คนที่พูดจาสุภาพไพเราะย่อมมีเพื่อนมาก เปรียบได้กับดวงจันทร์ที่มีดาวจำนวนมากรายล้อมประดับ ต่างกับคนพูดจากระด้างหยาบคาย ทำให้มีไม่ใครปรารถนาจะคบหรือสมาคมด้วย เปรียบได้กับดวงอาทิตย์แสงร้อนแรงที่บดบังแสงของดาวดวงอื่น หลากหลายรสคำโคลงต่างแอบแฝงไปด้วยความหมาย วันนี้ผมขอยกคำโคลงโลกนิติ พร้อมความหมาย ๏ ปลาร้าพันห่อด้วย ใบคา ๏ ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา ๏ ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ ๏ ขนุนสุกสล้างแห่ง สาขา ๏ คนพาลผู้บาปแท้ ทุรจิต ๏ หมูเห็นสีหราชท้า ชวนรบ ๏ สีหราชร้องว่าโอ้ พาลหมู ๏ กบเกิดในสระใต้ บัวบาน ๏ ไม้ค้อมมีลูกน้อม นวยงาม ๏ นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย ๏ ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น นักเรียน ๏ งาสารฤาห่อนเหี้ยน หดคืน ๏ ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ มีควัน ๏ภูเขาเหลือแหล่ล้วน ศิลา ๏พริกเผ็ดใครเผ็ดให้ ฉันใด ๏ภูเขาเอนก ล้ำ มากมี ๏ดารามีมากน้อย ถึงพัน ๏ถึงจนทนสู้กัด กินเกลือ ๏ ตีนงูงูไซร้หาก เห็นกัน ๏ เว้นวิจารณ์ว่างเว้น สดับฟัง ๏ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ ๏ เสียสินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์ ๏ ตัดจันทน์ฟันม่วงไม้ จัมบก ๏ น้ำเคี้ยวยูงว่าเงี้ยว ยูงตาม ๏ พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา ๏ รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว ๏ ให้ท่านท่านจักให้ ตอบสนอง ๏ แม้นมีความรู้ดั่ง สัพพัญญู ๏ เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม ดนตรี ๏ ใครจักผูกโลกแม้ รัดรึง ๏ ผจญคนมักโกรธด้วย ไมตรี ๏ คนใดคนหนึ่งผู้ ใจฉกรรจ์ ๏ ความรู้ดูยิ่งล้ำ สินทรัพย์ ๏ คนใดโผงพูดโอ้ อึงดัง ๏ โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง เมล็ดงา ๏ ราชาธิราชน้อม ในสัตย์ ๏ คนใดละพ่อทั้ง มารดา ๏ หอมกลิ่นดอกไม้ที่ นับถือ ๏ ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร ๏ อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า มาถนอม ๏ เบิกทรัพย์วันละบาทซื้อ มังสา ๏ โคควายวายชีพได้ เขาหนัง ๏ ถึงจนทนสู้กัด กินเกลือ ๏ บางคาบภาณุมาศขึ้น ทางลง ก็ดี จากกัลยาณมิตร (ปิยะสิทธิ์ บำรุงพฤกษ์ ) ๏ เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี ๏ อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลือหลาย ๏ ยอข้ายอเมื่อแล้ว การกิจ ๏ พริกเผ็ดใครให้เผ็ด ฉันใด ๏ สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน ๏ ใครจักผูกโลกแม้ รัดรึง ๏ ความเพียรเป็นอริแล้ว เป็นมิตร ๏ เห็นใดจำให้แน่ นึกหมาย ๏ อย่าโทษไทท้าวท่วย เทวา ๏ โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง เมล็ดงา ๏ เดินทางต่างเทศให้ พิจารณ์ ๏ เป็นคนคลาดเหย้าอย่า เปล่ากาย ๏ พายเถิดพ่ออย่ารั้ง รอพาย ๏ ทรัพย์มีสี่ส่วนไซร้ ปูนปัน ๏ ย่าขุดขอดท่านด้วย วาจา ๏ กาน้ำดำดิ่งด้น เอาปลา ๏ ไปเรือนท่านไซร้อย่า เนานาน ๏ เป็นคนคิดแล้วจึ่ง เจรจา ๏ ปางน้อยสำเหนียกรู้ เรียนคุณ ๏ คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา ๏ เย็นเงาพฤกษ์มิ่งไม้ สุขสบาย ๏ วิชาควรรักรู้ ฤๅขาด ๏ อย่าหมิ่นของเล็กนั้น สี่สถาน |