บริษัทเดียวกัน ระบบเดียวกัน แต่ทำไมถึงไม่มีความ Consistency ? การออกแบบสำหรับองค์กรที่ไม่มี Design system ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งจะทำให้ทีมของเราเกิด Design Debt คือ การออกแบบที่ใช้งานไม่ได้ ออกแบบมาใช้แค่ครั้งเดียวแล้วก็ทิ้งไป ก่อให้เกิดการเปลืองทั้งแรง พลังงานและงบประมาณในการจ้างดีไซน์เนอร์ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เราเสียเวลาในการทำงานใหม่ตั้งแต่ออกแบบ ไปจนถึงเขียนโค้ด คำถามคือเรามีเครื่องมือใดบ้างที่จะมาช่วยจัดการงานของเราให้อยู่ในระบบระเบียบส่วนกลางเดียวกัน ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งองค์กร เข้าใจยากไปมั้ย? มาดูวิดีโอประกอบกันวิดีโออธิบายเรื่องของ Design system คืออะไรแบบละเอียด*อัพเดทมีวิดีโอประกอบ ดูวิดีโอนี้จบจะเข้าใจเรื่อง Design System อย่างถ่องแท้เลยค่ะ :D Design system คืออะไร ?คือ เครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้องค์กรทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้ทีมของเราทำงานไวขึ้น สื่อสารได้ตรงกันกับทุกทีมทั้ง Developer, Designer, Content, Manager etc. ช่วยให้เรานำเสนอภาพลักษณ์องค์กรไปในทิศทางเดียวกัน เพราะว่าสิ่งที่เราออกแบบไว้ อาทิเช่น ปุ่ม (Button) สี (Colours) ฟอร์ม (Form) เงา แอนิเมชั่น รูปแบบการเขียน การนำเสนอ ทุกคนจะใช้เหมือนกันทั้งหมด นอกจากนี้ทีมอื่นๆในบริษัทสามารถนำ Component กลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องเสียเวลาสร้างขึ้นใหม่ กล่าวคือทำทีเดียว แก้ทีเดียวก็ไปด้วยกันทั้งระบบ ไม่ต้องมานั่งเขียนโค้ดหลายรอบ ออกแบบหลายรอบ เทสหลายรอบ ใช้ชุด System เดียวกันให้เหมือนกันไปทั้งบริษัทในทุก Product เท่าที่จะสามารถทำได้นั่นเอง
คุณสมบัติของ Design System1. ต้องเป็นสิ่งที่ใช้งานจริง และแก้ไขปรับปรุงอยู่เสมอ 2. เป็นโมดูล รวมกันไว้ในที่เดียวเพื่อให้ Designer และ Developer เข้าไปหยิบจับมาใช้ในงานจริง 3. มีส่วนประกอบของ Style Guides, Patterns, Specs, Documentation ทำไมเราต้องใช้ Design System ?1. เราต้องสร้างความสม่ำเสมอในการออกแบบ (Consistency)การทำงานของ Developer และ Designer โดยเฉพาะตัว Designer จะต้องมีพูดคุยและอัพเดทำงานร่วมกันภายในทีม ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ส่วนต่างๆ ของโปรเจคให้คนอื่นในทุกวันของการงาน เพื่อทำให้งานมีประสิทธิภาพ ไม่หลุดออกจากกรอบที่เราวางไว้ 2. เพื่อทำให้ทีมมีศักยภาพในการขยายตัว (Scalable)เมื่อเรามีโครงสร้างการออกแบบที่ให้ทุกคนเข้าถึงได้ การทำงานก็จะราบรื่น โดยเฉพาะเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในองค์กรก็สามารถเปิดตัว Design System เพื่อเรียนรู้องค์กรของเรา ช่วยสานต่องานได้อย่างรวดเร็ว เริ่มไว ก็ทำงานไว ไม่เปลืองเวลาในการเรียนรู้ นอกจากนี้ถ้าองค์กรเรามีหลายทีม ทีมอื่นภายในองค์กรก็สามารถเข้ามาหยิบจับ Design System ของเราไปใช้งานได้ ทำให้ภาพลักษณ์ที่เราอยากนำเสนอออกมาได้สวยงามถูกต้องตรงกัน เราก็มักจะเจอปัญหาว่าทีมดีไซน์จะเรียกส่วนต่างๆไม่เหมือนกับทีมเดป เรียกว่าพูดคนละภาษานั่นล่ะ ดังนั้นการมี Design System ไว้ก็เหมือนจะเป็นสื่อกลางที่ช่วยเชื่อมให้ทั้งสองฝ่ายใช้ภาษาเดียวกันในการทำงาน พอเราเรียกส่วนต่าง ๆ เหมือนกัน การทำงานก็จะราบรื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราสามารถนำ Design system ของเราไปใช้กับทีมนักเขียน ทีมคนเขียนบทความและอื่นๆได้อีกมากมาย ไม่ใช่แค่ดีไซน์เนอร์กับเดปเท่านั้น ก็ถ้าลองยกตัวอย่างบริษัท Facebook เองที่มีดีไซน์เนอร์มากกว่า 400 คน การทำงานให้เกิดความสม่ำเสมอและเข้าใจภาพลักษณ์ขององค์กรก็เลยเป็นเรื่องยากมากๆ ดังนั้นการมีตัวช่วยอะไรสักตัวที่ให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นก็ช่วยให้การทำงานเป็นไปได้รวดเร็ว ตัวอย่างการใช้งานตอนนี้แอดมินนัททำงานที่มหาลัย Edtech ที่ประเทศออสเตรเลีย เมลเบิร์น เป็นตำแหน่งหลักที่ดูแล Design System + Research + UX จะมาเล่าประสบการณ์ทำงานจริงให้เป็นตัวอย่างเผื่อทุกคนที่กำลังสนใจอยากทำค่ะ มหาลัยที่แอดทำงานอยู่เพิ่งเริ่มมีทีม CX, UX, UI ที่เป็นตัวกลางในการจัดการระบบมาได้ทั้งหมดสองปี ทั้งทีมมีประมาณ 30 คนค่ะ เข้ามารับช่วงต่อโปรเจคใหม่ธุรกิจ Edtech เล่าประสบการณ์การใช้ Design System ในองค์กร Edtech ขนาดใหญ่1. ประชุมกับคนในองค์ Stakeholder, Content, Dev, Accessibility, Researcher, Designer พูดง่าย ๆ คือ ดีไซน์ Component มาแล้วเขียนโค้ดชุดเดียว ทุกคนใช้เหมือนกันหมดทั้งองค์กร ถ้ามีแก้ไข ก็แก้ที่ทีมแอดมินเอง แก้แล้วอัพเดทให้ทีมงานร้อยกว่าคนได้ทันที ไม่ต้องมานั่งปรับกันใหม่ ปรับ แก้ เทสกันที่ทีมหลักทีมเดียว 2. ทำยังไงให้ Stakeholder เห็น Value ของการทำ Design system 3. ทำ Research เพื่อวางแผนการปล่อยแต่ละ Component เพราะนอกจากจะรีเสิชแล้วนั้น ยังต้องวางแผนเป้าหมายการ Development & Accessibility ขึ้นเป็น Component ไปใช้กับระบบ Adobe Experience เพื่อนำ Component นี้ไปให้ Content Strategist หลากหลายประเทศใช้งานให้ตรงกันและใช้ระบบของ Adobe ในการ Track วัดผลแบบ Quantitative เก็บข้อมูลเชิงตัวเลขมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปรับปรุงกันต่อไป 4. ลดปัญหาช่องว่างทางการสื่อสารระหว่างทีมที่ทำระบบทุกทีมเข้าด้วยกัน เพื่อให้สื่อสารใช้คำเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ตั้งแต่มีระบบ Design system ใช้งานจริงมามากกว่า 8 เดือน ลดปัญหาได้เยอะมาก ปล่อยงานไปได้ไวขึ้น และ Accessibility การทำเว็บไซต์เพื่อคนพิการ ควบคุมได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะทุกคนใช้ component เดียวกัน ไม่ต้องเขียนใหม่ แปลว่าจะไม่มีอะไรหลุดเล็ดลอดออกไปได้โดยไม่ผ่านทีมของแอดมิน และประเทศออสเตรเลียเราคำนึงถึงการจัดทำเว็บไซต์ให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนพิการ เป็นสิ่งหลักๆที่ต้องคำนึงในการออกแบบเลยค่ะ มิเช่นนั้นแอดมินอาจจะติดคุกได้นะคะ ฮ่า จากประสบการณ์ของแอดมินพบว่าระดับองค์กรใหญ่ ๆ ยากมากที่จะเข็นจะคลอด Design System ออกมา ใช้เวลามากในการโน้มน้าวผู้ลงทุน Manager ของเราเองก็ต้องใช้การประชุมกับ Head หลายวันหลายคืนเพื่อให้เกิดการลงทุน และเห็นคุณค่าของการทำ Design system แต่คิดว่าทำแล้วเกิดประโยชน์ระยะยาว และตอนนี้เราเริ่มเห็นผลของการส่วนนี้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะทีมทำงานด้วยกันไวขึ้นเยอะมาก ทั้งที่อยู่คนละตึก อยู่คนละประเทศค่ะ เลือกโมเดลสำหรับจัดการทีมที่ดูแล Design Systemได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทความของ Nathan Curthis ในเรื่องของโมเดลสำหรับการจัดการทีม กระจายงาน แบ่งทีมงานที่ใช้ในการดูแล Design system ของเราให้ใช้งานกันได้ทั้งองค์กรค่ะ 1. โมเดล The Solitary modelโดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเลการจัดการงานแบบคนเดียว ให้ใครคนนึงในองค์กรจัดการ ตัดสินใจไปเลย ข้อดีคือรวดเร็ว วางแผนไว ข้อเสียคือคอขวดเพราะการจะทำแต่ละ components ขึ้นมาเองด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่รีเสิชไปยันกระบวนการผลิตออกมานั้นยากยิ่ง และต้องมาแก้ไขภายหลังคนเดียวด้วยนั้น จะทำให้ทำงานผิดพลาดได้ง่าย 2. โมเดล The Centralized teamใจกลางความรู้สึกดีๆสร้างทีมขึ้นมาทีมนึงในองค์โดยเฉพาะเพื่อจัดการกับ Design system หรือการใช้เอเจนซี่เข้ามาช่วยในการออกแบบ ใช้เพียงแค่ทีมเดียวในการตัดสินใจในการออกแบบ ข้อดีคือมีคนดูแลตลอดเวลา สามารถจัดการระบบของเราได้ต่อเนื่อง หากมีปัญหาแก้ไขปรับปรุง งานก็ตกไปที่ทีมนี้เลยเพื่ออัพเดท ทำให้งานเดินไวกว่าโมเดลแบบที่หนึ่ง สามารถนำเสนองานให้ไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างดีเยี่ยม ข้อเสีย ที่อาจจะทำให้ทีมมีไซโลของตัวเอ มากกว่านั้นอาจจะทำให้ทีมไม่เข้าใจ Product ภาพรวมของทั้งบริษัท, ไม่เข้าใจสุดท้ายคือทีมนี้อาจจะขาดการเชื่อมต่อกับลูกค้า Customer needs นั่นเองค่ะ 3. โมเดล The Federated Modelพวกเราเหล่ามาชุมนุม ต่างคุมใจรัก สมัครสมานโมเดลสุดท้าย ที่เล่าไปแล้วก็อาจจะฟังดูเป็นไปได้ยาก เพราะโมเดลแบบนี้ต้องใจรักสมัครสมาน ใช้คนทั้งองค์กรมาลงแรงร่วมด้วยช่วยกันในการพัฒนา Design system ใช้ผู้ตัดสินใจการออกแบบจากหลายๆทีมมานั่งประชุมร่วมกัน ตั้งแต่ทีม Product, UX, Business, Content, Dev หรืออาจจะผสมหลายๆดีไซน์เนอร์จากหลายทีมเข้าด้วยกันมาช่วยกันออกแบบ ข้อดี ข้อเสีย สำหรับใครที่สนใจเรื่องการจัดการองค์กร พนักงาน – ตำแหน่งงานที่ใช้ในการจัดการ DESIGN SYSTEM เว็บไซต์รวม Design Systemหัวข้อสุดท้ายใน Design System ที่ยกตัวอย่างวันนี้ ก็ได้ไปรวบรวมเว็บไซต์จากแบรนด์ดังมามากมาย โดยในเว็บไซต์ด้านล่างนั้นก็จะมีตั้งแต่ Typography, layouts, grids, colors, icons, animation, voice and tone, style-guide, documentation และอื่นๆอีกเพียบ ใครที่สนใจไปติดตามกันได้เลยนะคะ Styleguide Google Material Airbnb Design Apple Developer Design System Repo ตัวอย่าง Design System จากบริษัทชื่อดังfluent design system2หรืออ่านบทความอธิบายอย่างละเอียดก่อนหน้านี้ได้ที่ เปิดตัว Fluent Design System ระบบดีไซน์ใหม่ล่าสุด โดย Microsoft |