หากคุณมีนัดสัมภาษณ์งานเร็ว ๆ นี้ แน่ใจหรือว่างานนี้จะเป็นของคุณ คุณอาจคิดว่าความสามารถและใบปริญญาบวกกับความมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเองน่าจะพอ อย่าเพิ่งด่วนสรุป! การสัมภาษณ์งานอาศัยทักษะและการเตรียมตัวมากกว่าที่คิด นัดสัมภาษณ์งานคือ ช่วงเวลา 15-60 นาทีของการแนะนำตัวเองต่อคนแปลกหน้าซึ่งเดิมพันด้วยความสุข และความก้าวหน้าของคุณในอนาคต คุณจะได้งานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้ ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่คุณจะนำเสนอตัวเองอย่างไรถึงจะโดดเด่นเหนือผู้แข่ง ขันรายอื่น และทำให้ผู้สัมภาษณ์มั่นในว่าคุณน่าจะเป็นผู้ร่วมงานที่ดี แน่นอนว่าคุณต้องแสดงตัวในด้านที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับตำแหน่งที่คุณต้องการนั้นมากที่สุด ส่วนคำแนะนำที่บอกต่อ ๆ กันมาว่าให้คุณเป็นตัวของตัวเองที่สุดนั้นใช้ไม่ได้กับนัดสัมภาษณ์งาน ดังนั้นคลีโอจึงคัดสรรวิธีที่นำเสนอตัวตนที่ดีที่สุดมาให้ในเวลาไม่กี่นาที่มาฝาก แต่ก่อนอื่นมากกว่าเทคนิคที่จะบอกวันนี้ความมั่นใจต้องมาก่อน อ่านเพิ่มเติมได้ที่:เติมความมั่นใจในการสัมภาษณ์งาน 1. รู้เขา
รอยยิ้มที่ดูจริงใจและผ่อนคลายทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกอยากร่วมงานด้วย และแสดงให้เห็นว่าคุณก็อยากร่วมงานกับเขาเช่นกัน ระวังกิริยา ตลอดเวลาสัมภาษณ์ ทุกกิริยาอาการของคุณจะถูกจับตามอง ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้นแต่ทุกการเคลื่อนไหว ทั้งการแสดงสีหน้าคุณควรแสดงให้เห็นพลังของคนรุ่นใหม่ไฟแรง พร้อมกับมีศักดิ์ศรีในตัวเพียงพอ บอกเล่าอดีตในแง่ดี เลี่ยงการบ่งถึงปัญหาในที่ทำงานเก่า หรือนินทาว่าร้ายเจ้านายเก่า เพราะว่าที่เจ้านายอาจเห็นอกเห็นใจเจ้านายเก่าคุณก็ได้และเลือกที่จะไม่เป็น เจ้านายคุณดีกว่า พูดอย่างฉลาด ทักษะ การสื่อสารที่ดีคือคุณสมบัติสำคัญที่เจ้านายทุกคนต้องการจากลูกน้อง คุณควรตอบคำถามอย่างสมบูรณ์ชัดเจน หลีกเลี่ยงการตอบแค่ "ค่ะ" หรือ "ไม่ค่ะ" และระวังการพูดจาเรื่อยเปื่อยเพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง เป็นผู้ฟังที่ดี อย่ากังวลแต่จะเป็นฝ่ายพูดบรรยายสรรพคุณของตัวเองอย่างเดียว คุณควรตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ชักถาม ถ้าไม่เข้าใจก็ควรถามให้ชัดเจน เพื่อจะได้ตอบคำถามตรงประเด็นและน่าพอใจ นอกจากนี้การแสดงความสนใจผู้พูดอย่างจริงจังยังเป็นการให้ความสำคัญแก่ผู้ พูดอีกด้วย เอาชนะใจผู้สัมภาษณ์ จริง ๆ แล้ว ผู้ที่ผ่านการสัมภาษณ์ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถมากที่สุด สิ่งสำคัญคือผู้สัมภาษณ์จะถูกใจผู้สมัครคนไหนมากที่สุดต่างหาก คุณต้องอาศัยการสังเกตว่าบุคลิกของผู้สัมภาษณ์เป็นอย่างไร และพยายามแสดงว่าคุณก็มีบุคลิกคล้ายคลึงกันซึ่งอาจมีทัศนคิตเหมือนกันและ เป็นผู้ร่วมงานที่ดีในอนาคต ผู้รู้บอกมาว่า 5 นาทีแรกของการสัมภาษณ์คือช่วงเวลาสำคัญที่สุด บางคนถึงกับบอกว่าโอกาสแห่งความสำเร็จตัดสินกันใจช่วงเวลา 60 วินาทีแรกเลยเชียว และภาพประทับใจก็วัดกันได้จากสิ่งเหล่านี้ แต่งกายกลมกลืน เลือกชุดที่ไปกันได้กับวัฒนธรรมขององค์กรหรือเหมาะกับลักษณะงาน เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกเป็นกันเองกับคุณทันทีที่เจอ ตรงต่อเวลา ควรไปถึงสถานที่นัดหมายก่อนเวลาประมาณ 10 นาที เพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง อย่าลืมทักทายพนักงานต้อนรับอย่างสุภาพ ระหว่างรอก็ควรหยิบนิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจขึ้นมาอ่านอย่างสงบเสงี่ยมแต่มั่นใจ ใครจะรู้ อาจมีกล้องอยู่ตรงไหนสักแห่งจับตาดูคุณอยู่ก็ได้ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ก่อนจะเริ่มการสัมภาษณ์ คุณอาจเอ่ยปากชมสถานที่ทำงาน หรือรูปภาพติดฝาผนัง เพื่อให้บรรยากาศที่ตึงเครียดนั้นผ่อนคลายขึ้น4. ถามอย่างมีกึ๋น ผู้สัมภาษณ์อาจย้อนถามคุณว่า "มีข้อสงสัยอะไรหรือเปล่า" อย่าเพิ่งหลุดปากถามจำนวนเงินเดือนเชียวล่ะ ลักษณะของคำถามและเวลาที่คุณถามเป็นการแสดงให้ผู้สัมภาษณ์รู้ว่าคุณมีกึ๋น แค่ไหน ระหว่างการสัมภาษณ์ คำถามที่นอกเหนือจากเรื่องงานถือเป็นความผิดพลาดรุนแรงทีเดียว คุณควรถามเกี่ยวกับหน้าที่รับผิดชอบและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นของตำแหน่งนี้ หรือถามถึงผลการทำงานที่บริษัทคาดหวัง หรือรายละเอียดของงานบางอย่างเช่น คุณมีลูกน้องกี่คนและต้องรายงานผลการทำงานกับใคร ระวังอย่าถามถึงข้อมูลบางอย่างกี่ยวกับบริษัทหรืองานที่คุณควรต้องรู้มาก่อนแล้ว ในช่วงเวลานี้การถามเกี่ยวกับเงินเดือน สวัสดิการ หรือจำนวนวันหยุดพักร้อนจะทำให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจว่าคุณไม่สนใจจะทำงานจริงจัง คุณควรเก็บคำถามเหล่านี้ไว้ภายหลังที่คุณได้รับเลือกให้ร่วมงานแล้ว |