ผเู้ ขียนหวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ แผนการจดั การเรียนรูเ้ ล่มนี้ จะมปี ระโยชน์ต่อครูผ้สู อนและผ้ทู ีต่ ้องการ ศึกษาเพ่ือใช้ในการเตรียมการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน ลดเวลาในการเตรียมการ จัดการเรียนรู้ของครู และช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีทักษะกระบวนการท้ังในทางวิทยาศาสตร์ และการทำงานร่วมกัน รวมถงึ การเรยี นรตู้ ามผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั อย่างมี คุณภาพมากขนึ้ อน่ึง แผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ียังมีข้อผิดพลาด บกพร่องหลา ยประการ หากมี ขอ้ เสนอแนะประการใดผ้เู ขียนยินดที ่ีจะพิจารณาเสมอ และจะปรับปรงุ ให้ดีข้ึนในโอกาสต่อไป นางสาวมยลุ ี นนั ดี ผ้เู ขียนแผนการจดั การเรียนรู้ สารบญั หน้า 1 หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) เปา้ หมายของวทิ ยาศาสตร์ ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเองมากที่สุด เพ่ือให้ได้ท้ัง การจดั การเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตรจ์ งึ มเี ป้าหมายทสี่ ำคัญ ดังน้ี เรียนรอู้ ะไรในวิทยาศาสตร์ ✧ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ เรยี นรเู้ ก่ียวกบั ชวี ิตในสง่ิ แวดลอ้ ม องคป์ ระกอบของสิ่งมีชีวิตการดำรงชวี ิต ✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เก่ียวกบั ธรรมชาติของสาร การเปล่ียนแปลงของสารการเคลื่อนท่ี ✧ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เก่ียวกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบ ✧ เทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อ 2 - วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เก่ียวกับการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็น สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี 3 มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชีวติ จริงอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและ คุณภาพผู้เรยี น จบชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ❖ เข้าใจลักษณะและองค์ประกอบท่ีสำคัญของเซลล์สิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการทำงานของ ❖ เข้าใจองค์ประกอบและสมบัติของธาตุ สารละลาย สารบริสุทธิ์ สารผสม หลักการแยกสาร การ ❖ เข้าใจการเคลื่อนท่ี แรงลัพธ์และผลของแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุ โมเมนต์ของแรงแรงที่ปรากฏใน ❖ เข้าใจสมบัติของคลื่น และลักษณะของคล่ืนแบบต่าง ๆ แสง การสะท้อน การหักเหของแสงและ ❖ เข้าใจการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การเกดิ ฤดู การเคลื่อนท่ีปรากฏของดวงอาทิตย์ ❖ เข้าใจลักษณะของชั้นบรรยากาศ องค์ประกอบและปัจจัยท่ีมีผลต่อลมฟ้าอากาศ การเกิดและ 4 ❖ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ❖ นำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศได้ ❖ ต้ังคำถามหรือกำหนดปัญหาท่ีเชอื่ มโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการ ❖ วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตรวจสอบจาก ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งม่ัน รับผิดชอบ รอบคอบ และซ่ือสัตย์ ในส่ิงที่จะเรียนรู้ มีความคิด ❖ ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และ ❖ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสมดลุ ของระบบนิเวศ และ จบช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ ❖ เข้าใจการลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกันใน 5 ❖ เข้าใจความหลากหลายของไบโอมในเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ของโลก การเปล่ียนแปลงแทนท่ีใน ❖ เข้าใจชนิดของอนุภาคสำคัญที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอม สมบัติบางประการของธาตุ ❖ เข้าใจปริมาณที่เก่ียวกับการเคล่ือนท่ี ความสัมพันธ์ระหว่างแรง มวลและความเร่ง ผลของ ❖ เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างมวลและพลังงาน การเปลี่ยนพลงั งานทดแทนเป็น ❖ เข้าใจการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณีที่ ❖ เข้าใจผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส ที่มีต่อการ ❖ เข้าใจการกำเนิดและการเปล่ียนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพ หลักฐานที่ ❖ ระบุปัญหา ตั้งคำถามท่จี ะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหวา่ งตัวแปรต่าง ๆ ❖ ต้งั คำถามหรือกำหนดปญั หาทีอ่ ยู่บนพน้ื ฐานของความรู้และความเข้าใจทางวทิ ยาศาสตร์ ที่แสดง 6 วิธีการสำรวจตรวจสอบตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม มีหลักฐานเชิงประจักษ์ เลือกวัสดุ ❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพ่ือตรวจสอบกับ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้ ❖ แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้ ทำงาน ❖ เข้าใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ท่ีมีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และ ❖ ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ใน ❖ แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ ❖ วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีท่ีซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงของ ❖ ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อ 7 ขอบข่ายสาระวทิ ยาศาสตร์ สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ สาระที่ 4 เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์เพ่มิ เติม - สาระชวี วิทยา - สาระเคมี - สาระฟสิ กิ ส์ - สาระโลก ดาราศาสตร์ 8 รูปแบบการสอน สื่อการเรียนรู้รายวิชาเคมี (ว30225) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ผู้จัดทำได้ออกแบบการสอน รูปแบบการสอนแบบ Concept Based Teaching ผู้จัดทำเลือกใช้รปู แบบการสอนโดยยึดผเู้ รยี นเป็นศนู ย์กลาง : Concept Based Teaching เนอื่ งจาก วธิ สี อน (Teaching Method) ผู้จัดทำเลือกใช้วิธีสอนท่ีหลากหลาย เช่น อุปนัย นิรนัย การสาธิต การทดลอง แบบแก้ปัญหา เทคนิคการสอน (Teaching Technique) ผจู้ ัดทำเลือกใช้เทคนิคการสอนทห่ี ลากหลายและเหมาะสมกับเร่ืองที่เรยี น เช่น การใช้คำถาม การ 9 คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ว30225 รายวิชา เคมี กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ (1.5 หนว่ ยกิต) ภาคเรียนท่ี 1 ********************************************************************************************* ศึกษาเคมี เก่ียวกับสารประกอบอินทรีย์ โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ สูตรโครงสร้างลิว อิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ หรือสูตรโครงสร้างแบบเส้น ประเภทของสารประกอบอินทรีย์ การเรียกชื่อ สารประกอบอินทรีย์ การเกิดไอโซเมอริซึม จุดเดือดและการละลายในน้ำของสารประกอบอินทรีย์ การ เกิดปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยากับโบรมีนและปฏิกิริยากับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต ของแอลเคน แอ ลคีน แอลไคน์ อะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน การเกิดปฏิกิริยา เอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอ ไมด์ ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสะปอนนฟิ ิเคชัน และการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ อย่างหลากหลาย ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ การปรับเปล่ียน โครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ ระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ ยาง ผลกระทบจากการใช้และการกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ความรู้ทางเคมีใน การประกอบอาชพี หรืออุตสาหกรรม โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพ่ือฝึกทักษะสืบค้นข้อมูล นำเสนอ เขียนสูตร วิเคราะห์ ระบุ เรียกชื่อ เขียนไอโซเมอร์ เปรียบเทียบ เขียนผลิตภัณฑ์ เขียนสมการ อธิบาย ทดสอบ สืบคน้ และนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม เกิดความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ นำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ รวม 15 ผลการเรยี นรู้ 10 ผลการเรยี นรู้ รหัสวิชา ว30225 รายวิชา เคมี กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ (1.5 หนว่ ยกติ ) ภาคเรียนท่ี 1 ********************************************************************************************* สาระเพ่ิมเตมิ เคมี ข้อ 1. เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของ สาร แก๊สและสมบัติของแกส๊ ประเภทและสมบัติของ สารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้ังการนำ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ม.6/1 สืบค้นขอ้ มูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ทมี่ ีพนั ธะเดี่ยว พนั ธะคู่ หรอื พันธะสาม.ที่ พบในชวี ิตประจำวนั ม.6/2 เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบ อนิ ทรยี ์ ม.6/3 วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง และระบปุ ระเภทของสารประกอบอนิ ทรียจ์ ากหมู่ฟงั ก์ชนั ม.6/4 เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ท่ีมีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC ม.6/5 เขยี นไอโซเมอรโ์ ครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรีย์ประเภทตา่ ง ๆ ม.6/6 วเิ คราะห์ และเปรียบเทยี บจดุ เดือดและการละลายในน้ำของสารประกอบอินทรีย์ทีม่ ีหมู่ฟังก์ชัน ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสรา้ งตา่ งกนั ม.6/7 ระบปุ ระเภทของสารประกอบไฮโดรคารบ์ อนและเขียนผลิตภณั ฑ์จากปฏิกิรยิ าการเผาไหม้ ปฏิกริ ิยากบั โบรมีน หรือปฏิกิรยิ ากับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต ม.6/8 เขยี นสมการเคมแี ละอธิบายการเกิดปฏิกิรยิ า เอสเทอริฟเิ คชนั ปฏกิ ริ ิยาการสังเคราะหเ์ อไมด์ ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ สิ และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชนั ม.6/9 ทดสอบปฏิกริ ิยาเอสเทอรฟิ ิเคชนั ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ สิ และปฏิกิรยิ า สะปอนนิฟเิ คชัน ม.6/10 สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และอุตสาหกรรม ม.6/11 ระบุประเภทของปฏิกริ ิยาการเกิดพอลเิ มอรจ์ ากโครงสร้างของมอนอเมอรห์ รือพอลิเมอร์ ม.6/12 วิเคราะห์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ รวมท้ังการ นำไปใช้ประโยชน์ ม.6/13 ทดสอบ และระบปุ ระเภทของพลาสตกิ และผลิตภณั ฑ์ยาง รวมทง้ั การนำไปใชป้ ระโยชน์ ม.6/14 อธบิ ายผลของการปรบั เปล่ยี นโครงสร้าง และการสังเคราะหพ์ อลิเมอร์ทีม่ ีต่อสมบัติของ พอลเิ มอร์ ม.6/15 สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์และ แนวทางแก้ไข 11 โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า ว30225 รายวิชา เคมี กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ (1.5 หนว่ ยกิต) ภาคเรียนที่ 1 ********************************************************************************************* หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก 1 เคมอี นิ ทรีย์ ขอ้ 1 ม.6/1 สบื ค้นข้อมูลและนำเสนอ 1. สารประกอบอินทรีย์ท่ีมี 3 5 ตัวอยา่ งสารประกอบอนิ ทรยี ์ทม่ี ี พนั ธะเด่ียว พันธะคู่ หรือ พันธะเดีย่ ว พนั ธะคู่ หรอื พนั ธะ พันธะสาม สาม.ทพี่ บในชีวิตประจำวนั ม.6/2 เขยี นสตู รโครงสรา้ งลิวอสิ 1. สูตรโครงสรา้ งลิวอสิ สตู ร 5 8 สตู รโครงสร้างแบบย่อ และสตู ร โครงสร้างแบบย่อ และสูตร โครงสรา้ งแบบเสน้ ของ โครงสรา้ งแบบเส้น สารประกอบอนิ ทรยี ์ ม.6/3 วิเคราะห์โครงสร้าง และระบุ 1. ประเภทของสารประกอบ 3 5 ประเภทของสารประกอบอินทรยี ์ อินทรีย์ จากหมฟู่ ังก์ชนั ม.6/4 เขียนสูตรโครงสร้างและ 1. เขียนสตู รโครงสรา้ งและ 4 7 เรียกชอื่ สารประกอบอินทรีย์ เรียกชอ่ื สารประกอบอนิ ทรยี ์ ประเภทตา่ ง ๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชนั ไม่ ท่มี ีหมู่ฟังกช์ นั ไม่เกนิ 1 หมู่ เกิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC ตามระบบ IUPAC ม.6/5 เขียนไอโซเมอร์โครงสร้าง 1. ไอโซเมอร์โครงสร้างของ 5 8 ของสารประกอบอนิ ทรีย์ประเภท สารประกอบอนิ ทรีย์ ตา่ ง ๆ ม.6/6 วเิ คราะห์ และเปรยี บเทยี บ 1. จดุ เดอื ดและการละลายใน 4 7 จดุ เดอื ดและการละลายในน้ำของ นำ้ ของสารประกอบอินทรยี ์ สารประกอบอินทรยี ท์ ่ีมหี มู่ฟงั ก์ชัน ที่มีหมู่ฟังกช์ ัน ขนาดโมเลกุล ขนาดโมเลกลุ หรอื โครงสร้าง หรือโครงสรา้ งต่างกนั ตา่ งกัน ม.6/7 ระบปุ ระเภทของ 1. ประเภทของสารประกอบ 6 10 สารประกอบไฮโดรคาร์บอนและ ไฮโดรคาร์บอนและ เขียนผลติ ภณั ฑ์จากปฏิกริ ิยาการ ผลติ ภัณฑ์จากปฏกิ ริ ิยาการ เผาไหม้ ปฏกิ ิริยากบั โบรมีน หรอื เผาไหม้ ปฏิกิรยิ ากับโบรมนี ปฏกิ ิรยิ ากบั โพแทสเซียมเปอร์แมง หรือปฏิกริ ิยากับโพแทสเซยี ม กาเนต เปอร์แมงกาเนต 12 หน่วย ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั ม.6/8 เขยี นสมการเคมีและอธบิ าย 1. เขียนสมการเคมแี ละ 3 5 การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า เอสเทอริฟเิ คชนั ทดสอบการเกดิ ปฏิกิรยิ า ปฏกิ ิริยาการสงั เคราะหเ์ อไมด์ เอสเทอริฟเิ คชัน ปฏกิ ิรยิ า ปฏิกิริยาไฮโดรลซิ ิส และปฏิกิริยา การสังเคราะหเ์ อไมด์ สะปอนนิฟิเคชัน ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ ิส และ ม.6/9 ทดสอบปฏิกิริยา ปฏิกิรยิ าสะปอนนิฟิเคชนั 3 5 เอสเทอริฟิเคชัน ปฏกิ ิริยาไฮโดรลิซิส และปฏิกิรยิ า สะปอนนฟิ ิเคชัน ม.6/10 สบื คน้ ข้อมูลและนำเสนอ 1. การนำสารประกอบ 47 ตัวอยา่ งการนำสารประกอบอินทรยี ์ อนิ ทรยี ไ์ ปใชป้ ระโยชน์ใน ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน ชวี ิตประจำวันและ และอตุ สาหกรรม อุตสาหกรรม 2 พอลิเมอร์ ม.6/11 ระบปุ ระเภทของปฏิกิริยา 1. ประเภทของปฏิกริ ิยาการ 4 7 การเกิดพอลิเมอรจ์ ากโครงสร้าง เกิดพอลเิ มอร์จากโครงสรา้ ง ของมอนอเมอรห์ รือพอลิเมอร์ ของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ ม.6/12 วิเคราะห์ และอธิบาย 1. โครงสรา้ งและสมบัตขิ อง 4 7 นำไปใชป้ ระโยชน์ ม.6/13 ทดสอบ และระบปุ ระเภท 1. ประเภทของพลาสติกและ ของพลาสติกและผลติ ภณั ฑ์ยาง ผลิตภัณฑย์ าง รวมทัง้ การนำไปใชป้ ระโยชน์ ม.6/14 อธบิ ายผลของการ 1. การปรับเปลี่ยนโครงสรา้ ง ปรบั เปล่ยี นโครงสร้าง และการ และการสังเคราะห์พอลเิ มอร์ สังเคราะห์พอลเิ มอร์ท่ีมตี ่อสมบตั ิ ท่มี ีต่อสมบัตขิ องพอลเิ มอร์ ของพอลเิ มอร์ ม.6/15 สบื ค้นข้อมลู และนำเสนอ 1. ผลกระทบจากการใช้และ ตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และ การกำจัดผลติ ภัณฑ์พอลิ การกำจดั ผลิตภณั ฑพ์ อลิเมอร์และ เมอรแ์ ละแนวทางแก้ไข แนวทางแก้ไข รวม 13 การวัดผลและประเมินผล การวัดผลการเรียนรู้ 60 คะแนน การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ระดับผลการเรียน ความหมาย ชว่ งคะแนนเป็นร้อยละ 4 ดเี ย่ยี ม 80 – 100 3.5 ดีมาก 75 – 79 3 ดี 70 – 74 2.5 ค่อนข้างดี 65 – 69 2 น่าพอใช้ 60 – 64 1.5 พอใช้ 55 – 59 1 ผา่ น 50 – 54 0 ต่ำกวา่ เกณฑ์ 0 – 49 2. เกณฑก์ ารตัดสนิ ผลการประเมินผล การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ เขียนส่ือความ 2.1 ผลการประเมิน “ผา่ น” และ “ไม่ผา่ น” 2.2 เกณฑ์การตัดสนิ ระดับคุณภาพ ความหมาย ช่วงคะแนนเปน็ ร้อยละ 3 ดเี ยย่ี ม 80 – 100 2 ดี 70 – 79 1 ผ่านเกณฑ์ 50 – 69 0 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ตำ่ กว่า 50 3. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินผล คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 14 ระดบั คุณภาพ ความหมาย ชว่ งคะแนนเป็นร้อยละ การคิดเวลาเรยี น จำนวน จำนวน เวลาเรียน 60 %ของ 80 %ของ จำนวน 16 20 24 เกณฑก์ ารจบหลกั สูตรระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย หน่วยกติ และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด หน่วยกิต และรายวิชาเพ่มิ เติมไม่น้อยกวา่ 36 หนว่ ยกติ การตดั สินการเรียนรู้ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 – 6 รายวชิ าพนื้ ฐานและเพ่ิมเตมิ “ผ่าน” 3. ผู้เรียนตอ้ งผา่ นการประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคห์ มาย ได้รบั ผลการประเมิน “ผ่าน” 15 โครงการสอน รหสั วชิ า ว30225 รายวชิ า เคมี จำนวน 1.5 หนว่ ยการเรยี น ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 สัปดาห์ที่ แผนที่ วัน เดอื น ปี เร่อื ง คาบท่ี 3 2 21 – 25 ม.ิ ย. 64 ไอโซเมอรแ์ ละหมูฟ่ ังกช์ นั 7–9 4 2, 3 28 มิ.ย. – 2 ก.ค. 64 ไอโซเมอรแ์ ละหมฟู่ ังก์ชนั , สมบัตบิ างประการของสารประกอบ 10 – 12 14 6, 7 2 – 6 ส.ค. 64 แอลกอฮอล์ ฟีนอล และอีเทอร์, แอลดไี ฮด์และคีโตน 40 – 42 15 7, 8 9 – 13 ส.ค. 64 แอลดไี ฮดแ์ ละคีโตน, กรดคาร์บอกซลิ ิกและเอสเทอร์ 43 – 45 11 6 – 10 ก.ย. 64 การใช้ประโยชนข์ องสารประกอบอนิ ทรยี ์ 11, 12 13 – 17 ก.ย. 64 การใช้ประโยชน์ของสารประกอบอินทรยี ์, ปฏิกริ ิยาการเกิด 12, 13 20 – 24 ก.ย. 64 ปฏิกริ ิยาการเกิดพอลิเมอร์, โครงสร้างและสมบตั ิของพอลิเมอร์ 13 27 ก.ย. – 1 ต.ค. 64 โครงสรา้ งและสมบัติของพอลิเมอร์ 14 4 – 8 ต.ค. 64 พลาสติก 14, 15 11 – 15 ต.ค. 64 พลาสตกิ , ยาง 15, 16 18 – 22 ต.ค. 64 ยาง, ผลกระทบท่ีเกดิ จากการใช้และกำจัดผลติ ภณั ฑพ์ อลิเมอร์ 16 25 – 29 ต.ค. 64 ผลกระทบทเ่ี กิดจากการใช้ผลิตภณั ฑ์พอลิเมอร์, สอบปลายภาค ลงชอ่ื ……………………..…………… ลงช่ือ………………….……………….…. ลงชอ่ื ………….……..…………....... ลงชอื่ ……………….…………………… หวั หนา้ งานพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ รองผอู้ ำนวยสถานศกึ ษา ฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ 16 ลงชือ่ …………………………………….. รองผ้อู ำนวยสถานศึกษา รักษาราชการแทน 17 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เคมีอินทรยี ์ เวลา 40 ช่ัวโมง เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร แก๊ส 1. สืบค้นขอ้ มูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอนิ ทรีย์ท่ีมพี ันธะเดีย่ ว พันธะคู่ หรอื พนั ธะสามท่พี บใน 2. เขยี นสูตรโครงสร้างลวิ อิส สตู รโครงสรา้ งแบบย่อและสตู รโครงสรา้ งแบบเส้นของสารประกอบอินทรีย์ 2. สาระการเรียนรู้ และแบ่งได้หลายประเภท เนื่องจากธาตุคาร์บอนสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุคาร์บอนดว้ ยพันธะเดี่ยว 2) โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์แสดงได้ด้วยสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อหรือ 3) สารประกอบอินทรีย์มีหลายประเภท การพิจารณาประเภทของสารประกอบอินทรีย์อาจใช้หมู่ 18 4) การเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทแอลเคน แอลคีน แอลไคน์ แอลกอฮอล์ อีเทอร์ เอมีน 5) ปรากฏการณ์ทส่ี ารมีสูตรโมเลกลุ เหมือนกันแต่มสี มบตั ิแตกตา่ งกนั เรยี กวา่ ไอโซเมอริซึม และเรียก 6) สารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชัน ขนาดโมเลกุลหรือโครงสร้างของสารต่างกันจะมีจุดเดือดและ 7) สารประกอบอินทรีย์ประเภทแอลเคน แอลคีน แอลไคน์ อะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน เป็น 8) กรดคาร์บอกซิลิกทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ได้เป็นเอสเทอร์ เรียกว่า ปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน 9) สารประกอบอนิ ทรยี ์สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ไดม้ ากมายในชีวติ ประจำวัน รวมทั้งนำไปใชเ้ ปน็ สาร 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด โครงสร้างหลากหลายและแบ่งได้หลายประเภท เนื่องจากธาตุคาร์บอนสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุ สารประกอบอินทรีย์ มีหมู่อะตอมที่ทำหน้าที่แสดงสมบัติของสารประกอบนั้น ๆ ทำให้สามารถจัด สารประกอบไฮโดรคาร์บอน คือ สารประกอบอินทรีย์ที่มีเฉพาะธาตุคาร์บอนและธาตุไฮโดรเจนเป็น สารประกอบแอลเคนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประเภทอ่ิมตัว มีสตู รทว่ั ไปคอื CnH2n+2 เรยี กชอื่ ไ ด้ 19 ไฮโดรคาร์บอนประเภทไม่อิ่มตัว มีสูตรทั่วไปคือ CnH2n เรียกชื่อตามระบบ IUPAC ได้โดยใช้หลักการเดียวกับ สารประกอบแอลไคน์เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประเภทไม่อิ่มตัว มีสูตรทั่วไปคือ CnH2n-2 เรียกชื่อ แอลกอฮอล์ ฟีนอล และอเี ทอร์ เปน็ สารประกอบอนิ ทรยี ์ท่มี ีธาตุคาร์บอน ธาตุไฮโดรเจนและธาตุออกซเิ จน สารประกอบแอลดีไฮด์ เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่คาร์บอกซาลดีไฮด์เป็นหมู่ฟังก์ชัน ส่วน กรดคารบ์ อกซลิ ิกเปน็ สารประกอบอินทรยี ท์ ่ีมีหมู่คารบ์ อกซิลเป็นหมู่ฟังกช์ นั ส่วนเอสเทอร์เป็นอนุพันธ์ของ เอมีนเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่เกิดจากหมู่แอลคิลหรือหมู่แอริลเข้าแทนที่ไฮโดรเจนในโมเลกุล สารประกอบเอไมด์เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจนและ สารประกอบอินทรีย์สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากมาย เช่น แก๊สปิโตรเลียม นำไปใช้เป็น 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทักษะการสังเกต 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 4) ทกั ษะการทดลอง 5) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมูล 6) ทักษะการตีความหมายและลงข้อสรุป 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 20 5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 6. การวัดและการประเมนิ ผล รายการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน งาน (รวบยอด) - รายงานการทดลอง เรอ่ื ง - แบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์ สมบัติบางประการของเอทา ปฏบิ ัติการ - ระดบั คุณภาพดี - ผังมโนทัศน์ เรือ่ ง สมบัติบาง ภาระงาน - ระดับคุณภาพดี - รายงานการทดลอง เรอื่ ง ปฏบิ ตั ิการ - ระดับคุณภาพดี - ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง แอลไคน์ ภาระงาน และอะโรมาตกิ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ ไฮโดรคาร์บอน ภาระงาน - ผังมโนทัศน์ เรื่อง แอลกอฮอล์ - แบบประเมินช้นิ งาน/ ฟีนอล และอีเทอร์ ภาระงาน - ผงั มโนทศั น์ เร่ือง แอลดไี ฮด์ - แบบประเมนิ การ และคีโตน ปฏบิ ัตกิ าร 21 รายการวดั วิธวี ดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 6.2 การประเมิน - แบบจำลอง เรอ่ื ง ผลิตภณั ฑท์ ี่ - แบบทดสอบก่อน - ประเมนิ ตาม 2) ไอโซเมอ- 3) สมบตั บิ าง - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ 60 รายการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมือ 22 - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หดั - สมุดบนั ทึกของ ผ่านเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์ ผา่ นเกณฑ์ 23 รายการวัด วิธวี ดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน 10) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพดี เคมีอินทรยี ์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา 3 ชั่วโมง • แผนฯ ที่ 2 : ไอโซเมอร์และหม่ฟู ังก์ชัน 24 • แผนฯ ท่ี 3 : สมบตั ิบางประการของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน เวลา 2 ช่วั โมง • แผนฯ ที่ 7 : แอลดีไฮด์และคโี ตน • แผนฯ ท่ี 8 : กรดคาร์บอกซิลิกและเอสเทอร์ • แผนฯ ที่ 9 : เอมีน • แผนฯ ที่ 10 : เอไมด์ • แผนฯ ที่ 11 : การใช้ประโยชนข์ องสารประกอบอนิ ทรีย์ (รวมเวลา 40 ชั่วโมง) 8.1 สื่อการเรียนรู้ อินทรีย์ 1 เคมอี ินทรยี ์ 25 15) ใบงานที่ 1.10 เรอื่ ง เอไมด์ 26 แบบทดสอบก่อนเรยี น คำช้แี จง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. สารในข้อใดไม่ใชส่ ารประกอบอินทรยี ์ 7. ข้อใดเรยี กช่ือสารตอ่ ไปนี้ได้ถูกต้อง 1. เพชร 2. น้ำตาล 3. น้ำส้มสายชู 4. นำ้ ยาล้างเลบ็ 5. แอลกอฮอล์ลา้ งแผล 2. สารประกอบประเภทใดทมี่ ีพันธะระหว่าง คาร์บอนเป็นพันธะเดยี่ วทั้งหมด 1. 5–ไดเมทิล–2-เฮกซีน 1. แอลคีน 2. แอลเคน 2. 2–ไดเมทลิ –4–เฮกซีน 3. แอลไคน์ 4. ไซโคลแอลคีน 3. 5,5–ไดเมทลิ –2-เฮกซีน 5. อะโรมาติกไฮโดรคารบ์ อน 4. 2,2–ไดเมทิล–5–เฮกซีน 3. ขอ้ ใดคอื หมู่ฟงั ก์ชันของสารประกอบแอลกอฮอล์ 5. 2,2–ไดเมทลิ –4–เฮกซีน 1. แอลคอกซี 2. ไฮดรอกซิล 8. ข้อใดคือโครงสร้างของสาร 4–เมทิล–2–เพน 3. คาร์บอกซลิ 4. คาร์บอกซาลดีไฮด์ ไทน์ 5. แอลคอกซคี ารบ์ อนลิ 1. 4. สาร CH3CH2NH2 ประกอบด้วยหมูฟ่ ังกช์ ันใด 1. เอไมด์ 2. อะมิโน 2. 3. คารบ์ อนลิ 4. คาร์บอกซิล 3. 5. คาร์บอกซาลดไี ฮด์ 5. สารประกอบแอลเคน เมื่อมีจำนวนอะตอมของ 4. คาร์บอนเพมิ่ ขึ้น จะสง่ ผลตอ่ จุดเดอื ดและจดุ 5. หลอมเหลวอย่างไร 1. จดุ เดอื ดและจุดหลอมเหลวสูงข้นึ กำหนดสารประกอบอนิ ทรยี ต์ ่อไปนี้ สำหรบั คำถาม 2. จุดเดอื ดและจดุ หลอมเหลวลดลง ข้อ 9. และขอ้ 10. 3. จดุ เดอื ดสูงขน้ึ จดุ หลอมเหลวลดลง ก. ข. ค. 4. จุดเดือดลดลง จุดหลอมเหลวสงู ข้ึน 5. จุดเดือดและจุดหลอมเหลวมคี า่ เทา่ เดิม ง. 6. จากปฏกิ ริ ยิ าดงั ภาพ คือ ปฏกิ ิริยาใด 9. สารประกอบอินทรียใ์ ดมีจุดเดือดสูงสุด 1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ขอ้ ค. 4. ขอ้ ง. 5. ข้อ ก. และข้อ ข. 10. สารประกอบในข้อ ข. เรยี กช่อื ได้อยา่ งไร 1. แฮโลจเี นชัน 2. ไฮโดรจีเนชัน 1. เอทานอล 2. เอทานาล 3. ไฮเดรชนั 4. ไฮโดรแฮโลจีเนชนั 3. บวิ ทาโนน 4. โพรพาโนน 5. ออกซเิ ดชนั 5. 2-เพนทาโนน เฉลย 1. 1 2. 2 3. 2 4. 2 5. 1 6. 2 7. 3 8. 1 9. 1 10. 4 27 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. สารประกอบประเภทใดที่มีพันธะระหวา่ ง 7. ขอ้ ใดเรียกชือ่ สารตอ่ ไปน้ีได้ถกู ต้อง คารบ์ อนเปน็ พนั ธะเดย่ี วทั้งหมด 1. แอลคีน 2. แอลเคน 3. แอลไคน์ 4. ไซโคลแอลคีน 5. อะโรมาติกไฮโดรคารบ์ อน 2. สารในขอ้ ใดไม่ใชส่ ารประกอบอนิ ทรยี ์ 1. 5–ไดเมทลิ –2-เฮกซีน 1. เพชร 2. น้ำตาล 2. 2–ไดเมทลิ –4–เฮกซนี 3. นำ้ ส้มสายชู 4. นำ้ ยาล้างเล็บ 3. 5,5– ไดเมทิล–2-เฮกซีน 5. แอลกอฮอล์ล้างแผล 4. 2,2–ไดเมทลิ –5–เฮกซีน 3. สาร CH3CH2NH2 ประกอบด้วยหมูฟ่ ังก์ชันใด 5. 2,2–ไดเมทิล–4–เฮกซีน 1. เอไมด์ 2. อะมโิ น 8. ข้อใดคือโครงสรา้ งของสาร 4–เมทิล–2–เพน 3. คาร์บอนิล 4. คาร์บอกซลิ ไทน์ 5. คาร์บอกซาลดไี ฮด์ 1. 4. สารประกอบแอลเคน เม่ือมจี ำนวนอะตอมของ คารบ์ อนเพ่ิมข้นึ จะสง่ ผลตอ่ จุดเดอื ดและจดุ 2. หลอมเหลวอยา่ งไร 3. 1. จดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวสงู ข้ึน 2. จุดเดือดและจดุ หลอมเหลวลดลง 4. 3. จุดเดอื ดสูงข้นึ จดุ หลอมเหลวลดลง 5. 4. จดุ เดอื ดลดลง จดุ หลอมเหลวสูงขนึ้ 5. จดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวมีค่าเทา่ เดิม 9. ข้อใดคอื หมู่ฟงั กช์ ันของสารประกอบแอลกอฮอล์ กำหนดสารประกอบอนิ ทรีย์ต่อไปน้ี สำหรับคำถาม 1. แอลคอกซี 2. ไฮดรอกซิล ขอ้ 5. และข้อ 6. 3. คาร์บอกซิล 4. คารบ์ อกซาลดไี ฮด์ ก. ข. ค. 5. แอลคอกซีคาร์บอนลิ 10.จากปฏกิ ริ ิยาดงั ภาพ คอื ปฏกิ ิรยิ าใด ง. 5. สารประกอบอนิ ทรยี ์ใดมจี ุดเดอื ดสูงสุด 1. ข้อ ก. 2. ขอ้ ข. 3. ขอ้ ค. 4. ข้อ ง. 5. ข้อ ก. และข้อ ข. 6. สารประกอบในข้อ ข. เรียกชอ่ื ได้อยา่ งไร 1. แฮโลจีเนชัน 2. ไฮโดรจีเนชนั 3. บวิ ทาโนน 4. โพรพาโนน 5. 2-เพนทาโนน เฉลย 1. 2 2. 1 3. 2 4. 1 5. 1 6. 4 7. 3 8. 1 9. 2 10. 2 28 แบบประเมนิ การปฏิบัตกิ าร แผนฯ ท่ี 2, 3 และ 8 คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบตั กิ ารของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกับ ลำดับที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 1 การออกแบบการทดลอง ลงช่ือ ................................................... ผปู้ ระเมนิ 29 เกณฑก์ ารประเมินการปฏบิ ตั ิการ ประเดน็ ท่ี ระดับคะแนน ประเมิน 4 3 2 1 1. การออกแบบ เขา้ ใจปัญหาตัง้ สมมติฐาน เข้าใจปัญหาตงั้ สมมตฐิ าน เข้าใจปญั หาตัง้ สมมติฐาน เข้าใจปญั หาตัง้ สมมตฐิ าน ใช้เทคนิควิธถี ูกต้อง แสดงถึงความคิดรเิ รมิ่ 2. การ การดำเนนิ การทดลอง การดำเนินการทดลอง การดำเนินการทดลอง การดำเนินการทดลอง เหมาะสมกับลักษณะของ นำเสนอขอ้ มลู ถกู ตอ้ ง นำเสนอข้อมูลถูกตอ้ ง นำเสนอข้อมลู ถูกตอ้ ง เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 11-12 ดีมาก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ตำ่ กวา่ 6 ปรับปรงุ 30 แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ท่ี 2-3 และ 5-10 แบบประเมนิ ผังมโนทัศน์/แผน่ พบั คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงานของนักเรียนตามรายการทีก่ ำหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องที่ตรง ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ผังมโนทัศน์/แผน่ พับ ประเดน็ ท่ีประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 2. ความถูกตอ้ ง เน้อื หาสาระของผลงาน เน้อื หาสาระของผลงาน เน้อื หาสาระของผลงาน เนอื้ หาสาระของผลงาน 3. ความคดิ ผลงานแสดงถงึ ความคิด ผลงานแสดงถึงความคดิ ผลงานมคี วามน่าสนใจ ผลงานไมม่ คี วาม เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-16 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง 31 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ 3 การทำงานตามหน้าที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 4 ความมีนำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ ................................................... ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรงุ 32 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ คำช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี ลำดับท่ี ชอ่ื –สกลุ การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมี การมี รวม 321321321321321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชือ่ ................................................... ผูป้ ระเมนิ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ 33 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีสรา้ งความสามคั คปี รองดอง และเปน็ ประโยชน์ ต่อโรงเรยี น 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทีต่ นนับถือ ปฏบิ ัตติ ามหลกั ศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเี่ ก่ยี วกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจดั ขนึ้ 2. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้องและเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัตใิ นสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบตั ไิ ด้ 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอ่ื ฟังคำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตงั้ ใจเรียน 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพือ่ ให้งานสำเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู กั ช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั ิและสิง่ แวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน ลงช่ือ .................................................. ผู้ประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ระดบั คุณภาพ 34 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเคมี รหัสวิชา ว30225 หน่วยท่ี 1 เรื่อง เคมีอนิ ทรีย์ เรือ่ ง พนั ธะและการเขยี นสตู รโครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรยี ์ เวลา 3 ช่ัวโมง *********************************************************************************************** กำหนดการใชแ้ ผนการสอน รายการนิเทศตรวจสอบ สัปดาหท์ ่ี 1 จำนวนคาบ 3 คาบ ……………………………………………….…………………………… ใชส้ อนคาบท่ี 1 – 3 …………………………………………………………………………… วัน / เดอื น / ปี 14 – 18 มิ.ย. 64 …………………………………………………………………………… ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 ลงช่ือ………………………… ลงช่อื ………………………… (นางสาวมยุลี นันดี) (นางสายทิพย์ ทิพยร์ ักษ)์ ผู้จดั ทำ / ผใู้ ช้แผน หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฯ รายการตรวจสอบและกลน่ั กรอง …………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………… ลงช่อื …………………..……… หัวหน้างานพฒั นากระบวนการเรียนรู้ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ฝา่ ยบริหารวิชาการ การพิจารณา/อนุมตั ิ / สง่ั การ ลงช่อื …………………….……………… 35 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าเคมี รหัสวิชา ว30225 หนว่ ยท่ี 1 เรอื่ ง เคมีอนิ ทรยี ์ เร่อื ง พนั ธะและการเขยี นสตู รโครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรีย์ เวลา 3 ชั่วโมง *********************************************************************************************** 1. ผลการเรยี นรู้ 1. สบื ค้นขอ้ มลู และนำเสนอตัวอยา่ งสารประกอบอินทรีย์ที่มพี นั ธะเด่ยี ว พันธะคู่ หรอื พันธะสาม ทพี่ บใน ชวี ติ ประจำวนั 2. เขยี นสตู รโครงสรา้ งลิวอิส สตู รโครงสรา้ งแบบยอ่ และสตู รโครงสร้างแบบเสน้ ของสารประกอบอนิ ทรีย์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ได้ (P) 3. สาระการเรยี นรู้ และแบ่งได้หลายประเภท เน่ืองจากธาตุคาร์บอนสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุคาร์บอนด้วยพันธะเด่ียว - โครงสรา้ งของสารประกอบอนิ ทรยี ์แสดงได้ดว้ ยสตู รโครงสรา้ งลวิ อสิ สตู รโครงสร้างแบบยอ่ หรือสตู ร 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด โครงสร้างหลากหลายและแบ่งได้หลายประเภท เน่ืองจากธาตุคาร์บอนสามารถเกิดพันธะโคเวเลนต์กับธาตุ การเขยี นสูตรของสารประกอบอนิ ทรยี ์ อาจเขยี นเปน็ สตู รโมเลกลุ สตู รโครงสร้างลวิ อิส สูตร โค ร ง ส ร้ า ง 36 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี นและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมลู 5) ทกั ษะการตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ขน้ั นำ การใช้ความร้เู ดมิ เช่ือมโยงความรใู้ หม่ (Prior Knowledge) เคมี ม.6 เลม่ 1 เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเรยี น ได้ และนำรปู ภาพไปตดิ บนกระดาน พร้อมทั้งบอกว่าเกิดพนั ธะเดี่ยว พันธะคู่ หรอื พันธะสาม อย่างไร สามารถเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ได้กับธาตคุ าร์บอนหรือธาตุอน่ื ๆ เชน่ ธาตุไฮโดรเจน ธาตุไนโตรเจน) ปลอมแตกต่างกนั อยา่ งไร กออินทรีย์ ประเภทกรดคาร์บอกซิลิก เนื่องจากประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ธาตุไฮโดรเจน และธาตุออกซิเจน 6. ถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนเคมี ม.6 เล่ม 1 เพ่ือนำเข้าสู่บทเรียนว่า สารประกอบ 37 (แนวตอบ สารประกอบอินทรยี ์ คอื สารประกอบท่ีมีธาตุคารบ์ อนเปน็ องค์ประกอบหลกั และประเภท ช่วั โมงที่ 2 ขัน้ สอน รู้ (Knowing) รีย์ เช่น แอลกอฮอล์ล้างแผล น้ำส้มสายชู น้ำยาล้างห้องน้ำ สบู่ น้ำมันพืช เกลือแกง ด่างทับทิม แล้วให้ 2. เม่ือนักเรียนสามารถระบุได้ว่าสารประกอบอินทรีย์มีลักษณะอยา่ งไร ครูให้นักเรยี นดูรูปภาพโครงสร้าง 3. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์และสรปุ ความแตกต่างของโครงสรา้ งของสารประกอบอนิ ทรยี ์แตล่ ะประเภท เขา้ ใจ (Understanding) ในชีวิตประจำวัน และบอกสูตรโครงสร้างแบบลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นและ 5. ถามคำถามว่า C6H14 สามารถเขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ สูตรโครงสร้างแบบ (แนวตอบ สตู รโครงสร้างลวิ อิสเปน็ ดงั นี้ สูตรโครงสร้างแบบยอ่ เป็น ดังนี้ สูตรโครงสรา้ งแบบเสน้ และมุมเปน็ ดงั นี้ 6. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันทำกิจกรรม Extra Activity เร่ือง การจัดเรียงโครงสร้างของสารประกอบ 38 7. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องของการทำกิจกรรมผ่านการใช้ QR Code เร่ือง สูตรโครงสร้างของ 8. นกั เรียนทำใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง การเขียนสตู รโครงสรา้ งของสารประกอบอินทรีย์ ลงมือทำ (Doing) 10. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนที่นั่งข้างกัน แล้วสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับสารประกอบอินทรีย์ที่พบใน ชีวิตประจำวนั จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น อินเทอรเ์ น็ต หนังสือในห้องสมุด พร้อมท้งั เขยี นสูตรโครงสร้างของ |