เฉลยสรุปความรู้เรื่องแรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้าป 6

ยินดีต้อนรับนักเรียนสู่ ห้องเรียนวทิ ยาศาสตร์คะ่

แรงไฟฟา้ LOGO

ไฟฟา้ คอื อะไร  ไฟฟา้ คือ พลงั งานรปู หนึง่ ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกับการ เคลอื่ นทขี่ องอิเล็กตรอน(ประจไุ ฟฟา้ ลบ) หรอื โปรตอน ( ประจุไฟฟา้ บวก) กอ่ ให้เกดิ พลังงานอื่น เชน่ ความรอ้ น, แสงสว่าง, การเคลื่อนที่ ไฟฟา้ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื  ไฟฟ้าสถติ  ไฟฟ้ากระแส

ไฟฟ้าสถิต ไฟฟา้ สถิต  ไม่มีการเคล่ือนทข่ี องประจหุ รือ เคลอื่ นที่ ประจใุ นระยะสัน้  เกิดจากการเสยี ดสที าให้วตั ถสุ ญู เสียความ เป็นกลาง เนื่องจากการถ่ายเทประจไุ ฟฟ้า โดย - วัตถุที่มปี ระจุ – น้อยกว่าประจุ + วัตถนุ ้ันจะแสดงความเป็นประจุ + - วัตถุทม่ี ปี ระจุ – มากกวา่ ประจุ + วตั ถนุ นั้ จะแสดงความเปน็ ประจุ –  วตั ถุท่ีมปี ระจเุ หมอื นกันมาใกล้กันจะผลักกัน  วัตถุท่มี ีประจุต่างกนั มาใกล้กนั จะดดู กนั

ไฟฟา้ กระแส ไฟฟา้ กระแส  เกิดการเคลอื่ นทขี่ องประจอุ ย่างต่อเน่ือง  แบ่งไดเ้ ป็น - ไฟฟา้ กระแสตรง ตัวอยา่ งอุปกรณท์ ่ีใช้ไฟฟ้ากระแสตรง เช่น แบตเตอร่ี ไดนาโม แผงสรุ ยิ ะ เป็นต้น - ไฟฟา้ กระแสสลบั ตวั อย่าง ไฟฟา้ ตามบ้าน

แรงไฟฟา้  แรงไฟฟา้ คือ แรงท่เี กิดข้ึนระหวา่ งประจไุ ฟฟา้ ดว้ ยกัน มที ้งั แรงดงึ ดูดและแรงผลัก ที่มา : บริษทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั

แรงไฟฟ้า ตัวอยา่ งการเกิดแรงในชีวิตประจาวัน ท่มี า : https://whitechannel.tv//ทาไมถึงมีอาการ-ไฟฟา้ สถ/ ในชว่ งฤดูหนาวอากาศจะแห้ง เสือ้ ผ้าอาจดดู ติดตวั ของเราได้

แรงไฟฟ้า ตัวอยา่ งการเกิดแรงในชีวติ ประจาวัน ทม่ี า : http://klchice.blogspot.com/2015/05/ เม่ือใชม้ ือลูบท่ขี นแมวหลายๆ ครง้ั จะทาให้ขนแมวตดิ มือมาด้วย

แรงไฟฟา้ ตัวอย่างการเกิดแรงในชวี ติ ประจาวัน ท่ีมา : https://www.aloexhair.com/ เมื่อเราหวีผมหลาย ๆ ครั้ง จะทาให้เกิดแรงไฟฟา้ ทาให้เสน้ ผมชฟี้ ู

แรงไฟฟ้า  แรงไฟฟา้ เกดิ ขึ้นไดเ้ องตามธรรมชาติ การนาวัตถุมาขัดถกู นั จะทาใหเ้ กดิ แรงไฟฟา้ ขน้ึ บรเิ วณที่มีการขดั ถวู ตั ถุเทา่ นั้น เรียกแรงไฟฟา้ นวี้ ่า ไฟฟ้าสถิต

ไฟฟ้าสถติ ตามปกติวตั ถจุ ะอยใู่ นสภาพเปน็ กลางทางไฟฟ้าคือ มีจานวน อิเลก็ ตรอน(ประจลุ บ) และจานวนโปรตอน (ประจุบวก) เท่ากัน เม่ือนาวตั ถมุ าขดั สีกันจะเกดิ การถา่ ยเทประจุลบ เชน่ เมือ่ นาผา้ ไนลอนมาถกู บั ลูกโปง่ จะเกิดการถ่ายเทประจุลบไปยงั ลูกโป่งทา ใหล้ กู โปง่ แสดงความเป็นประจุลบ

แรงไฟฟ้า วสั ดุทที่ าใหเ้ กดิ แรงไฟฟ้า วัสดุทีเ่ กิดแรงไฟฟา้ ไดค้ ่อนขา้ งยาก หรือไมเ่ กิดเลย พลาสติก ยาง แก้ว โลหะ ไม้ ท่มี า : บรษิ ัท อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั

ปจั จัยทส่ี ่งผลตอ่ การเกิดแรงไฟฟา้ ความช้ืนของวัตถุ ประเภทของวัสดุ ระยะเวลาที่ใชใ้ นการขดั ถู วตั ถุที่มีความชนื้ สงู จะเกดิ วัสดุที่เกดิ แรงไฟฟา้ ได้ง่าย หากจานวนครั้งน้อย แรงไฟฟา้ ได้ยาก เชน่ พลาสตกิ แกว้ ยาง เกินไปจะไม่เกิดแรงไฟฟ้า

แรงไฟฟา้ ผลของแรงไฟฟ้าทเ่ี กดิ ข้ึน เมอ่ื นาวตั ถุ 2 ชนิด มาขัดถูกนั จะทาใหป้ ระจไุ ฟฟ้าเกดิ การแลกเปลย่ี นกนั วัตถจุ งึ ไม่เปน็ กลางทางไฟฟ้า หากนาวัตถุท่ีไม่เป็นกลางทางไฟฟ้ามา เข้าใกล้วัตถุทม่ี ีน้าหนักเบา จะเกดิ การเหน่ยี วนาไฟฟ้า จงึ สามารถดึงดดู วตั ถทุ ่ีมนี ้าหนักเบาได้ เช่น การใช้ผ้าแห้งถไู มบ้ รรทัดหลาย ๆ คร้งั จะทาให้เกิดแรงไฟฟ้า ทีม่ า : บรษิ ัท อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จากดั

แรงไฟฟ้า หากนาวัตถุ 2 ท่ีไม่เปน็ กลางทางไฟฟ้ามาเขา้ ใกล้กนั จะทาใหเ้ กิดแรงระหวา่ งประจุไฟฟ้าข้นึ ดงั นี้ การขัดถูวตั ถชุ นิดเดียวกันด้วยส่ิงเดียวกัน จะทาให้เกิดประจุไฟฟา้ ชนดิ เดยี วกัน ซง่ึ จะมแี รงระหว่างประจุไฟฟา้ เมอื่ นาวตั ถมุ าเขา้ ใกลก้ นั จะเกิดแรงผลัก ทีม่ า : บริษทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั

แรงไฟฟา้ การขดั ถูวัตถชุ นดิ เดียวกันดว้ ยส่ิงที่ต่างกัน จะทาใหเ้ กดิ ประจุไฟฟา้ ต่างชนิดกัน ซงึ่ จะมีแรงระหวา่ งประจไุ ฟฟา้ เมื่อนาวตั ถุมาเขา้ ใกล้กันจะเกดิ แรงดึงดูด ทมี่ า : บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด

LOGO เจอกนั ใหม่ เรื่อง วงจรไฟฟ้ากนั นะคะ

คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 404 แนวการจดั การเรียนรู้ ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู้ พืน้ ฐาน ครูควรให้เวลานกั เรียนคิด 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย โดยการ อย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง ต่อเซลล์ไฟฟ้า 2 ก้อนแบบอนุกรม ครูอาจเลือกตัวแทนนักเรียน อดทน นักเรียนต้องตอบคำถาม 2-3 คน มาแข่งขันวาดรูปวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายบนกระดาน ซึ่งประกอบ เหล่านี้ได้ถูกต้อง หากตอบไม่ได้ ดว้ ยถา่ นไฟฉาย 2 กอ้ น สายไฟฟา้ 2 เส้น และหลอดไฟฟ้า 1 ดวง หรอื ลมื ครตู อ้ งให้ความรู้ที่ถูกต้อง ทนั ที ครูตัดสินผู้ชนะที่วาดรูปได้ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด จากนั้นครูใช้ คำถามเพื่อเชอ่ื มโยงเข้าสูก่ จิ กรรม ดังนี้ 1.1 ถ้าต่อถ่านไฟฉายอีกหลายก้อนเพิ่มเข้าไปในวงจรไฟฟ้าจะทำให้ ใช้เวลาวาดรูปการต่อวงจรไฟฟ้ามากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ อย่างไร (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ ใช้เวลาวาดมากกวา่ เดมิ ) 1.2 เราจะมีวิธีสื่อสารเกี่ยวกับต่อวงจรไฟฟ้าได้ง่ายกว่านี้ได้หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) ครยู ังไม่เฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง แต่ให้นกั เรียนร่วมกนั ค้นพบคำตอบ จากการทำกจิ กรรม 2. นักเรียนอ่าน ชื่อกิจกรรม และ ทำเป็นคิดเป็น ในหนังสือเรียนหน้า 187 จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจุดประสงค์ใน การทำกจิ กรรม โดยใช้คำถามดังนี้ 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (การเขียนแผนภาพ วงจรไฟฟ้า) 2.2 นกั เรียนจะได้เรยี นร้เู รือ่ งน้ีด้วยวิธีใด (วิเคราะห์ข้อมูล) 2.3 เม่อื เรยี นจบแลว้ นักเรียนจะทำอะไรได้ (เขยี นแผนภาพวงจรไฟฟ้า ได)้ 3. นักเรยี นบนั ทกึ จดุ ประสงค์ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 143 และอ่าน สิ่งที่ต้องใช้ ในการทำกิจกรรม จากนั้นครูนำวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ใน กจิ กรรมมาแสดงใหน้ ักเรยี นดทู ีละอยา่ ง สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

405 คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 4. นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านที่เหมาะสมกับ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ ความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทนี่ ักเรียนจะได้ฝกึ ลำดบั ข้นั ตอนการทำกจิ กรรม โดยอาจใช้คำถามดังนี้ 4.1 นักเรียนต้องต่อวงจรไฟฟ้ากี่วงจร แต่ละวงจรต่างกันอย่างไร จากการทำกิจกรรม (ต้องต่อวงจรไฟฟ้า 3 วงจร โดยแต่ละวงจรต่อเข้ากับ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างกัน ดังน้ี วงจรที่ 1 ต่อเข้ากับหลอดไฟฟ้า วงจร S1 การสงั เกตลกั ษณะการต่อวงจรไฟฟา้ เพอ่ื ให้ ที่ 2 ตอ่ เข้ากบั มอเตอรต์ ดิ ใบพัด วงจรที่ 3 ต่อเข้ากบั ออดไฟฟ้า) เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทำงานได้ 4.2 นักเรียนจะต้องต่ออุปกรณ์ใดเพิ่มเข้าไปวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย (ต้อง ต่อสวติ ช์เพ่ิม) S6 การเขยี นแผนภาพและนำเสนอแผนภาพ 4.3 นักเรียนบันทึกผลการทำกิจกรรมโดยวิธีใด (วาดรูปการต่อ วงจรไฟฟา้ ให้ผอู้ ืน่ เข้าใจได้ วงจรไฟฟ้าของแต่ละวงจร) 4.4 นกั เรยี นต้องอา่ นใบความรู้เรอื่ งอะไร และหลงั จากน้นั ต้องอภิปราย C2 การคดิ โดยใช้เหตผุ ลเก่ียวกับการตอ่ เกี่ยวกับเรื่องอะไร (อ่านใบความรู้เรื่อง การเขียนแผนภาพ วงจรไฟฟา้ ท้ังสามวงจรทท่ี ำใหเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ วงจรไฟฟ้า และหลังจากนั้นต้องอภิปรายเกีย่ วกับความสำคัญของ แตล่ ะชนดิ ทำงาน วิเคราะหแ์ ละเขยี น การใชแ้ ผนภาพวงจรไฟฟา้ ) แผนภาพวงจรไฟฟ้าของวงจรนัน้ ๆ 4.5 นักเรียนจะต้องเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าของวงจรใดบ้าง (เขียน แผนภาพวงจรไฟฟา้ ทั้งสามวงจรท่ีตอ่ ในขอ้ ท่ี 1) C4 การวาดรูปหรือเขยี นสญั ลักษณ์ของอุปกรณ์ ไฟฟ้าเพื่อนำเสนอผลการต่อวงจรไฟฟ้าใหผ้ ู้อื่น 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มเริ่มทำกิจกรรมตามขั้นตอน ขณะท่ีนักเรียนทำ เขา้ ใจ กิจกรรม ครคู วรใหค้ ำแนะนำและช่วยเหลอื ตามความจำเป็น C5 การทำงานร่วมกับผอู้ นื่ ในการสังเกต การ 6. นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรม จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกัน นำเสนอ การแสดงความคดิ เห็นเพอ่ื เขยี น อภิปรายผลการทำกจิ กรรม โดยอาจใช้คำถามดงั น้ี แผนภาพวงจรไฟฟา้ และอธบิ ายประโยชนข์ อง 6.1 สวิตช์ทำหน้าที่อะไรในวงจรไฟฟ้า (ทำหน้าท่ีควบคุมให้วงจรไฟฟ้า การใชแ้ ผนภาพวงจรไฟฟา้ เปน็ วงจรเปิดหรือวงจรปดิ โดยถา้ ยกสวิตช์ขึ้นจะทำให้เป็นวงจรเปิด แตถ่ ้ากดสวติ ช์ลงจะทำใหเ้ ปน็ วงจรปดิ ) ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม 6.2 นักเรียนต้องใช้เวลาวาดรูปการต่อวงจรไฟฟ้าของวงจร 3 แบบ นานหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ใช้เวลานาน เพราะมีอปุ กรณห์ ลายอย่าง การต่อวงจรไฟฟ้าโดยใชอ้ อดไฟฟ้า ที่ต้องวาดใหเ้ หมอื นของจรงิ ) และมอเตอร์ไฟฟา้ ใหท้ ำงานได้ ตอ้ งใช้ 6.3 การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย เราเขียนสิ่งใดแทนรูป พลงั งานไฟฟา้ จากถ่านไฟฉาย 1.5 โวลต์ อุปกรณไ์ ฟฟ้า (ใช้สัญลักษณ์แทน) จำนวน 2 ก้อน นอกจากน้ีออดไฟฟา้ เปน็ 6.4 วิธีการเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าทำได้อย่างไร (ใช้สัญลักษณ์แทน อุปกรณ์ทม่ี ีข้วั ดงั น้ันการต่อวงจรไฟฟ้าจงึ อุปกรณ์ไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า โดยเขียนสัญลักษณ์แต่ละอย่างให้ตรง ต้องต่อใหถ้ ูกขว้ั โดยนำข้ัวบวกของ กับตำแหน่งของอุปกรณ์จริง และเขียนให้สัญลักษณ์เชื่อมกัน ถ่านไฟฉายต่อเขา้ กบั ขว้ั บวกของออดไฟฟ้า ทงั้ หมด) (ช่องสีแดง) และต่อขั้วลบของถ่านไฟฉาย เข้ากบั ขว้ั ลบของออดไฟฟ้า (ช่องสดี ำ) จึง จะทำให้ออดไฟฟ้ามเี สียงดงั สว่ นมอเตอร์ ติดใบพัดสามารถต่อขัว้ ใดของถา่ นไฟฉาย เข้ากับมอเตอรก์ ็ได้ แต่ถา้ ต่อสลับขว้ั กนั จะทำใหใ้ บพดั หมุนในทิศทางตรงกนั ขา้ ม ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 406 6.5 การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้ามีประโยชน์หรือไม่ อย่างไร ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมี (มปี ระโยชน์ นอกจากจะช่วยลดระยะเวลาการวาดรปู วงจรไฟฟ้า แนวคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ แล้ว การใช้สัญลักษณ์ที่เป็นสากลยังทำให้เราสามารถเข้าใจสิ่งที่ การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า ตอ้ งการส่อื สารได้ตรงกัน) ให้ร่วมกันอภิปรายจนนักเรียนมี แนวคิดที่ถกู ตอ้ ง 7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการ เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า จากนั้นร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า การเตรียมตวั ล่วงหนา้ สำหรับครู การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าทำได้โดยการเขียนสัญลักษณ์แทนรูป เพือ่ จัดการเรยี นรใู้ นครัง้ ถัดไป อุปกรณ์ต่าง ๆ ในวงจรไฟฟ้า เพื่อสื่อสารให้เข้าใจตรงกันได้ง่าย และ สะดวก (S13) ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้อ่าน เรื่องที่ 3 การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน 8. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคำถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของเต้ารับ คำถามเพิม่ เติมเพอ่ื ใหไ้ ด้แนวคำตอบท่ีถูกต้อง และเต้าเสียบ ครูอาจเตรียมเต้ารับแบบ เคลื่อนย้ายได้หลายแบบ และเต้าเสียบ 9. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี้ จากนั้นอ่าน ของเครื่องใช้ไฟฟ้าเพ่ือให้นกั เรียนสงั เกต สงิ่ ที่ได้เรยี นรู้ และเปรียบเทียบกบั ข้อสรุปของตนเอง ประกอบการอ่านเรื่อง 10.ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า ครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำถาม ของตนเองหน้าชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับคำถามที่ นำเสนอ 11. ครูนำอภปิ รายเพอื่ ใหน้ กั เรยี นทบทวนวา่ ได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในขนั้ ตอนใด 12.นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเรื่องนี้ ในหนังสือเรียนหน้า 192 ครูนำ อภิปรายเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเกีย่ วกับสง่ิ ที่ได้เรียนรู้ในเร่ืองน้ี จากนั้นครู กระตุ้นให้นักเรียนตอบคำถามในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องดังน้ี การต่อ เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นในวงจรไฟฟ้าจะสามารถต่อได้กี่แบบ แต่ละ แบบมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย และตอบคำถาม ซึ่งครูควรเน้นให้นักเรียนตอบคำถามพร้อมอธิบาย เหตุผลประกอบ และชักชวนให้นักเรียนไปหาคำตอบร่วมกันจากการ เรียนเร่ืองตอ่ ไป สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

407 คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า แนวคำตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม วเิ คราะหข์ ้อมูลและเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 408 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

409 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า สวิตช์มีหน้าท่คี วบคุมให้วงจรไฟฟา้ เป็นวงจรปิดหรือวงจรเปิด การตอ่ สวิตช์ ทำได้โดยต่อสวิตช์แทรกในวงจรไฟฟา้ การเขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ มปี ระโยชน์ คอื ชว่ ยประหยัดเวลาในการสอื่ สารการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าตา่ ง ๆ ด้วยการใช้ สญั ลักษณ์แทนการวาดภาพ และส่ือความหมายให้เข้าใจตรงกนั ได้ง่ายและรวดเร็ว การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟา้ เป็นการเขยี นโดยใชส้ ญั ลักษณ์ท่ีกำหนดข้นึ เป็นสากลแทนอปุ กรณไ์ ฟฟ้าแตล่ ะอยา่ ง ทำให้สะดวก และสามารถสือ่ สาร เกี่ยวกบั การตอ่ อุปกรณ์ไฟฟา้ ต่าง ๆ ให้เขา้ ใจตรงกัน การเขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ เป็นการใช้สญั ลกั ษณแ์ ทนการวาดรูปอปุ กรณ์ ไฟฟา้ ต่าง ๆ ในวงจรไฟฟ้า เพอ่ื ให้ส่ือสารเขา้ ใจตรงกนั ได้ง่ายและรวดเร็ว ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 410 คำถามของนกั เรียนท่ตี ้ังตามความอยากรขู้ องตนเอง      สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

411 คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ของนกั เรียนทำได้ ดังน้ี 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภิปรายในช้ันเรียน 2. ประเมินการเรยี นรจู้ ากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจดั การเรียนรูแ้ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกจิ กรรมของนักเรียน การประเมินจากการทำกจิ กรรมที่ 2.2 เขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ ได้อย่างไร รหสั ส่งิ ทปี่ ระเมนิ คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S6 การจดั กระทำและสื่อความหมายข้อมูล S13 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงข้อสรุป ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C2 การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ C4 การสอื่ สาร C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 412 ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ S1 การสังเกต การสังเกตและบรรยาย สามารถสงั เกตและ สามารถสังเกตและ สามารถสงั เกตและ รายละเอยี ดเกย่ี วกับ บรรยายรายละเอยี ด บรรยายรายละเอียด บรรยายรายละเอียด ลกั ษณะการต่อ เก่ียวกบั ลักษณะการต่อ เกยี่ วกบั ลกั ษณะการ เก่ยี วกบั ลักษณะการต่อ วงจรไฟฟ้าเพื่อให้ วงจรไฟฟ้าเพ่ือให้ ตอ่ วงจรไฟฟา้ เพื่อให้ วงจรไฟฟ้าเพื่อให้ อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานได้ อปุ กรณ์ไฟฟา้ ทำงานได้ อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงาน อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานได้ ถูกต้องดว้ ยตนเอง ไดถ้ ูกต้อง จากการ ถกู ต้องบางส่วน แมว้ ่า ชแี้ นะของครูหรือผูอ้ ่นื จะได้รบั คำชแ้ี นะจาก ครูหรอื ผู้อ่ืน S6 การจัดกระทำ การเขียนแผนภาพและ สามารถเขียนแผนภาพ สามารถเขยี น สามารถเขยี นแผนภาพ และสื่อความ นำเสนอแผนภาพ และนำเสนอแผนภาพ แผนภาพและ และนำเสนอแผนภาพ หมายข้อมลู วงจรไฟฟ้าให้ผูอ้ ่นื เขา้ ใจ วงจรไฟฟ้าใหผ้ ้อู น่ื เขา้ ใจ นำเสนอแผนภาพ วงจรไฟฟ้าให้ผูอ้ ืน่ ไดถ้ ูกต้องดว้ ยตนเอง วงจรไฟฟ้าให้ผู้อนื่ เข้าใจได้ถกู ต้องเพียง เขา้ ใจได้ถูกต้อง จาก บางสว่ น แมว้ า่ จะได้ การช้แี นะของครหู รือ รับคำชแี้ นะจากครหู รือ ผ้อู ืน่ ผู้อื่น S13 การตีความ การตีความหมายข้อมลู ที่ สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตีความหมาย หมายข้อมูลและ ไดจ้ ากการสงั เกต และ ขอ้ มูลท่ีได้จากการสงั เกต ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการ ขอ้ มลู ท่ีได้จากการ ลงข้อสรุป นำมาลงข้อสรุปได้วา่ การ และนำมาลงข้อสรุปได้ สังเกตและนำมาลง สังเกต และนำมาลง เขียนแผนภาพ ถูกต้องดว้ ยตนเองว่าการ ขอ้ สรปุ ได้ถูกต้องจาก ข้อสรปุ ได้ถกู ต้องเพยี ง วงจรไฟฟ้าทำได้โดยการ เขยี นแผนภาพ การชแ้ี นะของครูหรอื บางสว่ นแมว้ ่าจะได้ เขียนสัญลักษณ์แทนรปู วงจรไฟฟ้าทำไดโ้ ดยการ ผู้อื่นว่าการเขียน รับคำชแี้ นะจากครหู รอื อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ใน เขยี นสัญลกั ษณ์แทนรูป แผนภาพวงจรไฟฟ้า ผู้อ่ืนว่าการเขียน วงจรไฟฟ้าเพ่ือสอ่ื สารให้ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ใน ทำไดโ้ ดยการเขียน แผนภาพวงจรไฟฟ้าทำ เขา้ ใจตรงกันได้ง่าย และ วงจรไฟฟ้าเพื่อสอ่ื สารให้ สัญลกั ษณแ์ ทนรปู ไดโ้ ดยการเขียน สะดวก เขา้ ใจตรงกันไดง้ ่ายและ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ใน สญั ลกั ษณแ์ ทนรูป สะดวก วงจรไฟฟ้า เพื่อ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ใน สอ่ื สารใหเ้ ข้าใจ วงจรไฟฟ้า แตไ่ ม่ ตรงกันได้ง่ายและ สามารถสรุปประโยชน์ สะดวก สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

413 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า ทกั ษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ ของการเขียนแผนภาพ วงจรไฟฟ้าได้ ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1) ศตวรรษท่ี 21 สามารถคดิ โดยใชเ้ หตุผลที่ พอใช้ (2) สามารถคดิ โดยใชเ้ หตุผล C2 การคดิ การคิดโดยใช้เหตุผลที่ หลากหลายเพือ่ วเิ คราะห์ ทไี่ ม่เหมาะสมเพ่ือ อยา่ งมี หลากหลาย เพื่อ การต่อวงจรไฟฟา้ ท้งั สาม สามารถคิดโดยใช้เหตผุ ล วิเคราะห์การต่อ วจิ ารณญาณ วิเคราะหก์ ารต่อ วงจรและเขียนแผนภาพ ทีห่ ลากหลายเพ่ือ วงจรไฟฟ้าท้ังสามวงจร วงจรไฟฟ้าทัง้ สามวงจร วงจรไฟฟ้าของวงจรน้นั ๆ วิเคราะหก์ ารต่อ และเขียนแผนภาพ C4 การสอ่ื สาร และเขียนแผนภาพ ได้ถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง วงจรไฟฟ้าทั้งสามวงจร วงจรไฟฟ้าของวงจร วงจรไฟฟ้าของวงจร และเขยี นแผนภาพ น้ัน ๆ แม้ว่าจะได้รับคำ C5 ความ นน้ั ๆ สามารถวาดรปู หรือเขียน วงจรไฟฟ้าของวงจรน้นั ๆ ชีแ้ นะจากครหู รือผูอ้ นื่ ร่วมมือ สัญลักษณข์ องอปุ กรณ์ ได้ถูกต้องจากการชแี้ นะ สามารถวาดรปู หรือ การวาดรปู หรอื เขยี น ไฟฟา้ เพ่ือนำเสนอการต่อ ของครหู รือผ้อู ่นื เขียนสญั ลักษณ์ของ สญั ลักษณ์ของอปุ กรณ์ วงจรไฟฟ้าใหผ้ ูอ้ นื่ เข้าใจได้ สามารถวาดรปู หรือเขยี น อุปกรณ์ไฟฟ้าเพ่ือ ไฟฟ้าเพ่ือนำเสนอการ ถูกต้องด้วยตนเอง สญั ลักษณข์ องอุปกรณ์ นำเสนอการต่อ ต่อวงจรไฟฟ้าให้ผ้อู ่นื ไฟฟา้ เพ่ือนำเสนอการต่อ วงจรไฟฟ้าให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจ เข้าใจ สามารถทำงานรว่ มกับ วงจรไฟฟ้าให้ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ ไดถ้ ูกตอ้ งเพียงบางส่วน ผูอ้ น่ื ในการสงั เกต การ ไดถ้ ูกต้องจากการชแี้ นะ แม้ว่าจะไดร้ ับคำชี้แนะ การทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน นำเสนอ และการแสดง ของครหู รอื ผู้อน่ื จากครหู รือผู้อ่ืน ในการสังเกต การ ความคดิ เหน็ เพือ่ เขยี น สามารถทำงานร่วมกับ นำเสนอ และการแสดง แผนภาพวงจรไฟฟา้ และ สามารถทำงานร่วมกับ ผอู้ ่ืนในการสังเกต การ ความคิดเหน็ เพือ่ เขยี น อธบิ ายประโยชน์ของการ ผู้อนื่ ในการสงั เกต การ นำเสนอ และการแสดง แผนภาพวงจรไฟฟ้า ใชแ้ ผนภาพวงจรไฟฟา้ นำเสนอ และการแสดง ความคดิ เห็นเพอื่ เขยี น และอธิบายประโยชน์ ความคดิ เหน็ เพื่อเขียน แผนภาพวงจรไฟฟา้ ของการใช้แผนภาพ แผนภาพวงจรไฟฟ้า และ และอธบิ ายประโยชน์ อธิบายประโยชน์ของการ ของการใชแ้ ผนภาพ ใชแ้ ผนภาพวงจรไฟฟา้ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 414 ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1) ศตวรรษท่ี 21 รวมทัง้ ยอมรบั ฟังความ พอใช้ (2) วงจรไฟฟ้า ในบาง คิดเห็นของผูอ้ ่นื ช่วงเวลาทีท่ ำกจิ กรรม วงจรไฟฟ้า รวมท้งั ตลอดเวลาที่ทำกจิ กรรม รวมท้ังยอมรับฟงั ความ แต่ไม่คอ่ ยสนใจความ ยอมรับความคิดเหน็ คดิ เห็นของผอู้ ่ืน เป็นบาง คิดเห็นของผูอ้ ่ืน ของผู้อืน่ ช่วงเวลาทที่ ำกจิ กรรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

415 คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ เรอ่ื งที่ 3 การต่ออปุ กรณไ์ ฟฟา้ ในบ้าน ในเรื่องนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะการต่อ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมซึ่งเป็นการต่อหลอดไฟฟ้าแบบ เรียงกันไป และการต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนานซึ่งเป็นการต่อ หลอดไฟฟา้ แบบครอ่ มกนั รวมท้ังประโยชน์และข้อจำกัดของ การตอ่ หลอดไฟฟา้ แตล่ ะแบบ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ทดลอง สืบค้นข้อมูล และอธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบ ต่าง ๆ รวมท้งั บอกประโยชนแ์ ละขอ้ จำกดั ในการใช้งาน เวลา 2 ชว่ั โมง ส่อื การเรียนรูแ้ ละแหล่งเรยี นรู้ วสั ดุ อุปกรณ์สำหรับทำกจิ กรรม 1. หนงั สอื เรยี น ป. 6 เล่ม 2 หนา้ 194-201 สวิตช์ สายไฟฟ้า ถ่านไฟฉาย กระบะใส่ถ่านไฟฉาย 2. แบบบนั ทึกกิจกรรม ป. 6 เล่ม 2 หนา้ 147-153 ฐานหลอดไฟฟ้าพรอ้ มหลอด ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 416 แนวการจดั การเรียนรู้ (30 นาที) ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู้ พื้นฐาน ครคู วรให้เวลานกั เรียนคิด ข้ันตรวจสอบความรู้ (5 นาที) อย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง อดทน นักเรียนต้องตอบคำถาม 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกบั การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม โดยครูอาจ เหล่านี้ได้ถูกต้อง หากตอบไม่ได้ ใช้คำถามดังนี้ หรือลืมครูต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง 1.1 การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมทำได้อย่างไร (ต่อให้ขั้วบวกของ ทันที เซลล์ไฟฟ้าเซลล์หนึ่งตอ่ เข้ากบั ข้ัวลบของเซลลไ์ ฟฟา้ อกี เซลล์หนึ่ง) 1.2 การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม ทำให้เกิดผลอย่างไร (มีพลังงานไฟฟ้า หากนักเรียนไม่สามารถตอบ ผ่านเครอื่ งใช้ไฟฟา้ มากขน้ึ ) คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน และรับฟังแนวความคิดของ ภายในบ้าน โดยใชค้ ำถามดังน้ี อุปกรณ์ไฟฟ้าในบา้ นต่อกนั อยา่ งไร นักเรยี น ข้นั ฝกึ ทักษะจากการอ่าน (15 นาที) 3. นักเรียนอ่านชื่อเรื่องและคำถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียนหน้า 194 แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อหาแนวคำตอบและนำเสนอ ครูบันทึกคำตอบของ นักเรียนบนกระดานเพ่ือใช้เปรียบเทยี บคำตอบหลงั จากอา่ นเนื้อเรื่อง 4. นักเรียนอ่านคำสำคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียนอ่าน ไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากนั้นครูชักชวนให้นักเรียนอธิบาย ความหมายของคำสำคัญตามความเข้าใจของตนเอง 5. นักเรียนอา่ นเน้ือเรอ่ื งในหนงั สือเรยี นหน้า 194-195 โดยครูฝึกทกั ษะการอ่าน ตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน และให้นักเรียน สังเกตรูปประกอบเนื้อเรื่อง จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดงั น้ี 5.1 เต้ารับกับเต้าเสียบแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แตกต่างกัน เต้ารับมี ลักษณะเป็นรู ซึ่งอาจจะมี 2 รู หรือ 3 รูก็ได้ ส่วนเต้าเสียบเป็น หวั เสียบทม่ี ขี ั้วโลหะตอ่ มาจากสายไฟฟ้าทตี่ ดิ กับเครื่องใช้ไฟฟา้ ) 5.2 เต้ารับมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร (เต้ารับมี 2 แบบ คือ แบบที่ติดผนังอาคารซึ่งไม่สามารถเคลื่อนยา้ ยได้ และแบบเคลื่อนย้าย ได้) 5.3 เต้ารับและเต้าเสียบมีหน้าที่อย่างไร (เต้ารับใช้สำหรับเป็นตัวเชื่อม วงจรไฟฟ้าในบ้านกับเต้าเสียบซึ่งต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเป็น เส้นทางให้กระแสไฟฟ้าจากเต้ารับผ่านไปยังเต้าเสียบไปจนถึง เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ทำให้เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ สามารถทำงานได)้ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

417 ค่มู ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า ข้ันสรุปจากการอา่ น (10 นาท)ี 6. นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องที่อ่านซึ่งควรสรุปได้ว่าการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน การเตรียมตัวลว่ งหนา้ สำหรับครู ต้องต่อเต้าเสียบของอุปกรณ์ไฟฟ้าเข้ากับเต้ารับ ซึ่งเต้ารับมีทั้งแบบติดตาม เพ่ือจัดการเรยี นรู้ในคร้งั ถัดไป ผนังอาคาร และแบบเคลื่อนยา้ ยได้ ในครัง้ ถดั ไป นักเรยี นจะได้ทำ 7. นักเรียนตอบคำถามในรูห้ รอื ยัง ในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 147 กิจกรรมที่ 3 หลอดไฟฟ้าต่อกันอยา่ งไร 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคำตอบของนักเรียนใน โดยครูอาจเตรียมหลอดไฟฟ้าประดบั ทีม่ ี ลักษณะเปน็ สายยาวทแี่ ขวนในสถานที่ รหู้ รือยัง กบั คำตอบทเ่ี คยตอบและบันทึกไว้ในคดิ ก่อนอา่ น ต่าง ๆ เพื่อใชส้ ำหรับการนำเขา้ สู่ 9. นกั เรยี นอ่านคำถามทา้ ยเร่ืองท่อี า่ นและลองตอบคำถาม ดงั น้ี บทเรียนในกจิ กรรมถดั ไป 9.1 การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าภายในบ้านเป็นการต่อแบบใด (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) 9.2 เมื่อถอดเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใดเครื่องหนึ่งออก หรือปิดสวิตช์ของ เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใดเครื่องหนึ่งให้หยุดทำงาน จะมีผลต่อ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ท่ียังใช้งานอยูห่ รือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเอง) ครูยังไม่เฉลยคำตอบแต่ชักชวนใหน้ ักเรยี นหาคำตอบจากการทำกจิ กรรม ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 418 แนวคำตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม เตา้ รับมีลักษณะเปน็ รูตอ่ มาจากสายไฟฟ้าในอาคาร ส่วนเต้าเสียบมี ลักษณะเปน็ หัวเสยี บทม่ี ขี ั้วโลหะตดิ อยู่ท่ปี ลายซึ่งตอ่ จากสายไฟฟ้าของ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า เตา้ รับใช้สำหรบั เปน็ ตวั เช่ือมวงจรไฟฟ้าในบา้ นกบั เตา้ เสียบซง่ึ ตอ่ กบั เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า เพื่อเปน็ เส้นทางใหก้ ระแสไฟฟา้ จากเตา้ รบั ผ่านไปยัง เต้าเสยี บไปจนถึงเครือ่ งใช้ไฟฟ้า ทำใหเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ สามารถทำงานได้ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

419 คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า กจิ กรรมที่ 3 หลอดไฟฟา้ ต่อกนั อย่างไร กจิ กรรมน้ีนกั เรียนจะได้ทดลองต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม และ แบบขนาน รวมถงึ อธบิ ายผลที่มตี ่อหลอดไฟฟา้ ท่ีเหลือในวงจรไฟฟ้าทั้ง สองแบบ เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออกจากวงจรไฟฟ้า ตลอดจนสืบค้นข้อมูลประโยชน์และข้อจำกัดของการใช้งานการต่อ หลอดไฟฟา้ ท้ังแบบอนกุ รมและแบบขนาน เวลา 1.5 ชั่วโมง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทดลอง สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบต่าง ๆ รวมทงั้ บอกประโยชน์และข้อจำกดั ในการใช้งาน วสั ดุ อุปกรณ์สำหรบั ทำกจิ กรรม สง่ิ ทคี่ รตู อ้ งเตรียม/กลุ่ม 1. สวติ ช์ 1 อนั 2. สายไฟฟา้ 6 เส้น 3. ฐานหลอดไฟฟ้าพรอ้ มหลอดขนาด 2.5 โวลต์ 2 ชดุ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 4. ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 โวลต์ 2 กอ้ น C2 การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ C4 การสื่อสาร 5. กระบะใสถ่ า่ นไฟฉาย 2 อัน C5 ความร่วมมอื C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร สิง่ ทค่ี รูต้องเตรยี ม/ห้อง ไฟประดับขนาดเลก็ ท่เี รียงเป็นสายยาว 1 ชุด ส่ือการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1. หนงั สอื เรยี น ป.6 เล่ม 2 หนา้ 196-199 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.6 เลม่ 2 หน้า 148-153 S1 การสงั เกต 3. ตวั อยา่ งวดี ิทศั น์ปฏบิ ัติการวทิ ยาศาสตร์สำหรบั ครู S6 การจัดกระทำและสอื่ ความหมายข้อมลู S9 การตง้ั สมมติฐาน เรอื่ ง หลอดไฟฟา้ ต่อกันไดอ้ ย่างไร S11 การกำหนดและควบคุมตัวแปร http://ipst.me/9481 S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 420 แนวการจดั การเรียนรู้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการการต่อหลอดไฟฟ้าแบบต่าง ๆ โดยนำ เป็นสำคัญ และยังไม่เฉลยคำตอบ ไฟประดับมาแสดงเพื่อให้นักเรียนสังเกตลักษณะของไฟประดับซึ่ง ใด ๆ แต่ชักชวนนักเรียน ไปหา ประกอบด้วยหลอดไฟฟ้าขนาดเล็กจำนวนมาก เมื่อเปิดใช้งานไฟประดับจะ คำตอบที่ถูกต้องจากกิจกรรม ให้แสงสว่าง จากนั้นครูถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง ซึ่งหลอดไฟฟ้าที่เหลือ ตา่ ง ๆ ในบทเรยี นนี้ อาจดับทั้งหมด หรือสว่างอยู่ก็ได้ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่า หลอดไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าน้ตี ่อกนั อย่างไร (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ) ครูยงั ไม่เฉลยคำตอบทถี่ ูกต้อง แตใ่ หน้ ักเรยี นร่วมกันค้นพบคำตอบจาก การทำกิจกรรม 2. นักเรียนอ่าน ชื่อกิจกรรม และทำเป็นคิดเป็น ในหนังสือเรียนหน้า 196 จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจุดประสงค์ในการทำ กจิ กรรม โดยใช้คำถามดังน้ี 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ ต่าง ๆ) 2.2 นักเรยี นจะไดเ้ รยี นรูเ้ รอื่ งนี้ด้วยวธิ ีใด (การทดลองและการสบื คน้ ขอ้ มูล) 2.3 เมื่อเรียนจบแล้ว นักเรียนจะทำอะไรได้ (อธิบายการต่อหลอดไฟฟ้า แบบต่าง ๆ บอกประโยชน์และข้อจำกัดในการใช้งานของการต่อหลอด ไฟฟา้ แบบต่าง ๆ) 3 นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 148 และอ่าน สิง่ ท่ีต้องใช้ ในการทำกิจกรรม จากน้นั ครนู ำวัสดุอุปกรณ์มาที่ใช้ในกิจกรรม มาแสดงใหน้ ักเรียนดทู ลี ะอยา่ ง 4 นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร ข้อที่ 1-2 โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านที่ เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจ เกยี่ วกับลำดับข้ันตอนการทำกจิ กรรม โดยอาจใช้คำถามดังน้ี 4.1 นักเรียนต้องอภิปรายและเขียนแผนภาพอะไร (อภิปรายและเขียน แผนภาพวงจรไฟฟ้าท่ีต่อกบั หลอดไฟฟา้ 2 ดวงในแบบตา่ ง ๆ มากกว่า 1 แบบ ซงึ่ มผี ลทำให้หลอดไฟฟ้าทัง้ สองดวงสว่าง) 4.2 เมื่อเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าแล้ว นักเรียนต้องทำอย่างไรต่อไป (ต่อวงจรไฟฟา้ ตามแผนภาพทเ่ี ขยี นไว)้ 5 นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เริ่มทำกิจกรรมตามขนั้ ตอนในข้อ 1-2 ขณะท่ีทำกิจกรรม ครคู วรให้คำแนะนำและชว่ ยเหลอื ตามความจำเป็น สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

421 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 6 นักเรียนนำเสนอแผนภาพวงจรไฟฟ้า พร้อมกับวงจรไฟฟ้าที่ต่อตาม ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ แผนภาพเสร็จแล้ว จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทน่ี ักเรียนจะได้ฝกึ กิจกรรม จากขอ้ มลู โดยอาจใช้คำถามดงั น้ี 6.1 การต่อหลอดไฟฟ้าท่ีทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างทั้งสองดวง สามารถต่อได้ จากการทำกิจกรรม กแี่ บบ (นักเรยี นตอบตามทไ่ี ด้ทำ เช่น 2 แบบ) 6.2 การต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบแตกต่างกนั อยา่ งไร (นักเรียนตอบตามท่ี S1 การสังเกตการทำงานของหลอดไฟฟา้ เมอ่ื ถอด ได้ทำ เช่น แบบแรกต่อหลอดไฟฟ้าแบบเรียงกัน และแบบที่สองต่อ หลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออกจากวงจรไฟฟา้ หลอดไฟฟ้าแบบวางขนานกัน หรือต่อให้ขั้วหลอดไฟฟ้าดวงหนึง่ คร่อม ทตี่ ่อหลอดไฟฟา้ แตล่ ะแบบ กบั ข้ัวหลอดไฟฟ้าอกี ดวงหนึง่ ) ถ้านักเรียนต่อหลอดไฟฟ้าได้เพียงแบบเดียว คือ ต่อแบบเรียงกัน S6 การเขยี นแผนภาพการตอ่ วงจรไฟฟ้าและเขยี น ครูอาจช่วยเหลือให้นักเรียนรู้จักการต่อหลอดไฟฟ้าอีกแบบ คือ ตารางบันทึกผลการทดลองเกีย่ วกบั ผลทเี่ กดิ ขนึ้ ตอ่ ใหข้ ัว้ หลอดไฟฟ้าดวงหนึง่ ครอ่ มกับขัว้ หลอดไฟฟ้าอีกดวงหนง่ึ เมอ่ื ถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนง่ึ ออกจาก วงจรไฟฟา้ ทีต่ ่อหลอดไฟฟ้าแตล่ ะแบบ 7. นักเรียนอ่าน ทำอย่างไร ข้อที่ 3-6 โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอ่านท่ี เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจ S9 การต้งั สมมติฐานทีส่ อดคลอ้ งกบั ปญั หาของการ เกย่ี วกับลำดบั ขน้ั ตอนการทำกจิ กรรม โดยอาจใช้คำถามดงั นี้ ทดลองเกีย่ วกับการต่อหลอดไฟฟา้ แบบใดทเ่ี มื่อ 7.1 ปัญหาของการทดลองน้ีคืออะไร (การต่อหลอดไฟฟ้าแบบใดที่เมื่อ ถอดหลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหน่ึงออกแลว้ ทำให้ ถอดหลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหน่ึงออกแลว้ ทำใหห้ ลอดไฟฟ้าที่เหลือยัง หลอดไฟฟา้ ทีเ่ หลอื ยังสว่างอยู่ สว่างอยู่) 7.2 เมื่อทราบปัญหาของการทดลองแล้ว นักเรียนต้องทำอย่างไรต่อไป S11 การบอกตัวแปรต้น ตัวแปรตามและตวั แปรที่ (ต้ังสมมตฐิ าน กำหนดตวั แปร และออกแบบการทดลอง) ต้องควบคมุ ให้คงท่ีในการทดลองเกยี่ วกบั การ 7.3 เม่ือทำการทดลองแลว้ นักเรียนตอ้ งอภิปรายเกยี่ วกับเร่ืองอะไร (ต้อง ต่อหลอดไฟฟา้ แบบใดทีเ่ มือ่ ถอดหลอดไฟฟา้ อภปิ รายว่าการต่อหลอดไฟฟา้ แบบใดทเ่ี มื่อถอดหลอดไฟฟา้ ออกจาก ดวงใดดวงหนึง่ ออกแล้ว ทำให้หลอดไฟฟา้ ท่ี วงจร 1 ดวง หลอดไฟฟ้าที่เหลือยังคงสว่าง และแบบใดท่ีเมื่อถอด เหลือยังสว่างอยู่ หลอดไฟฟ้าออกจากวงจร 1 ดวง หลอดไฟฟ้าท่เี หลือจะไมส่ วา่ ง) 7.4 นักเรียนต้องสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอะไร และต้องอภิปราย S12 การออกแบบการทดลองเกย่ี วกบั การตอ่ หลังจากสืบค้นข้อมูลในประเด็นใดบ้าง (การต่อหลอดไฟฟ้าแบบต่าง หลอดไฟฟา้ แบบใดที่เมอ่ื ถอดหลอดไฟฟ้าดวง ๆ เส้นทางการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าที่ต่อหลอด ใดดวงหน่ึงออกแล้ว ทำใหห้ ลอดไฟฟ้าท่เี หลอื ไฟฟ้าแต่ละแบบ และตัวอย่างการนำความรู้ของการต่อหลอดไฟฟ้า ยงั สว่างอยู่ แตล่ ะแบบไปใช้ประโยชน์) C2 การคดิ โดยใช้เหตผุ ลเพอ่ื ออกแบบการทดลอง 8. นักเรียนร่วมกันตั้งสมมตฐิ าน ระบุตัวแปรท่ีเก่ียวข้อง และเขียนขั้นตอนการ เก่ียวกับการต่อหลอดไฟฟา้ แบบใดท่ีเม่อื ถอด ทดลอง แล้วบนั ทึกลงในแบบบันทกึ กิจกรรมหน้า 149 จากนั้นครใู หน้ ักเรยี น หลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนงึ่ ออกแลว้ ทำให้ หลอดไฟฟา้ ท่ีเหลอื ยงั สว่างอยู่ ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี C4 การนำเสนอผลการทดลองและอภิปรายการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมและแบบขนาน รวมทัง้ ประโยชน์และขอ้ จำกัดของการตอ่ หลอดไฟฟ้า แตล่ ะแบบ C5 การทำงานร่วมกับผู้อื่นในการทดลอง การนำเสนอ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน C6 การใช้เทคโนโลยีช่วยในการสืบค้นข้อมลู เกยี่ วกบั เส้นทางการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าในวงจร ไฟฟ้า รวมถึงประโยชน์และข้อจำกัดของการต่อ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 422 นำเสนอก่อนเริ่มการทดลอง เพื่อให้คำแนะนำว่าสมมติฐานหรือตัวแปร หากนักเรียนไม่สามารถตอบ ดังกลา่ วสอดคล้องกบั ปัญหาการทดลองหรอื ไม่ คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว 9. นักเรียนแต่ละกลุ่มเริ่มทำกิจกรรมตามขั้นตอน ขณะที่นักเรียนทำกิจกรรม คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด ครคู วรใหค้ ำแนะนำและชว่ ยเหลอื ตามความจำเป็น อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน 10. เม่อื ทุกกล่มุ ทำการทดลอง และสังเกตผลทีเ่ กดิ ขน้ึ เสรจ็ เรียบร้อยแลว้ ครอู าจ และรับฟังแนวความคิดของ ให้นักเรียนนำเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรียน โดยครูอาจเขียนตาราง นกั เรียน บันทกึ ผลบนกระดานเพอ่ื ใช้เป็นขอ้ มลู ในการอภปิ รายต่อไป 11. นักเรยี นบันทกึ ผลการอภปิ รายในแบบบันทกึ กจิ กรรมหนา้ 150 12. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายผลการทดลอง โดยครอู าจใช้คำถามดงั น้ี 12.1 จากการทดลอง เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนึ่งออกจาก วงจรไฟฟ้าที่มีการต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบ หลอดไฟฟ้าที่เหลือใน วงจรไฟฟา้ แตล่ ะแบบจะทำงานแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แตกต่าง กัน เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าที่ต่อแบบเรียงกันออก 1 ดวง หลอดไฟฟ้าที่ เหลือจะดับ แต่เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าที่ต่อให้ขั้วหลอดไฟฟ้าดวงหน่ึง คร่อมกับขัว้ หลอดไฟฟ้าอีกดวงหน่ึง หลอดไฟฟา้ ท่ีเหลือยงั สว่างอย่)ู 12.2 จากผลการทดลอง เพราะเหตุใดเมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหน่ึง ออกจากวงจรไฟฟ้าที่มีการต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบ ผลที่ได้จึง แตกต่างกัน (เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหน่ึงออกจากวงจรไฟฟ้า ที่มีการต่อหลอดไฟฟ้าแบบเรียงกัน จะทำให้วงจรไฟฟ้าเปิด จึงไม่มี กระแสไฟฟ้าในวงจร หลอดไฟฟ้าทีเ่ หลือจึงดับ แตส่ ำหรับวงจรไฟฟ้า ที่มีการต่อหลอดไฟฟ้าให้ขั้วหลอดไฟฟ้าดวงหนึ่งคร่อมกับขั้วหลอด ไฟฟา้ อกี ดวงหน่ึง ถงึ แมจ้ ะถอดหลอดไฟฟ้าดวงหน่ึงออกซง่ึ มผี ลทำให้ เส้นทางส่วนนน้ั เป็นวงจรเปิด แต่ยงั มีเสน้ ทางอ่ืนท่ียงั เป็นวงจรปิด ทำ ให้มีกระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ในวงจรผ่านหลอดไฟฟ้าที่เหลือ ดังน้ัน หลอดไฟฟ้าทเี่ หลือยังคงสวา่ งอยู)่ 12.3 จากการสืบค้นข้อมูล วงจรไฟฟ้าที่มีการต่อหลอดไฟฟ้าแบบเรียงกัน และการต่อแบบหลอดไฟฟ้าแบบวางหลอดไฟฟ้าขนานกัน เราเรียก การต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละแบบว่าอะไร (การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ เรียงกัน เรียกว่าการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม ส่วนการต่อหลอด ไฟฟ้าแบบให้ขั้วหลอดไฟฟ้าดวงหนึ่งคร่อมกับขั้วหลอดไฟฟ้าอีกดวง หนง่ึ เรยี กวา่ การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน) 12.4 การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นการต่อแบบใด รู้ได้อยา่ งไร (การต่อ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมี 2 แบบ โดยมีทั้งการต่อวงจรไฟฟ้าที่ทำให้ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

423 คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ สามารถใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ และสามารถเปดิ ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมี ปิดการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างได้ โดยไม่ทำให้ แนวคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นหยุดการทำงานไปด้วย การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าใน การต่อหลอดไฟฟ้าแต่ละ บ้านลักษณะนี้จึงเป็นการต่อแบบขนาน รู้ได้จากเมื่อปิดหรือถอด แบบ ให้ร่วมกันอภิปรายจน เครื่องใช้ไฟฟ้าอันใดอันหนึ่ง เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นยังคงทำงานได้ นักเรยี นมแี นวคิดท่ถี ูกตอ้ ง นอกจากนี้การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างในบ้านจ ะมีสวิตช์หลั ก (หรือคัทเอ้าท์) เพื่อใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ในบา้ น ซง่ึ เมือ่ ยกสวติ ช์น้ีข้นึ จะทำใหว้ งจรไฟฟ้าในบ้านเป็นวงจรเปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างจะไม่ทำงาน จึงถือว่าการต่อวงจรไฟฟ้า ลักษณะนี้เป็นการต่อแบบอนุกรม รู้ได้จากเมื่อยกสวิตช์นี้ขึ้น เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ที่เหลือไมส่ ามารถทำงานได้) 13. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการต่อ หลอดไฟฟ้าแต่ละแบบ จากนั้นร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรปุ ว่าการตอ่ หลอดไฟฟ้ามี 2 แบบ คือ แบบอนุกรมและแบบขนาน การต่อหลอด ไฟฟา้ แตล่ ะแบบนำไปใช้ประโยชน์ไดแ้ ตกตา่ งกัน (S13) 14. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคำถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ คำถามเพิม่ เติมเพือ่ ให้ได้แนวคำตอบท่ถี ูกต้อง 15. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี้ จากนั้นนักเรียนอ่าน สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ และเปรียบเทียบกบั ขอ้ สรปุ ของตนเอง 16. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า ครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำถาม ของตนเองหน้าชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับคำถามท่ีเพื่อน นำเสนอ 17. ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขน้ั ตอนใด 18. นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเรื่องน้ี ในหนังสือเรียนหน้า 200 ครูนำ อภปิ รายเพอ่ื นำไปสูข่ อ้ สรุปเก่ียวกับสงิ่ ท่ไี ด้เรยี นรูใ้ นเรอื่ งนี้ ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า 424 แนวคำตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม ทดลอง สืบค้นข้อมูล และอธิบายการตอ่ หลอดไฟฟ้า แบบต่าง ๆ รวมท้ังบอกประโยชนแ์ ละขอ้ จำกัดในการใช้งาน หลอดไฟฟ้าสว่าง หลอดไฟฟ้าสว่าง สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

425 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ สมมตฐิ านที่นักเรยี นต้งั ควรแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของตวั แปรต้น คอื ลักษณะการตอ่ หลอดไฟฟา้ และตัวแปร ตาม คอื การทำงานของหลอดไฟฟา้ ทเ่ี หลือเม่อื ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง เชน่ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบตอ่ เรยี งกนั เมอื่ ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง มีผลทำใหห้ ลอดไฟฟ้าทเ่ี หลอื ดบั หมด แต่การต่อหลอดไฟฟ้าแบบต่อใหข้ ั้วหลอดไฟฟ้าดวงหน่งึ คร่อมกับขว้ั หลอดไฟฟา้ อีกดวงหนึ่ง เมอื่ ถอด หลอดไฟฟา้ ออก 1 ดวง มผี ลให้หลอดไฟฟา้ ดวงที่เหลอื ยงั สวา่ งอยู่ 1) ตวั แปรต้น คือ ลกั ษณะการตอ่ หลอดไฟฟ้า 2 ดวง 2) ตวั แปรตาม คือ การทำงานของ หลอดไฟฟ้าท่ีเหลือเมอื่ ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง 3) ตัวแปรที่ต้องควบคมุ ใหค้ งที่ คอื หลอดไฟฟา้ 2 ดวงที่เหมอื นกัน จำนวนเซลลไ์ ฟฟา้ เท่ากนั ลักษณะการตอ่ เซลล์ไฟฟ้าเหมือนกนั นกั เรียนออกแบบการทดลองตามความคดิ ของกลมุ่ เช่น 1. ต่อวงจรไฟฟ้า 2 วงจร โดยวงจรแรกตอ่ หลอดไฟฟ้าตามแบบท่ี 1 (ต่อเรยี งกนั ) เขา้ กบั วงจรไฟฟ้า และวงจรทีส่ องต่อหลอดไฟฟา้ ตามแบบที่ 2 (ตอ่ ใหข้ ั้วหลอดไฟฟ้าดวงหนงึ่ ครอ่ มกับข้ัวหลอดไฟฟ้าอีกดวงหนึง่ ) เขา้ กับวงจรไฟฟา้ 2. ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวงจากแตล่ ะวงจร สังเกตหลอดไฟฟ้าทเ่ี หลือในวงจร 3. เปรียบเทียบการทำงานของหลอดไฟฟ้าท่ีเหลอื ในวงจร เมือ่ ถอดหลอดไฟฟา้ ออก 1 ดวง นักเรยี นออกแบบการบันทึกผลการทดลองตามความคดิ ของกลุม่ ลกั ษณะการต่อหลอดไฟฟา้ ผลการทำงานของหลอดไฟฟ้าทเ่ี หลือในวงจร แบบท่ี 1 (ตอ่ เรยี งกัน) หลอดไฟฟ้าดบั แบบท่ี 2 (ต่อครอ่ มขวั้ ) หลอดไฟฟ้าสว่าง ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟา้ 426 เมอ่ื ต่อหลอดไฟฟ้าแบบตอ่ เรียงกัน 2 ดวง เม่อื ถอดหลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหน่งึ ออก ทำใหเ้ ปน็ วงจรเปดิ หลอดไฟฟา้ ทเี่ หลือในวงจรจงึ ดับ เพราะไม่มกี ระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า เมอ่ื ตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบต่อให้ขั้วหลอดไฟฟา้ ดวงหนงึ่ ครอ่ มกับข้วั หลอดไฟฟ้าอีกดวงหน่งึ เมื่อถอด หลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหนึ่งออก หลอดไฟฟา้ ดวงทเี่ หลือยงั สว่าง เพราะมีกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ในอีกเส้นทางหน่ึง ใช้ต่อกับสวิตช์ เพ่ือ เมื่อต่อหลอดไฟฟา้ ควบคุมวงจรไฟฟา้ แล้วหลอดไฟฟา้ ใหเ้ ปดิ หรอื ปิดได้ ดวงใดดวงหนึ่งดับ หรอื เสยี จะทำให้ แบบอนกุ รม หลอดไฟฟา้ ท่เี หลือ แบบขนาน ดับไปดว้ ย ใชต้ ่อเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าใน ใชส้ ายไฟฟ้าในการ บ้าน ท่ีสามารถเลอื กใช้ เชอื่ มตอ่ จำนวนมาก หรือถอดเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า มจี ุดเช่ือมต่อจำนวน ออกจากวงจร โดยที่ มาก เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอื่นยัง ทำงานได้ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

427 คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ การตอ่ หลอดไฟฟา้ ทำได้ 2 แบบ แบบแรก คอื การตอ่ แบบอนกุ รมเป็นการตอ่ หลอด ไฟฟ้าแบบต่อเรียงกัน ส่วนแบบท่สี อง คอื การต่อแบบขนาน เป็นการต่อหลอดไฟฟา้ แบบใหข้ ั้วหลอดไฟฟา้ ดวงหนึ่งครอ่ มกบั ขั้วหลอดไฟฟา้ อีกดวงหนึง่ ข้นึ อย่กู บั การตง้ั สมมติฐานของนกั เรยี น ผลการทดลองอาจจะเปน็ ไปตามสมมตฐิ านหรอื ไม่เป็นไปตามสมมติฐานก็ได้ การต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนาน เพราะเมื่อถอดหลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหนงึ่ ออกแล้ว แตย่ งั มีเสน้ ทางอ่นื ในวงจรไฟฟ้าทีก่ ระแสไฟฟา้ สามารถผา่ นได้ จึงทำให้หลอดไฟฟ้า ที่เหลอื ยังคงสว่างได้ การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนกุ รม เพราะเม่อื ถอดหลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหนึ่งออก จะทำให้ เสน้ ทางน้ันเปน็ วงจรเปิด ทำให้ไม่มกี ระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า ทำให้หลอดไฟฟ้าทีเ่ หลอื จึงดับ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า 428 การตอ่ หลอดไฟฟา้ ในบา้ นเป็นการตอ่ แบบขนาน เพราะเมือ่ ปดิ หลอดไฟฟา้ หรอื เคร่ืองใช้ไฟฟา้ อันใด อนั หน่ึง หลอดไฟฟ้าดวงอืน่ ๆ ยังคงสว่างอยู่ หรอื เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องอน่ื ยงั ทำงานได้ เพราะมี กระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้าผ่านหลอดไฟฟา้ หรือเคร่อื งใช้ไฟฟา้ ทเ่ี หลอื ในวงจรได้ ไฟประดับบางแบบเปน็ การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบขนาน เพราะถา้ หลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนง่ึ เสีย หลอดไฟฟา้ ดวงที่เหลือยงั สว่างได้ แต่ไฟประดับบางแบบเป็นการต่อแบบอนุกรม เพราะเมอ่ื หลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนงึ่ เสีย จะทำให้หลอดไฟฟา้ ดวงท่ีเหลอื จะดับไปด้วย การต่อหลอดไฟฟ้าทำได้ 2 แบบ คือ การต่อหลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม เมอ่ื ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง หลอดไฟฟา้ ทีเ่ หลอื จะดับหมด สว่ นการตอ่ แบบขนาน เมอ่ื ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง หลอดไฟฟา้ ทเ่ี หลอื ยงั คงสว่าง การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมอาจพบนำมาใชใ้ นไฟประดบั ตกแตง่ สถานที่ สว่ นการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบขนานนำใชส้ ำหรับการต่อหลอดไฟฟ้าภายในบา้ น การตอ่ หลอดไฟฟา้ มี 2 แบบ คือ แบบอนุกรมและแบบขนาน การตอ่ หลอดไฟฟ้า แต่ละแบบนำไปใชป้ ระโยชน์ไดแ้ ตกตา่ งกัน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

429 คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ คำถามของนักเรียนท่ีตั้งตามความอยากรขู้ องตนเอง          ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า 430 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรูข้ องนักเรยี นทำได้ ดังน้ี 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชั้นเรยี น 2. ประเมนิ การเรียนร้จู ากคำตอบของนักเรยี นระหว่างการจดั การเรียนรแู้ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทำกจิ กรรมของนกั เรยี น การประเมนิ จากการทำกิจกรรมที่ 3 หลอดไฟฟา้ ต่อกนั อยา่ งไร รหสั ส่งิ ที่ประเมิน คะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S6 การจัดกระทำและส่อื ความหมายขอ้ มลู S9 การต้ังสมมติฐาน S11 การกำหนดและควบคุมตวั แปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ C4 การสือ่ สาร C5 ความร่วมมือ C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่อื สาร รวมคะแนน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

431 คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้า ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ เกณฑก์ ารประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การสงั เกตและบรรยาย สามารถสงั เกตและ สามารถสงั เกตและ สามารถสังเกตและ รายละเอียดเกี่ยวกับการ บรรยายรายละเอียด บรรยายรายละเอยี ด บรรยายรายละเอียด ทำงานของหลอดไฟฟ้า เก่ยี วกบั การทำงานของ เกีย่ วกับการทำงาน เกยี่ วกบั การทำงานของ เม่อื ถอดหลอดไฟฟ้าออก หลอดไฟฟ้าเมอื่ ถอด ของหลอดไฟฟ้าเมื่อ หลอดไฟฟ้าเมือ่ ถอด 1 ดวง จากการต่อหลอด หลอดไฟฟา้ ออก 1 ดวง ถอดหลอดไฟฟา้ ออก หลอดไฟฟา้ ออก 1 ดวง ไฟฟ้าแบบต่าง ๆ ใน จากการต่อหลอดไฟฟ้า 1 ดวง จากการต่อ จากการต่อหลอดไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า แบบต่าง ๆ ใน หลอดไฟฟา้ แบบตา่ ง แบบตา่ ง ๆ ใน วงจรไฟฟ้าได้ถกู ต้องด้วย ๆ ในวงจรไฟฟา้ ได้ วงจรไฟฟ้าได้ถกู ต้อง ตนเอง โดยไม่เพ่ิมความ ถูกต้อง โดยไมเ่ พิ่ม เพยี งบางสว่ น แม้ว่าจะ คิดเห็นได้ดว้ ยตนเอง ความคดิ เหน็ ไดจ้ าก ไดร้ บั คำชีแ้ นะจากครู การชแ้ี นะของครูหรือ หรอื ผ้อู ื่น ผู้อ่ืน S6 การจดั กระทำ การเขียนแผนภาพการ สามารถเขียนแผนภาพ สามารถเขียน สามารถเขยี นแผนภาพ และส่อื ตอ่ วงจรไฟฟ้า และ การต่อวงจรไฟฟ้า และ แผนภาพการต่อ การต่อวงจรไฟฟา้ และ ความหมายข้อมูล ออกแบบตารางบันทึก ออกแบบตารางบันทึก วงจรไฟฟ้า และ ออกแบบตารางบันทึก ผลการทดลองที่แสดงผล ผลการทดลองทแี่ สดงผล ออกแบบตาราง ผลการทดลองท่ี ทเ่ี กิดข้นึ เมือ่ ถอดหลอด ท่เี กิดขึน้ เมื่อถอดหลอด บนั ทึกผลการทดลอง แสดงผลที่เกดิ ขึน้ เม่อื ไฟฟา้ ออก 1 ดวง จาก ไฟฟา้ ออก 1 ดวง จาก ที่แสดงผลที่เกดิ ขนึ้ ถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ เมื่อถอดหลอดไฟฟ้า ดวง จากการต่อหลอด ตา่ ง ๆ ในวงจรไฟฟ้า ต่าง ๆ ในวงจรไฟฟา้ ให้ ออก 1 ดวง จากการ ไฟฟ้าแบบต่าง ๆ ใน ผอู้ ่นื เข้าใจได้ดว้ ยตนเอง ต่อหลอดไฟฟ้าแบบ วงจรไฟฟ้าให้ผูอ้ นื่ ตา่ ง ๆ ในวงจรไฟฟา้ เขา้ ใจได้บางสว่ น แมว้ า่ ให้ผู้อื่นเข้าใจได้จาก จะไดร้ บั คำชีแ้ นะจาก การชีแ้ นะของครหู รือ ครูหรอื ผู้อ่ืน ผ้อู น่ื S9 การ การตง้ั สมมติฐานที่ สามารถตงั้ สมมตฐิ านที่ สามารถตงั้ สมมตฐิ าน สามารถตั้งสมมติฐานท่ี ตง้ั สมมตฐิ าน สอดคลอ้ งกับปัญหาการ สอดคล้องกับปญั หาการ ทสี่ อดคล้องกบั สอดคลอ้ งกับปญั หา ทดลองและสอดคลอ้ ง ทดลองและสอดคลอ้ ง ปัญหาการทดลอง การทดลองและ ระหวา่ งตัวแปรต้นและ ระหวา่ งตัวแปรตน้ และ และสอดคลอ้ ง สอดคลอ้ งระหว่างตัว ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟา้ 432 ทักษะ เกณฑ์การประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ ตวั แปรตามเก่ียวกับการ ตัวแปรตามเกยี่ วกับการ ระหว่างตัวแปรตน้ แปรตน้ และตัวแปรตาม ต่อหลอดไฟฟา้ แบบใดท่ี ตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบใดที่ และตัวแปรตาม เกยี่ วกับการต่อหลอด เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวง เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าดวง เก่ยี วกับการต่อหลอด ไฟฟ้าแบบใดทีเ่ ม่ือถอด ใดดวงหนึ่งออกแล้ว ทำ ใดดวงหน่งึ ออกแล้ว ทำ ไฟฟา้ แบบใดที่เมื่อ หลอดไฟฟ้าดวงใดดวง ใหห้ ลอดไฟฟ้าที่เหลือยัง ใหห้ ลอดไฟฟ้าที่เหลอื ยัง ถอดหลอดไฟฟ้าดวง หนึ่งออกแลว้ ทำให้ สวา่ งอยู่ สว่างอยู่ไดถ้ ูกต้องด้วย ใดดวงหน่งึ ออกแล้ว หลอดไฟฟา้ ทเี่ หลือยัง ตนเอง ทำให้หลอดไฟฟา้ ท่ี สว่างอยู่ไดถ้ ูกต้องเพียง เหลือยงั สวา่ งอยู่ได้ บางสว่ น แม้จะได้รับคำ ถูกต้องจากการช้ีแนะ ชี้แนะจากครูหรือผูอ้ ่ืน ของครูหรือผู้อ่ืน S11 การกำหนด การบอกตัวแปรต้น ตัว สามารถบอกตัวแปรตน้ สามารถบอกตัวแปร สามารถบอกตัวแปรต้น และควบคุมตวั แปรตามและตัวแปรที่ ตัวแปรตามและตวั แปรท่ี ต้น ตวั แปรตามและ หรือ ตวั แปรตาม หรือ แปร ต้องควบคุมใหค้ งท่ีได้ ตอ้ งควบคุมใหค้ งที่ได้ ตวั แปรท่ตี ้องควบคุม ตัวแปรทีต่ ้องควบคมุ ให้ สอดคลอ้ งกับปญั หาการ สอดคล้องกับปญั หาการ ใหค้ งท่ีไดส้ อดคล้อง คงทไี่ ดส้ อดคลอ้ งกับ ทดลองเกยี่ วกบั การตอ่ ทดลองเก่ียวกับการตอ่ กับปญั หาการทดลอง ปญั หาการทดลอง หลอดไฟฟา้ แบบใดทีเ่ มื่อ หลอดไฟฟ้าแบบใดท่เี ม่ือ เก่ียวกับการต่อหลอด เกีย่ วกบั การต่อหลอด ถอดหลอดไฟฟ้าดวงใด ถอดหลอดไฟฟ้าดวงใด ไฟฟ้าแบบใดทเี่ มื่อ ไฟฟ้าแบบใดท่เี มื่อถอด ดวงหนึ่งออกแล้ว ทำให้ ดวงหน่งึ ออกแลว้ ทำให้ ถอดหลอดไฟฟา้ ดวง หลอดไฟฟ้าดวงใดดวง หลอดไฟฟ้าทีเ่ หลือยัง หลอดไฟฟ้าทเ่ี หลอื ยัง ใดดวงหนงึ่ ออกแล้ว หนงึ่ ออกแล้ว ทำให้ สว่างอยู่ สว่างอยู่ไดถ้ ูกต้องดว้ ย ทำใหห้ ลอดไฟฟา้ ท่ี หลอดไฟฟา้ ท่ีเหลอื ยัง ตนเอง เหลือยงั สวา่ งอยู่ได้ สว่างอยู่ไดถ้ ูกต้องเพียง ถูกต้อง จากการ บางสว่ น แมจ้ ะได้รับคำ ช้ีแนะของครหู รือ ชี้แนะจากครหู รือผ้อู ่ืน ผอู้ น่ื S12 การทดลอง การออกแบบการทดลอง สามารถออกแบบการ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบการ โดยมขี ัน้ ตอนเหมาะสม ทดลอง โดยมขี น้ั ตอน การทดลอง โดยมี ทดลอง โดยมีข้ันตอน และออกแบบตาราง เหมาะสม และออกแบบ ขนั้ ตอนเหมาะสม เหมาะสม แต่อาจ บนั ทกึ ผลได้สอดคล้อง ตารางบันทกึ ผลได้ และออกแบบตาราง ออกแบบตารางบนั ทึก กับการทดลองเกีย่ วกบั สอดคล้องกับการทดลอง บันทกึ ผลได้ ผลไดไ้ มส่ อดคล้องกับ การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ เก่ยี วกับการต่อหลอด สอดคลอ้ งกบั การ การทดลองเกี่ยวกับการ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

433 ค่มู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ ทักษะ เกณฑก์ ารประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ ใดทเ่ี มื่อถอดหลอดไฟฟ้า ไฟฟา้ แบบใดทีเ่ มื่อถอด ทดลองเกี่ยวกบั การ ต่อหลอดไฟฟ้าแบบใด ดวงใดดวงหน่งึ ออกแลว้ หลอดไฟฟา้ ดวงใดดวง ต่อหลอดไฟฟา้ แบบ ทีเ่ ม่อื ถอดหลอดไฟฟา้ ทำใหห้ ลอดไฟฟา้ ทีเ่ หลือ หน่งึ ออกแล้ว ทำให้ ใดที่เมื่อถอดหลอด ดวงใดดวงหนงึ่ ออกแลว้ ยังสวา่ งอยู่ หลอดไฟฟ้าท่เี หลือยัง ไฟฟา้ ดวงใดดวงหนึ่ง ทำใหห้ ลอดไฟฟ้าที่ สวา่ งอยู่ไดถ้ ูกต้องด้วย ออกแลว้ ทำให้หลอด เหลือยงั สวา่ งอยู่ แมจ้ ะ ตนเอง ไฟฟ้าที่เหลือยังสว่าง ไดร้ บั คำชี้แนะจากครู อยู่ได้ถูกต้องจากการ หรอื ผู้อื่น ชี้แนะของครูหรือ ผอู้ ่ืน S13 การตีความ การตีความหมายข้อมลู ท่ี สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย หมายขอ้ มูลและ ไดจ้ ากการสังเกต และ ข้อมลู ท่ีได้จากการ ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการ ข้อมลู ท่ีได้จากการ ลงข้อสรปุ นำมาลงข้อสรปุ ได้ ทดลอง การสืบค้นข้อมลู ทดลอง การสบื ค้น ทดลอง การสบื คน้ ครบถ้วนว่า การตอ่ และนำมาลงข้อสรุปได้ ขอ้ มูล และนำมาลง ขอ้ มลู และนำมาลง หลอดไฟฟา้ มี 2 แบบ ครบถว้ นวา่ การต่อหลอด ขอ้ สรุปได้ครบถ้วนวา่ ข้อสรปุ ได้เพียงบางส่วน คือแบบอนุกรมและแบบ ไฟฟา้ มี 2 แบบ คือแบบ การต่อหลอดไฟฟ้ามี วา่ การต่อหลอดไฟฟา้ มี ขนาน การต่อหลอด อนกุ รมและแบบขนาน 2 แบบ คอื แบบ 2 แบบ คอื แบบอนุกรม ไฟฟา้ แตล่ ะแบบนำไปใช้ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแต่ละ อนกุ รมและแบบ และแบบขนานได้ แต่ ประโยชน์ไดแ้ ตกต่างกนั แบบนำไปใช้ประโยชน์ ขนาน การต่อหลอด สรปุ ประโยชน์ของการ ไดแ้ ตกตา่ งกนั ไดด้ ้วย ไฟฟา้ แต่ละแบบ ตอ่ หลอดไฟฟา้ แต่ละ ตนเอง นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ แบบไดบ้ างสว่ น แมจ้ ะ แตกต่างกนั ไดจ้ าก ได้รบั คำช้ีแนะจากครู การช้ีแนะของครูหรือ หรอื ผู้อื่น ผ้อู น่ื ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟา้ 434 ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ระดับความสามารถ ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) C2 การคดิ การคิดโดยใชเ้ หตผุ ล สามารถคิดโดยใชเ้ หตผุ ล สามารถคิดโดยใชเ้ หตผุ ล สามารถคดิ โดยใช้เหตผุ ล อยา่ งมี เพอ่ื ออกแบบการ เพือ่ ออกแบบการทดลอง เพ่อื ออกแบบการทดลอง เพอื่ ออกแบบการ วิจารณญาณ ทดลองเกยี่ วกับการต่อ เกยี่ วกับการต่อหลอด เกย่ี วกบั การต่อหลอด ทดลองเกยี่ วกับการต่อ หลอดไฟฟ้าแบบใดที่ ไฟฟ้าแบบใดทเ่ี มื่อถอด ไฟฟา้ แบบใดท่เี ม่ือถอด หลอดไฟฟ้าแบบใดท่ี เมือ่ ถอดหลอดไฟฟ้า หลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหนึ่ง หลอดไฟฟ้าดวงใดดวง เม่ือถอดหลอดไฟฟ้าดวง ดวงใดดวงหน่งึ ออกแล้ว ออกแลว้ ทำให้หลอดไฟฟา้ หนึ่งออกแลว้ ทำให้หลอด ใดดวงหนึ่งออกแล้ว ทำ ทำใหห้ ลอดไฟฟา้ ที่ ทีเ่ หลอื ยังสว่างอยู่ไดถ้ ูก ไฟฟา้ ทเี่ หลือยังสว่างอยู่ ใหห้ ลอดไฟฟ้าทีเ่ หลอื ยัง เหลือยังสวา่ งอยู่ ด้วยตนเอง ได้ถูกตอ้ งจากการช้แี นะ สว่างอยู่ไดถ้ ูกต้อง ของครูหรอื ผู้อน่ื บางสว่ น แมว้ า่ จะได้ รบั คำชแ้ี นะจากครหู รอื ผู้อื่น C4 การสอื่ สาร การนำเสนอผลการ สามารถนำเสนอผลการ สามารถนำเสนอผลการ สามารถนำเสนอผลการ ทดลองและอภิปราย ทดลองและอภิปรายการ ทดลองและอภปิ รายการ ทดลองและอภปิ รายการ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ ตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ ต่อหลอดไฟฟ้าแบบ ต่อหลอดไฟฟา้ แบบ อนุกรม และแบบขนาน อนกุ รม และแบบขนาน อนุกรม และแบบขนาน อนุกรม และแบบขนาน รวมทง้ั ประโยชนแ์ ละ รวมทงั้ ประโยชนแ์ ละ รวมท้ังประโยชน์และ รวมทัง้ ประโยชนแ์ ละ ขอ้ จำกัดของการตอ่ ข้อจำกัดของการต่อหลอด ขอ้ จำกดั ของการตอ่ ข้อจำกดั ของการต่อ หลอดไฟฟา้ แต่ละแบบ ไฟฟา้ แต่ละแบบให้ผู้อื่น หลอดไฟฟ้าแต่ละแบบให้ หลอดไฟฟ้าแต่ละแบบ ใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจ เขา้ ใจได้ถกู ต้องด้วยตนเอง ผ้อู ื่นเขา้ ใจได้ถูกต้องจาก ใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจได้ถูกต้อง การชแ้ี นะของครหู รือผู้อ่ืน เพียงบางส่วน แม้วา่ จะ ได้รับคำชแี้ นะจากครู หรอื ผูอ้ ืน่ C5 ความ การทำงานร่วมกับผ้อู ืน่ สามารถทำงานร่วมกบั สามารถทำงานร่วมกับ สามารถทำงานร่วมกับ รว่ มมือ ในการทดลอง การ ผู้อนื่ ในการทดลอง การ ผ้อู น่ื ในการทดลอง การ ผูอ้ ื่นในการทดลอง การ นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง ความคดิ เหน็ เพ่อื ความคดิ เหน็ เพ่ืออธิบาย ความคดิ เหน็ เพ่อื อธิบาย ความคดิ เหน็ เพื่ออธบิ าย อธิบายเกยี่ วกับการต่อ เกี่ยวกับการต่อหลอด เกีย่ วกบั การต่อหลอด เก่ียวกบั การต่อหลอด หลอดไฟฟา้ ทง้ั แบบ ไฟฟา้ ท้ังแบบอนุกรมและ ไฟฟ้าทงั้ แบบอนุกรมและ ไฟฟ้าทัง้ แบบอนุกรม อนุกรมและแบบขนาน แบบขนาน รวมท้งั ยอมรบั แบบขนาน รวมทงั้ และแบบขนาน รวมท้ัง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

435 คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟา้ ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) รวมทัง้ ยอมรับความ ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื คิดเหน็ ของผูอ้ ืน่ ตลอดเวลาทที่ ำกิจกรรม ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็น ยอมรับฟงั ความคดิ เห็น ของผู้อน่ื เปน็ บางชว่ งเวลา ของผู้อน่ื เป็นบาง ที่ทำกิจกรรม ช่วงเวลาทท่ี ำกจิ กรรม ท้งั นีต้ อ้ งอาศยั การ กระตนุ้ จากครหู รือผอู้ ืน่ C6 การใช้ การใช้เทคโนโลยีชว่ ยใน สามารถใช้เทคโนโลยีชว่ ย สามารถใชเ้ ทคโนโลยชี ว่ ย สามารถใชเ้ ทคโนโลยี เทคโนโลยี การสืบค้นข้อมูลจาก ในการสบื ค้นข้อมลู จาก สารสนเทศและ แหลง่ ข้อมูลท่ีมีความ แหลง่ ขอ้ มลู ท่ีมีความ ในการสืบคน้ ข้อมูลจาก ช่วยในการสบื คน้ ข้อมูล การสอื่ สาร นา่ เช่ือถือเกีย่ วกบั น่าเชื่อถือเก่ียวกบั เส้นทาง แหล่งขอ้ มลู ที่มีความ เกีย่ วกับเสน้ ทางการ เสน้ ทางการเคลอ่ื นท่ี การเคลอ่ื นท่ขี องกระแส ของกระแสไฟฟ้าใน ไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า น่าเชอ่ื ถอื เกี่ยวกับเสน้ ทาง เคลื่อนที่ของกระแส วงจรไฟฟ้า ประโยชน์ ประโยชน์ของการต่อ ของการตอ่ หลอดไฟฟ้า หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม การเคลือ่ นที่ของกระแส ไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม และแบบ และแบบขนานใน ขนานในชีวติ ประจำวัน ชีวิตประจำวนั ได้ด้วย ไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ประโยชน์ของการตอ่ ตนเอง ประโยชนข์ องการตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรม และแบบขนานในชีวติ และแบบขนานในชวี ติ ประจำวันแตอ่ าจมาจาก ประจำวนั ได้จากการ แหล่งที่ไมน่ ่าเชื่อถือ ช้แี นะของครูหรือผอู้ นื่ เท่าทคี่ วรแมว้ า่ จะไดร้ บั การชแ้ี นะจากครูหรอื ผอู้ ่ืน ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า 436 กิจกรรมท้ายบทท่ี 2 วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย (0.5 ช่ัวโมง) 1. นกั เรียนวาดรูปหรอื เขยี นสรปุ สิ่งที่ไดเ้ รียนรจู้ ากบทน้ี ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา้ 154 2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ ผังมโนทัศน์สรุปเนื้อหาประจำบทในหัวข้อ รู้อะไรในบทนี้ ในหนังสือเรียน หน้า 202 3. นักเรียนกลบั ไปตรวจสอบคำตอบของตนเองในสำรวจความรู้ก่อนเรยี น ใน แบบบันทึกกิจกรรม หน้า 126-127 อีกครั้ง ถ้าคำตอบของนักเรียนไม่ ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านั้น หรือใช้ดินสอสีอื่นแก้ไขให้ถูกต้อง นอกจากนี้ครูอาจนำคำถามในรูปนำบทในหนังสือเรียน หน้า 170 มาร่วม กันอภปิ รายคำตอบอกี คร้งั ดงั นี้ การทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างได้จะต้องทำอย่างไร (ต่อหลอดไฟฟ้า เข้ากบั เซลล์ไฟฟา้ ดว้ ยสายไฟฟ้าใหค้ รบวงจร หรอื เป็นวงจรปดิ ) 4. นักเรียนทำ แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 2 วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ในแบบบันทึก กิจกรรมหน้า 155-158 จากนั้นนำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรียน ถ้าคำตอบยัง ไม่ถูกต้องครูควรนำอภิปรายหรือให้สถานการณ์เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขแนวคิด คลาดเคล่ือนใหถ้ กู ต้อง 5. นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม ร่วมคิด ร่วมทำ โดยร่วมกันระดมความคิดใน การออกแบบบ้านจำลองท่ีแสดงการต่อวงจรไฟฟ้าที่มเี คร่ืองใช้ไฟฟ้าภายใน บา้ นหลายชนดิ 6. นักเรียนอ่านและอภิปรายเนื้อเรื่องในหัวข้อวิทย์ใกล้ตัว ในหนังสือเรียน หน้า 205 โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำคัญของความรู้จากสิ่งที่ได้ เรยี นรู้ในหน่วยนี้ว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ได้อย่างไร 7. นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามสำคญั ประจำหน่วยอกี คร้งั ดงั นี้ - ประจุไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับชีวติ ประจำวันของเราอยา่ งไร (ประจุไฟฟ้าบน วัตถุบางชนิดที่ผ่านการถูจะทำให้เกิดแรงไฟฟ้า ซึ่งทำให้เกิด ปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น การใชห้ วีหวีผมแลว้ เสน้ ผมถกู ดึงดูดติดกับหวี นอกจากนี้ประจุไฟฟ้าที่เคล่ือนท่ีหรือกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ จะทำ ให้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าต่าง ๆ ทำงานได้) ถ้าคำตอบยังไม่ถูกต้อง ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้คำตอบท่ี ถกู ต้อง สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

437 ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลังงานไฟฟา้ สรุปผลการเรยี นร้ขู องตนเอง รปู หรอื ข้อความสรุปสิ่งท่ไี ด้เรยี นรู้จากบทนตี้ าม ความเข้าใจของนกั เรียน ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟา้ 438 แนวคำตอบในแบบฝกึ หัดทา้ ยบท สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

439 คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หน่วยที่ 6 แรงไฟฟา้ และพลงั งานไฟฟ้า   เมอ่ื วงจรไฟฟ้าเปิด จะไมม่ กี ระแสไฟฟา้ ผา่ นจากเซลล์ไฟฟา้ มายังสายไฟฟา้   การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนานมคี วามแตกตา่ ง กนั ทลี่ กั ษณะการตอ่ หลอดไฟฟา้ เมื่อถอดหลอดไฟฟ้าออก 1 ดวง หลอดไฟฟา้ ทีเ่ หลือในวงจร ท่ตี อ่ แบบอนกุ รมจะดบั ด้วย แตห่ ลอดไฟฟ้าทเ่ี หลอื ในวงจรที่ต่อแบบขนานจะยังคงสวา่ งอยู่  สวติ ช์มหี นา้ ที่ควบคมุ วงจรไฟฟา้ ใหเ้ ป็นวงจปดิ หรือวงจรเปิดได้ โดยตอ่ แบบอนกุ รมเขา้ กับวงจรไฟฟ้า ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 6 แรงไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้า 440 ชอ่ งเสียบ ช่องเสยี บ ของเตา้ เสียบ ของเต้าเสยี บ ต่อกบั ไฟบ้าน ตอ่ กบั ไฟบ้าน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

441 คู่มือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 6 แรงไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้า ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 2 | แบบทดสอบท้ายเล่ม 442 แนวคำตอบในแบบทดสอบทา้ ยเล่ม

443 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 2 | แบบทดสอบท้ายเลม่ 444

445 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 2 | แบบทดสอบท้ายเลม่ 446

447 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 2 | แบบทดสอบท้ายเลม่ 448

449 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 2 | แบบทดสอบท้ายเลม่ 450

451 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 2 | แบบทดสอบท้ายเลม่ 452

453 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เลม่ 2 | แบบทดสอบทา้ ยเล่ม