รูปภาพ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

การปลูกป่า 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่าง

การปลูกป่า 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่าง : การรู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติด้วยพระปรีชาญาณอย่างชาญฉลาดให้เกิดประโยชน์แก่ปวงชนมากที่สุดยาวนานที่สุดและทั่วถึงกัน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำการปลูกป่าในเชิงผสมผสาน ทั้งด้านเกษตรวนศาสตร์และเศรษฐกิจสังคมไว้เป็นมรรควิธีปลูกป่าแบบลักษณะเบ็ดเสร็จนั้นไว้ด้วย

ลักษณะทั่วไปของป่า 3 อย่าง

พระราชดำริปลูกป่า 3 อย่างนั้น มีพระราชดำรัส ความว่า ...ป่าไม้ที่จะปลูกนั้น สมควรที่จะปลูกแบบป่าใช้ไม้หนึ่ง ป่าสำหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสำหรับใช้เป็นฟืนอย่างหนึ่ง อันนี้แยกออกไปเป็นกว้าง ๆ ใหญ่ ๆ การที่จะปลูกต้นไม้สำหรับได้ประโยชน์ ดังนี้ ในคำวิเคราะห์ของกรมป่าไม้รู้สึกจะไม่ใช่ป่าไม้ แต่ในความหมายของการช่วยเหลือเพื่อต้นน้ำลำธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ก็ตามหรือเป็นสวนไม้ฟืนก็ตามนั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะทำหน้าที่เป็นป่า คือ เป็นต้นไม้และทำหน้าที่เป็นทรัพยากรในด้านสำหรับให้ผลที่มาเป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้...

ประโยชน์ที่ได้รับ 

ในการปลูกป่า 3 อย่างนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชาธิบายถึงประโยชน์ในการปลูกป่าตามพระราชดำริว่า

...การปลูกป่า 3 อย่าง แต่ให้ประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่งได้ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน และไม้ฟืนนั้น สามารถให้ประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง คือ นอกจากประโยชน์ในตัวเองตามชื่อแล้ว ยังสามารถให้ประโยชน์อันที่ 4 ซึ่งเป็นข้อสำคัญ คือ สามารถช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธารด้วย...

และได้มีพระราชดำรัสเพิ่มเติมว่า

...การปลูกป่าถ้าจะให้ราษฎรมีประโยชน์ให้เขาอยู่ได้ ให้ใช้วิธีปลูกไม้ 3 อย่าง แต่มีประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ โดยรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำ และปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วย โดยรับน้ำฝนอย่างเดียว ประโยชน์อย่างที่ 4 ได้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ...

พระราชดำริเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ดำเนินการในหลายส่วนราชการ ทั้งกรมป่าไม้และศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทุกแห่ง คือ การปลูกป่าใช้สอย โดยดำเนินการปลูกพันธุ์ไม้โตเร็วสำหรับตัดกิ่งมาทำฟืนเผาถ่าน ตลอดจนไม้สำหรับใช้ในการก่อสร้างและหัตถกรรมส่วนใหญ่ได้มีการปลูกพันธุ์ไม้โตเร็วเป็นสวนป่า เช่น ยูคาลิปตัส ขี้เหล็ก ประดู่ แค กระถินยักษ์ และสะเดา เป็นต้น


รูปภาพ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

ปลูกป่า 5 ระดับ ไม้ 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง

ในการปลูกพืช ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงให้หลัก “ไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ไม้ 3 อย่าง ได้แก่
1. ไม้ใช้สอย คือ ไม้โตเร็ว สำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น สะเดา , ไผ่
2. ไม้กินได้ เช่น มะม่วง ผักกินใบต่างๆ และ
3. ไม้เศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้ที่ปลูกเพื่อจำหน่าย เช่น ไม้สัก เป็นต้น

ส่วนประโยชน์ 4 อย่าง คือ
1. ไม้ใช้สอย นำมาสร้างบ้าน ทำเล้าเป็ด เล้าไก่ ฟืน
2. ไม้กินได้ นำมาเป็นอาหารและยาสมุนไพร
3. ไม้เศรษฐกิจ นำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ และ
4. ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งการปลูกพืชที่หลากหลาย จะสร้างระบบนิเวศที่สมดุลให้กับพื้นที่

ใช้เป็นพื้นที่ในการปลูกพืชต่างๆ ด้วย ในการ “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดำริ ปลูกพืช ผัก สวนครัว ทำให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทำบุญ ทำทาน เก็บรักษา ค้าขาย และเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

ปลูกป่า 3 อย่าง ได้แก่ 1. ไม้ใช้สอย คือ ไม้โตเร็ว สำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น สะเดา , ไผ่ 2. ไม้กินได้ เช่น มะม่วง ผักกินใบต่างๆ และ 3. ไม้เศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้ที่ปลูกเพื่อจำหน่าย เช่น ไม้สัก เป็นต้น

  • กรมอุตุฯเตือน 24-26 ธ.ค. เจออากาศหนาวเย็นอีกระลอก ต่ำสุด 8-10 องศา
  • เปิดเงื่อนไขช้อปดีมีคืน ครม.เคาะ 20 ธ.ค.วงเงิน 40,000 บาท ซื้ออะไรได้บ้าง
  • เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จติดตามพระอาการประชวร เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

ส่วนประโยชน์ 4 อย่าง คือ 1. พอกิน คือ การปลูกต้นไม้ที่กินได้ รวมทั้งใช้เป็นยาสมุนไพร 2.พอใช้ คือการปลูกต้นไม้ให้เป็นป่าไม้ สำหรับทำเครื่องใช้สอยในครัวเรือน 3. พออยู่ คือการปลูกต้นไม้ที่ใช้เนื้อไม้และไม้เชิงเศรษฐกิจให้เป็นป่า ไม้กลุ่มนี้เป็นไม้อายุยืนเพื่อใช้สร้างบ้าน ทำเครื่องเรือน และ 4. พอร่มเย็น คือ เมื่อเราปลูกป่า จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศดินและน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์

การปลูกป่า 5 ระดับ ระดับที่ 1 ปลูกพืชประเภทไม้หัวเพื่อเป็นอาหาร เช่น ขิง ข่า หัวหอมใหญ่ หอมแดง กระเทียม เผือก กระชาย มันสำปะหลัง มันเทศ

ระดับที่ 2 ปลูกไม้เลื้อย เช่น บวบ น้ำเต้า ถั่วฝักยาว แตงกวา มะระขี้นก ถั่วพู ตำลึง ระดับที่ 3 ปลูกไม้พุ่มเตี้ยเพื่อใช้ประโยชน์เป็นอาหารและยารักษาโรค เช่น พริก กะเพรา มะเขือ ตะไคร้ ข้าว พืชสมุนไพรต่างๆ เช่น ฟ้าทะลายโจร ว่านหางจระเข้ ช้าพลู ระดับที่ 4 ปลูกไม้ระดับกลาง ซึ่งเป็นชั้นที่มีความสูงเป็นรองกลุ่มไม้ยืนต้น เช่น มะกรูด มะนาว ขี้เหล็ก ส้มโอ ขนุน ทุเรียน มะม่วง ดอกแค กล้วย และ ระดับที่ 5 ประเภทต้นไม้ใหญ่ทรงสูงให้ร่มเงา และช่วยรักษาระบบนิเวศ เช่น ตะเคียน ยางนา มะค่า ประดู่ สัก พะยูง มะฮอกกานี จำปาทอง

         “การปลูกป่า” เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่จริงๆแล้วมีอะไรมากกว่าการรณรงค์ให้คนเมืองรวมตัวกันไปทำโครงการCSR หรือ การห้ามไม่ให้เกษตรกรระดับชาวบ้านทำกินในพื้นที่ป่า… การปลูกป่าต้องปลูกให้มีโครงสร้างระบบนิเวศใกล้เคียงสภาพป่าจริง และให้คนทำมาหากินพอเพียงใกล้ๆป่าได้…

รูปภาพ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง


ในหลวงทรงเคยให้แนวคิดเกี่ยวกับการปลูกป่าได้อย่างน่าสนใจคร่าวๆดังนี้…การปลูกป่าถ้าจะให้ราษฎรได้รับประโยชน์ ต้องให้ใช้วิธีปลูกไม้ 3 อย่าง แต่มีประโยชน์ 4 อย่าง( ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ) คือ

1) ไม้ใช้สอย 2) ไม้กินได้ 3) ไม้เศรษฐกิจ แต่ปลูกให้คล้ายสภาพป่าจริงๆ

รูปภาพ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

ราษฎรที่อาศัยและทำมาหากินในป่าและบริเวณใกล้ป่า ปลูกแล้วจะได้ประโยชน์อย่างพอเพียง ดังนี้

1) พออยู่ หมายถึง ไม้เศรษฐกิจปลูกไว้สร้างที่อยู่อาศัย และจำหน่าย
2) พอกิน หมายถึง ปลูกพืชเกษตรเพื่อการกินและปลูกสมุนไพร
3) พอใช้ หมายถึง ปลูกไม้ไว้ใช้สอยโดยตรงและพลังงาน เช่น ไม้ฟืน และไม้ไผ่
4) ประโยชน์ต่อระบบนิเวศ สร้างความสมบูรณ์และก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า

รูปภาพ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

จัดโครงสร้างและลำดับชั้นต้นไม้ในป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เป็นการจัดโครงสร้าง พันธุ์ไม้ให้มีสภาพใกล้เคียงกับป่า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อความสมดุลของระบบนิเวศ โดยให้มีชั้นเรือนยอด 3 ชั้น ได้แก่ เรือนยอดชั้นบน เรือนยอดชั้นกลาง เรือนยอดชั้นล่าง และหากจัดโครงสร้างด้านการใช้ประโยชน์จะเป็น 4 ระดับ คือ ชั้นบน ชั้นกลาง ชั้นล่างและชั้นใต้ดิน ตามรูปแบบเกษตร 4 ชั้น

การปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง มีอะไรบ้าง

1) พออยู่ หมายถึง ไม้เศรษฐกิจปลูกไว้สร้างที่อยู่อาศัย และจำหน่าย 2) พอกิน หมายถึง ปลูกพืชเกษตรเพื่อการกินและปลูกสมุนไพร 3) พอใช้ หมายถึง ปลูกไม้ไว้ใช้สอยโดยตรงและพลังงาน เช่น ไม้ฟืน และไม้ไผ่ 4) ประโยชน์ต่อระบบนิเวศ สร้างความสมบูรณ์และก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า

ประโยชน์ 4 อย่างมีอะไรบ้าง

ส่วนประโยชน์ 4 อย่าง คือ 1. พอกิน คือ การปลูกต้นไม้ที่กินได้ รวมทั้งใช้เป็นยาสมุนไพร 2.พอใช้ คือการปลูกต้นไม้ให้เป็นป่าไม้ สำหรับทำเครื่องใช้สอยในครัวเรือน 3. พออยู่ คือการปลูกต้นไม้ที่ใช้เนื้อไม้และไม้เชิงเศรษฐกิจให้เป็นป่า ไม้กลุ่มนี้เป็นไม้อายุยืนเพื่อใช้สร้างบ้าน ทำเครื่องเรือน และ 4. พอร่มเย็น คือ เมื่อเราปลูกป่า ...

ปลูกป่าได้ประโยชน์อะไร

1. ทำให้ฝนตกมากและมีความชุ่มชื้นในอากาศสม่ำเสมอ 2. บรรเทาความร้ายแรงของพายุ เพราะป่าจะเป็นฉากกำบังและลดความเร็วของลม 3. ป้องกันการกัดชะดิน ใบไม้ ต้นไม้ กิ่งไม้ เศษไม้ ซากพืช ซากสัตว์ จะคอยป้องกันความแรงของฝนมิให้ตกกระทบผิวดินหรือผิวหน้าดินให้ถูกกัดชะไป

การปลูกป่า 3 อย่างได้แก่อะไรบ้าง

๑. ป่าไม้ใช้สอย คือ ไม้โตเร็ว เช่น สะเดา ไม้ไผ่ ๒. ป่าไม้เศรษฐกิจ คือ เช่น ไม้สัก ประดู่ พะยูง ๓. ป่าไม้กินได้ คือ ไม้ผล เช่น กล้วย มะม่วง และผักกินใบต่าง ๆ ຕຕ พอร่มเย็น คือ ประโยชน์อย่างที่ 4 ที่เกิดจากการปลูกป่า 3 อย่าง จะช่วย