ทุกวันนี้สังเกตได้ว่า ไม่ว่าจะหันมองทางไหน ก็เห็นร้านชานมไข่มุกอยู่มากมายหลายร้าน หลายแบรนด์ ซึ่งร้านเหล่านั้นก็มีลูกค้าอุดหนุนกันอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าราคาจะแพงแค่ไหนก็ตาม ซึ่งจากความนิยมของเครื่องดื่มหอมหวานนี้อาจทำให้หลายคนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจชานมไข่มุกหรืออยากซื้อแฟนไชส์ชานมไข่มุกกันเลยทีเดียว แต่การลงทุนในตลาด Red Ocean ที่มีคู่แข่งเยอะก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันต้องมีปัจจัย และกลยุทธ์ต่างๆ ที่ต้องคำนึงถึงเพื่อที่จะอยู่รอดได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากเช่นนี้ รวมร้านแฟรนไชส์ชานมไข่มุก คลิก https://bit.ly/2QaZaAj 3 ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในธุรกิจชานมไข่มุก1.โอกาส ภาพจาก www.facebook.com/gattocha/ จากที่เห็นว่าโอกาสของธุรกิจชานมไข่มุกนั้นเกิดจาการที่มันได้รับความนิยมจากผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ธุรกิจชานมไข่มุกนั้นเติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งโอกาสของธุรกิจเครื่องดื่มนี้แบ่งได้ตามนี้
2.ความท้าทาย ภาพจาก www.facebook.com/gattocha/
3.การเตรียมความพร้อมของธุรกิจ
ภาพจาก bit.ly/2GTurnN ผู้ประกอบการควรพิจารณาว่าธุรกิจนี้เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ ในกรณีที่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมาเอง ผู้ประการณ์ควรมีประสบการณ์และความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจมาก่อน หรือหากต้องการเปิดร้านแต่ไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาก่อน ก็อาจจะเริ่มต้นด้วยการลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์ก็ได้ แต่การซื้อแฟรนไชส์ควรคำนึงถึงบริษัทที่จะซื้อแฟรนไชส์ด้วยว่าเป็นที่รู้จักมากน้อยแค่ไหน มีระบบจัดการและตรวจสอบร้านค้าที่มีประสิทธิภาพและทำการตลาดให้กับแบรนด์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงคำนึงถึงผลตอบแทนที่จะได้รับด้วย หากท่านใดสนใจลงทุนแฟรนไชส์ชานมไข่มุก สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในลิ้งก์นี้ https://bit.ly/32hIuwf
ภาพจาก bit.ly/2GTurnN ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกปัจจัยหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยทำเลที่ตั้ง ควรเป็นจุดที่พบเห็นได้ง่าย ใกล้แหล่งชุมชนมีคนเห็นเยอะ การมีทำเลที่ดีนั้นนอกจากจะเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นแล้วยังจะทำให้การประชาสัมพันธ์และการทำโปรโมชั่นหน้าร้านนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ภาพจาก bit.ly/2GTurnN การจัดตกแต่งร้านก็ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่องค์ประกอบเล็กๆ แต่ก็มีความสำคัญอยู่เหมือนกันในการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์และการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อ และเนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่น ดังนั้นการตกแต่งร้าน การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง รวมไปถึงการออกแบบโลโก้ร้าน ควรเน้นที่ความเรียบง่าย แต่ทันสมัย รวมทั้งเลือกใช้สีสันที่สดใส ไม่ทึบหรือเข้มจนเกินไป เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้าน
ภาพจาก bit.ly/2MIRBPL นี่อาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรจะเน้นเลยก็ว่าได้ ไม่น่าจะเปิดแบรนด์เป็นของตัวเอง หรือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ก็ตาม ก็ควรจะใส่ใจกับตัวสินค้า พัฒนาให้สามารถตอบสนองความ ต้องการของลูกค้าได้ รวมไปถึงคุณภาพและความสะอาดของวัตถุดิบ และที่สำคัญที่สุดก็คือรสชาติที่อร่อยและรักษามาตรฐานของรสชาติไว้อยู่เสมอ
ภาพจาก bit.ly/2MIRBPL การบริการก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์และเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์นั้นๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดยใส่ใจกับการคัดเลือกบุคลากรที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริการลูกค้า หรืออาจให้การอบรมเกี่ยวกับการบริการแก่พนักงาน
ภาพจาก bit.ly/2MIRBPL จะสังเกตเห็นได้ว่าร้านชานมไข่มุกส่วนใหญ่มีการจัดการส่งเสริมการขายโดยแจกคูปองสะสมเพื่อแลกเครื่องดื่มฟรี และลูกค้าส่วนใหญ่ก็เคยชินกับมันไปซะแล้ว ดังนั้นหากผู้ประกอบการ ต้องการที่จะแข่งขันได้ ก็ควรจะมีการส่งเสริมการขายในลักษณะเช่นนี้ หรือมีโปรโมชั่นส่งเสริมการเพิ่มเติมที่โดดเด่นมากขึ้น แต่ทั้งนี้ การทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายควรคำนึงถึงต้นทุนและรายรับของร้านไปคู่กันด้วย
แต่ร้านชานมไข่มุกส่วนใหญ่ยังไม่มีบริการจัดส่ง แต่การมีบริการจัดส่งถึงที่ก็ถือเป็นไอเดียที่ดีที่จะทำให้แบรนด์นั้นดูโดดเด่นมากขึ้น โดยอาจจะให้บริการจัดส่งในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากร้าน เท่าไหร่นักเพื่อให้ชานมไข่มุกนั้นยังคงสภาพและรสชาติของเครื่องดื่มไว้ได้อยู่ และทั้งนี้ทางร้านควรกำหนดจำนวนขั้นต่ำสำหรับการจัดส่งเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าอีกด้วย ทิศทางของธุรกิจชานมไข่มุกในอนาคต?!ภาพจาก www.facebook.com/GorKorCor.official/ ถึงแม้ว่าจะมีความท้าทายสูง เพราะมีคู่แข่งในธุรกิจนี้เยอะมากมาย แต่ธุรกิจชานมไข่มุกก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะร่วงแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม มันยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยจากผลการวิจัยของ Allied Market Research ระบุว่ามูลค่าของตลาดชาไข่มุกทั่วโลกในปี 2016 นั้นมีมูลค่ากว่า 1,957 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (62,000 ล้านบาท) และคาดว่าจะโตแบบก้าวกระโดดจนมีมูลค่ากว่า 3,214 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (102,000 ล้านบาท) ในปี 2023 และ Jackie Wang กรรมการผู้จัดการบริษัท Possmi International จำกัด ที่นำเข้าวัตถุดิบสำหรับชานมไข่มุกจากไต้หวัน ก็ได้ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการเติบโตของธุรกิจชานมไข่มุกในไทยว่า ตอนนี้ธุรกิจชานมไข่มุกในไทยนั้นยังไม่ถึงจุดสูงสุด จะยังเติบโตได้อีก และมีอัตราการโตที่มากกว่าไต้หวันด้วยซ้ำ ซึ่งในปีนี้ (2019) คาดคะเนว่าอัตราการโตของธุรกิจชานมไข่มุกนั้นเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 50% เลยทีเดียว และยังให้ความเห็นอีกว่าในรอบ 20 ปีที่ผ่านมานั้นธุรกิจชานมไข่มุกในไทยผ่านการเติบโตมาแล้ว 2 ช่วง ซึ่งมันก็มีหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ที่กระแสของชานมไข่มุกดูท่าว่าจะแผ่วลงแล้วก็กลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง และการกลับมาเติบโตในรอบนี้ก็เปรียบได้ว่าเป็นการเติบโตในยุคที่ 3 ที่ค่อนข้างจะแตกต่างไปจาก 2 ยุคก่อนหน้านี้ ภาพจาก www.facebook.com/GorKorCor.official/ การเติบโตของชานมไข่มุกในไทยนั้นมาจาก 2 ส่วน คือ ส่วนของตลาดธุรกิจชานมไข่มุกที่กำลังขยายตัวเติบโตขึ้นเรื่อยๆ (เพราะชานมไข่มุกยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง) , ส่วนของราคาเครื่องดื่มที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ และในยุคที่ 3 นี้ ส่วนหนึ่งในการเติบโตของธุรกิจก็มาจากการที่เหล่าร้านชานมไข่มุกได้แข่งกันพัฒนาวัตถุดิบที่เน้นการรักสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเดิมทีชานมไข่มุกนั้นทำจากส่วนผสมที่ทานแล้วค่อนข้างมีผลเสียต่อสุขภาพ อีกทั้งในยุคนี้ผู้คนเริ่มมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ดังนั้นเหล่าผู้ประกอบการจึงเริ่มหันมาปรับปรุงส่วนผสมของชานมไข่มุกแทน และนอกจากจะพัฒนาส่วนผสมให้เป็นมิตรต่อสุขภาพแล้ว ยังพัฒนาให้เครื่องดื่มนั้นๆ มีความแปลกใหม่น่าสนใจเข้าไปด้วย โดยสรุปแล้วก็คือ ถึงแม้ว่าในตลาดนี้จะมีการแข่งขันกันสูง แต่ธุรกิจชานมไข่มุกจะยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าเหล่าผู้ประกอบการในธุรกิจนี้จะหันมาพัฒนาในด้านของส่วนผสมที่พัฒนาให้เป็นมิตรต่อสุขภาพมากขึ้น และมีความแปลกใหม่ น่าทานมากยิ่งขึ้น ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com/document/ แหล่งที่มา
|