พวกเขารู้จักคุณค่าของตัวเอง และจะปฏิบัติตามกฎของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญ พวกเขาทำให้ผู้คนของพวกเขาเข้าใจคุณค่าของสิ่งที่พวกเขาตกลงที่จะยึดถือร่วมกัน ซึ่งเป็นการวางรากฐานกฎระเบียบให้ผู้คนปฏิบัติตาม ผู้นำที่แท้จริงจะเข้าใจและสื่อสารคุณค่าของพวกเขาอย่างเปิดเผยกับผู้คนที่พวกเขานำ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความมั่นใจและเชื่อใจ Show
ผู้นำที่แท้จริงจะเป็นผู้ที่มีคุณธรรม
ผู้นำที่แท้จริงจะทำงานเคียงข้างคนที่พวกเขานำเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถทำความเข้าใจและดูแลคนที่พวกเขากำลังนำอยู่ การทำงานร่วมกับคนในทีมจะทำให้ผู้นำสามารถยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมของเขาได้
ผู้นำที่แท้จริงจะรับฟังโดยไม่วางตัวเหนือกว่าพวกเขาต้องการรับฟังสิ่งที่ผู้อื่นอยากจะบอกโดยไม่ด่วนสรุป พวกเขาจะอดทนและต้องการทำความเข้าใจความคิดและความรู้สึกของผู้ที่อยู่ภายใต้การนำของพวกเขาอย่างจริงใจ
ผู้นำที่แท้จริงจะตรงไปตรงมากับคนของพวกเขาพวกเขาสื่อสารอย่างเปิดเผยและสม่ำเสมอ ผู้นำที่แท้จริงจะใช้เวลาในการสื่อสารกับทีมของพวกเขาเป็นประจำเพื่อแสดงให้คนในทีมรู้พวกเขามีคุณค่าและมีความสำคัญ พวกเขารู้ว่าในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้นำ พวกเขามีหน้าที่สื่อสารกับผู้ที่อยู่ภายใต้การนำของเขาโดยตรงเพื่อไม่ให้มีช่องว่างให้บุคคลอื่นที่มีเจตนาไม่ดีแทรกเข้ามา ผู้นำที่แท้จริงจะรับผิดชอบหน้าที่การสื่อสารด้วยตัวเอง
ผู้นำที่แท้จริงจะตำหนิคนของเขาด้วยความรักและจริงใจโดยหวังที่จะช่วยให้เขาพัฒนาขึ้น พวกเขาจะไม่ตำหนิด้วยความโกรธ และพวกเขาจะให้ข้อเสนอแนะอย่างตรงไปตรงมาด้วยความเมตตาและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเห็นพฤติกรรมที่ไม่ดีและต้องการการแก้ไข พวกเขาจะไม่มองว่าคนที่ทำพฤติกรรมเหล่านั้นเป็นคนเลว แต่พวกเขาจะรับฟังและพยายามทำความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนๆนั้นทำผิดพลาดหรือแสดงพฤติกรรมนั้น เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ต้องแก้ไข
ผู้นำที่แท้จริงรู้ว่าหากคนในทีมรู้สึกมีคุณค่าและมีความสำคัญต่อผู้นำของพวกเขาพวกเขาจะอยากรับฟังข้อเสนอแนะและพยายามปรับปรุงในสิ่งที่พวกเขาบกพร่อง พวกผู้นำรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรจากการสื่อสารสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยใช้คำพูดถากถางเหน็บแนม พูดอ้อมค้อม หรือพูดคำหวาน พวกเขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำลายความเชื่อใจของผู้คนและทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงและถูกดูแคลนกับคนเหล่านั้น ซึ่งจะนำไปสู่ความรู้สึกไม่ดีที่หยั่งรากลึกต่อผู้นำของเขาในที่สุด และไม่มีใครได้รับแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงพฤติกรรมของตัวเอง
ผู้นำที่แท้จริงจะไม่ควบคุมคนของพวกเขาแต่จะกระตุ้นให้คนของเขาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พวกเขามอบคุณค่าให้ผู้คนและออกกฎเกณฑ์เพื่อกำหนดขอบเขตในการทำงาน หลังจากนั้นก็จะสนับสนุนให้พวกเขาออกไปเผชิญหน้าและตัดสินใจด้วยตัวเอง ผู้นำที่แท้จริงรู้ว่าพนักงานจะไม่สามารถเติบโตและก้าวหน้าได้จนกว่าพวกเขาจะได้รับอิสระในการตัดสินใจ ในการลองทำสิ่งต่างๆ และแน่นอน รวมถึงการทำเรื่องผิดพลาดในบางครั้ง เพื่อที่พวกเขาจะได้เรียนรู้และพัฒนาจากมัน
ผู้นำที่แท้จริงจะรู้จักการมอบหมายงานพวกเขาจะมอบหมายงานที่สำคัญและเฉพาะเจาะจงให้กับคนของเขาเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เรียนรู้และเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง บางครั้งมันจะง่ายกว่ามากหากตัวผู้นำลงมือทำงานนั้นเอง พวกเขาสามารถทำงานให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็วกว่า มีประสิทธิผลมากกว่า และได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจมากกว่าด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้นำที่แท้จริงรู้ว่าการทำแบบนั้นไม่สามารถช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายใต้การนำของเขาเติบโตได้ ดังนั้น พวกเขาจึงมองว่าบทบาทสำคัญที่สุดของพวกเขาคือการเป็นผู้มอบหมายงานและเป็นผู้สอนให้แก่ผู้ที่อยู่ภายใต้การนำของพวกเขา
ผู้นำที่แท้จริงไม่กลัวที่จะคาดหวังกับผู้ที่อยู่ภายใต้การนำของเขาผู้นำที่แท้จริงรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดหากเขาทำตัวอ่อนโยนหรือเข้มงวดเกินไป พวกเขากล้าที่จะชี้นำการทำงานของผู้คนเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งแสดงออกว่าพวกเขาเชื่อในความสามารถของคนเหล่านั้น พวกเขามอบหมายหน้าที่ สอนงาน และแก้ไขงานให้ถูกต้องในระหว่างการทำงาน พวกเขาช่วยให้คนก้าวหน้าโดยคาดหวังในสิ่งที่เหมาะสมและเป็นไปได้จากคนเหล่านั้น พวกเขาจะไม่มอบหมายงานที่เกินความสามารถให้ใคร แต่จะมอบหมายงานที่จะทำให้คนเหล่านั้นเพิ่มศักยภาพของตัวเอง พวกเขารับรู้ถึงความเป็นไปได้ที่ทีมของเขาจะทำงานสำเร็จ และกระตุ้นให้แต่ละคนรับรู้ถึงศักยภาพของตัวเอง
ผู้นำที่แท้จริงจะใช้เวลาอย่างชาญฉลาดนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนหรือเรื่องสนุกสนาน แต่หมายถึงว่าพวกเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ พวกเขาเสียสละและทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อยเพื่อช่วยให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จ
ผู้นำที่แท้จริงจะมองว่าตนเองและคนของเขาเป็นผู้มีความรับผิดชอบพวกเขาจะวางมาตรฐานของตัวเองไว้สูงเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถวางมาตรฐานคนของเขาได้สูงเช่นกัน
ผู้นำที่แท้จริงจะมองภาพรวมอยู่เสมอพวกเขาจะไม่ด่วนตัดสินใจทำสิ่งที่ให้เพียงผลประโยชน์ระยะสั้นแก่องค์กรในวันนี้แล้วสร้างปัญหาใหญ่ในอนาคต พวกเขาพยายามที่จะพิจารณาข้อเท็จจริง มองภาพรวมระยะยาวตามแนวทางของพวกเขา และคาดหวังว่าสิ่งที่พวกเขาพยายามสร้างในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรและผู้คนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต Sherry Dew กล่าวว่า |