คำนิยาม ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน คือ การกระทำหรือสภาพการทำงาน ซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดการประสบอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจหรือสุขภาพอนามัยอันเนื่องจากการทำงานหรือเกี่ยวกับการทำงาน
อันตราย คือ สภาวการณ์ที่มีเหตุอันจะทำให้เกิดความสูญเสีย
อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดตั้งใจให้เกิด เมื่อเกิดขึ้นแล้วมีผลทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหาย
เหตุการณ์เกือบเป็นอุบัติเหตุคือ เหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดตั้งใจให้เกิด เมื่อเกิดแล้วไม่มีผลของการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหาย
ประสบอันตราย คือ การที่ลูกจ้างได้รับอันตรายแก่กายหรือผลกระทบแก่จิตใจ หรือถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงาน หรือป้องกันรักษาประโยชน์ให้แก่นายจ้างหรือตามคำสั่งของนายจ้าง อุบัติเหตุจากการทำงานสามารถแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุ คือ1. สาเหตุจากการปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Act) เป็นการกระทำที่ไม่ปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในขณะทำงาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น - การใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่เป็นเครื่องจักรกลต่าง ๆ โดยพลการหรือไม่ได้รับมอบหมาย - การทำงานที่มีอัตราเร่งความเร็วของงานและเครื่องจักรเกินกำหนด - การถอดอุปกรณ์ป้องกันออกจากเครื่องจักรโดยไม่มีเหตุอันสมควรสมควร - การดูแลซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องจักรในขณะที่กำลังทำงาน - การใช้เครื่องมืออุปกรณ์เครื่องจักรที่ชำรุดและไม่ถูกวิธี - ไม่ใส่ใจในคำแนะนำหรือคำเตือนความปลอดภัย - ทำการเคลื่อนย้ายหรือยกวัสดุที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ด้วยท่าทางหรือวิธีการที่ไม่ปลอดภัย - ไม่สวมใสอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล - การคึกคะนองหรือเล่นตลกขณะทำงาน
- เครื่องจักรไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอันตราย - อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักรที่ออกแบบไม่เหมาะสมกับการใช้งาน - บริเวณพื้นที่ของการปฏิบัติงานไม่เหมาะสม - การจัดเก็บวัสดุสิ่งของอย่างไม่ถูกวิธี - การจัดเก็บสารเคมีหรือสารไวไฟที่เป็นอันตรายไม่ถูกวิธี - ไม่มีการจัดระเบียบและดูแลความสะดวกของสถานที่ทำงานให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ - แสงสว่างไม่เพียงพอ - ไม่มีระบบระบายและถ่ายเทอากาศที่เหมาะสม - ไม่มีระบบเตือนภัยที่เหมาะสม อ้างอิงจาก
เข้าถึงได้จาก : http://chuonchoom.blogspot.com/2013/08/blog-post.html สิ่งที่ต้องคำนึงถือเสมอในการปฏิบัติงานคือความปลอดภัย ในการปฏิบัติงานหากมีการป้องกันไม่รัดกุมเพียงพออาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตราย หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ปฏิบัติงาน วัตถุดิบและเครื่องจักได้ อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเครื่องจักและความประมาทของผู้ปฏิบัติงานเอง นอกจากนี้สภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น อากาศ แสงสว่าง เสียง การวางผังโรงงาน เป็นต้น สิ่งต่างๆ ดังกล่าวนี้หากมีความบกพร่องอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ขณะเดียวกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะส่งผลโดยตรงต่อการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน ความปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการประกอบอาชีพและหัวใจของการทำงาน ผู้ที่ปฏิบัติได้ดีจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยอยู่เสมอ สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของความปลอดภัย 2. สาเหตุของอุบัติเหตุ 3. ผลการสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุในการปฏิบัติงาน 4. หลักความปลอดภัยสนการปฏิบัติงาน 5. หลักความปลอดภัยเมื่อปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องจักร 6. อุบัติภัยจากอัคคีภัย 7. การป้องกันอุบัติภัยในโรงงานซ่อมรถยนต์ 8. การดูแลโรงฝึกงาน ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ความหมายของความปลอดภัย สาเหตุของอุบัติเหตุ ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุที่ครั้งจะมีจำนวนสู่ที่สุดถึงร้อยละ 88 ตัวอย่างเช่น ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์การทำงานไม่ถูกวิธี ความประมาท การมีนิสัยชอบเสี่ยงในการทำงาน หยอกล้อกันระหว่างทำงาน แต่งการไม่เหมาะสม สภาพจิตใจ
เป็นต้น มีประมาณร้อยละ 10 ของการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น ส่วนที่เป็นอันตรายของเครื่องจักรไม่มีเครื่องป้องกัน เครื่องจักและเครื่องมือชำรุดบกพร่อง การวางฝังโรงงานไม่เหมาะสม สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่ปลอดภัย
เป็นต้น มีประมาณร้อยละ 2 เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาตินอกเหนือการควบคุม ตัวอย่างเช่นเกิดพายุ น้ำท่วม ฟ้าผ่า แผ่นดินไหว เห็นต้น ผลการสูญเสียวที่เกิดจากอุบัติเหตุในการปฏิบัติงาน การสูญเสียโดยตรง 1.1. ได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตและอาจทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายด้วย 1.2. ทำให้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรตดลอดจนทรัพย์สินอื่นๆ ชำรุดเสียหาย
การสูญเสียทางอ้อม การสูญเสียทางอ้อม คือ การสูญเสียซึ่งมักจะคิดไม่ถึง หรือไม่ค่อยได้คิดว่าเป็นการสูญเสีย ลักษณะการสูญเสียที่แผงอยู่ไม่ปรากฏเกิดชัดมีลักษณะดังนี้ (ดูภาพเพิ่มเติมคลิกรูป) หลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน หลักความปลอดภัยเมื่อปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
(ดูภาพเพิ่มเติมคลิกรูป) อุบัติภัยจากอัคคีภัย การเกิดอัคคีภัยหรือเพลิงไหม้ ต้องมีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ คือ เชื้อเพลิง ซึ่งอาจจะอยู่ในสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ เช่น ไม้ กระดาษ น้ำมันเบนซิน ก๊าซหุงต้ม เป็นต้น อากาศ ที่มีออกซีเจนในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ออกซิเจนเป็นสารช่วยให้เกิดการลุกไหม้ ความร้อน บริเวณนั้นมีอุณหภูมิที่เหมาะสมพอที่จะทำให้เชื้อเพลิงนั้นเกิดเปลวไฟขึ้นได้ 1.สาเหตุของการเกิดอัคคีภัย 1.1. อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มารฐานหรือผิดประเภท ขั้วต่อหลวม การลัดวงจรไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนสูงหรือประกายไฟขึ้นได้ 1.2. การสูบบุหรี่หรือการจุดไฟ ในบริเวณที่มีเชื้อเพลิงไวไฟการทิ้งก้นบุหรี่ ไม่ขีดไฟที่ติดไฟแล้วลงถึงขยะ 1.3. สะเก็ดไฟ ประกายไฟ หรือเปลวไฟ จากการเชื่อมและตัดโลหะ ประกายไฟภายในเครื่องจักรที่ขัดข้อง เตาเผาที่ไม่มีสิ่งปกคลุมประกายไฟ เปลวไฟเหล่านี้สัมผัดเชื้อเพลิงที่อยู่ใกล้เคียงทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ 1.4. สภาพบรรยากาศที่มีสิ่งปนเปื้อน ก่อให้เกิดการระเบิดได้ เช่น ฝุ่นผง ไอระเหย ก๊าซของสารซึ่งมีความเข้มข้นอยู่ในช่วงที่เหมาะสม เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิถึงจุดระเบิดก็จะระเบิดลุกไหม้ขึ้นได้ 2.ชนิดของเพลิงไหม้ 2.1. เพลิงประเภท ก. ได้แก่ เพลิงที่ไหม้จากวัสดุธรรมดา เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า ฯลฯ การดับเพลิงประเภทนี้ต้องใช้ความเย็นและความเปียกชื้น 2.2. เพลิงประเภท ข. ได้แก่ เพลิงที่เกิดจากวัสดุไวไฟ เช่น น้ำมันเบนซิน สี ก๊าซหุงต้ม หรือของเหลวไวไฟต่างๆ การดับเพลิงประเภทนี้ต้องครอบคลุมเพลิงคือป้องกันไม่ใช้ออกซีเจนเข้าไปช่วยให้เกิดไฟติด 2.3. เพลิงประเภท ค. ได้แก่ เพลิงที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ สวิตซ์ การดับเพลิงประเภทนี้ต้องใช้สารดับเพลิงที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า 3.การดับเพลิง สารดับเพลิงเป็นสารที่ใช้เพื่อตัดองค์ประกอบของการเกิดเพลิงไหม้ เช่น ลดความร้อน หรือกำจัดออกซิเจน การใช้สารดับเพลิงขึ้นอยู่กับสภาพของเพลิงที่เกิดขึ้น สารดับเพลิงที่ใช้มีดังนี้ 3.1. น้ำ (Water) เป็นสารดับเพลิงที่ใช้กับเพลิงที่เกิดจากวัสดุธรรมดา เช่น ไม้ การะดาษเพราะน้ำมีคุณสมบัติในการดับเพลิง คือ ลดอุณหภูมิของเชื้อเพลิงให้ต่ำกว่าจุดติดไฟ ปกคลุมไม่ให้ออกซีเจนจากอากาศเข้าถึงเชื้อเพลิง และเมือกระทบกับความร้อนจะเป็นไอ ข้อควรระวังในการใช้นำเป็นสารดับเพลิงคือต้องไม่ใช้กับเพลิงที่เกิดจากไฟฟ้า หรือใกล้สายไฟฟ้า เพราะจะทำให้เกิดไฟดูดผู้ปฏิบัติงานและผู้คนได้ 3.2. คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbondioxide) จะประกอบไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้ความดัน สามารถนำไปดับเพลิงได้ทุกประเภท 3.3. โฟม (Foam) โฟมเป็นสารดับเพลิงที่มีลักษณะเป็นฟองผลิตจากการผสมระหว่างโซเดียมไบคาร์บอเนต กับสารละลายอะลูมิเนียมซัลเฟต เหมะสำหรับใช้ดับเพลิงที่เกิดจากวัสดุไวไฟ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม เป็นต้น 3.4. ผงเคมีแห้ง (Dry chemical) ผงเคมีสามารถใช้ดับเพลิงได้ทุกชนิด แต่มีข้อเสียคือจะทำให้บริเวณเพลิงไหม้สกปรกไปด้วยผงเคมี ตารางการใช้เครื่องดับเพลิง
4.การป้องกันการเกิดอัคคีภัย 4.1. ระบบไฟฟ้า การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะต้องคุณสมบัติเหมาะสมกับพื้นที่ที่ใช้งานเมื่อเป็นพื้นที่ที่มีไอระเหยของสารไวไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าต้องเป็นชนิดกันการระเบิดได้ (Explosion proof) และหลังใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กออกทุกครั้ง 4.2. การบำรุงรักษาเครื่องจักร หมั่นตรวจตราและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆ อย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อมิให้เกิดอัคคีภัยจากการชำรุดหรือความบกพร่องของอุปกรณ์ 4.3. การสำรวจและตรวจสอบ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งในอาคารและนอกอาคาร การแยกจัดเก็บสารเคมีอย่างถูกวิธีตามเอกสารข้อมูลความปรอดภัยเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ (Material Safety Data Sheet) 4.4. การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงานทุกๆ คนจะต้องทราบและเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบหรือวิธีการปฏิบัติที่ปลอดภัย เพื่อให้พนันงานปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดอัคคีภัย การป้องกันอุบัติภัยในโรงงานซ่อมรถยนต์ การทำงานในรางงานซ่อมรถยนต์อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจึงมีความจำเป็นที่ช่างจะต้องทรายซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
1. อย่าบัดกรี เชื่อมหรือตัดถึงน้ำมันรถยนต์จนกว่าจะล้างน้ำมันที่ตกค้างออกให้หมด การดูแลโรงฝึกงาน 1. พื้นโรงงานจะต้องทำความสะอาดปราศจากน้ำมันหรือฝุ่นผง (ดูภาพเพิ่มเติมคลิกรูป) คำศัพท์ท้ายหน่วย Safet = ความปลอดภัย Accident = อุบัติเหตุ |