เมื่อครั้งที่แล้วได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงการใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ไปแล้ว ขอสรุปเนื้อหาองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักสูตร กศน. ดังนี้ หลักสูตร กศน.2551 ได้พัฒนามาจากหลักสูตร กศน. พ.ศ. 2544 อันเนื่องมาจากได้มี พรบ.กศน. พ.ศ.2551 เกิดขึ้น จึงต้องพัฒนาหลักสูตร โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในครอบครัว ชุมชน สังคมได้อย่างมีความสุข กลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนทั่วไปที่ไม่อยู่ในระบบโรงเรยน โครงสร้างหลักสูตร มี 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย สาระการเรียนมี 5 สาระ คือ 1) สาระทักษะการเรียนรู้ 2)สาระความรู้พื้นฐาน 3)สาระการประกอบอาชีพ 4)สาระทักษะการดำเนินชีวิต 5) สาระการพัฒนาสังคม มีกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคม เวลาเรียน ใช้เวลาเรียน 4 ภาคเรียน ยกเว้นกรณีมีการเทียบโอนผลการเรียน หน่วยกิต ใช้เวลาเรียน 40 ชั่วโมง มีค่าเท่ากับ 1 หน่วยกิต โดยแยกเป็นแต่ละระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไม่น้อยกว่า 56 หน่วยกิต และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไม่น้อยกว่า 76 หน่วยกิต วิธีการจัดการเรียนรู้ มี 7 รูปแบบ คือ 1) การเรียนรู้ด้วยตนเอง 2) การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม 3) การเรียนรู้แบบทางไกล 4)การเรียนรู้แบบชั้นเรียน (ร.ร.ผู้ใหญ่) 5) การเรียนรู้ตามอัธยาศัย 6)การเรียนรู้จากการทำโครงงาน 7)การเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ ตามความต้องการ สื่อการเรียนรู้ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อบุคคล ภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ในชุมชนนั้น ๆ สื่อที่ครู หรือผู้เรียนสร้างขึ้นเองก็ได้ การวัดและประเมินผลการเรียน คือ 1)การวัดและประเมินผลรายวิชา 2)การประเมินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ไม่น้อยกว่า 100 ชั่วโมง 3) การประเมินคุณธรรม 4)การประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ ***หมายเหตุ*** วิชาเลือกแต่ละระดับสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการทำโครงงานจำนวนอย่างน้อย 3 หน่วยกิต การลงทะเบียนเรียนตามโครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ให้ลงทะเบียนเรียนเป็นรายวิชาและตามจำนวนหน่วยกิต ในแต่ละภาคเรียนดังนี้ วิธีการจัดการเรียนรู้ 1. การจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยมีครู/ผู้รู้/ ผู้เชี่ยวชาญในเนื้อหานั้น ๆ เป็นผู้ถ่ายทอดเนื้อหา ในการถ่ายทอดเนื้อหาของครูต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม แสดงความคิดเห็นได้ โดยเพิ่มการเขียนถาม/ตอบ หลังการบรรยาย รวมทั้งมีการจัดโอกาสให้ฝึกในห้องปฏิบัติการ และจัดเวลาการให้คำปรึกษา 2. การจัดกระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับครู และผู้เรียนกับผู้เรียน โดยกระตุ้นให้ผู้เรียนตอบพร้อมกับใช้กิจกรรมลักษณะที่เน้นการสื่อสาร เช่น กิจกรรมคู่ กิจกรรมกลุ่ม และการจัดที่นั่งในชั้นเรียนต้องเหมาะสม เอื้อต่อการดำเนินกิจกรรม สื่อ 3.1 สื่อวิชาเลือกบังคับกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจัดทำต้นฉบับ 3.2 สื่อรายวิชาเลือกเสรี สถานศึกษาจัดทำหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรี แล้วเสนอให้คณะกรรมการของ สำนักงาน กศน.จังหวัดพิจารณา ตรวจสอบสอดคล้องของรายวิชากับโปรแกรมการเรียน สอดคล้องกับมาตรฐานของกลุ่มสาระในแต่ละระดับการศึกษา จากนั้น สำนักงาน กศน.จึงขอรหัสรายวิชาเลือกจากระบบโปรแกรมรายวิชาเลือก ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้พัฒนารายวิชาเลือกที่เรียนได้ทุกระดับการศึกษา 3.3 รูปแบบของสื่อ มี 2 รูปแบบ คือ แบบชุดวิชาและแบบเรียนปลายเปิดโดยให้พิจารณา ตามธรรมชาติของวิชา 3.4 การจัดทำสื่อเสริมการเรียนรู้ กลุ่มพัฒนาการศึกษานอระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา ร่วมกันผลิตสื่อเสริมการเรียนรู้ในเนื้อหาที่ยาก เพื่อเสริมความรู้ความเข้าใจในการเรียนรายวิชาต่างๆ การเทียบโอนผลการเรียน หลักการ การเทียบโอนผลการเรียนมีหลักการ ดังนี้ 4. เป็นการกระจายอำนาจให้สถานศึกษาในการเทียบโอนผลการเรียน โดยสถานศึกษาจะต้องจัดให้บุคลากรหรือเจ้าหน้าที่ ทำหน้าที่ให้คำแนะนำและดำเนินการให้มีการเทียบโอนผลการเรียน 5. วิธีการและหลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียนต้องได้มาตรฐานชัดเจนสมเหตุสมผลเชื่อถือได้โปร่งใสและยุติธรรม วัตถุประสงค์ ขอบข่ายการเทียบโอนผลการเรียน เป็นการเทียบโอนผลการเรียนจากหลักฐานการศึกษา ที่ออกให้โดยสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้ หรือให้การรับรอง และจัดระดับการศึกษาเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า ตามหลักสูตร ทั้งที่จัดในรูปแบบการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ 2. การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาต่อเนื่อง คุณสมบัติทั่วไปของผู้ขอเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนผลการเรียนมี 2 วิธี คือ การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักฐานการศึกษา มีขอบข่ายดังนี้ หลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักฐานการศึกษาหลักสูตรที่จัดการศึกษาเป็นระดับ เกณฑ์การจบหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1. ผ่านเกณฑ์การประเมินการเรียนรู้รายวิชาในแต่ละระดับการศึกษา ตามโครงสร้างหลักสูตร 1.1. ระดับประถมศึกษา ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต 1.2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไม่น้อยกว่า 56 หน่วยกิต 1.3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไม่น้อยกว่า 76 หน่วยกิต 2. เข้าร่วมกิจกรรม และผ่านกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต ( กพช) ไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง 3. ผ่านการประเมินคุณธรรม ในระดับพอใช้ขึ้นไป 4. เข้ารับการประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ ( สอบ N Net) |