โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ สสวท ป2

โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ สสวท ป2

หลักสูตร

หลักสูตรวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

สสวท. ได้วิจัยและพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัยและเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย อาทิเช่น ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง หนังสือเรียน คู่มือครู สื่อการเรียนรู้ เอกสารเสริม เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนครูของและเป็นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทยมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนใช้ชีวิตในโลกอนาคตได้อย่างมีความสุข

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

  • มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
  • ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
    • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ ได้กำหนดสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออกเป็น 4 สาระ ได้แก่

สาระที่ 1
วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

สาระที่ 3
วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

สาระที่ 2
วิทยาศาสตร์กายภาพ

สาระที่ 4
เทคโนโลยี

มีสาระเพิ่มเติม 4 สาระ ได้แก่ สาระชีววิทยา สาระเคมี สาระฟิสิกส์ และสาระโลกดาราศาสตร์และอวกาศ

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ ได้กำหนดสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ออกเป็น 3 สาระ ได้แก่

สาระที่ 1
จำนวนและพีชคณิต

สาระที่ 3
สถิติและความน่าจะเป็น

สาระที่ 2
การวัดและเรขาคณิต

โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ สสวท ป2

โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ สสวท ป2

การออกแบบการจัดการเรียนรอู งิ มาตรฐานการเรยี นรู กลมุ สาระการเรียนรู วทิ ยาศาสตร วชิ า วิทยาศาสตร รหัสวิชา ว12101 ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 2 โดย ชื่อ นางอมลสิริ คาํ ฟู ตาํ แหนง พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 จังหวดั เชยี งใหม สํานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ผงั มโนทศั น รายวิชาวิทยาศาสตร รหัสวิชา ว 12101 ระดับชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 2 หนว ยที่ 1 (20 ชั่วโมง) หนวยท่ี 2 (15ช่วั โมง) สงิ่ มีชวี ิต ดินบานเรา รายวชิ าวิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 2 จํานวน 80 ช่ัวโมง หนว ยที่ 3 (15 ช่ัวโมง) หนว ยท่ี 4 (15 ชวั่ โมง) ของเลนของใช แรงในธรรมชาติ หนว ยที่ 5 (15 ช่วั โมง) พลังงาน

คําอธบิ ายรายวชิ า รายวิชา วทิ ยาศาสตร กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1-2 รหสั วชิ า ว 12101 เวลา 80 ช่วั โมง/ป ศกึ ษาและวเิ คราะห สิ่งทม่ี ีชวี ติ กบั สง่ิ ท่ีไมม ชี วี ิต หนาทข่ี องโครงสรางตางๆ ของพชื และสัตว ปจ จัยการดาํ รงชวี ิต การถา ยทอดลกั ษณะ ความสมั พนั ธข องสิ่งมีชวี ิตกับสงิ่ แวดลอ ม การใชท รพั ยากรธรรมชาติ ปญ หาของ ทรัพยากรธรรมชาติ การทําของเลน ของใชใ นชวี ิตประจาํ วัน และคุณสมบัตขิ องวัสดุ ดินและสวนประกอบของดิน แหลง นํ้าในทอ งถน่ิ อากาศรอบๆ ตัวเรา อณุ หภูมขิ องอากาศ จักรวาลและอวกาศ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร การสบื เสาะหาความรู การสาํ รวจ ตรวจสอบ การสืบคนขอ มลู และการ อภปิ ราย เพ่ือใหเ กิดความรู ความคดิ ความเขาใจ สามารถสื่อสารสง่ิ ท่ีเรียนรู มีความสามารถในการตัดสินใจนําความรูไป ใชใ นชีวติ ประจําวัน มีจริยธรรม คุณธรรมและคา นิยมทีเ่ หมาะสม ตวั ชว้ี ดั ว 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5 ว 1.2 ป.2/1 ว 3.1 ป.2/1, ป.2/2 ว 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 ว 5.1 ป.2/1, ป.2/2 ว 6.1 ป.2/1 ว 7.1 ป.2/1 ว 8.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7 รวม 22 ตัวช้ีวดั

การจัดทาํ โครง รายวิชา วิทยาศาสตร รหัสวิชา 12101 ช้ัน ท่ี ช่ือหนวย รหัส มฐ. ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู เจริญเ 1 สง่ิ มีชวี ิต พชื มีก ว1.1 ป.2/1ทดลองและอธิบาย น้ํา แสง เปน พชื มีป ปจ จัยที่จําเปนตอ การดํารงชวี ิตของพืช เครอ่ื ง ว1.1 ป.2/2อธบิ ายอาหาร นาํ้ อากาศ เปน ตองอ ปจ จยั ที่จําเปน ตอการดาํ รงชวี ิต และการ ไดแ ก เจริญเตบิ โตของพืชและสตั วแ ละนาํ ความรูไป ใชป ระโยชน ธรรมช อาหา ว1.1 ป.2/3สาํ รวจและอธบิ าย พืชและสัตว เน้ือสัต สามารถตอบสนองตอแสง อุณหภูมิ และการ อาหา สมั ผสั ว1.1 ป.2/4ทดลองและอธบิ าย รางกายของ มนุษยส ามารถ ตอบสนองตอ แสง อณุ หภมู ิ และการสมั ผสั ว1.1 ป.2/5อธบิ ายปจจยั ที่ จําเปนตอการดาํ รงชวี ิต และการเจรญิ เติบโต ของมนุษย ว1.2 ป.2/1อธบิ ายประโยชนของพชื และสัตว ในทอ งถ่ิน

งสรางรายวิชา นประถมศกึ ษาปท ี่ 2 จํานวน 80 ชั่วโมง สาระสําคัญ เวลา นํ้าหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม ปจจัยที่จําเปน ตอการดํารงชีวติ และการ เติบโตของพชื ไดแ ก นา้ํ แสง อาหาร และอากาศ การตอบสนองตอแสง อุณหภมู ิ และการสัมผัส ประโยชนตอ มนุษย คือ เปนอาหาร ที่อยอู าศยั งนงุ หม และยารักษาโรค สตั วต าง ๆ สามารถดํารงชีวติ และเจริญเตบิ โตได 20 642 12 อาศัยปจจยั ทจ่ี ําเปน ตอ การดํารงชีวติ และเจริญเติบโต อาหาร นา้ํ อากาศ และที่อยูอาศัย สัตวแ ตละชนิดกินอาหารแตกตา งกัน ข้นึ อยกู ับ ชาติของสัตว ซง่ึ สามารถแบง สตั วต ามเกณฑการกิน ารได 3 ประเภท คือ สตั วกินพืชเปน อาหาร สัตวก นิ ตวเ ปน อาหาร และสตั วก นิ ทง้ั พืชและสตั วเปน าร

ท่ี ช่ือหนวย รหสั มฐ. ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู 2. ดนิ บา นเรา ว6.1 ป2/1สํารวจและจําแนกประเภทของดนิ 3. ของเลน ของใช โดยใชส มบตั ิทางกายภาพเปน เกณฑ และนํา กายภ 4. แรงในธรรมชาติ ดินทร ความรูไปใชประโยชน ว3.1 ป2/1สังเกตและระบลุ ักษณะที่ปรากฏ แตกต หรือสมบตั ขิ องวสั ดทุ ี่ใชทําของเลน ของใชใ น ปลูกใ ชีวติ ประจาํ วัน ตอ งก ผา นได ว3.1 ป2/2จาํ แนกวัสดุทใี่ ชทําของเลนของใช ดนิ ทร ในชวี ิตประจําวันรวมทง้ั ระบเุ กณฑทใี่ ชจาํ แนก ๆ เช การซมึ แตกต สมบตั ว4.1 ป2/1ทดลองและอธิบายแรงทีเ่ กดิ จาก แม แมเ หล็ก แมเหล เหล็ก ว4.1 ป2/2อธิบายการนาํ แมเหลก็ มาใช ดงึ ดดู ประโยชน 2 แทง เม่อื นํา ว4.1 ป2/3ทดลองและอธบิ ายแรงไฟฟา ที่เกิด แรงผล จากการถูวัตถบุ างชนดิ เรยี กว แมเ หล

สาระสําคญั เวลา น้าํ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม ดินแบง ออกเปน 3 ประเภท ตามสมบัติทาง 15 642 12 ภาพของดิน ไดแ ก ดนิ เหนียว ดินรว น 15 642 12 ราย พืชแตล ะชนดิ ตองการดนิ ในการเจริญเตบิ โตท่ี ตา งกนั โดยพชื ทีต่ องการนา้ํ มาก ควร ในดนิ เหนยี ว เน่อื งจากนํ้าซมึ ผา นไดช า พืชที่ การน้าํ ปานกลาง ควรปลูกในดนิ รว นเนื่องจากน้ําซึม ดปานกลาง สวนพชื ที่ตอ งการนํา้ นอย ควรปลูกใน ราย เน่ืองจากนาํ้ ซึมผานไดเร็ว สมบตั ขิ องวัสดุ คอื ลกั ษณะเฉพาะของวสั ดุนน้ั ชน ลกั ษณะพน้ื ผวิ น้าํ หนัก ความแข็ง ความยดื หยนุ มนํา้ วตั ถุแตละชนดิ ทําจากวัสดทุ ีม่ ีสมบตั ิของวัสดทุ ่ี ตา งกนั ตามลักษณะ การใชงาน และวสั ดแุ ตละชนิดมี ตขิ องวสั ดุแตกตางกัน มเ หล็กมสี มบตั ิสามารถดึงดูดวตั ถทุ ี่ทาํ ดวยสาร 15 642 12 ล็ก โดยสารแมเหล็ก คือ วสั ดุท่เี ปนโลหะ ไดแ ก เหล็กกลา นกิ เกลิ และโคบอลต แมเหล็กมแี รง ดและแรงผลกั ระหวางแทงแมเ หลก็ เมื่อนําแมเหลก็ งที่มีขว้ั ตางกันเขาใกลกัน จะมแี รงดงึ ดูดเกิดขึ้น และ าแมเ หลก็ 2 แทงท่ีมีขั้วเหมอื นกันเขาใกลก ัน จะมี ลกั เกิดขน้ึ สวนของแมเ หล็กที่ดึงดดู เหล็กไดด ีที่สุด วา ขว้ั โดยขั้วจะอยตู รงบรเิ วณปลายท้ัง 2 ขางของ ล็ก

ท่ี ชื่อหนวย รหสั มฐ. ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู แหลง 5. พลังงาน พลงั งา ว5.1 ป2/1ทดลองและอธบิ ายไดวา ไฟฟา เปน เคลือ่ น พลงั งาน ทําหน ว5.1 ป2/2สาํ รวจและยกตัวอยาง แบตเต เคร่ืองใชไฟฟาในบานที่เปล่ยี นพลังงานไฟฟา ต้ังแต เปนพลงั งานอ่นื พลงั งา ว7.1 ป2/1สืบคน และอภิปรายความสําคัญ แบง เป ของดวงอาทติ ย วดั ผลกลางภาค วดั ผลปลายภาค รวมท้ังสิ้น

สาระสําคัญ เวลา นาํ้ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม งกําเนดิ ไฟฟา คือ แหลงกาํ เนิดพลังงาน าน คือ ความสามารถในการทาํ ใหวัตถุทาํ งานหรือ 15 642 12 นท่ีได เซลลไฟฟา หรือ เซลลไฟฟาเคมี คอื เซลลท ี่ นาที่เปล่ยี นรปู พลังงานเคมีไปเปนพลงั งานไฟฟา ตอรี่ คือ แหลงกาํ เนดิ ไฟฟาทมี่ กี ารนําเซลลไ ฟฟา ต 2 เซลลมาตอเขา ดวยกัน เพ่ือใหส ามารถผลติ านไฟฟาไดมากขึน้ ประเภทของแบตเตอร่ี ปน 2 ประเภท 10 5 5 20 10 5 5 20 80 60 20 20 100

การวิเคราะหมาต วิชา วทิ ยาศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 2 มาตรฐานและตวั ช้ีวัด รอู ะไร ทาํ อะไร ว1.1 ป.2/1ทดลองและอธิบาย นํา้ แสง รูอะไร เปนปจ จยั ทจ่ี าํ เปนตอ การดํารงชีวิตของ ปจ จยั ทจ่ี ําเปน ตอการดํารงชีวิตและกา พชื ว1.1 ป.2/2อธบิ ายอาหาร นาํ้ อากาศ เจรญิ เตบิ โตของพืช ไดแ ก นา้ํ แสง เปน ปจ จยั ทีจ่ ําเปนตอ การดาํ รงชีวิต และ อาหาร และอากาศ การเจรญิ เตบิ โตของพืชและสัตวแ ละนาํ พืชมกี ารตอบสนองตอแสง อุณหภมู ิ และ ความรูไปใชป ระโยชน การสัมผสั ว1.1 ป.2/3สาํ รวจและอธบิ าย พืชและ พชื มีประโยชนต อ มนษุ ย คือ เปน อาหาร สัตวส ามารถตอบสนองตอแสง อณุ หภูมิ อยูอาศยั เครื่องนงุ หม และยารกั ษาโรค และการสัมผัส ว1.1 ป.2/4ทดลองและอธบิ าย รางกาย สัตวตา ง ๆ สามารถดาํ รงชีวิตและ ของมนุษยสามารถ ตอบสนองตอ แสง เจริญเติบโตไดตองอาศัยปจ จัยทจี่ าํ เปนตอ อณุ หภมู ิ และการสมั ผสั การดํารงชีวิตและเจรญิ เติบโต ไดแ ก ว1.1 ป.2/5อธิบายปจจยั ทีจ่ ําเปนตอการ อาหาร นาํ้ อากาศ และท่ีอยอู าศยั ดํารงชวี ติ และการเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย สตั วแ ตล ะชนดิ กินอาหารแตกตางกัน ว1.2 ป.2/1อธิบายประโยชนของพชื และ ข้นึ อยกู ับธรรมชาติของสตั ว ซึ่งสามารถ สตั วใ นทอ งถ่ิน แบง สตั วต ามเกณฑการกินอาหารได 3 ประเภท คอื สัตวกินพืชเปนอาหาร สัตว กนิ เน้ือสตั วเปนอาหาร และสัตวก นิ ทั้ง พชื และสตั วเปน อาหาร ทําอะไร - ทดลองและอธิบาย ปจ จยั ที่จาํ เปนตอ การดาํ รงชวี ติ ของพืช และการ

ตรฐานและตัวช้วี ัด ชอ่ื หนวย สิ่งมชี วี ิต ( จํานวน 20 ชว่ั โมง ) ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาํ คญั คณุ ลักษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อนั พงึ ประสงค - ใบงาน 1. ความสามารถใน าร - ชดุ การทดลอง การสอ่ื สาร 1. ความ 1. ใฝเ รยี นรู 2. ความสามารถใน กระตือรอื รน 2. มงุ มัน่ ในการ - แบบทดสอบ การคิด 2. ความสนใจ ทาํ งาน ะ 3. มวี ินัย ที่ อ ว

เจรญิ เตบิ โตของพืชและสตั ว และ ประโยชนของพืชในทองถ่นิ - ศึกษาองคป ระกอบรางกายมนษุ ยและ การเจรญิ เติบโตของมนุษย

การวเิ คราะหม าต วชิ า วิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 2 มาตรฐานและตัวชวี้ ัด รูอะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ช้นิ งาน ว6.1 ป2/1สํารวจและ รูอ ะไร - ใบงาน จําแนกประเภทของดนิ โดยใช ดินแบง ออกเปน 3 - นาํ เสนอหนา ชั้นเรียน สมบัติทางกายภาพเปนเกณฑ ประเภท ตามสมบัติทาง และนําความรูไปใชป ระโยชน กายภาพของดิน ไดแก ดินเหนียว ดินรว น ดนิ ทราย ทาํ อะไร สํารวจและจําแนก ประเภทของดินโดยใช สมบัตทิ างกายภาพเปน เกณฑ และนาํ ความรไู ปใช ประโยชน

ตรฐานและตัวชว้ี ัด ชอื่ หนว ย ดนิ บานเรา ( จํานวน 15 ช่วั โมง ) สมรรถนะสาํ คัญ คุณลักษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน ส่อื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเ รียนรู 2. ความสามารถในการคิด 2. มุงม่นั ในการทํางาน 3. มีวนิ ยั

การวเิ คราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร ช่ือ ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 2 มาตรฐานและตัวชวี้ ัด รูอะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน ว3.1 ป2/1สงั เกตและ รอู ะไร - ใบงาน ระบุลกั ษณะทป่ี รากฏ สมบัติของวัสดุ คอื - ผงั ความคิด หรือสมบัติของวสั ดทุ ี่ใช ลักษณะเฉพาะของวสั ดุน้ัน ๆ - นาํ เสนอ ทําของเลน ของใชใ น เชน ลกั ษณะพนื้ ผวิ น้ําหนกั ชวี ิตประจําวนั ความแขง็ ความยดื หยนุ การ ซึมนํ้า วัตถแุ ตละชนิดทําจาก ว3.1 ป2/2จําแนกวัสดุ วัสดุทม่ี ีสมบตั ขิ องวัสดทุ ่ี ทใ่ี ชทาํ ของเลน ของใชใ น แตกตางกนั ตามลักษณะ การใช ชีวติ ประจําวนั รวมทั้ง งาน และวสั ดแุ ตละชนดิ มี ระบเุ กณฑท ี่ใชจ าํ แนก สมบตั ิของวัสดแุ ตกตา งกัน ทําอะไร สังเกตและระบุลักษณะที่ ปรากฏหรือสมบัติของวัสดุที่ใช ทาํ ของเลน ของใชใ น ชีวติ ประจาํ วัน และ จําแนกวสั ดทุ ใ่ี ชท าํ ของเลน ของ ใชในชีวติ ประจาํ วันรวมทั้งระบุเกณฑทใ่ี ช จําแนก

ตรฐานและตัวชี้วัด อหนว ย ของเลน ของใช (จาํ นวน 15 ช่วั โมง ) สมรรถนะสําคัญ คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน ส่อื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเรียนรู 2. ความสามารถในการคดิ 2. มงุ มน่ั ในการทํางาน 3. มีวินยั

การวิเคราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร ชอ่ื ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 2 มาตรฐานและตวั ชีว้ ัด รอู ะไร ทําอะไร ภาระงาน/ช้ินงาน ว4.1 ป2/1ทดลองและ รูอ ะไร - ใบงาน อธิบายแรงทีเ่ กดิ จาก แมเหล็กมสี มบตั ิสามารถ - ผังความคิดการเกิด แมเ หลก็ ดึงดูดวัตถทุ ่ีทําดวยสารแมเหล็ก แรง โดยสารแมเ หล็ก คือ วสั ดุทเี่ ปน - ทดลอง ว4.1 ป2/2อธิบายการ โลหะ ไดแ ก เหล็ก เหลก็ กลา - นําเสนอหนา ชัน้ เรียน นาํ แมเ หลก็ มาใช นิกเกลิ และโคบอลต แมเ หล็กมี ประโยชน แรงดงึ ดูดและแรงผลกั ระหวา ง แทง แมเ หล็ก เมอ่ื นําแมเ หล็ก 2 ว4.1 ป2/3 ทดลองและ แทงทีม่ ีขวั้ ตา งกันเขา ใกลก นั จะมี อธิบายแรงไฟฟาทีเ่ กดิ แรงดึงดดู เกิดข้ึน และเมื่อนํา จากการถูวัตถบุ างชนิด แมเหล็ก 2 แทง ท่มี ีขัว้ เหมือนกนั เขา ใกลกนั จะมีแรงผลกั เกิดขึ้น สว นของแมเหล็กทดี่ ึงดูดเหลก็ ได ดีท่สี ุด เรยี กวา ข้ัว โดยขว้ั จะอยู ตรงบริเวณปลายทัง้ 2 ขางของ แมเหล็ก ทําอะไร วเิ คราะห อธบิ าย ทดลองแรงที่ เกดิ จากแมเหลก็ และแรงไฟฟาที่ เกิดจากการถวู ตั ถบุ างชนดิ

ตรฐานและตัวชว้ี ดั อหนวย แรงในธรรมชาติ (จํานวน 15 ชั่วโมง ) สมรรถนะสําคญั คุณลกั ษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน สอ่ื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเรียนรู 2. ความสามารถในการคดิ 2. มงุ มน่ั ในการทํางาน 3. มีวินยั น

การวิเคราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ 2 มาตรฐานและตัวชวี้ ัด รอู ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน ว5.1 ป2/1ทดลองและ รอู ะไร - ใบงาน อธิบายไดวา ไฟฟาเปน แหลงกาํ เนิดไฟฟา คือ - สรุปองคค วามรูเรื่อง พลังงาน แหลงกาํ เนิดพลังงาน แหลงกาํ เนดิ พลังงาน ว5.1 ป2/2สํารวจและ พลังงาน คือ ความสามารถใน - นําเสนอหนาช้ันเรียน ยกตัวอยาง การทําใหวัตถุทาํ งานหรือ เคร่ืองใชไฟฟาในบานที่ เคล่ือนที่ได เซลลไฟฟา หรือ เปลี่ยนพลงั งานไฟฟา เซลลไฟฟาเคมี คือ เซลลท่ีทาํ เปน พลงั งานอ่ืน หนา ท่เี ปล่ียนรปู พลังงานเคมีไป ว7.1 ป2/1สืบคน และ เปนพลังงานไฟฟา อภิปรายความสาํ คัญ แบตเตอรี่ คือ แหลง กําเนิดไฟฟา ของดวงอาทิตย ทมี่ กี ารนําเซลลไฟฟา ต้ังแต 2 เซลลมาตอเขา ดว ยกนั เพื่อให สามารถผลิตพลังงานไฟฟาไดมาก ข้ึน ประเภทของแบตเตอรี่ แบง เปน 2 ประเภท ทาํ อะไร ศกึ ษา แหลงกําเนดิ ไฟฟา เครือ่ งใชไฟฟาในบาน อภปิ ราย และนําเสนอหนาชั้นเรยี น

ตรฐานและตัวชี้วดั ชื่อหนวย พลังงาน (จํานวน 15 ชั่วโมง ) สมรรถนะสําคัญ คณุ ลักษณะของวิชา คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเ รียนรู ง ส่อื สาร 2. ความสนใจ 2. มงุ ม่นั ในการทาํ งาน 3. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด น

การวดั และกา วชิ า วิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน ว สาระสําคญั - ใบงาน - ตรวจใบ - สงั เกตก ปจจัยท่ีจาํ เปนตอการดาํ รงชวี ติ และการ - ทําการทดลอง กลมุ วธิ กี การทดลอ เจริญเติบโตของพืช ไดแก นาํ้ แสง อาหาร - แบบทดสอบ นําเสนองา และอากาศ - นาํ เสนองาน พืชมีการตอบสนองตอ แสง อุณหภมู ิ และการ สัมผสั พชื มีประโยชนตอ มนุษย คือ เปนอาหาร ที่อยู อาศยั เครื่องนุงหม และยารักษาโรค สัตวต า ง ๆ สามารถดํารงชีวิตและ เจริญเติบโตไดตองอาศัยปจจัยทจ่ี ําเปนตอ การดํารงชีวติ และเจรญิ เติบโต ไดแ ก อาหาร นา้ํ อากาศ และท่ีอยอู าศัย สตั วแตล ะชนิดกนิ อาหารแตกตา งกัน ข้ึนอยูก ับธรรมชาตขิ องสัตว ซ่ึงสามารถแบง สัตวต ามเกณฑก ารกินอาหารได 3 ประเภท คือ สัตวกนิ พืชเปนอาหาร สัตวก นิ เนอื้ สัตว เปนอาหาร และสตั วก นิ ท้ังพืชและสัตวเปน อาหาร

ารประเมินผล ช่ือหนวย ส่ิงมีชวี ิต (จาํ นวน 15 ชว่ั โมง ) วธิ ีวดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑการใหค ะแนน คะแนน บงาน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง 20 คะแนน กระบวนงาน - แบบประเมนิ การนาํ เสนอ - การนาํ เสนอ ผานรอยละ การทดลอง ผล - กระบวนงานกลมุ 70 ข้ึนไป อง การ าน

การวัดและกา วชิ า วิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ วี สาระสาํ คญั - ใบงาน - ตรวจใบงาน - สังเกตกระบว ดนิ แบง ออกเปน 3 ประเภท - แบบทดสอบ การนําเสนองา ตามสมบัตทิ างกายภาพของดิน - นําเสนองาน ไดแ ก ดนิ เหนยี ว ดินรว น ดินทราย พืชแตละชนดิ ตองการดนิ ในการ เจรญิ เติบโตท่ีแตกตางกัน โดยพชื ที่ ตองการนํา้ มาก ควร ปลกู ในดินเหนียว เน่อื งจากนํ้าซมึ ผานไดช า พืชท่ตี อ งการนํา้ ปาน กลาง ควรปลูกในดนิ รว นเน่อื งจาก นํา้ ซมึ ผา นไดปานกลาง สวนพชื ท่ี ตอ งการนํ้านอ ย ควรปลูกในดิน ทราย เน่อื งจากน้ําซมึ ผานไดเร็ว

ารประเมินผล ชื่อหนวย ดินบานเรา (จํานวน 15 ช่วั โมง ) วดั เครอื่ งมือวดั เกณฑการใหคะแนน คะแนน น - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง วนงานกลุม น - แบบประเมนิ กระบวนงาน - การนาํ เสนอ กลมุ การนําเสนอ - กระบวนงานกลมุ 15 คะแนน ผานรอยละ 70 ข้ึนไป

การวัดและกา วิชา วิทยาศาสตร ชอ่ื ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีว สมบตั ขิ องวัสดุ คือ - ใบงาน - ตรวจใบงาน ลกั ษณะเฉพาะของวสั ดนุ ้ัน ๆ - ผังความคิด เชน ลกั ษณะพ้นื ผวิ น้ําหนกั ความ - นําเสนอ - ตรวจผงั ความ แขง็ ความยืดหยุน การซึมน้ํา วัตถุ - สงั เกตการนาํ แตล ะชนิดทําจากวสั ดุทีม่ ีสมบัติ ของวสั ดุทแ่ี ตกตา งกันตามลกั ษณะ การใชง าน และวสั ดแุ ตล ะชนดิ มี สมบตั ิของวสั ดุแตกตา งกนั

ารประเมนิ ผล อหนว ย ของเลน ของใช (จาํ นวน 15 ช่ัวโมง ) วัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน - แบบประเมนิ - การทดลอง 15 คะแนน ผานรอยละ มคิด - แบบประเมินใบงาน - การนําเสนอ 70 ข้นึ ไป าเสนอ - แบบประเมินผังความคิด - กระบวนงานกลมุ - แบบประเมนิ การนําเสนอ

การวดั และกา วชิ า วิทยาศาสตร ช่ือ ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธวี สาระสาํ คัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ตรวจ ผงั ควา แมเหล็กมสี มบัตสิ ามารถดึงดูด - ผังความคดิ การเกิดแรง แรง - ทดลอง - ตรวจผลการท วตั ถทุ ่ที าํ ดวยสารแมเ หล็ก โดยสาร - นาํ เสนอหนา ช้นั เรยี น - สังเกตการนาํ แมเ หลก็ คือ วสั ดุทเ่ี ปน โลหะ เรียน ไดแก เหลก็ เหล็กกลา นิกเกิล และ โคบอลต แมเหล็กมแี รงดึงดูดและ แรงผลักระหวางแทงแมเ หล็ก เม่อื นําแมเ หล็ก 2 แทงทม่ี ีขั้วตางกนั เขาใกลกัน จะมีแรงดงึ ดูดเกดิ ขึ้น และเม่ือนาํ แมเหล็ก 2 แทงท่ีมีขัว้ เหมือนกนั เขาใกลกนั จะมแี รงผลัก เกดิ ข้นึ สว นของแมเ หล็กทด่ี งึ ดดู เหล็กไดด ีทีส่ ดุ เรียกวา ขวั้ โดยขว้ั จะอยูตรงบรเิ วณปลายทัง้ 2 ขาง ของแมเหลก็

ารประเมินผล อหนวย แรงธรรมชาติ (จํานวน 15 ชวั่ โมง ) วัด เคร่ืองมือวัด เกณฑการใหคะแนน คะแนน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง - การนาํ เสนอ ามคิดการเกดิ - แบบประเมินผงั ความคิด - กระบวนงานกลมุ - แบบประเมินการนาํ เสนอ ทดลอง - แบบประเมนิ การทดลอง าเสนอหนาชัน้ 15 คะแนน ผา นรอยละ 70 ข้นึ ไป

การวัดและกา วิชา วทิ ยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธวี สาระสําคัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ตรวจการสรุป แหลงกาํ เนดิ ไฟฟา คือ - สรุปองคค วามรูเรื่อง - สงั เกตการนํา เรียน แหลงกาํ เนดิ พลงั งาน แหลง กาํ เนิดพลังงาน พลังงาน คือ ความสามารถในการ - นาํ เสนอหนาชั้นเรียน ทาํ ใหว ตั ถุทํางานหรอื เคลอื่ นที่ได เซลลไ ฟฟา หรือ เซลลไ ฟฟาเคมี คอื เซลลท ี่ทําหนาท่เี ปลีย่ นรูป พลงั งานเคมีไปเปนพลงั งานไฟฟา แบตเตอร่ี คือ แหลง กําเนิดไฟฟา ที่ มีการนาํ เซลลไฟฟาต้ังแต 2 เซลล มาตอเขา ดว ยกัน เพ่อื ใหส ามารถ ผลติ พลงั งานไฟฟาไดมากขึ้น ประเภทของแบตเตอร่ี แบง เปน 2 ประเภท

ารประเมนิ ผล ช่อื หนวย พลงั งาน (จํานวน 15 ชั่วโมง ) วดั เครือ่ งมือวดั เกณฑก ารใหคะแนน คะแนน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง ปงาน - แบบประเมินการนาํ เสนอ - การนาํ เสนอ าเสนอหนาชน้ั - สรปุ องคค วามรูเรื่อง - กระบวนงานกลมุ แหลงกําเนดิ พลงั งาน 15 คะแนน ผา นรอยละ 70 ขึ้นไป