ทํายังไงให้ฟังภาษาอังกฤษออก

      ถ้าทุกอย่างพร้อมแล้ว อย่ามัวรอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เริ่มฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนังตั้งแต่วันนี้กันเถอะครับ ภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด เพียงเปลี่ยนความคิด ลดความกลัว แล้วลองตั้งใจใช้เวลากับการฝึกอย่างมีเป้าหมาย พร้อมกับการให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ รับรองว่ารางวัลตอบแทนจากการพัฒนาตัวเองจะไม่สูญเปล่าแน่นอน และถ้าฟังเก่งแล้ว แต่อยากพูดให้เก่งมากขึ้น ลองเรียนที่ Globish ดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าการเรียนสนทนาแค่ 25 นาทีต่อวันเปลี่ยนคุณให้เก่งภาษาอังกฤษได้ จนลืมการอ่าน Subtitle ภาษาอังกฤษไปเลย!

คุณรู้มั้ยว่า นอกเหนือจากไวยากรณ์ คำศัพท์ และการพูดภาษาอังกฤษแล้ว “การฟังภาษาอังกฤษ” ก็เป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ในการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง

การฝึกฟังภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากค่ะ แต่เราเองต้องใช้เวลา และมีความอดทนมาก ๆ จนกว่าจะไปถึงจุดที่เรารู้สึกว่าฟังเข้าใจแล้ว 100%

ซึ่งเบญก็จะบอกว่า แม้กระทั่งเบญเองที่ได้ใช้ + ฟังภาษาอังกฤษมาเกือบ 6 ปี ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจภาษาอังกฤษทั้งหมด

มีคำศัพทภาษาอังกฤษใหม่ ๆ ประโยคแสลงภาษาอังกฤษ ที่เราต้องฝึกฝนและเรียนรู้ อยู่ตลอดเวลาค่ะ

เพราะฉะนั้นคุณต้องให้เวลากับตัวเองได้ฝึกฝนและซึมซับไปด้วย และต้องไม่ยอมแพ้ค่ะ

จะมีบางครั้งที่เพื่อน ๆ รู้สึกว่า ฝึกฟังภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้วทำไมรู้สึกว่าตัวเองยังอยู่กับที่อยู่เลย

จริง ๆ แล้วไม่ค่ะ เรากำลังค่อย ๆ พัฒนา แต่เราอาจจะใจร้อนไปนิสส เพราะฉะนั้นค่อย ๆ เรียนภาษาอังกฤษ และสู้ไปด้วยกันค่ะ

นี่คือเหตุผลที่เบญทำ Fight For Fluency ขึ้นมา เพราะอยากให้เพื่อน ๆ รู้ว่าเพื่อน ๆ ไม่ได้สู้อยู่คนเดียวค่ะ

ถ้าพร้อมแล้ว ไปเรียนรู้วิธีการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาระดับภาษาอังกฤษของตัวเองไปอีกระดับนึง!

1. หาคอร์สออนไลน์ที่ช่วยฝึกฟัง

ให้เริ่มฝึกฟังภาษาอังกฤษ จากการลงทะเบียนเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่เน้นเรื่องการฟังภาษาอังกฤษก่อนเลยค่ะ

คอร์สช่วยฝึกภาษาอังกฤษนี้ก็คือ Glossika

บทเรียนของ Glossika จะช่วยให้คุณ ได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษจากหลายหมวดหมู่ และก็ไม่ใช่แค่คำศัพท์ภาษาอังกฤษเท่านั้นนะคะ

เค้ามีให้ฟังทั้งประโยคเลยค่ะ และก็มีแปลไทยให้ด้วยและเพื่อน ๆ สาสามารถ เลือกฟังภาษาอังกฤษแบบสำเนียงเมริกา US

หรือสำเนียงแบบอังกฤษ UK ซึ่งคอร์สนี้เค้าก็มีให้เลือกเรียนทั้งสองสำเนียงเลยค่ะ

นั่นคือหนึ่งเหตุผลเลยที่เบญแนะนำคอร์สนี้ให้กับคุณค่ะ เพราะว่าอย่างเบญ เบญเรียนฝึกการฟังภาษาอังกฤษทั้งสองสำเนียงเลย

เพราะว่ามีเพื่อนเป็นคนอเมริกา และก็อังกฤษค่ะ และเบญก็อยากที่จะฟังพวกเค้าออกทั้งสองสำเนียง

ไม่ว่าคุณจะมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่เน้นการฟังอยู่ในใจแล้ว หรือว่ายังไม่มีและอยากลงทะเบียนเรียนกับ Glossika เหมือนกับที่เบญแนะนำ ก็สามารถทำได้เลยค่ะ

เป็นคอร์สที่เบญเคยทำรีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ Glossika และเบญคิดว่าเหมาะสมกับที่สุดแล้วในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ

นี่เป็นวิธีแรกที่เราจะทำด้วยกันเพื่อทำให้การฝึกฟังภาษาอังกฤษของเราก้าวหน้าไปอีกขั้นค่ะ ส่วนเบญขอเลือกเป็นลงทะเบียนเรียนกับ Glossika

ลงทะเบียนเรียนตอนนี้ ➝

ถ้าคุณมีคอร์สเรียนอื่น ๆ ที่เน้นในเรื่องการฟังภาษาอังกฤษในใจก็สามารถเม้นแนะนำไว้ในคอมเม้นข้างล่างได้เลยนะคะ 😀

2. ฟังประโยคภาษาอังกฤษ วันละ 10-15 นาที

ฝึกฟังประโยคภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่คำศัพท์

อันนี้คือสิ่งที่เบญอยากจะย้ำ และก็แนะนำให้กับเพื่อน ๆ ที่อยากฝึกฟังภาษาอังกฤษให้ได้ผลนะคะ

เพราะว่าการฟังคำศัพท์ภาษาอังกฤษออกก็ดี แต่ถ้าคุณอยากฟังคู่สนทนาออก เวลาที่คุยกับเป็นภาษาอังกฤษ คุณต้องฝึกฟังประโยคภาษาอังกฤษค่ะ

ทํายังไงให้ฟังภาษาอังกฤษออก

และนั่นคือสิ่งที่คุณจะได้ฝึกฟังค่ะ ถ้าลงเรียนกับ Glossika เค้ามีประโยคภาษาอังกฤษสำหรับสนทนาเยอะมาก ๆ ไว้ให้ได้ฝึกฟังพร้อมคำแปลภาษาไทยค่ะ

ซึ่งช่วยให้การฟังของคุณพัฒนาเร็วขึ้นค่ะ โดยเฉพาะฝึกฟังประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน เพราะว่าวัฒนธรรมของเราต่างกัน การเรียงประโยคต่างกัน

จัดตารางฝึกฟังบ่อย ๆ ไม่ใช่นาน ๆ

หัวใจของการฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ได้ผล ก็คือคุณต้องฟังซ้ำบ่อย ๆ ค่ะ และไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน

ทํายังไงให้ฟังภาษาอังกฤษออก

การที่เราจะฝึกหูของเราใช้ชินกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเราฟังมันนาน ๆ และเป็นเพราะว่าเราฟังมันบ่อย ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้น..

ให้จัดตารางวันของตัวเองให้ดี และใส่ช่วงเวลาที่คุณจะฝึกฟังภาษาอังกฤษต่อวันค่ะ

เช่น ถ้าคุณทำงานประจำทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ ก็อาจจะใส่ตารางฝึกฟังภาษาอังกฤษ 15 นาที หลังข้าวเย็น หรือก่อนเข้านอนค่ะ

ถ้าคุณมีเวลามากหน่อย เช่น ช่วงปิดเทอม ก็สามารถจัดตารางได้ถี่ขึ้นค่ะ เช่น วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที

ไม่ว่าคุณจะมีเวลามากหรือน้อยต่อวัน พยายามจัดตารางที่คิดว่าตัวเองสามารถทำได้จริง ๆ ค่ะ เช่น 10 นาทีต่อวัน อาจจะดูเหมือนไม่มาก

แต่ถ้าคุณทำแบบนั้นติดต่อกัน 1 เดือน ก็จะเท่ากับว่าคุณได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษไปแล้ว 300 ชั่วโมง

3. ฟังภาษาอังกฤษ ในชีวิตชีวิตประจำวัน

ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะทำกิจกรรมอะไรในชีวิตประจำวัน เพื่อน ๆ สามารถฝึกฟังภาษาอังกฤษไปด้วยได้ค่ะ

เบญเปิดคอร์สฝึกฟังภาษาอังกฤษ Glossika เลือกหัวข้อประโยคที่เรียนไปแล้ววันนี้ และฟังซ้ำอีกหลาย ๆ รอบเป็นการรีวิว ตอนที่เบญทำอาหาร ไปเดินเล่น หรือว่าเข้าห้องน้ำ

ทํายังไงให้ฟังภาษาอังกฤษออก

คุณจะฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น ก็สามารถใส่หูฟัง เปิด Glossika และฝึกฟังภาษาอังกฤษไปได้เลยค่ะ

เพราะว่า Glossika เค้ามีโหมด Listening ก็คือฟังอย่างเดียว เราสามารถฟังประโยคภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปลภาษาไทย ที่จะเล่นให้เราฟังไปเรื่อย ๆ ค่ะ

ทุกนาทีเป็นโอกาสที่จะทำให้เราได้ฟังภาษาอังกฤษเก่งขึ้น เพราะฉะนั้นเราต้องมีระเบียบวินัย และฉวยโอกาสนั้นไว้นะคะ!

เริ่มฝึกฟังเลยตอนนี้ ➝

4. ทำกิจกรรมยามว่างเป็นภาษาอังกฤษ

เบญเชื่อว่าหลาย ๆ คน ก็ชอบดูหนังใน Netflix หรือเว็บไซต์อื่น หรือว่า ดูวีดีโอใน Youtube กันเป็นงานอดิเรก (หรืองานประจำ 555) กันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ

คุณอาจจะไม่รู้ว่างานอดิเรกของคุณ ก็สามารถช่วยให้การฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นได้ หรือช่วยฝึกการพูดภาษาอังกฤษได้อย่างดีเลยค่ะ

อย่างใน Netflix เราสามารถเลือกภาษาได้ เราก็เลือกเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นหนังที่เนื้อเรื่องค่อนข้างซับซ้อนเราก็เปิดซับเป็นภาษาไทยก็ได้ค่ะ

แต่ถ้าดูการ์ตูนที่คำศัพท์ ประโยคค่อนข้างง่าย เบญแนะนำให้ดูเป็นภาษาอังกฤษ และเปิดซัพเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยค่ะ จะช่วยให้เราจับคำ และประโยคภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้นจ้า

หรือว่าถ้าคุณชอบดูวีดีโอทำอาหาร หรือจัดห้องใน Youtube มีวีดีโอดี ๆ ที่เพื่อน ๆ ชาวต่างชาติหลายคนได้ทำไว้

หรือแม้กระทั่งฟังเพลงค่ะ ถ้าชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็ยอดเยี่ยมเลยค่ะ เบญเชื่อว่าคุณได้เห็นความคืบหน้าของการฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้ว ว่าได้ช่วยฝึกฟังภาษาอังกฤษได้ยังไงบ้าง

แต่ถ้าคุณไม่เคยฟังเพลงภาษาอังกฤษ หรือไม่ได้ชอบขนาดนั้น เบญแนะนำให้ลองฟังดู

และก็หานักร้องที่ตัวเองชอบ เพิ่มไว้ในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง สักเพลงสองเพลงและค่อยเพิ่มจากนั้น

ทุกครั้งที่เราฟังเพลงภาษาอังกฤษเพลิน ๆ และไม่ได้คิดอะไรก็จริง แต่เมื่อการฟังภาษาอังกฤษของเราพัฒนาขึ้นแล้ว จะรู้สึกว่าตัวเองฟังออกค่ะ หรือว่าจับประโยคภาษาอังกฤษได้บ้าง

ช่องที่เบญติดตาม และดูอยู่บน Youtube ก็จะมีประมาณนี้ค่ะ

Natashas Kitchen – ช่องสอนทำอาหาร ฟังง่ายสำเนียง US ค่ะ

Prepy Kitchen – ช่องสอนทำอาหาร โดยหนุ่มอังกฤษ สำเนียง UK

Peachii หรือว่าที่รู้จักกันใน สตีเฟ่นโอปป้า ค่ะ ช่องสาวไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษค่ะ

Boyce Avenue ช่องเพลงภาษาอังกฤษ

Fight For Fluency – ช่องสอนเท็คนิคการเรียนภาษา และรีวิวคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ และภาษาอื่น ๆ ค่ะ (อย่าลืมไปกดติดตามกันเยอะ ๆ นะคะ อิอิ)

5. พูดคุยกับเจ้าของภาษา และใช้ภาษาอังกฤษ

วิธีสุดท้ายที่หลายคนไม่รู้ หรือว่าลืมนึกถึงไป เป็นวิธีที่ง่าย และได้ผลจริง แต่ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างมาก

ถ้าคุณมีเพื่อนที่เป็นต่างชาติ ที่ทำงาน แถวบ้าน เพื่อนของเพื่อน หรือใครก็ตามที่พูดภาษาอังกฤษได้ ลองไปพูดภาษาอังกฤษกับเค้าดูค่ะ

ใครที่สนใจอ่านวิธีฝึกพูดภาษาอังกษฤด้วยตัวเอง เบญก็เคยเขียนโพสต์แนะนำไปด้วยค่ะ สามารถเข้าไปอ่านได้เลยจ้า

แต่หลายคนอาจจะคิดในใจว่า แต่ฉันเพิ่งจะเริ่มฝึกฟังภาษาอังกฤษเองนะ จะใช้ฉันไปคุยกับคนฝรั่งแล้วหรอ แล้วฉันจะฟังออกได้ยังไง

บางคนอาจจะยังฟังไม่ออกเยอะ แต่นั่นก็จะเป็นตัววัดให้ด้วยค่ะ ว่าฟังภาษาอังกฤษออกขนาดไหนแล้ว

ไม่ต้องอายนะคะ ถ้าเรายังฟังคำถามเค้าไม่ออกทุกข้อ คุณก็แค่กลับมาบ้าน และก็ทำตามวิธีข้อที่ 1-4 ค่ะ ฝึกไป 2 อาทิตย์ และลองกลับไปคุยกับเค้าอีก

ทํายังไงให้ฟังภาษาอังกฤษออก

เบญจำได้ว่า ครั้งแรกที่ฝึกฟังภาษาอังกฤษ จากไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เค้าพูดและรู้สึกว่าเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนต่างชาติพูดมากขึ้น รู้สึกดีใจมากเลย และมีกำลังใจที่จะฝึกฟังภาษาอังกฤษต่อไป

เพราะฉะนั้นฝึกฟังภาษาอังกฤษกันแล้ว อย่าลืมเอาไปใช้จริงก่อนที่เราจะลืมค่า!

เบญมีคอร์สภาษาอังกฤษฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับเจ้าของภาษา มาให้ได้ลงทะเบียนไว้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเก่งภาษาอังกฤษในครั้งนี้ด้วยค่ะ

ถ้าคุณไม่มีเพื่อนต่างชาติให้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษที่ตัวเองฟังมา ก็เข้าไปหาคนที่คุณอยากใช้ภาษาอังกฤษด้วยได้เลยค่ะ

คอร์สนี้ชื่อว่า iTalki คุณเลือกครู เลือกชั่วโมงเรียน และราคาที่อยากเรียนได้เลยค่ะ เป็นการเรียนตัวต่อตัวผ่านวีดีโอคอล

ถ้าสนใจคอร์สนี้เพิ่มเติมอ่านได้เลยที่ รีวิวคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ iTalki พร้อมวีดีโอ

ทํายังไงให้ฟังภาษาอังกฤษออก

และเค้าก็มีหมวดพูด-ฟังภาษาอังกฤษให้ได้เลือก รับรองว่าฟัง-พูดภาษาอังกฤษเต็ม ๆ ทั้งชั่วโมง!

หาคนฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตอนนี้ ➝


และนี่คือ 5 วิธีง่าย ๆ ที่เบญใช้เพื่อฝึกการฟังภาษาอังกฤษของตัวเองค่ะ คุณอาจจะทำตามคำแนะนำนี้ไปพร้อมกับเรียนภาษาอังกฤษคอร์สอื่น ๆ ก็ได้

ถ้ามีวิธีอื่นที่คุณทำแล้วได้ผล อย่าลืมคอมเม้นเพิ่มเติมไว้ใต้โพสต์นี้ให้เบญ และคนอื่นไปลองทำด้วยบ้างนะคะ