ไฟจราจรจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี Show โครงร่างของสัญญาณไฟจราจรแนวตั้งมาตรฐาน สัญญาณไฟจราจร[1] เป็นอุปกรณ์สัญญาณไฟที่ปรากฏตามแยกถนนต่างๆ, ทางเดินเท้า และสถานที่อื่นๆ เพื่อควบคุมการจราจรบนท้องถนน โดยการแสดงสัญญาณให้กับคนขับรถและคนเดินเท้าทำตามสัญญาณไฟ สัญญาณไฟจราจรแห่งแรกของโลก ติดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1868 กรุงลอนดอน[2] และถูกติดตั้งในสหรัฐอเมริกาในปลายปี ค.ศ. 1890 และในปัจจุบันมีการใช้สัญญาณไฟจราจรกันทั่วโลก สีที่ปรากฏบนสัญญาณไฟจราจร มีความหมายดังนี้
ในบางประเทศในยุโรป (เช่น สหราชอาณาจักร) ไฟสีแดงและไฟสีเหลืองจะแสดงพร้อมกัน แสดงว่าสัญญาณกำลังจะเปลี่ยนเป็นไฟสีเขียว สัญญาณไฟสีเหลืองกะพริบเป็นสัญญาณเตือน ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ไฟสีเหลืองกะพริบจะใช้เฉพาะที่สำหรับคนเดินข้ามถนน แทนที่สัญญาณไฟสีแดงไฟสีเหลืองพร้อมกัน และบอกว่าผู้ขับขี่อาจผ่านไปได้หากไม่มีคนเดินข้ามทางม้าลาย ระยะเวลาที่สัญญาณไฟจราจรยังคงเป็นไฟสีเขียวหรือไฟสีแดงเรียกว่าเฟส อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
หมวดหมู่:
สัญญาณไฟคนข้าม หมายถึงอะไรโคมสัญญาณไฟคนข้ามถนน เป็นอุปกรณ์สำหรับการแสดงจังหวะการข้ามถนนสำหรับผู้ที่ใช้ทางข้ามม้าลาย ซึ่งทำให้คนข้ามถนนสามารถรับรู้ถึงจังหวะสัญญาณ และเป็นส่วนที่ช่วยในการตัดสินใจขณะข้ามถนน โดยโคมสัญญาณไฟรูปคนยืนสีแดง แสดงจังหวะให้คนข้ามรอจังหวะสัญญาณไฟ และแสดงจังหวะรูปคนยืนสีเขียวเพื่อให้คนข้ามสามารถข้ามได้ ซึ่งสามารถช่วยลด ...
สัญญาณไฟคนข้ามสีเขียว หมายถึงอะไรไฟเขียว ในทางตรงข้าม สีเขียวเป็นสีของธรรมชาติแสดงถึงความปลอดภัย และรถจะเห็นได้ในระยะใกล้กว่า เพราะรถที่จอดรอไฟเขียวจะสามารถออกตัวได้เลย ไม่ต้องใช้ระยะเหมือนการเบรก และแม้จะมองไม่เห็น และไม่ยอมออกรถก็ไม่เป็นอันตรายกับใคร อย่างมากก็ถูกบีบแตรไล่เท่านั้นเอง
สัญญาณไฟคนข้ามถนนสีอะไรสีเขียว – เป็นสัญญาณที่ปล่อยให้รถหรือคนผ่านไปได้ สีเหลือง – เป็นสัญญาณแจ้งเตือนให้รถชะลอความเร็วเพื่อเตรียมหยุดรถ สีแดง – เป็นสีที่แจ้งให้ผู้ใช้ถนนหยุดรถ หรือห้ามผ่าน
ไฟแดงมีไว้ทำอะไรไฟสีแดง – ห้ามดำเนินการใด ๆ สัญญาณไฟสีแดงกะพริบต้องการให้หยุดการจราจร และดำเนินการต่อเมื่อปลอดภัย (เทียบเท่ากับป้ายหยุด)
|