เครื่องมือทางการตลาด มีอะไรบ้าง

MarTech Stack  คือการนำเครื่องมือเทคโนโลยีการตลาดมาประยุกต์ใช้งานร่วมกัน เพื่อเร่งประสิทธิภาพการบริหารจัดการการตลาดให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดย MarTech Stack แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้

Digital Asset Management

เป็นเหมือนคลังเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้สำหรับงานการตลาด เช่น Cloud Storage ที่เป็นพื้นที่ที่ทีมการตลาดสมัยใหม่มักจะใช้เป็นศูนย์กลางในการเก็บไฟล์งานที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร งานกราฟิก หรืองานวิดีโอ ก็สามารถนำมาเก็บไว้ในที่เดียวกันได้ อีกทั้งพื้นที่จัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เพียงแต่จะใช้ในแวดวงการตลาดเท่านั้น ยังสามารถใช้สำหรับงานบริหารจัดการทั่วไปที่เกี่ยวกับเอกสารได้อีกด้วย ถ้าถามว่าเครื่องมือจัดการเอกสารแบบ Cloud Storage ตอบโจทย์ด้านใดบ้างในการทำงานของนักการตลาดยุคใหม่ เชื่อว่าทุกคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายในการเรียกใช้ไฟล์งานต่าง ๆ และยังส่งเสริมการทำงานให้เป็น Teamwork อีกด้วย

 

Data Analysis

การวิเคราะห์ข้อมูล คือฟังก์ชันที่มักจะอยู่ในหลาย ๆ เครื่องมือเทคโนโลยี เช่น ใน Facebook Insight ก็มีเช่นกัน ถ้าให้นึกถึง Data Analysis Tools ยอดนิยม ต้องนึกถึง Google Analysis ที่ใช้วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ หรือ CRM Software ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานได้อย่างครอบคลุม หากวันนี้ธุรกิจของเราจำเป็นต้องทำการตลาดแบบเข้าถึงความสนใจส่วนบุคคล (Personalization) จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเลือกใช้เครื่องมือประเภท Data Analysis เข้ามาช่วยเราสร้างฐานข้อมูลลูกค้า พร้อมกับแบ่ง Segment เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีมูลค่าให้เจอ

 

Target Audience

ในปัจจุบันการทำโฆษณาออนไลน์หรือการซื้อมีเดียโฆษณาต้องใช้เครื่องมือสำหรับการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายเพื่อให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ โดยส่วนมากฟังก์ชันการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายยอดนิยมที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีจะอยู่ในกลุ่มเครื่องมือ Social Media เช่น facebook หรือ Facebook Business Manager เป็นต้น ในโลกของ MarTech นั้น การได้มาซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพมีหลากหลายวิธีการ โดยแต่ละธุรกิจที่หันมาใช้เครื่องมือการตลาดสมัยใหม่ต่างหามีวิธีการที่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองเพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาทำโฆษณาได้ตรงจุด

 

Customer Relationship Management

คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราบริหารจัดการโพสต์ต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียได้ง่ายมากขึ้น เช่น ถ้าใครชอบจัดการโพสต์ต่าง ๆ โซเชียลด้วยสมาร์ทโฟน ก็มีเครื่องมือที่หลายคนนิยมใช้สำหรับจัดการคอนเทนต์บน Facebook และ Instagram เช่น Business Suite ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับจัดการคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย

เพราะลูกค้าของเราในปัจจุบันมีพฤติกรรม และความสนใจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลายมากขึ้น การขาย/การโฆษณาแบบเดิม ไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของพวกเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นแผนการตลาดถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดลูกค้า ผ่านกลยุทธ์ การสื่อสาร และการนำเสนออย่างเหมาะสมให้ตรงกับพฤติกรรม และความชอบของลูกค้าในแต่ละกลุ่มรวมไปถึงการวิเคราะห์งบประมาณด้วย สรุปง่ายๆ คือ การวางแผนการตลาดที่ดี ช่วยให้คุณขายดี ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด โดยเสียงบประมาณน้อยที่สุดนั่นเอง

2. Data Analytics จะเสียเวลาเดาใจลูกค้าไปทำไม ในเมื่อ Data ให้คำตอบเราได้ทันที

ไม่ต้องพึ่งไสยศาสตร์ เพราะ Data Analytics ช่วยให้คุณรู้ใจลูกค้าได้อย่างหมดเปลือกจนน่าขนลุก Data Analytics นั้นเป็น Business Intelligence อย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสตร์ของการใช้ข้อมูลต่างๆ จากที่ต่าง ๆ มาร่วมวิเคราะห์รวมกัน เพื่อปรับปรุงธุรกิจ หรือการตลาด โดยปัจจุบันสามารถทำให้คุณรู้ได้ถึงภาพรวมธุรกิจ ลูกค้าเป็นใคร มีพฤติกรรมการซื้อเป็นอย่างไร คาดคะเนผู้ที่กำลังจะเลิกเป็นลูกค้า เพื่อที่จะได้ดำเนินการแก้ไขได้ทัน จำลองสถานการณ์ทางตลาดจากข้อมูลที่มีโดยที่ไม่ต้องเปลืองงบประมาณในการทดสอบตลาดจริง เรียกว่าได้ Data Analytics ให้คุณรู้ทุกคำตอบก่อนจะเริ่มลงมือทำจริงเสียอีก

3. CI (Corporate Identity) คนจะรู้จักได้อย่างไร ถ้าธุรกิจคุณไม่มีจุดเด่นอะไรเลย

ธุรกิจจะมีตัวตนที่ชัดเจนไม่ได้ ถ้าไม่มี “Identity” หรือ “อัตลักษณ์” เป็นของตัวเองนี่แหล่ะคือ “Corporate Identity” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า CI มีความสำคัญต่อธุรกิจค่อนข้างมาก เพราะมันคือทุกอย่างที่ธุรกิจคุณทำสู่สายตาลูกค้า คือสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่น จดจำง่ายกว่าเจ้าอื่น แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่คุณรู้ไหมว่าเรื่องนี้พวกนี้มีผลต่อการตัดสินใจใช้สินค้า/บริการของคุณได้ง่ายขึ้นด้วย

4. Digital Marketing เทคโนโลยีของโลกไปไกลและเร็วมาก ลูกค้าทุกคนใช้สมาร์ทโฟน

คุณก็รู้ดีว่าคนสมัยนี้ใช้ Google Facebook Line IG Twitter กันแทบทั้งวัน จะง่ายกว่าไหม? ถ้าเอาธุรกิจของคุณไปโผล่บนจอมือถือของเขาเลยตอนนี้ ซึ่ง Digital Marketing เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่โฆษณามั่วๆ เลื่อนลอย แต่เราสามารถกำหนด ค้นหาคนที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของเรา หรือให้สินค้าของเราไปโผล่ที่หน้าจอในขณะที่พวกเขากำลังต้องการได้ทันที! นี่แหล่ะพลังแห่ง Digital Marketing ที่คุณต้องรู้

5. SEO (Search Engine Optimization) หมดยุคห้องสมุด อยากรู้ อยากได้ ถาม Google

อยากขายได้เยอะ ก็เอาธุรกิจคุณไปไว้ที่ที่มีคนเยอะๆ อยากให้คนรู้จักและซื้อของ คุณต้องอยู่ในนั้นให้ได้ SEO ย่อมากจาก Search Engine Optimizationคือ การปรับแต่งเว็บไซต์ และเนื้อหาให้ติดอันดับการค้นหาในตำแหน่งที่ดีที่สุด (หน้าแรกของการค้นหา) ใน Search Engine อย่าง Google ซึ่ง SEO นั้นเป็นการทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นอันดับต้นๆ อย่างหน้าแรกของการค้นหา โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาให้ Google แม้แต่บาทเดียว แต่การจะขึ้นไปได้นั้น ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และองค์ประกอบที่ซับซ้อนหลายอย่าง แต่ได้ผลในระยะยาว สรุปง่ายๆ SEO คือ การทำทุกอย่างเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณโผล่ในหน้าแรกของการค้นหา เช่น มีคนค้นหาคำว่า “ครีมลดฝ้า” แล้ว เว็บไซต์ขายครีมลดฝ้าของคุณขึ้นมาเป็นผลการค้นหาอันแรกใน Google คิดว่าจะมีคนเข้ามาดูสินค้าของคุณมากมายขนาดไหน

เครื่องมือการตลาด หมายถึงอะไร

คือ ชุดของเครื่องมือทางการตลาด ซึ่งองค์กรใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในตลาดเป้าหมายที่กำหนด ไว้เครื่องมือชุดที่เรียกว่าส่วนประสมการตลาดนั้นเราอาจแยกเป็น 4 องค์ประกอบอย่างกว้าง ๆ คือผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) การจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า (Place) และการส่งเสริมการตลาด

IMC มีเครื่องมืออะไรบ้าง

โดยเครื่องมือการสื่อสารอย่าง Promotion จะถูกนำมาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือของ IMC อีกทีโดยจะสามารถแบ่งช่องทางการสื่อสารได้ทั้งหมด 5 รูปแบบได้แก่ Sales Promotion, Advertising, Personal Selling, Public Relation, Direct Marketing เรามาทำความเข้าใจช่องทางเหล่านี้กันดู

7พีมีอะไรบ้าง

กลยุทธ์ทางการตลาด7Ps ประกอบด้วย ดังนี้ 1. ผลิตภัณฑ์(Product) 2. ราคา (Price) 3. สถานที่(Place) 4. การส่งเสริมการขาย (Promotion) 5. คน (People) 6. กระบวนการ (Process) 7) องค์ประกอบทางกายภาพ (Physical.

เครื่องมือของการตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง

10 เครื่องมือออนไลน์ที่จะช่วยให้การตลาดของคุณง่ายขึ้น.
1. Facebook's Power Editor..
2. MailChimp..
3. Canva..
4. Google Analytics..
5. Sumo..
6. Google Drive..
7. Google Alerts..
8. Leadpages..