หลักสูตรหลักสูตรวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. ได้วิจัยและพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัยและเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย อาทิเช่น ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง หนังสือเรียน คู่มือครู สื่อการเรียนรู้ เอกสารเสริม เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนครูของและเป็นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทยมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนใช้ชีวิตในโลกอนาคตได้อย่างมีความสุข มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ ได้กำหนดสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออกเป็น 4 สาระ ได้แก่ สาระที่ 1 สาระที่ 3 สาระที่ 2 สาระที่ 4 มีสาระเพิ่มเติม 4 สาระ ได้แก่ สาระชีววิทยา สาระเคมี สาระฟิสิกส์ และสาระโลกดาราศาสตร์และอวกาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ ได้กำหนดสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ออกเป็น 3 สาระ ได้แก่ สาระที่ 1 สาระที่ 3 สาระที่ 2 การออกแบบการจัดการเรียนรอู งิ มาตรฐานการเรยี นรู กลมุ สาระการเรียนรู วทิ ยาศาสตร วชิ า วิทยาศาสตร รหัสวิชา ว12101 ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 2 โดย ชื่อ นางอมลสิริ คาํ ฟู ตาํ แหนง พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 จังหวดั เชยี งใหม สํานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ผงั มโนทศั น รายวิชาวิทยาศาสตร รหัสวิชา ว 12101 ระดับชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 2 หนว ยที่ 1 (20 ชั่วโมง) หนวยท่ี 2 (15ช่วั โมง) สงิ่ มีชวี ิต ดินบานเรา รายวชิ าวิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 2 จํานวน 80 ช่ัวโมง หนว ยที่ 3 (15 ช่ัวโมง) หนว ยท่ี 4 (15 ชวั่ โมง) ของเลนของใช แรงในธรรมชาติ หนว ยที่ 5 (15 ช่วั โมง) พลังงาน คําอธบิ ายรายวชิ า รายวิชา วทิ ยาศาสตร กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1-2 รหสั วชิ า ว 12101 เวลา 80 ช่วั โมง/ป ศกึ ษาและวเิ คราะห สิ่งทม่ี ีชวี ติ กบั สง่ิ ท่ีไมม ชี วี ิต หนาทข่ี องโครงสรางตางๆ ของพชื และสัตว ปจ จัยการดาํ รงชวี ิต การถา ยทอดลกั ษณะ ความสมั พนั ธข องสิ่งมีชวี ิตกับสงิ่ แวดลอ ม การใชท รพั ยากรธรรมชาติ ปญ หาของ ทรัพยากรธรรมชาติ การทําของเลน ของใชใ นชวี ิตประจาํ วัน และคุณสมบัตขิ องวัสดุ ดินและสวนประกอบของดิน แหลง นํ้าในทอ งถน่ิ อากาศรอบๆ ตัวเรา อณุ หภูมขิ องอากาศ จักรวาลและอวกาศ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร การสบื เสาะหาความรู การสาํ รวจ ตรวจสอบ การสืบคนขอ มลู และการ อภปิ ราย เพ่ือใหเ กิดความรู ความคดิ ความเขาใจ สามารถสื่อสารสง่ิ ท่ีเรียนรู มีความสามารถในการตัดสินใจนําความรูไป ใชใ นชีวติ ประจําวัน มีจริยธรรม คุณธรรมและคา นิยมทีเ่ หมาะสม ตวั ชว้ี ดั ว 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5 ว 1.2 ป.2/1 ว 3.1 ป.2/1, ป.2/2 ว 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 ว 5.1 ป.2/1, ป.2/2 ว 6.1 ป.2/1 ว 7.1 ป.2/1 ว 8.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7 รวม 22 ตัวช้ีวดั การจัดทาํ โครง รายวิชา วิทยาศาสตร รหัสวิชา 12101 ช้ัน ท่ี ช่ือหนวย รหัส มฐ. ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู เจริญเ 1 สง่ิ มีชวี ิต พชื มีก ว1.1 ป.2/1ทดลองและอธิบาย น้ํา แสง เปน พชื มีป ปจ จัยที่จําเปนตอ การดํารงชวี ิตของพืช เครอ่ื ง ว1.1 ป.2/2อธบิ ายอาหาร นาํ้ อากาศ เปน ตองอ ปจ จยั ที่จําเปน ตอการดาํ รงชวี ิต และการ ไดแ ก เจริญเตบิ โตของพืชและสตั วแ ละนาํ ความรูไป ใชป ระโยชน ธรรมช อาหา ว1.1 ป.2/3สาํ รวจและอธบิ าย พืชและสัตว เน้ือสัต สามารถตอบสนองตอแสง อุณหภูมิ และการ อาหา สมั ผสั ว1.1 ป.2/4ทดลองและอธบิ าย รางกายของ มนุษยส ามารถ ตอบสนองตอ แสง อณุ หภมู ิ และการสมั ผสั ว1.1 ป.2/5อธบิ ายปจจยั ที่ จําเปนตอการดาํ รงชวี ิต และการเจรญิ เติบโต ของมนุษย ว1.2 ป.2/1อธบิ ายประโยชนของพชื และสัตว ในทอ งถ่ิน งสรางรายวิชา นประถมศกึ ษาปท ี่ 2 จํานวน 80 ชั่วโมง สาระสําคัญ เวลา นํ้าหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม ปจจัยที่จําเปน ตอการดํารงชีวติ และการ เติบโตของพชื ไดแ ก นา้ํ แสง อาหาร และอากาศ การตอบสนองตอแสง อุณหภมู ิ และการสัมผัส ประโยชนตอ มนุษย คือ เปนอาหาร ที่อยอู าศยั งนงุ หม และยารักษาโรค สตั วต าง ๆ สามารถดํารงชีวติ และเจริญเตบิ โตได 20 642 12 อาศัยปจจยั ทจ่ี ําเปน ตอ การดํารงชีวติ และเจริญเติบโต อาหาร นา้ํ อากาศ และที่อยูอาศัย สัตวแ ตละชนิดกินอาหารแตกตา งกัน ข้นึ อยกู ับ ชาติของสัตว ซง่ึ สามารถแบง สตั วต ามเกณฑการกิน ารได 3 ประเภท คือ สตั วกินพืชเปน อาหาร สัตวก นิ ตวเ ปน อาหาร และสตั วก นิ ทง้ั พืชและสตั วเปน าร ท่ี ช่ือหนวย รหสั มฐ. ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู 2. ดนิ บา นเรา ว6.1 ป2/1สํารวจและจําแนกประเภทของดนิ 3. ของเลน ของใช โดยใชส มบตั ิทางกายภาพเปน เกณฑ และนํา กายภ 4. แรงในธรรมชาติ ดินทร ความรูไปใชประโยชน ว3.1 ป2/1สังเกตและระบลุ ักษณะที่ปรากฏ แตกต หรือสมบตั ขิ องวสั ดทุ ี่ใชทําของเลน ของใชใ น ปลูกใ ชีวติ ประจาํ วัน ตอ งก ผา นได ว3.1 ป2/2จาํ แนกวัสดุทใี่ ชทําของเลนของใช ดนิ ทร ในชวี ิตประจําวันรวมทง้ั ระบเุ กณฑทใี่ ชจาํ แนก ๆ เช การซมึ แตกต สมบตั ว4.1 ป2/1ทดลองและอธิบายแรงทีเ่ กดิ จาก แม แมเ หล็ก แมเหล เหล็ก ว4.1 ป2/2อธิบายการนาํ แมเหลก็ มาใช ดงึ ดดู ประโยชน 2 แทง เม่อื นํา ว4.1 ป2/3ทดลองและอธบิ ายแรงไฟฟา ที่เกิด แรงผล จากการถูวัตถบุ างชนดิ เรยี กว แมเ หล สาระสําคญั เวลา น้าํ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม ดินแบง ออกเปน 3 ประเภท ตามสมบัติทาง 15 642 12 ภาพของดิน ไดแ ก ดนิ เหนียว ดินรว น 15 642 12 ราย พืชแตล ะชนดิ ตองการดนิ ในการเจริญเตบิ โตท่ี ตา งกนั โดยพชื ทีต่ องการนา้ํ มาก ควร ในดนิ เหนยี ว เน่อื งจากนํ้าซมึ ผา นไดช า พืชที่ การน้าํ ปานกลาง ควรปลูกในดนิ รว นเนื่องจากน้ําซึม ดปานกลาง สวนพชื ที่ตอ งการนํา้ นอย ควรปลูกใน ราย เน่ืองจากนาํ้ ซึมผานไดเร็ว สมบตั ขิ องวัสดุ คอื ลกั ษณะเฉพาะของวสั ดุนน้ั ชน ลกั ษณะพน้ื ผวิ น้าํ หนัก ความแข็ง ความยดื หยนุ มนํา้ วตั ถุแตละชนดิ ทําจากวัสดทุ ีม่ ีสมบตั ิของวัสดทุ ่ี ตา งกนั ตามลักษณะ การใชงาน และวสั ดแุ ตละชนิดมี ตขิ องวสั ดุแตกตางกัน มเ หล็กมสี มบตั ิสามารถดึงดูดวตั ถทุ ี่ทาํ ดวยสาร 15 642 12 ล็ก โดยสารแมเหล็ก คือ วสั ดุท่เี ปนโลหะ ไดแ ก เหล็กกลา นกิ เกลิ และโคบอลต แมเหล็กมแี รง ดและแรงผลกั ระหวางแทงแมเ หลก็ เมื่อนําแมเหลก็ งที่มีขว้ั ตางกันเขาใกลกัน จะมแี รงดงึ ดูดเกิดขึ้น และ าแมเ หลก็ 2 แทงท่ีมีขั้วเหมอื นกันเขาใกลก ัน จะมี ลกั เกิดขน้ึ สวนของแมเ หล็กที่ดึงดดู เหล็กไดด ีที่สุด วา ขว้ั โดยขั้วจะอยตู รงบรเิ วณปลายท้ัง 2 ขางของ ล็ก ท่ี ชื่อหนวย รหสั มฐ. ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู แหลง 5. พลังงาน พลงั งา ว5.1 ป2/1ทดลองและอธบิ ายไดวา ไฟฟา เปน เคลือ่ น พลงั งาน ทําหน ว5.1 ป2/2สาํ รวจและยกตัวอยาง แบตเต เคร่ืองใชไฟฟาในบานที่เปล่ยี นพลังงานไฟฟา ต้ังแต เปนพลงั งานอ่นื พลงั งา ว7.1 ป2/1สืบคน และอภิปรายความสําคัญ แบง เป ของดวงอาทติ ย วดั ผลกลางภาค วดั ผลปลายภาค รวมท้ังสิ้น สาระสําคัญ เวลา นาํ้ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม งกําเนดิ ไฟฟา คือ แหลงกาํ เนิดพลังงาน าน คือ ความสามารถในการทาํ ใหวัตถุทาํ งานหรือ 15 642 12 นท่ีได เซลลไฟฟา หรือ เซลลไฟฟาเคมี คอื เซลลท ี่ นาที่เปล่ยี นรปู พลังงานเคมีไปเปนพลงั งานไฟฟา ตอรี่ คือ แหลงกาํ เนดิ ไฟฟาทมี่ กี ารนําเซลลไ ฟฟา ต 2 เซลลมาตอเขา ดวยกัน เพ่ือใหส ามารถผลติ านไฟฟาไดมากขึน้ ประเภทของแบตเตอร่ี ปน 2 ประเภท 10 5 5 20 10 5 5 20 80 60 20 20 100 การวิเคราะหมาต วิชา วทิ ยาศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 2 มาตรฐานและตวั ช้ีวัด รอู ะไร ทาํ อะไร ว1.1 ป.2/1ทดลองและอธิบาย นํา้ แสง รูอะไร เปนปจ จยั ทจ่ี าํ เปนตอ การดํารงชีวิตของ ปจ จยั ทจ่ี ําเปน ตอการดํารงชีวิตและกา พชื ว1.1 ป.2/2อธบิ ายอาหาร นาํ้ อากาศ เจรญิ เตบิ โตของพืช ไดแ ก นา้ํ แสง เปน ปจ จยั ทีจ่ ําเปนตอ การดาํ รงชีวิต และ อาหาร และอากาศ การเจรญิ เตบิ โตของพืชและสัตวแ ละนาํ พืชมกี ารตอบสนองตอแสง อุณหภมู ิ และ ความรูไปใชป ระโยชน การสัมผสั ว1.1 ป.2/3สาํ รวจและอธบิ าย พืชและ พชื มีประโยชนต อ มนษุ ย คือ เปน อาหาร สัตวส ามารถตอบสนองตอแสง อณุ หภูมิ อยูอาศยั เครื่องนงุ หม และยารกั ษาโรค และการสัมผัส ว1.1 ป.2/4ทดลองและอธบิ าย รางกาย สัตวตา ง ๆ สามารถดาํ รงชีวิตและ ของมนุษยสามารถ ตอบสนองตอ แสง เจริญเติบโตไดตองอาศัยปจ จัยทจี่ าํ เปนตอ อณุ หภมู ิ และการสมั ผสั การดํารงชีวิตและเจรญิ เติบโต ไดแ ก ว1.1 ป.2/5อธิบายปจจยั ทีจ่ ําเปนตอการ อาหาร นาํ้ อากาศ และท่ีอยอู าศยั ดํารงชวี ติ และการเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย สตั วแ ตล ะชนดิ กินอาหารแตกตางกัน ว1.2 ป.2/1อธิบายประโยชนของพชื และ ข้นึ อยกู ับธรรมชาติของสตั ว ซึ่งสามารถ สตั วใ นทอ งถ่ิน แบง สตั วต ามเกณฑการกินอาหารได 3 ประเภท คอื สัตวกินพืชเปนอาหาร สัตว กนิ เน้ือสตั วเปนอาหาร และสัตวก นิ ทั้ง พชื และสตั วเปน อาหาร ทําอะไร - ทดลองและอธิบาย ปจ จยั ที่จาํ เปนตอ การดาํ รงชวี ติ ของพืช และการ ตรฐานและตัวช้วี ัด ชอ่ื หนวย สิ่งมชี วี ิต ( จํานวน 20 ชว่ั โมง ) ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสาํ คญั คณุ ลักษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อนั พงึ ประสงค - ใบงาน 1. ความสามารถใน าร - ชดุ การทดลอง การสอ่ื สาร 1. ความ 1. ใฝเ รยี นรู 2. ความสามารถใน กระตือรอื รน 2. มงุ มัน่ ในการ - แบบทดสอบ การคิด 2. ความสนใจ ทาํ งาน ะ 3. มวี ินัย ที่ อ ว เจรญิ เตบิ โตของพืชและสตั ว และ ประโยชนของพืชในทองถ่นิ - ศึกษาองคป ระกอบรางกายมนษุ ยและ การเจรญิ เติบโตของมนุษย ะ การวเิ คราะหม าต วชิ า วิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 2 มาตรฐานและตัวชวี้ ัด รูอะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ช้นิ งาน ว6.1 ป2/1สํารวจและ รูอ ะไร - ใบงาน จําแนกประเภทของดนิ โดยใช ดินแบง ออกเปน 3 - นาํ เสนอหนา ชั้นเรียน สมบัติทางกายภาพเปนเกณฑ ประเภท ตามสมบัติทาง และนําความรูไปใชป ระโยชน กายภาพของดิน ไดแก ดินเหนียว ดินรว น ดนิ ทราย ทาํ อะไร สํารวจและจําแนก ประเภทของดินโดยใช สมบัตทิ างกายภาพเปน เกณฑ และนาํ ความรไู ปใช ประโยชน ตรฐานและตัวชว้ี ัด ชอื่ หนว ย ดนิ บานเรา ( จํานวน 15 ช่วั โมง ) สมรรถนะสาํ คัญ คุณลักษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อันพึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน ส่อื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเ รียนรู 2. ความสามารถในการคิด 2. มุงม่นั ในการทํางาน 3. มีวนิ ยั การวเิ คราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร ช่ือ ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 2 มาตรฐานและตัวชวี้ ัด รูอะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน ว3.1 ป2/1สงั เกตและ รอู ะไร - ใบงาน ระบุลกั ษณะทป่ี รากฏ สมบัติของวัสดุ คอื - ผงั ความคิด หรือสมบัติของวสั ดทุ ี่ใช ลักษณะเฉพาะของวสั ดุน้ัน ๆ - นาํ เสนอ ทําของเลน ของใชใ น เชน ลกั ษณะพนื้ ผวิ น้ําหนกั ชวี ิตประจําวนั ความแขง็ ความยดื หยนุ การ ซึมนํ้า วัตถแุ ตละชนิดทําจาก ว3.1 ป2/2จําแนกวัสดุ วัสดุทม่ี ีสมบตั ขิ องวัสดทุ ่ี ทใ่ี ชทาํ ของเลน ของใชใ น แตกตางกนั ตามลักษณะ การใช ชีวติ ประจําวนั รวมทั้ง งาน และวสั ดแุ ตละชนดิ มี ระบเุ กณฑท ี่ใชจ าํ แนก สมบตั ิของวัสดแุ ตกตา งกัน ทําอะไร สังเกตและระบุลักษณะที่ ปรากฏหรือสมบัติของวัสดุที่ใช ทาํ ของเลน ของใชใ น ชีวติ ประจาํ วัน และ จําแนกวสั ดทุ ใ่ี ชท าํ ของเลน ของ ใชในชีวติ ประจาํ วันรวมทั้งระบุเกณฑทใ่ี ช จําแนก ตรฐานและตัวชี้วัด อหนว ย ของเลน ของใช (จาํ นวน 15 ช่วั โมง ) สมรรถนะสําคัญ คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน ส่อื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเรียนรู 2. ความสามารถในการคดิ 2. มงุ มน่ั ในการทํางาน 3. มีวินยั การวิเคราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร ชอ่ื ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 2 มาตรฐานและตวั ชีว้ ัด รอู ะไร ทําอะไร ภาระงาน/ช้ินงาน ว4.1 ป2/1ทดลองและ รูอ ะไร - ใบงาน อธิบายแรงทีเ่ กดิ จาก แมเหล็กมสี มบตั ิสามารถ - ผังความคิดการเกิด แมเ หลก็ ดึงดูดวัตถทุ ่ีทําดวยสารแมเหล็ก แรง โดยสารแมเ หล็ก คือ วสั ดุทเี่ ปน - ทดลอง ว4.1 ป2/2อธิบายการ โลหะ ไดแ ก เหล็ก เหลก็ กลา - นําเสนอหนา ชัน้ เรียน นาํ แมเ หลก็ มาใช นิกเกลิ และโคบอลต แมเ หล็กมี ประโยชน แรงดงึ ดูดและแรงผลกั ระหวา ง แทง แมเ หล็ก เมอ่ื นําแมเ หล็ก 2 ว4.1 ป2/3 ทดลองและ แทงทีม่ ีขวั้ ตา งกันเขา ใกลก นั จะมี อธิบายแรงไฟฟาทีเ่ กดิ แรงดึงดดู เกิดข้ึน และเมื่อนํา จากการถูวัตถบุ างชนิด แมเหล็ก 2 แทง ท่มี ีขัว้ เหมือนกนั เขา ใกลกนั จะมีแรงผลกั เกิดขึ้น สว นของแมเหล็กทดี่ ึงดูดเหลก็ ได ดีท่สี ุด เรยี กวา ข้ัว โดยขว้ั จะอยู ตรงบริเวณปลายทัง้ 2 ขางของ แมเหล็ก ทําอะไร วเิ คราะห อธบิ าย ทดลองแรงที่ เกดิ จากแมเหลก็ และแรงไฟฟาที่ เกิดจากการถวู ตั ถบุ างชนดิ ตรฐานและตัวชว้ี ดั อหนวย แรงในธรรมชาติ (จํานวน 15 ชั่วโมง ) สมรรถนะสําคญั คุณลกั ษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน สอ่ื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเรียนรู 2. ความสามารถในการคดิ 2. มงุ มน่ั ในการทํางาน 3. มีวินยั น การวิเคราะหม าต วิชา วทิ ยาศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ 2 มาตรฐานและตัวชวี้ ัด รอู ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน ว5.1 ป2/1ทดลองและ รอู ะไร - ใบงาน อธิบายไดวา ไฟฟาเปน แหลงกาํ เนิดไฟฟา คือ - สรุปองคค วามรูเรื่อง พลังงาน แหลงกาํ เนิดพลังงาน แหลงกาํ เนดิ พลังงาน ว5.1 ป2/2สํารวจและ พลังงาน คือ ความสามารถใน - นําเสนอหนาช้ันเรียน ยกตัวอยาง การทําใหวัตถุทาํ งานหรือ เคร่ืองใชไฟฟาในบานที่ เคล่ือนที่ได เซลลไฟฟา หรือ เปลี่ยนพลงั งานไฟฟา เซลลไฟฟาเคมี คือ เซลลท่ีทาํ เปน พลงั งานอ่ืน หนา ท่เี ปล่ียนรปู พลังงานเคมีไป ว7.1 ป2/1สืบคน และ เปนพลังงานไฟฟา อภิปรายความสาํ คัญ แบตเตอรี่ คือ แหลง กําเนิดไฟฟา ของดวงอาทิตย ทมี่ กี ารนําเซลลไฟฟา ต้ังแต 2 เซลลมาตอเขา ดว ยกนั เพื่อให สามารถผลิตพลังงานไฟฟาไดมาก ข้ึน ประเภทของแบตเตอรี่ แบง เปน 2 ประเภท ทาํ อะไร ศกึ ษา แหลงกําเนดิ ไฟฟา เครือ่ งใชไฟฟาในบาน อภปิ ราย และนําเสนอหนาชั้นเรยี น ตรฐานและตัวชี้วดั ชื่อหนวย พลังงาน (จํานวน 15 ชั่วโมง ) สมรรถนะสําคัญ คณุ ลักษณะของวิชา คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเ รียนรู ง ส่อื สาร 2. ความสนใจ 2. มงุ ม่นั ในการทาํ งาน 3. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด น การวดั และกา วชิ า วิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน ว สาระสําคญั - ใบงาน - ตรวจใบ - สงั เกตก ปจจัยท่ีจาํ เปนตอการดาํ รงชวี ติ และการ - ทําการทดลอง กลมุ วธิ กี การทดลอ เจริญเติบโตของพืช ไดแก นาํ้ แสง อาหาร - แบบทดสอบ นําเสนองา และอากาศ - นาํ เสนองาน พืชมีการตอบสนองตอ แสง อุณหภมู ิ และการ สัมผสั พชื มีประโยชนตอ มนุษย คือ เปนอาหาร ที่อยู อาศยั เครื่องนุงหม และยารักษาโรค สัตวต า ง ๆ สามารถดํารงชีวิตและ เจริญเติบโตไดตองอาศัยปจจัยทจ่ี ําเปนตอ การดํารงชีวติ และเจรญิ เติบโต ไดแ ก อาหาร นา้ํ อากาศ และท่ีอยอู าศัย สตั วแตล ะชนิดกนิ อาหารแตกตา งกัน ข้ึนอยูก ับธรรมชาตขิ องสัตว ซ่ึงสามารถแบง สัตวต ามเกณฑก ารกินอาหารได 3 ประเภท คือ สัตวกนิ พืชเปนอาหาร สัตวก นิ เนอื้ สัตว เปนอาหาร และสตั วก นิ ท้ังพืชและสัตวเปน อาหาร ารประเมินผล ช่ือหนวย ส่ิงมีชวี ิต (จาํ นวน 15 ชว่ั โมง ) วธิ ีวดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑการใหค ะแนน คะแนน บงาน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง 20 คะแนน กระบวนงาน - แบบประเมนิ การนาํ เสนอ - การนาํ เสนอ ผานรอยละ การทดลอง ผล - กระบวนงานกลมุ 70 ข้ึนไป อง การ าน การวัดและกา วชิ า วิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ วี สาระสาํ คญั - ใบงาน - ตรวจใบงาน - สังเกตกระบว ดนิ แบง ออกเปน 3 ประเภท - แบบทดสอบ การนําเสนองา ตามสมบัตทิ างกายภาพของดิน - นําเสนองาน ไดแ ก ดนิ เหนยี ว ดินรว น ดินทราย พืชแตละชนดิ ตองการดนิ ในการ เจรญิ เติบโตท่ีแตกตางกัน โดยพชื ที่ ตองการนํา้ มาก ควร ปลกู ในดินเหนียว เน่อื งจากนํ้าซมึ ผานไดช า พืชท่ตี อ งการนํา้ ปาน กลาง ควรปลูกในดนิ รว นเน่อื งจาก นํา้ ซมึ ผา นไดปานกลาง สวนพชื ท่ี ตอ งการนํ้านอ ย ควรปลูกในดิน ทราย เน่อื งจากน้ําซมึ ผานไดเร็ว ารประเมินผล ชื่อหนวย ดินบานเรา (จํานวน 15 ช่วั โมง ) วดั เครอื่ งมือวดั เกณฑการใหคะแนน คะแนน น - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง วนงานกลุม น - แบบประเมนิ กระบวนงาน - การนาํ เสนอ กลมุ การนําเสนอ - กระบวนงานกลมุ 15 คะแนน ผานรอยละ 70 ข้ึนไป การวัดและกา วิชา วิทยาศาสตร ชอ่ื ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีว สมบตั ขิ องวัสดุ คือ - ใบงาน - ตรวจใบงาน ลกั ษณะเฉพาะของวสั ดนุ ้ัน ๆ - ผังความคิด เชน ลกั ษณะพ้นื ผวิ น้ําหนกั ความ - นําเสนอ - ตรวจผงั ความ แขง็ ความยืดหยุน การซึมน้ํา วัตถุ - สงั เกตการนาํ แตล ะชนิดทําจากวสั ดุทีม่ ีสมบัติ ของวสั ดุทแ่ี ตกตา งกันตามลกั ษณะ การใชง าน และวสั ดแุ ตล ะชนดิ มี สมบตั ิของวสั ดุแตกตา งกนั ารประเมนิ ผล อหนว ย ของเลน ของใช (จาํ นวน 15 ช่ัวโมง ) วัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน - แบบประเมนิ - การทดลอง 15 คะแนน ผานรอยละ มคิด - แบบประเมินใบงาน - การนําเสนอ 70 ข้นึ ไป าเสนอ - แบบประเมินผังความคิด - กระบวนงานกลมุ - แบบประเมนิ การนําเสนอ การวดั และกา วชิ า วิทยาศาสตร ช่ือ ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธวี สาระสาํ คัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ตรวจ ผงั ควา แมเหล็กมสี มบัตสิ ามารถดึงดูด - ผังความคดิ การเกิดแรง แรง - ทดลอง - ตรวจผลการท วตั ถทุ ่ที าํ ดวยสารแมเ หล็ก โดยสาร - นาํ เสนอหนา ช้นั เรยี น - สังเกตการนาํ แมเ หลก็ คือ วสั ดุทเ่ี ปน โลหะ เรียน ไดแก เหลก็ เหล็กกลา นิกเกิล และ โคบอลต แมเหล็กมแี รงดึงดูดและ แรงผลักระหวางแทงแมเ หล็ก เม่อื นําแมเ หล็ก 2 แทงทม่ี ีขั้วตางกนั เขาใกลกัน จะมีแรงดงึ ดูดเกดิ ขึ้น และเม่ือนาํ แมเหล็ก 2 แทงท่ีมีขัว้ เหมือนกนั เขาใกลกนั จะมแี รงผลัก เกดิ ข้นึ สว นของแมเ หล็กทด่ี งึ ดดู เหล็กไดด ีทีส่ ดุ เรียกวา ขวั้ โดยขว้ั จะอยูตรงบรเิ วณปลายทัง้ 2 ขาง ของแมเหลก็ ารประเมินผล อหนวย แรงธรรมชาติ (จํานวน 15 ชวั่ โมง ) วัด เคร่ืองมือวัด เกณฑการใหคะแนน คะแนน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง - การนาํ เสนอ ามคิดการเกดิ - แบบประเมินผงั ความคิด - กระบวนงานกลมุ - แบบประเมินการนาํ เสนอ ทดลอง - แบบประเมนิ การทดลอง าเสนอหนาชัน้ 15 คะแนน ผา นรอยละ 70 ข้นึ ไป การวัดและกา วิชา วทิ ยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท่ี 2 เปา หมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธวี สาระสําคัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ตรวจการสรุป แหลงกาํ เนดิ ไฟฟา คือ - สรุปองคค วามรูเรื่อง - สงั เกตการนํา เรียน แหลงกาํ เนดิ พลงั งาน แหลง กาํ เนิดพลังงาน พลังงาน คือ ความสามารถในการ - นาํ เสนอหนาชั้นเรียน ทาํ ใหว ตั ถุทํางานหรอื เคลอื่ นที่ได เซลลไ ฟฟา หรือ เซลลไ ฟฟาเคมี คอื เซลลท ี่ทําหนาท่เี ปลีย่ นรูป พลงั งานเคมีไปเปนพลงั งานไฟฟา แบตเตอร่ี คือ แหลง กําเนิดไฟฟา ที่ มีการนาํ เซลลไฟฟาต้ังแต 2 เซลล มาตอเขา ดว ยกัน เพ่อื ใหส ามารถ ผลติ พลงั งานไฟฟาไดมากขึ้น ประเภทของแบตเตอร่ี แบง เปน 2 ประเภท ารประเมนิ ผล ช่อื หนวย พลงั งาน (จํานวน 15 ชั่วโมง ) วดั เครือ่ งมือวดั เกณฑก ารใหคะแนน คะแนน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง ปงาน - แบบประเมินการนาํ เสนอ - การนาํ เสนอ าเสนอหนาชน้ั - สรปุ องคค วามรูเรื่อง - กระบวนงานกลมุ แหลงกําเนดิ พลงั งาน 15 คะแนน ผา นรอยละ 70 ขึ้นไป |