บริษัท วงใน มีเดีย จํากัด ฝึกงาน

Wongnai ผู้นำด้านซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่เชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้คนไทยด้วยการนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริงแบบครบวงจร ทั้งร้านอาหาร สูตรอาหาร ความสวยความงาม และท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Wongnai พร้อมทั้งคิดค้นและให้บริการด้าน O2O (Online-to-Offline) เพื่อเชื่อมต่อบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันกับผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงระบบการจัดการร้านอาหาร (Wongnai POS) สำหรับเจ้าของธุรกิจ ปัจจุบัน Wongnai มีจำนวนผู้ใช้กว่า 10 ล้านรายต่อเดือน และมีฐานข้อมูลร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไทยกว่า 430,000 ร้านทั่วประเทศ โดยได้ควบรวมกิจการกับ LINE MAN ในชื่อ "LINE MAN Wongnai" มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Food Platform ที่แข็งแกร่งที่สุดในไทย

สวัสดีค่ะน้องๆ พี่เมเป็นหนึ่งใน People Team ของ Wongnai ค่ะ (ถ้าใครได้อ่าน blog ของพี่หลุยส์ ก็จะทราบว่าทำไมที่ Wongnai เราเรียกทีม HR ว่า ทีม People)

หน้าที่หลักของพี่เมคือการหาคนเก่งๆ มาร่วมทีมกับเรา เวลาส่วนใหญ่ของพี่เมจึงอยู่กับการคัดกรองเรซูเม่ของผู้สมัคร เข้าสัมภาษณ์กับหัวหน้าทีม และหากน้องๆ สอบผ่าน พี่เมก็จะเป็นคนโทร.ไปตกลงเรื่องเงินเดือนและนัดหมายน้องเข้ามาเซ็นสัญญากับ Wongnai ค่ะ

นอกจากการคัดเลือกผู้สมัครแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พี่เมทำควบคู่ไปด้วยคือการตอบคำถามน้องๆ ในช่องทางต่างๆ ที่เรามี ซึ่งช่องทางหลักที่พี่เมดูแลก็คือ Line@ (@wongnaicareers) ค่ะ ซึ่งพี่เมก็ได้เจอคำถามที่ค่อนข้างหลากหลาย วันนี้จึงขอรวบรวมคำถามที่เจอบ่อยๆ เวลาโดนถามอีกพี่เมจะได้ส่งบทความนี้ให้น้องๆ อ่านนะคะ ^_^

พี่คะ ตอนนี้เปิดรับตำแหน่งอะไรบ้างคะ?

คำถามนี้เป็นคำถามคลาสสิคอันดับหนึ่งเลยค่ะ อยากให้น้องๆ เข้าใจว่า ปกติเราเปิดรับอยู่เฉลี่ยๆ ก็ประมาณ 20 ตำแหน่ง อยากให้น้องๆ เข้าไปดูเองก่อนที่หน้า careers.wongnai.com เลื่อนลงมาด้านล่างก็จะเจอตำแหน่งที่เปิดอยู่ทั้งหมดค่ะ เมื่อพบตำแหน่งที่สนใจก็กดเข้าไปอ่านรายละเอียด จากนั้นก็กด “Apply for this job” ได้เลย

ถ้าดูตำแหน่งแล้วยังไม่แน่ใจว่าน้องเหมาะกับตำแหน่งไหน ก็สามารถมาถามเพิ่มเติมได้ แต่น้องต้องให้ข้อมูลพี่เมด้วย เช่น “หนูเรียนด้านนิเทศศาสตร์ค่ะ ชอบด้านเขียนมาก มีตำแหน่งไหนที่เหมาะกับหนูที่เปิดรับอยู่บ้างมั้ยคะ” พี่เมจึงจะสามารถแนะนำน้องได้ว่ามีตำแหน่งไหนที่น่าจะเหมาะกับน้องบ้างค่ะ

เห็นประกาศตำแหน่ง XXX จากหน้า Careers ค่ะ ไม่ทราบว่ายังรับอยู่มั้ยคะ?

เรื่องนี้ขอให้น้องๆ มั่นใจได้เลยค่ะ ถ้าเปิดหน้า Careers เรามา แล้วยังเห็นตำแหน่งไหนอยู่ แปลว่าเรายังไม่ปิดรับค่ะ รีบสมัครมาเลย เราจะเอาตำแหน่งออกก็ต่อเมื่อเราได้คนในตำแหน่งนี้ครบเรียบร้อยแล้ว

หนูชอบกินมากเลยค่ะ มีงานอะไรให้หนูทำบ้างคะพี่?

พี่ก็ดีใจนะคะที่อย่างน้อยน้องก็มี Passion ในเรื่องที่ไปในทิศทางเดียวกับ Wongnai แต่ถ้าถามว่าชอบกิน แล้วมีงานอะไรให้ทำ? อืมม…ไปไม่ถูกเลยจริงๆค่ะ ไม่เอานะคะ เราเลิกถามคำถามแบบนี้กันดีกว่า ต่อไปนี้เปลี่ยนมาถามว่า

“หนูชอบครีเอทเมนูอาหาร มีงานอะไรที่หนูทำบ้างคะ”

“ผมจบด้าน……………… มีงานอะไรให้ผมทำบ้างครับ

“ผมมีประสบการณ์ด้าน………. มีงานอะไรเหมาะกับผมบ้างครับ”

ถามแบบนี้ค่อยน่าชื่นใจหน่อย มีเรื่องให้คุยกันได้ยาวๆแน่นอนค่ะ

หนูเข้าไปกรอกใบสมัครที่ออฟฟิศได้มั้ยคะ?

สมัยพี่เมเรียนจบใหม่ๆ ก็ถูกสอนมาว่า การ walk-in เข้าไปยื่นใบสมัครจะทำให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหรือมีโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์มากกว่าคนอื่นด้วยเหตุผลต่างๆ นานาก็ว่ากันไป

แต่ที่ Wongnai ข้อมูลทุกอย่างจะอยู่ใน Google Drive การคัดเลือกและส่งให้หัวหน้าแต่ละทีมก็ส่งด้วยข้อมูลที่อยู่บนนี้ ดังนั้น การที่น้อง walk-in มายื่นเรซูเม่เป็นกระดาษเอาไว้ จะทำให้เราทำงานยากและมีโอกาสตกหล่นได้

เราจึงไม่รับผู้สมัคร walk-in ค่ะ เพราะกรอกใบสมัครจากที่บ้านง่ายกว่า สะดวกกว่า รวดเร็วกว่าสำหรับทุกฝ่าย

จะว่าไปแล้วการกรอกฟอร์มออนไลน์ก็เป็นกระบวนการคัดสรรอย่างหนึ่งว่าน้องใช้คอมพิวเตอร์ได้คล่องแค่ไหน เพราะที่วงในเราคาดหวังให้ทุกคนใช้เทคโนโลยีคล่องพอสมควรค่ะ

สมัครงานผ่าน Line@ นี้ได้เลยรึเปล่าคะ?

@wongnaicareers มีไว้เพื่อเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานว่าง หรือสอบถามสถานะและข้อมูลทั่วไป ไม่รับสมัครงานผ่านช่องทางนี้นะคะ

“ผมกรอกใบสมัครไปแล้ว เมื่อไหร่จะทราบผลครับ”

แต่ละเดือนเราได้รับใบสมัครเกือบ 1000 ฉบับ ปกติเราจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ในการดึง resume ขึ้นมาพิจารณาค่ะ บางครั้งก็อาจจะมีที่นานกว่านั้นบ้าง แต่ถ้าหากเกิน 1 เดือนไปแล้วยังไม่มีการติดต่อกลับไป แสดงว่าน้องไม่ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นค่ะ

“หนูส่ง resume ไปแล้ว ถ้าผ่านหรือไม่ผ่านพี่จะแจ้งใช่มั้ยคะ”

ถ้าในขั้นตอนการคัด Resume พี่เมไม่สามารถแจ้งน้องได้ทุกคนจริงๆ แต่น้องๆสามารถสอบถามสถานะ Resume ของน้องได้ว่าอยู่ในขั้นตอนไหน ผ่านทาง Line@ ได้เลยค่ะ จะช้าจะเร็ว ยังไงก็ตอบแน่นอน

“วงในทำงานวันไหนบ้างคะ และเวลาทำงานกี่โมง”

วงในทำงาน 5 วันค่ะ เวลาออฟฟิศ 9.30–18.30 น. ที่นี่เราไม่มีการตอกบัตรเข้างานค่ะ น้องๆ ส่วนมากก็มากันประมาณ 10.00 น. เรา Flexible เรื่องเวลาทำงานค่ะ บางคนที่สะดวกเข้าเช้าเลิกเร็ว เราก็ไม่ว่ากัน ขอให้ balance ให้ได้ทั้งในเรื่องเวลา การทำงาน และการใช้ชีวิต

ขอเสริมด้วยว่าออฟฟิศเราอยู่ตรงทองหล่อ เยื้องๆ กับ Tops ถ้าลงรถไฟฟ้ามาก็เดินประมาณ 15 นาทีค่ะ

“สนใจสมัครงานค่ะ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างคะ”

ที่นี่เราขอเฉพาะเอกสารที่จำเป็นในการพิจารณาจริงๆ ค่ะ ซึ่งได้แก่

  • Resume : พร้อมรูปถ่ายที่ไม่จำเป็นต้องเป็นรูปติดบัตรนะคะ
  • Transcript : ในกรณีที่เพิ่งจบหรือประสบการณ์ทำงานยังไม่เยอะ Transcript จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้สมัครเลยนะคะ
  • Portfolio : จำเป็นมากถ้าหากสมัครงานในทีม Content ไม่ว่าจะเป็นการเขียน ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อวิดีโอ หรือกราฟฟิค เราจะพิจารณาจากตัวอย่างผลงานเป็นหลัก ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็สามารถแนบตัวอย่างผลงานมาได้เช่นกัน(ถ้ามี) อะไรก็ตามที่ยิ่งทำให้ Resume เราน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทำเลยค่ะ

สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ไม่ต้องส่งมานะคะ :)

“วงในรับนักศึกษาฝึกงานช่วงไหนบ้างคะ”

วงในยินดีต้อนรับน้องฝึกงานตลอดทั้งปีค่ะ แต่เราก็รับจำนวนจำกัด และแต่ละทีมก็รับไม่เท่ากัน ขั้นตอนในการคัดเลือกเราทำเหมือนการคัดเลือกพนักงานประจำเลยค่ะ โดยเอกสารที่น้องต้องใช้ก็ได้แก่ Resume, Transcript (และ Portfolio กรณีฝึกงานด้าน content) เมื่อผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นจากเอกสารที่น้องส่งมา เราก็จะโทร.ไปนัดให้เข้ามาสัมภาษณ์ และแจ้งผลให้ทราบอีกครั้งว่าผ่านการคัดเลือกเข้าฝึกงานหรือไม่

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ระยะเวลาในการฝึกงาน เราขออย่างน้อย 2 เดือนค่ะ เพราะเราต้องการให้น้องได้ทำงานจริงและได้สร้างผลงานที่จับต้องได้ เมื่อฝึกงานเสร็จ น้องๆทุกคนจะมีโอกาสได้นำเสนอผลงานของตัวเองให้ co-founders ฟังอีกด้วย

Intern Presentation (Class of 2017)

อ้อ แอดมินที่คอยตอบน้องๆ ทาง Line@ ก็คือทีม People นั่นเอง เพราะฉะนั้นน้องๆ อาจจะกำลังโดน pre-screen โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเตรียมตัวและเตรียมคำถามมาดีๆ นะคะ

และอีกเรื่องที่สำคัญมากขอฝากไว้เป็นเรื่องสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นการเขียน Resume หรือการกรอกฟอร์มสมัครงาน การใช้ภาษาอย่างถูกต้อง การสะกดคำ หรือแม้กระทั่งการใช้ คะ/ค่ะ ให้ถูกเป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมากค่ะ เพราะมันสะท้อนถึงความใส่ใจและความรอบคอบที่น้องๆ มี ดังนั้นพี่เมขอแนะนำให้น้องตรวจทานเอกสารและข้อความให้ดีก่อนจะส่งมาให้พี่เมนะคะ

หวังว่าบทความนี้จะสร้างความกระจ่างกับน้องได้พอสมควร แต่หากอ่านจบแล้วยังมีคำถามอยู่ ก็ทักมาได้เลยนะคะ พี่เมพร้อมตอบทุกข้อสงสัยค่ะ