รู้จักความเป็นมา วันสิทธิผู้บริโภคสากล (World Consumer Rights Day) ถูกพูดถึงครั้งแรกในปี 2505 โดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จอห์น เอฟ. เคนเนดี เปิดสิทธิผู้บริโภคตามกฎหมายไทย 5 ประการที่ควรรู้ Show วันสิทธิผู้บริโภคสากล (World Consumer Rights Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 มีนาคมของทุกปี โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคตระหนักถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเคารพและปกป้องสิทธิของผู้บริโภคทุกคนอย่างทั่วถึงทั้งโลก
ประวัติวันสิทธิผู้บริโภคสากลข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคระบุว่า สิทธิผู้บริโภค ถูกพูดถึงครั้งแรกโดย จอห์น เอฟ. เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2505 โดยได้กล่าวถึงสิทธิผู้บริโภคที่สำคัญอย่างน้อย 4 ประการ คือ
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงผู้บริโภคที่หมายถึงทุกคน ผู้บริโภคเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจที่ทั้งส่งผลบวกและได้รับผลกระทบจากเกือบทุกการตัดสินใจของภาครัฐและเอกชน แม้ว่า 2 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจมาจากผู้บริโภค แต่ผู้บริโภคก็เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ไม่มีการจัดตั้งตัวแทน ดังนั้นความเห็นของพวกเขาจึงไม่ถูกรับฟัง สิทธิผู้บริโภค ได้ถูกรณรงค์และเคลื่อนไหวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2525 โดยสหพันธ์ผู้บริโภคสากล (Consumer International, CI) การรณรงค์ในการสร้างความตื่นตัวของผู้บริโภค ส่งผลต่อการพัฒนาสิทธิผู้บริโภคสำคัญไว้ 8 ประการ รวมทั้งประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สหประชาชาติ กำหนดแนวทางในการคุ้มครองผู้บริโภคและได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2528 การเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่การปรับปรุงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคของสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. 2558 และเป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลก (สามารถเข้าถึงได้ข้อมูล คู่มือแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคของสหประชาชาติ) สหพันธ์ผู้บริโภคสากล ทำงานรณรงค์ร่วมกับสมาชิกทั่วโลก เพื่อเป็นเพียงปากเสียงเดียวที่เป็นอิสระ และสะท้อนถึงอำนาจเพื่อผู้บริโภคในระดับโลก “เรากำลังสร้างการเคลื่อนไหวของผู้บริโภคระหว่างประเทศให้มีพลังเพื่อช่วยปกป้องและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้บริโภคทั่วทุกหนทุกแห่ง” ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 200 องค์กรจาก 115 ประเทศทั่วโลก ในประเทศไทย มีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) เป็นสมาชิกสามัญ ในขณะที่ผู้บริโภคไทยยังเผชิญกับปัญหาผู้บริโภคที่ซับซ้อนทั้งปัญหาพื้นฐานเรื่องความปลอดภัย ปัญหาการเข้าถึงบริการที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต อากาศที่สะอาด ทางเลือกในการบริโภคมีจำกัด ปัญหาการผูกขาด ปัญหามีความรุนแรงและกว้างขวางรวดเร็วขึ้น ตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สังคม สื่อออนไลน์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน การกระตุ้นให้มีการบริโภคเกินความจำเป็นอย่างไร้ขีดจำกัด ผู้บริโภคมีช่องทางในการใช้สิทธิเรียกร้องมากขึ้นเมื่อถูกละเมิดสิทธิ กระบวนการเยียวยาความเสียหายยังไม่มีประสิทธิภาพ ระบบและกลไกการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคโดยภาพรวมยังไม่สามารถตอบสนองต่อปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไปหรือเท่าทันกับปัญหาที่เกิดขึ้น สิทธิผู้บริโภคสากล 8 ประการ
สิทธิผู้บริโภคตามกฏหมายไทย 5 ประการในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2559 ได้บัญญัติถึงสิทธิของผู้บริโภคไว้ในมาตรา 46 ว่า “สิทธิของผู้บริโภค ย่อมได้รับความคุ้มครอง บุคคลย่อมมีสิทธิรวมกันจัดตั้งองค์กรของผู้บริโภคเพื่อคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค” Advertisement องค์กรของผู้บริโภคตามวรรคสองมีสิทธิรวมกันจัดตั้งเป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระเพื่อให้เกิดพลังในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดตั้ง อำนาจในการเป็นตัวแทนของผู้บริโภค และการสนับสนุนด้านการเงินจากรัฐ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติและในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 และ 2556 ได้บัญญัติสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไว้ 5 ประการ 1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้อง และเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริง และปราศจากพิษภัยแก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้อง และเพียงพอที่จะไม่หลงผิดในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม 2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยความสมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม 3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามคำแนะนำหรือระมัดระวังตามสภาพของสินค้าหรือบริการนั้นแล้ว 4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ 5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคตามข้อ 1, 2, 3 และ 4 ดังกล่าว สิทธิของผู้บริโภค 7 ข้อมีอะไรบ้างใน ปี ค.ศ.1962 สหรัฐอเมริกาได้มีประกาศสิทธิและมาตรการเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของผู้บริโภค 7 ประการ ดังนี้. 1. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัย. 2. สิทธิที่จะได้รับความรู้. 3. สิทธิที่จะได้เลือกซื้อสิ่งที่จะใช้อุปโภคและบริโภคในราคายุติธรรม. 4. สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม. 5. สิทธิที่จะได้รับค่าชดใช้ความเสียหาย. ใครคือผู้กําหนดสิทธิผู้บริโภคสากล และกําหนดให้มีกี่ประการ (ความรู้ – ความจํา) *ประวัติความเป็นมา
วันสิทธิผู้บริโภคสากลเกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 โดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟ. เคนเนดี เป็นผู้บัญญัติวันสำคัญสากลนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อว่า Consumer Right Day โดยได้รับการรับรองจากสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคสากล (Consumers International)
สิทธิผู้บริโภคทั้ง 5 ประการมีอะไรบ้าง5 สิทธิผู้บริโภคที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้อง และเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าและบริการ. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย. สิทธิผู้บริโภคมีกี่ประเภท อะไรบ้างสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค. 1. สิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง (Right to be informed) ผลิตภัณฑ์ ... . 2. สิทธิที่จะเลือกใช้บริการได้อย่างอิสระ (Right to choose) บุคลากรหรือกระบวนการ ... . 3. สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม (Right to be heard) ... . 4. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย (Right to redress). |