Galaxy Buds 2 ใช้กับรุ่นไหนได้บ้าง

Samsung Galaxy Watch5 จะชาร์จเร็วกว่ารุ่นก่อน ๆ เพราะคราวนี้รองรับระบบชาร์จไว 10W

แฟน ๆ Samsung ที่ใช้สมาร์ทวอทช์อย่าง Galaxy Watch รุ่นก่อน ๆ น่าจะเคยเกิดอาการหงุดหงิดหัวใจเวลาที่ลืมชาร์จแล้วแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง พอจะชาร์จก็ดันต้องใช้เวลานานซะเหลือเกิน เพราะมันรองรับระบบชาร์จแค่ 5W เท่านั้นเอง แต่สำหรับสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่อย่าง Galaxy Watch5 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ มีข้อมูลออกมาแล้วว่ามันจะชาร์จเร็วกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเลย

หลุดภาพพร้อมสเปค Samsung Galaxy Buds2 Pro คาดวางจำหน่ายปลายเดือนนี้

ในงาน Samsung Galaxy Unpacked 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นวันที่ 10 สิงหาคมนี้ นอกจากจะมีการเปิดตัวมือถือจอพับรุ่นใหม่แล้ว ยังจะมีหูฟังไร้สายพรีเมี่ยมอย่าง Galaxy Buds2 Pro ด้วย โดยล่าสุดมีข้อมูลพร้อมภาพหลุดออกมาแล้วว่ามันจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน และยังจะมากับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่อัปเกรดขึ้นจากเดิม ทั้งระบบเสียงแบบ 360 องศา การตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น และแน่นอนว่าต้องมากับคุณภาพเสียงที่ดีกว่าเดิมด้วย

หลุดข้อมูลเพิ่มเติม Samsung Galaxy Z Fold4 ใช้กล้องหลังสเปคเดียวกับ Galaxy S22 / S22+

ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนเหลืออีกไม่กี่อึดใจแล้วนะครับ ที่เราจะได้เห็นการเปิดตัว Galaxy Z Fold4 มือถือจอพับรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่อัปเกรดขึ้นมาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องกล้องนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ก็มีข้อมูลกล้องของมือถือรุ่นนี้โผล่ออกมาแล้ว โดยมันจะมีสเปคในระดับเทียบเคียงกับ Galaxy S22 หรือ Galaxy S22+ ได้เลยทีเดียว

Samsung Galaxy Buds2 หูฟังไร้สาย true wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจากซัมซุงยังคงมาพร้อมกับคุณสมบัติและการออกแบบหลัก ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากหูฟังรุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ที่น่าสนใจคือ ซัมซุงยังสามารถทำราคาให้ย่อมเยาลงได้ด้วย

คุณสมบัติและการออกแบบ
Samsung Galaxy Buds2 เป็นหูฟังไร้สาย true wireless ที่ตั้งใจออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 5 กรัม มาพร้อมกับดีไซน์โค้งมนกลมกลึงในแนวทางเดียวกับหูฟังรุ่นพี่อย่าง Galaxy Buds Live และ Galaxy Buds Pro เพื่อให้สวมใส่ใช้งานได้สบายหู

เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.2 ทำงานและเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ทวอทช์ในอีโคซิสเต็มของซัมซุงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง-ฟังเพลง พูดคุยสนทนาทั่วไป หรือใช้ประชุมออนไลน์

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพเสียงโดยตรงนั้น Galaxy Buds2 มาพร้อมตัวขับเสียงแบบไดนามิกแบบ 2 ทาง และระบบไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว แบ่งเป็นไมโครโฟนรับเสียงภายนอก 2 ตัว และรับเสียงภายในอีก 1 ตัว พร้อมระบบคัดกรองเสียงพูด (Voice Pickup Unit) ในตัวคอยช่วยให้การพูดคุยสนทนามีความชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยีช่วยขจัดเสียงรบกวนรอบข้าง

ชุดไมโครโฟนนี้ยังคอยทำหน้าที่ในระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (Active Noise Cancelling, ANC) ซึ่งข้อมูลจากซัมซุงระบุว่าสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกออกได้มากถึง 98% (รับรองโดย UL Verification) นอกจากนั้นยังมีโหมดฟังเสียงแวดล้อมหรือ Ambient Sound ที่สามารถปรับเลือกปริมาณของเสียงภายนอกได้ 3 ระดับ

ตัวหูฟังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 61mAh ใช้งานได้นาน 7.5 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จที่มาด้วยกัน (แบตเตอรี่ในตัวความจุ 472mAh) เวลารวมในการใช้งานจะเป็น 29 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วทางพอร์ต USB-C ซึ่งสามารถใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 60 นาที นอกจากนั้นเคสชาร์จของ Galaxy Buds2 ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วย (Qi wireless charging)

หูฟังไร้สาย Galaxy Buds2 เปิดตัวมาในราคา 3,990 บาท มีสีให้เลือก 4 สี คือ สีเขียว Olive, สีดำ Graphite, สีม่วง Lavender และสีขาว

การเชื่อมต่อและการใช้งาน
Galaxy Buds2 มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานเป็นจุกซิลิโคน 3 คู่ ขนาดเล็ก, กลาง, ใหญ่ และสายชาร์จ USB-A to USB-C หูฟังรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว, สีดำ, สีม่วง หรือสีขาว ฝานอกเคสชาร์จนั้นเป็นสีขาวไฮกลอสเหมือนกันหมด เฉพาะฝาด้านในของเคสที่เป็นสีเดียวกับตัวหูฟัง

ขณะที่ตัวอักษรที่ซัมซุงใช้ช่วยการันตีคุณภาพเสียงโดยอาศัยชื่อเสียงของแบรนด์ในเครืออย่าง ‘Sound by AKG’ มาในหูฟังรุ่นนี้มันถูกซ่อนอยู่ด้านในของเคสชาร์จ ไม่ได้อยู่ที่ฝานอกเหมือนกับ Galaxy Buds Pro

ตัวเคสชาร์จของ Galaxy Buds2 มีรูปทรงและขนาดคล้ายกับ Galaxy Buds Live และ Galaxy Buds Pro ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ๆ ของซัมซุง ตัวหูฟังเองมีรูปทรงคล้าย Galaxy Buds Pro แต่กะทัดรัดกว่า จากการลองสวมใส่ใช้งานเราชอบดีไซน์ของ Galaxy Buds2 มาก ๆ มันสามารถซุกอยู่ที่หูได้อย่างกระชับ อย่างน้อยก็รู้สึกมั่นใจกว่าหูฟังที่มีก้านยื่นยาวออกมา

ขณะเดียวกันตัวหูฟังเองยังไม่มีส่วนยื่นโผล่ออกมาในระหว่างการใช้งาน หากเปรียบเทียบในจุดนี้แล้วมันเป็นรองแค่หูฟังรูปทรงเมล็ดถั่วอย่าง Galaxy Buds Live เท่านั้นเอง

สำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐาน Galaxy Buds2 เป็นหูฟังไร้สาย true wireless ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แหล่งสัญญาณเสียงทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ นั่นหมายความว่ามันสามารถใช้งานกับแล็ปท็อป, แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนได้ทุกระบบปฏิบัติการ

ซึ่งการจับคู่กับอุปกรณ์เหล่านั้นก็เพียงแค่หยิบหูฟังออกมาใส่แล้วแตะค้างที่ตัวหูฟังทั้งสองข้างจนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณเข้าโหมดจับคู่ (pairing mode) จากนั้นก็แค่ทำการจับคู่ ตลอดจนการเชื่อมต่อและใช้งานไปตามขั้นตอนปกติ สามารถการรับวางสายและควบคุมการเล่นผ่านด้วยระบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง หรือการแตะค้างเพื่อเปิดใช้งานโหมดตัดเสียงรบกวนหรือโหมดฟังเสียงแวดล้อม

Galaxy Buds2 สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ได้จับคู่ไว้แล้วได้โดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ก่อนหน้า ตัวหูฟังสามารถแยกข้างเพื่อใช้งานแบบเดี่ยว ๆ ได้ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ถือว่าทำให้การใช้งานมีความสะดวกคล่องตัวมาก ๆ

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ Android ที่เป็น Android 7.0 หรือใหม่กว่าโดยเฉพาะสมาร์ทโฟนของซัมซุงเอง ก็จะได้ใช้คุณสมบัติจาก Galaxy Buds2 อย่างเต็มที่ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการจับคู่ที่ไม่ต้องทำอะไรมากมาย แค่เปิดฝาเคสชาร์จแล้วกดปุ่มเชื่อมต่อตามภาพกราฟิกแอนิเมชันที่ปรากฏบนหน้าจอของสมาร์ทโฟน

ในแอปฯ Samsung Wearable ยังเปิดโอกาสให้สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ให้กับตัวหูฟัง เช่น การเลือกระดับเสียงแวดล้อมที่สามารถตั้งได้ 3 ค่า ขณะที่ Galaxy Buds Pro ตั้งได้ 4 ค่า และยังสามารถเลือกระดับการตัดทอนเสียงรบกวนได้ 2 ค่า แต่ Galaxy Buds2 ไม่มีในส่วนหลังนี้

นอกจากนั้นยังสามารถเลือกใช้งานส่วนของปุ่มควบคุมแบบสัมผัสที่ตัวหูฟังได้ แต่ว่าเลือกได้แค่การเปิด-ปิดการใช้งาน ไม่สามารถ customize ได้ตามใจหรือใช้ในการควบคุมระดับเสียงเหมือนหูฟังระดับพรีเมียมอย่าง Samsung Galaxy Buds Pro หรือ Sony WF-1000XM4

สำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ ในแอปฯ Samsung Wearable สำหรับ Galaxy Buds2 ก็อย่างเช่น การค้นหาตัวหูฟัง, การปรับเสียงด้วยอีคิวที่ตั้งเป็นค่าพรีเซ็ตมาแล้ว, การสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ, การทดสอบความพอดีของจุกซิลิโคน ฯลฯ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ถือว่าซัมซุงใส่คุณสมบัติให้ Galaxy Buds2 มาเกินราคามาก ๆ สำหรับหูฟังไร้สายระดับราคานี้

คุณภาพเสียง
ด้านคุณภาพเสียงสำหรับการใช้งานเบื้องต้น Galaxy Buds2 สามารถใช้งานในกรณีทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา ใช้ดูวิดีโอ เล่นเกม ไม่มีปัญหาภาพและเสียงไม่ตรงกัน ไมโครโฟนสามารถใช้สื่อสารสนทนาได้ชัดเจน ระบบตัดเสียงรบกวนทำได้ใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy Buds Pro คือเสียงรบกวนรอบข้างเงียบลงไปมาก ๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นเงียบสงัด หรือว่าตัดเสียงลมได้น่าประทับใจอย่าง Sony WF-1000XM4 หรือ Apple AirPods Pro

Galaxy Buds2 รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธเวอร์ชัน 5.2 พร้อมทั้ง Scalable CODEC ของซัมซุง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียงคุณภาพสูงของซัมซุง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนความเหมาะสมในการเชื่อมต่อระหว่างคุณภาพและเสถียรภาพไปตามสภาพแวดล้อมในการใช้งานจริง

ก่อนที่จะได้ลองฟังเสียง เราค่อนข้างคาดหวังกับ Galaxy Buds2 พอสมควร เนื่องจากมันใช้เทคโนโลยีแยกตัวขับเสียงเป็นแบบ 2 ทางเหมือนกับ Galaxy Buds Pro อีกทั้งยังมีการการันตีคุณภาพเสียงจากแบรนด์ AKG แต่เมื่อได้ลองฟังคลิปเสียงในยูทูบที่ได้คัดเลือกไว้ใช้ทดสอบการฟังเสียงทั่ว ๆ ไปตาม playlist นี้แล้ว เราพบว่า Galaxy Buds2 มีแค่ความคล้ายกับรุ่น Pro เท่านั้น แต่คุณภาพเสียงยังเป็นรองอยู่มาก

ที่ว่าคล้ายคือ Galaxy Buds2 ให้เสียงที่สว่าง คมชัด สดใส คือมาในโทนเสียงเดียวกับรุ่น Galaxy Buds Pro แต่เสียงนั้นมีความก้าวร้าวเจือปนมาด้วยโดยเฉพาะในย่านเสียงกลางและเสียงแหลมที่มีลักษณะบีบบี้และแตกปลายในคราวเดียวกัน ขณะที่เสียงทุ้มนั้นความคมชัดของหัวเสียงพอใช้ได้ ถ่ายทอดรายละเอียดได้ดีปานกลาง ยังไม่ชัดเจนเท่าและไม่ลงลึกเท่า Galaxy Buds Pro

ทำให้สมดุลเสียงโดยรวมที่ค่อนข้าง sharp / bright ของ Galaxy Buds2 นั้นฟังดูสับสน ล้าหูง่ายและไม่ค่อยเป็นมิตรกับโสตประสาทนักเมื่อเจอดนตรีหนัก ๆ ดุ ๆ หรือดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ ซึ่งในส่วนนี้ Galaxy Buds Pro ซึ่งเสียงมาในแนวทาง sharp / open / bright เหมือนกันทำได้ดีกว่ามาก ๆ

สิ่งที่ช่วยลดทอนข้อจำกัดดังกล่าวของ Galaxy Buds2 ได้นั้นมีตั้งแต่การฟังเสียงให้เบาลงกว่าปกติ หรือเลือกฟังดนตรีประเภทอื่น เช่น ดนตรีแนวอะคูสติกหรือเครื่องดนตรีที่มีน้อยชิ้น ตลอดจนการเลือกฟังจากแหล่งสัญญาณเสียงที่มีคุณภาพสูงกว่ายูทูบ

เช่นตอนที่เราฟังเพลงอัลบั้ม Time Out ของ The Dave Brubeck Quartet โดยการสตรีมจาก TIDAL (MQA unfold เป็น 88.2kHz ในแอปฯ USB Audio Player Pro) หรือเพลงร้องอย่างอัลบั้ม Come What May ของ Jane Monheit (TIDAL, lossless) หูฟัง Galaxy Buds2 ก็สามารถถ่ายทอดอรรถรสจากดนตรีได้อย่างเพลิดเพลินเจริญหูได้เหมือนกัน อย่างไรก็ดีเมื่อสลับไปฟังรุ่นเรือธงของค่ายเดียวกัน เราก็ยังชอบเสียงของ Galaxy Buds Pro มากกว่า

Samsung Galaxy Buds2 เหมาะกับใคร ?
ด้วยความเป็นแบรนด์ใหญ่จึงไม่แปลกที่ Samsung จะมีการแชร์ทรัพยากรทางด้านการออกแบบสินค้าในระหว่างแต่ละรุ่น ไม่เว้นแม้แต่หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy Buds2 ซึ่งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากหูฟังรุ่นพี่มาทั้งในส่วนของการออกแบบและระบบซอฟต์แวร์

และทั้ง 2 ส่วนนี้เองที่เป็นจุดเด่นอย่างแท้จริงของ Galaxy Buds2 หูฟังรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดมาก เวลาใส่ฟังไปสักพักบางครั้งเราเผลอลืมไปว่ากำลังใส่หูฟังอยู่ เรื่องคุณภาพเสียงจากรีวิวแม้จะดูเหมือนว่า Galaxy Buds Pro นั้นเหนือกว่าอย่างที่ควรจะเป็น แต่เสียงที่ได้จาก Galaxy Buds2 ก็ยังมีจุดเด่นเฉพาะตัวและไม่ได้แย่ไปกว่าหูฟังไร้สายในระดับเดียวกันเท่าใดนัก

ทว่าสิ่งที่คุณควรทราบเช่นกันก็คือ ณ เวลานี้ (8 พ.ย. 2564) ในเว็บไซต์ของ Samsung เอง หูฟังไร้สาย Galaxy Buds Pro ลดราคาจาก 6,990 บาท ลงมาเหลือ 4,990 บาท ทำให้ส่วนต่างของหูฟังทั้งสองรุ่นอยู่ที่ 1,000 บาท เท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่ได้ทำให้ Galaxy Buds2 น่าสนใจน้อยลง ทว่ามันทำให้ Galaxy Buds Pro น่าสนใจมากขึ้นต่างหาก

Galaxy Buds 2 รับสายได้ไหม

Galaxy Buds 2 ใช้กับ iPhone ได้ไหม

Samsung Galaxy Buds ใช้กับรุ่นไหนได้บ้าง

Galaxy Buds ใช้กับไอแพดได้ไหม