คนที่ประเดี๋ยวก็ป่วยเป็นนั่นเป็นนี่บ่อยครั้ง เป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ ลองสังเกตตัวคุณดูว่ามาจากการที่คุณละเลยการดูแลสุขภาพหรือเปล่า เพราะถ้าทานอาหารไม่ดี ไม่ออกกำลังกาย เครียดจัด พักผ่อนน้อย โรคภัยก็ถามหาได้ง่าย ๆ หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ก็คือ ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราไม่ดูแลสุขภาพเพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายก็เปรียบเสมือนปราการด่านแรกสำหรับต้านโรคภัย Show ระบบภูมิคุ้มกันเหมือนทหารต้านโรคความจริงแล้วเราอยู่กับเชื้อโรครอบตัวมากมายตลอดเวลา ในแต่ละวันอาจสัมผัสกับเชื้อโรคเยอะแยะ แต่ทำไมถึงไม่เจ็บป่วย หรือนาน ๆ จะเจ็บป่วยสักที นั่นเป็นเพราะร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนทหารคอยจัดการปราบเชื้อโรค ซึ่งถ้าทหารแข็งแรง เชื้อโรคก็ยากที่จะเข้ามา แต่หากช่วงใดร่างกายอ่อนแอก็จะส่งผลไปที่ระบบภูมิคุ้มกันด้วย เป็นเหตุให้บางครั้งเราก็ป่วยเป็นนั่นเป็นนี่ได้ ทำไมภูมิคุ้มกันถึงอ่อนแอ1) กรรมพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่ หากพ่อแม่มีร่างกายแข็งแรง ลูกก็จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีตาม แต่แม้ธรรมชาติร่างกายจะป่วยง่าย เราก็สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นได้ด้วยการดูแลสุขภาพ เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์หรือการออกกำลังกาย เป็นต้น 2) พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ จากคนที่มีร่างกายแข็งแรงกลายเป็นอ่อนแอได้หากไม่ใส่ใจสุขภาพ เช่น ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ไม่ทานผักผลไม้ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือร่างกายสะสมความเครียด โดยเฉพาะความเครียดเป็นตัวการร้ายคอยกัดกินให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายรวน อีกทั้งยังเป็นบ่อเกิดโรคร้ายที่นึกไม่ถึงได้ด้วย ความร้ายกาจของภูมิคุ้มกันอ่อนแอภูมิคุ้มกันอ่อนแอไม่ได้ทำให้คุณป่วยเป็นแค่หวัดหรือภูมิแพ้ได้เท่านั้น แต่เปรียบเสมือนคุณเปิดประตูบ้านต้อนรับเชื้อโรคตัวร้ายอื่น ๆ ให้มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาได้ อาทิ โรคมะเร็งต่าง ๆ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ที่อันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นใครป่วยบ่อย ๆ รีบหันมาดูแลสุขภาพดีกว่า ก่อนป่วยรีบดูแลตัวเองเราสามารถป้องกันร่างกายให้ห่างไกลโรคได้ด้วยการดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะป่วยบ่อยเพราะร่างกายอ่อนแอจากกรรมพันธุ์หรือเพราะพฤติกรรมก็สามารถมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้เช่นกัน โดยปฏิบัติดังนี้ 4 ข้อควรปฏิบัติก่อนป่วย1) ทานอาหารต้านโรค นอกเหนือจากการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควรเสริมด้วยอาหารที่ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งโดยมากจะอยู่ในผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี อาทิ ผักใบเขียวจัดหรือสีเหลืองส้ม เห็ดต่าง ๆ และแร่ธาตุซิลีเนียม หรือสังกะสีที่พบในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม หรือถั่ว เป็นต้น 2) ออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้นให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น แล้วทำให้เม็ดเลือดขาวในเนื้อเยื่อต่าง ๆ แข็งแรงเพื่อจัดการกับเชื้อโรคได้ง่าย อีกทั้งร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมาหลังการออกกำลังกายเพื่อช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และความวิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคภัยได้ โดยเราควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30 นาที 3 – 4 วันต่อสัปดาห์ 3) พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับให้สนิทและให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง เพราะการเข้านอนเร็วจะช่วยให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมน DHEA (สารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศหญิงและชายที่ทำหน้าที่ช่วยต้านความเครียดและกระตุ้นภูมิต้านทาน) ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4) ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง เราสามารถฝึกผ่อนคลายจิตใจตนเองได้ด้วยการกำหนดลมหายใจหรือนั่งสมาธิ เป็นต้น เพราะมีงานวิจัยออกมาว่า การนั่งสมาธิสามารถช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน DHEA ซึ่งนอกเหนือจากมีหน้าที่สำคัญช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วยังมีบทบาทในการต้านโรคมะเร็งอีกด้วย ทั้งหมดนี้ควรปฏิบัติควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น
|