เทคโนโลยีไร้สาย BLUETOOTH เป็นเทคโนโลยีไร้สายระยะสั้นที่สนับสนุนการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ดิจิตอล อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และกล้องถ่ายภาพดิจิตอล เทคโนโลยีไร้สาย BLUETOOTH สามารถใช้งานได้ภายในช่วงระยะ 10 เมตร การเชื่อมต่ออุปกรณ์สองชิ้นเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบการใช้งานตามปกติ แต่อุปกรณ์บางชนิดสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นมากกว่าสองชิ้นได้ในเวลาเดียวกัน ท่านไม่จำเป็นต้องใช้สายเคเบิ้ลเพื่อทำการเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นต้องวางอุปกรณ์ใกล้กันและหันเข้าหากันเหมือนการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรด ตัวอย่างเช่น ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้จากกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อ/กางเกง มาตรฐาน BLUETOOTH เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายพันบริษัททั่วโลก และมีบริษัทจำนวนมากนำไปใช้งานจนแพร่หลายทั่วโลก ระยะสูงสุดที่สามารถใช้สื่อสารข้อมูลระยะสูงสุดที่สามารถใช้สื่อสารข้อมูลอาจสั้นลงได้ในกรณีต่อไปนี้
การรบกวนจากอุปกรณ์อื่นเนื่องจากอุปกรณ์ BLUETOOTH และระบบ LAN ไร้สาย (IEEE802.11b/g) ใช้งานความถี่เดียวกัน อาจทำให้เกิดการรบกวนกันของคลื่นไมโครเวฟได้ ส่งผลให้ความเร็วการสื่อสารข้อมูลลดลง, เกิดสัญญาณรบกวน หรือไม่สามารถทำการเชื่อมต่อได้ หากใช้งานอุปกรณ์ของท่านใกล้กับอุปกรณ์ LAN ไร้สาย หากเกิดกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการดังนี้
การรบกวนที่มีต่ออุปกรณ์อื่นคลื่นไมโครเวฟที่แผ่ออกมาจากอุปกรณ์ BLUETOOTH อาจส่งผลรบกวนการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ได้ ให้ปิดอุปกรณ์ของท่านและอุปกรณ์ BLUETOOTH อื่นในสถานที่ต่อไปนี้ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
หมายเหตุ
Bluetooth หรือ บลูทูธคือเทคโนโลยีสำหรับการติดต่อสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ในระยะใกล้จากอุปกรณ์ดิจิทัลตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่ง เช่นโทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยใช้คลื่นวิทยุความถี่ย่าน 2.4 GHz ชื่อ Bluetooth ถูกตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1997 โดย Jim Kardach โดยเขาคนนี้เป็นผู้ที่พัฒนาระบบที่สามารถทำให้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์สื่อสารกันได้จาก Intel ซึ่งในขณะที่เจ้าตัวกำลังพัฒนาระบบนี้อยู่ เจ้าตัวก็ได้อ่านนิยายเรื่อง The Long Ship ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับชาวไวกิ้ง และกษัตริย์เดนิชในศตวรรษที่ 10 ที่ชื่อว่า Harald Bluetooth โดยเหตุผลที่ Jim Kardach เลือกชื่อของกษัตริย์ Harals Bluetooth เพราะตัวกษัตริย์สามารถรวบรวมเผ่าต่าง ๆ ของเดนมาร์กให้กลายเป็นอาณาจักรเดียวกัน เหมือนกับเทคโนโลยี Bluetooth ที่รวมโปรโตคอลการสื่อสารต่างๆไว้ด้วยกัน Bluetooth SIG (Bluetooth Special Interest Group) คือองค์กรที่กำหนดมาตรฐาน กำกับและควบคุมการการพัฒนาเทคโนโลยี Bluetooth และเป็นองค์กรที่ออกใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีและเครื่องหมายการค้าในการผลิต โดย SIG เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร แลไม่มีหุ้นส่วน ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1998 ปัจจุบันสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐ Washington สหรัฐอเมริกา Bluetooth ได้มีการแบ่งความแรงของการส่งสัญญาณหรือ Class ด้วยกัน 4 Class คือ
Bluetooth มีกี่เวอร์ชัน? แตกต่างกันยังไง? Bluetooth 1.0 / Bluetooth 1.0B เป็นเวอร์ชันเริ่มต้นที่มีปัญหาตามมามากมายหลังจากที่เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน และยังมีตัวส่งสัญญาณ Bluetooth Hardware Device Address (BD_ADDR) สำหรับใช้ในกระบวนการเชื่อมต่อ และถือว่าเป็นปัจจัยหลักของความผิดพลาดครั้งนี้ Bluetooth 1.1 เป็นเวอร์ชันแรกที่ได้รับการจัดเรตให้อยู่ใน IEEE Standard 802.15.1-2002 ซึ่งเป็นมาตรฐานของ IEEE Standardสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยในเวอร์ชันนี้ได้รับการแก้ใขข้อผิดพลาดต่างๆมาจาก Bluetooth 1.0B เรียบร้อย พร้อมทั้งเพิ่มตัวบอกระดับความแรงขแงสัญญาณที่ได้รับ หรือ Received Signal Strength Indicator (RSSI) เข้ามาอีกด้วย Bluetooth 1.2 ฟีเจอร์ที่มีการปรับปรุงและเพิ่มให้กับเวอร์ชันนี้คือ
Bluetooth 2.0 + EDR เวอร์ชันนี้ได้มีการเปิดตัวระบบ Enhanced Data Rate (EDR) เพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีความเร็วอยู่ที่ 3 Mbit/s ถ้าเราสังเกตจากชื่อเวอร์ชันจะมีการเขียน + EDR ต่อท้ายเนื่องจากตัวเทคโนโลยีของ Bluetooth เวอร์ชันนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย และถ้าอุปกรณ์เครื่องไหนที่มี Bluetooth เวอร์ชัน 2.0 แต่ไม่มี EDR ก็จะมีการระบุว่า “Bluetooth v2.0 without EDR” Bluetooth 2.1 + EDR เป็น Bluetooth เวอร์ชันแรกที่ได้รับการพัฒนาจาก Bluetooth SIG เปิดตัวในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ.2007 โดยฟีเจอร์ที่เสริมเข้ามาคือการจับคู่แบบปลอดภัยหรือ Secure Simple Pairing(SSP) ที่จะช่วยให้การจับคู่ของอุปกรณ์มีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มการขยายสัญญาณร้องขอหรือ Extended Inquiry Response ที่จะช่วยให้เกิดการคัดกรองในการเลือกการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น และระบบ Sniff Sunbrating ที่ช่วยให้ลดการใช้พลังงานในโหมดของการประหยัดพลังงาน Bluetooth 3.0 + HS ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ AMP หรือ ALternative MAC / PHY คือการเปิดให้ใช้ MAC และ PHYs เข้ามาช่วยเสริมในเรื่องของการส่งข้อมูลโปรไฟล์บลูทูธ หลักการคือ Bluetooth จะใช้โมเดลการเชื่อมต่อพลังงานต่ำในขณะที่ระบบว่างอยู่ และจะใช้คลื่นวิทยุที่เร็วขึ้นเมื่อต้องส่งออกข้อมูลจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพัฒนาให้การรับส่งข้อมูลเร็วขึ้นอีกด้วย Bluetooth 4.0 บลูทูธในเวอร์ชันนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้แก่ โปรโตคอล Classic Bluetooth, Bluetooth High Speed, และ Bluetooth Low Energy (BLE) โดย Bluetooth high speed หรือบลูทูธความเร็วสูงนั้น มีพื้นฐานมาจาก Wi-Fi, และ Classic Bluetooth ก็ประกอบไปด้วยโปรโตคอล Bluetooth รุ่นบุกเบิกด้วย โดย Bluetooth เวอร์ชันนี้จะเน้นไปที่การใช้พลังงานที่ต่ำจนสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบเหรียญในการรับ-ส่งข้อมูล อีกทั้งมีการออกแบบชิปให้สามารถใช้งานแบบ Dual Mode และ Single Mode กับอุปกรณ์เวอร์ชันเก่าได้อีกด้วย Bluetooth 4.1 Bluetooth SIG ประกาศรองรับเวอร์ชันนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 การอัปเดตในเวอร์ชันนี้ เป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้กับบลูทูธเวอร์ชัน 4.0 ที่เพิ่มฟีเจอร์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น
Bluetooth 4.2 Bluetooth เวอร์ชันนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ.2014 มีการเพิ่มฟีเจอร์สำหรับ Internet of Thing หรือ IoT โดยการพัฒนาหรือฟีเจอร์หลักๆที่เพิ่มมาให้คือ
Bluetooth 5.0 เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2016 โดยจะเพิ่มฟีเจอร์ที่โฟกัสไปในเรื่องของเทคโนโลยี IoT โดยตัว Bluetooth 5 มีการเชื่อมต่อแบบ BLE หรือการเชื่อมต่อแบบใช้พลังงานต่ำ ซึ่งสามารถเพิ่มความแรงและเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลเป็น 2 เท่าแต่ก็ต้องแลกมาด้วยเรื่องระยะของการรับ-ส่งที่สั้นลง Bluetooth 5.1 Bluetooth SIG เปิดตัวเวอร์ชันนี้วันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 2019โดยมีฟีเจอร์หลักๆที่ได้รับการเพิ่มมาคือ
Bluetooth 5.2 เปิดตัวในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2019 โดยมีฟีเจอร์หลักๆคือ
และนี่คือเทคโนโลยี Bluetooth ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มาของ Bluetooth ที่ไครหลายคนอาจจะเพิ่งรู้ครั้งแรก หรือวิวัฒนาการของ Bluetooth ตั้งแต่เวอร์ชันแรกจนถึงปัจจุบัน แต่เราก็ต้องรอดูกันว่าเทคโนโลยี Bluetooth จะพัฒนาไปในด้านไหนในอนาคต |