ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ใส่รูปภาพลงในสไลด์ (Insert Picture)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การนำรูปภาพมาใช้งานในสไลด์อาจจะเป็นภาพประกอบเนื้อหานำเสนอ หรือนำมาวางตกแต่งเพื่อความสวยงาม สำหรับคำสั่งการแทรกรูปภาพลงในสไลด์จะมีหลายวิธี โดยจะแสดงวิธีหลัก ๆ ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกลากภาพมาใส่สไลด์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การนำรูปภาพมาวางในสไลด์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้คำสั่งใด สามารถทำได้ด้วยการคลิกลากไฟล์ภาพ จากโฟลเดอร์ที่เก็บภาพของระบบ Windows
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
มาวางในสไลด์ โดยให้คุณเปิดหน้าต่างไฟล์เอาไว้ให้เห็นทั้ง PowerPoint และหน้าต่างไฟล์ภาพ จากนั้นก็คลิกลากรูปภาพข้ามหน้าต่างไปวางบนสไลด์ได้เลย

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
วางภาพแบบ Copy & Paste
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การวางรูปภาพด้วยคำสั่ง Copy และ Past เป็นพื้นฐานที่เราใช้งานกันอย่างคุ้นเคย โดยที่คุณสามารถคลิกเลือกภาพแล้วใช้คำสั่ง Copy คัดลอกภาพไปไว้ที่คลิปบอร์ด จากนั้นก็ไปที่สไลด์แล้วใช้คำสั่ง Paste วางภาพ ก็สามารถนำภาพมาใช้ได้ หรือจะกดปุ่ม และ ก็ได้เช่นกัน


ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
แทรกรูปภาพออนไลน์ (Online Pictures)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Online Pictures คือรูปภาพที่เห็บอยู่ในเว็บไซต์ Office.com มีภาพ Clip Art ที่ไมโครซอฟท์ได้เตรียมไว้ให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้ในเอกสารได้ฟรี โดยคุณต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เอาไว้ก่อนจึงจะใช้คุณสมบัตินี้ได้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
บันทึกรูปภาพ (Save as Picture)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
รูปภาพ Online Picture ที่ดาวน์โหลดมาวางในสไลด์แล้วนั้น คุณสามารถบันทึกเก็บลงในเครื่อง เพื่อนำมาใช้ในครั้งต่อไปได้ โดยคลิกขวาที่รูปภาพ แล้วเลือกคำสั่ง บันทึกเป็นรูปภาพ ดังภาพ

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ตัดขอบภาพ (Crop)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
รูปภาพที่นำมาวางบนสไลด์นั้น หากมีส่วนเกินที่ไม่ต้องการใช้ ก็ตัดออกให้เหลือเฉพาะส่วนที่ต้องการนำเสนอได้ โดยใช้เครื่องมือ Crop (ครอบตัด) ได้ดังนี้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
- หากต้องการใช้ภาพที่ตัดขอบออกมาใช้งานใหม่ก็คลิกปุ่ม Crop อีกครั้ง แล้วคลิกลากขยายขอบเขตภาพออกได้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
- หรือคลิกขวาบนรูปภาพแล้วเลือกคำสั่ง Crop (ครอบตัด)


ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จัดรูปแบบรูปภาพ Format Picture
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ หรือทำให้รูปภาพโดดเด่น คุณอาจตกแต่งภาพด้วยสไตล์ลักษณะต่างๆ จากกลุ่มของ เครื่องมือรูปภาพ (Format Picture) ด้วยคำสั่ง สไตล์รูปภาพ (Picture Styles) ซึ่งจะมีสไตล์แต่งภาพ สำเร็จรูปให้เรียกใช้หลายแบบ เช่น ใส่กรอบ, ตัดขอบ, ตัดภาพให้เป็นวงกลม, ทำเงาสะท้อน, ใส่เอฟเฟ็กต์ 3 มิติ หรือหมุนภาพในแนวต่างๆ เป็นต้น

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ตัวอย่างสไตล์รูปภาพแบบต่างๆ

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพิ่มเอฟเฟ็กต์ แต่งภาพ (Picture Effects)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
นอกเหนือจากสไตล์แต่งภาพในกลุ่ม สไตล์รูปภาพ (Picture Styles) คุณสามารถเพิ่มเอฟเฟ็กต์ แต่งภาพเพิ่มเติมเอฟเฟ็กต์ ในชุดต่างๆ มีดังนี้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Preset (ค่าที่ตั้งไว้) ชุดเอฟเฟ็กต์ สำเร็จรูป
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Shadow (เงา) สร้างเงาภาพ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Reflection (การสะท้อน) สร้างเงาสะท้อน
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Glow (เรืองแสง) ใส่สีเรืองแสงที่ขอบภาพ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Soft Edges (ขอบจาง) ทำขอบภาพให้เบลอ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Bevel (ยกนูน) ทำภาพให้นูนขึ้นหรือยุบลง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
3-D Rotation (การหมุน 3 มิติ) หมุนภาพแบบ 3มิติ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
แต่งเส้นขอบภาพ (Picture Border)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การเน้นรูปภาพให้โดดเด่นอีกแบบหนึ่งคือ การใส่เส้นขอบให้กับภาพโดยที่คุณสามารถเลือกสี และลวดลายให้กับเส้นขอบได้ จากคำสั่งในปุ่ม เส้นขอบรูป (Picture Border) และเลือกปรับแต่งแส้นขอบได้ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ยกเลิกการใช้เอฟเฟ็กต์ (Reset Picture)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
หลังจากใช้เอฟเฟ็กต์ แต่งภาพไปแล้วถ้า ถ้าต้องการยกเลิกเอฟเฟ็กต์ ทั้งหมดให้ภาพกลับไปเป็นภาพต้นฉบับเดิมโดยให้คลิกปุ่ม

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ปรับสี ความคมชัด และใส่เอฟเฟ็กต์ แปลงภาพ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
รูปภาพที่นำมาวางในสไลด์อาจเป็นภาพถ่ายของสินค้า บริการ หรือภาพที่จะใช้อธิบายเรื่องราวที่จะนำเสนอ ภาพบางภาพอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร เช่นมืดเกินไป สว่างเกินไปหรือขาดความคมชัด คุณอาจใช้คำสั่ง ในการปรับแต่งภาพในด้านของแสง และสีของภาพเพิ่มเติม รวมถึงคำสั่งในการเปลี่ยนแปลงภาพถ่ายให้เป็นภาพวาด หรือภาพเขียน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพได้ ซึ่งจะมีคำสั่งในกลุ่มของ Adjust ให้เลือกใช้งานดังนี้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Corrections (การแก้ไข) เลือกคำสั่งปรับแสงและความคมชัด เช่น ทำให้มืดลงหรือสว่างขึ้น
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Color (สี) ปรับสีภาพหรือแปลงสีภาพให้เป็นโทนสีต่าง ๆ เช่น ภาพ 2 สี, โทนสีเดียวสีต่างๆ และภาพขาวดำ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Artistic Effects (เอฟเฟ็กต์ แนวศิลป์) เพื่อแปลงภาพให้เหมือนภาพวาดหรือภาพเขียน
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Remove Background (เอาพื้นหลังออก) เพื่อทำให้ฉากหลังที่ไม่ต้องการให้โปร่งใส่ไม่มีสี

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Corrections ปรับแสงและความคมชัดของภาพ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คำสั่ง Corrections จะใช้สำหรับนำมาปรับแสงของภาพให้สว่างขึ้นหรือมืดลงได้ และมีตัวเลือกให้ปรับภาพที่เบลอ ให้มีความคมชัดขึ้น โดยจะแยกคำสั่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Sharpen/Soften เลือกปรับภาพให้คมชัดขึ้นหรือนุ่มลง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Brightness/Contrast เลือกปรับความสว่างและความคมชัด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Color แก้ไขสี หรือเปลี่ยนสีภาพ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คุณสามารถใช้คำสั่งในกลุ่ม Color มาใช้ปรับสีรูปภาพให้สดใสขึ้น หรือปรับสีภาพให้เป็นโทนสีต่าง ๆ ได้ เช่นกัน ซึ่งจะมีคำสั่งปรับสีภาพดังนี้ Color Saturation เลือกความเข้มของสี Color Tone เลือกโทนสีภาพ เช่นโทนสีร้อน หรือโทนสีเย็น Recolor เปลี่ยนสภาพ เหมือนการย้อนสีภาพให้เป็นสีต่าง ๆ เช่น สีขาว ดำ สีฟ้า หรือทำเป็นสีซีเปียแบบภาพเก่า เป็นต้น

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Artistic Effects ใส่เอฟเฟ็กต์ ภาพแนวศิลป์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การทำภาพให้ดูสวยแปลกตาและน่าสนใจอีกแบบหนึ่ง สามารถใช้คำสั่งในกลุ่ม Artistic Effects (เอฟเฟ็กต์ แนวศิลป์) เพื่อใส่เอฟเฟ็กต์ ให้กับภาพ ทำให้ภาพนั้นถูกเปลี่ยนจากภาพถ่ายปกติทั่วไปให้เป็นเหมือนภาพวาดด้วยสีน้ำมันหุ้มด้วยพลาสติก หรือภาพวาดบนพื้นซีเมนต์ เป็นต้น

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ทำภาพให้โปร่งใส่ ด้วยการเอาสีพื้นหลังออก
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
รูปที่นำมาวางลงในสไลด์โดยพื้นฐานจะวางเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม หรือตามรูปทรงสไตล์ที่เลือกใส่ แต่บางครั้งภาพที่นำมาวางอาจจะมีส่วนของภาพและพื้นที่วางในภาพ หากคุณต้องการให้แสดงเฉพาะพื้นที่ตามรูปร่าง ก็ใช้คำสั่งในกลุ่ม Remove Background (เอาพื้นหลังออก) เอาสีพื้นในส่วนที่เหลือออกเพื่อทำให้ภาพโปร่งใส่ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
โปรแกรม Power Point 2013 นั้นนอกจากจะทำงานนำเสนอทางด้านเนื้อหาแล้ว ยังสามารถทำงานนำเสนอที่เป็นอัลบั้มรูปภาพได้อีกด้วย ซึ่งอัลบั้มรูปของ Power Point 2013 จะเป็นงานนำเสนอที่สร้างเพื่อแสดงรูปภาพ หรือรูปถ่ายต่างๆ เช่น รูปถ่ายทางธุรกิจ หรือรูปถ่ายส่วนบุคคล และยังสามารถเพิ่มลักษณะพิเศษในการเปลี่ยนสไลด์ พื้นหลังที่มีสีสัน ชุดรูปแบบ และเค้าโครงเฉพาะ เป็นต้น ทำให้อัลบั้มรูปดูน่าสนใจยิ่งขึ้น และหลังจากที่รูปภาพอยู่ในอัลบั้มแล้ว ยังสามารถเพิ่มคำอธิบายภาพ ปรับเปลี่ยนลำดับและเค้าโครง เพิ่มกรอบรอบรูปภาพได้อีกด้วย โดยการสร้างงานนำเสนอนั้นจะยึดตามชุดของรูปภาพ และภาพแต่ละภาพจะถูกนำไปวางบนสไลด์ของชุดรูปภาพเอง ซึ่งการสร้างอัลบั้มรูปนั้นมีขั้นตอนดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การใส่ภาพลงในอัลบั้ม

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อคลิกที่คำสั่ง สร้างอัลบั้มรูปแล้วจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของอัลบั้มรูปขึ้นมา ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จากนั้นโปรแกรมจะให้เราทำการเลือกรูปภาพที่ถูกเก็บอยู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จากนั้นโปรแกรมจะนำรูปภาพที่เลือกมาใส่ไว้ในอัลบั้มของงานนำเสนอให้ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งแก้ไขรูปภาพเพิ่มเติม ได้บางลักษณะ คือ การหมุนรูปภาพ ความคมชัด และแสงสว่างของรูปภาพ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จากข้างต้นเราได้ทำการใส่รูปภาพลงในอัลบั้มรูปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดเค้าโครง หรือรูปแบบของอัลบั้ม ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อเลือกรูปแบบของรูปภาพแล้วถัดมาคือการกำหนดลักษณะของกรอบรูปภาพ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
หัวข้อถัดมาคือการกำหนดชุดรูปแบบของอัลบั้มที่โปรแกรมมีมาให้ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จากนั้นโปรแกรมจะทำการเปิดชุดรูปแบบต่างๆที่มี ให้เราเลือก ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อกำหนดค่าต่างๆเสร็จแล้ว ขั้นสุดท้ายก็คือการสร้างอัลบั้มรูปขึ้นมา โดย

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อสร้างอัลบั้มเสร็จแล้วจะได้งานนำเสนอที่เป็นรูปภาพในมุมมองปกติ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแก้ไขข้อความบนงานนำเสนอ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อเราสร้างอัลบั้มรูปขึ้นมาแล้ว หน้าแรกของอัลบั้มรูปจะมีข้อความเริ่มต้นมาให้ ซึ่งหากเราไม่ต้องการข้อความ ที่โปรแกรมสร้างให้ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อทำการเปลี่ยนข้อความ เปลี่ยนลักษณะตัวอักษร และตำแหน่งของข้อความแล้วจะได้ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแก้ไขอัลบั้มรูป
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อสร้างอัลบั้มรูปเสร็จแล้ว อยากจะกลับไปแก้ไขหรือปรับแต่งส่วนต่างๆใหม่ สามารถทำได้ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของการแก้ไขอัลบั้มรูปขึ้นมาให้ ซึ่งจะเหมือนกับตอนสร้างอัลบั้มรูปใหม่ในตอนแรก และให้ทำการเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆตามความพอใจ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อคลิกที่ปุ่มปรับปรุงแล้ว โปรแกรมก็จะเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆของอัลบั้มให้ตามที่เรากำหนด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การสร้างงานนำเสนอนั้นจะเลือกแทรกลงในสไลด์ได้ 3 แบบ คือ ไฟล์เสียงจากเครื่องใช้งาน แทรกไฟล์เสียงออนไลน์ และบันทึกเสียงลงไปโดยไฟล์เสียงที่แทรกนั้นอาจจะเป็นไฟล์เสียง (Sound) ทั่วไปนามสกุล .wav ไฟล์เสียงแบบ .mp3 เช่น เพลง (Music) เป็นต้น
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแทรกไฟล์เสียงจากแหล่งต่างๆ

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ผู้เรียนสามารถเพิ่มเสียงจากแฟ้มในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Microsoft Clip Organizer รวมทั้งบันทึกเสียงของผู้เรียนเองเพิ่มลงในงานนำเสนอหรือ ใช้เพลงจากซีดีก็ได้ ซึ่งรูปแบบของการแทรกเสียงได้แก่
แทรกไฟล์เสียงส่วนตัวลงสไลด์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแทรกเสียงแบบนี้ เป็นแบบที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะนิยมใช้กันมาก โดยเป็นการแทรกไฟล์เสียงที่มีอยู่ แล้วในเครื่องคอมพิวเตอร์ เข้ามาในสไลด์ของโปรแกรม PowerPoint ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของการแทรกเสียงขึ้นมา เพื่อให้เลือกไฟล์เสียง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อคลิกที่ปุ่ม แทรก เพื่อแทรกเสียงแล้ว โปรแกรมจะแสดงไอคอน
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
และแท็บบาร์ทางด้านล้าง

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกปุ่ม
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อทดสอบฟังเพลง หรือคลิกปุ่ม
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อหยุดไฟล์เสียงชั่วคราว
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
แท็บบาร์แสดงช่วงเวลาของไฟล์ สามารถใช้เมาส์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เลื่อนไปยังตำแหน่งที่ ต้องการฟัง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพลง แล้วคลิกปุ่ม
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
กระโดดย้อนกลับไป 0.25 วินาที หรือ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
กระโดดไปที่ 0.25 วินาที แสดงช่วงเวลาในขณะเล่นเพลง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ควบคุมระดับความดังของไฟล์เสียงเมื่อคลิกที่ไอคอนแสดง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อให้เลื่อนปรับระดับเสียง

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
แทรกไฟล์เสียงออนไลน์ (Online Audio)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Online Audio คือการนำไฟล์เสียงจาก Office.com Clip Art มาใช้ในงานนำเสนอ โดยที่คุณต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก่อน แล้วคลิกปุ่ม เสียง > เสียงออนไลน์ เพื่อเลือกไฟล์เสียงที่จะใช้งานดังภาพ

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
แทรกไฟล์ อัดเสียงบรรยายลงในสไลด์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เนื้อหาของการสร้างงานพรีเซนเตชันอีกแบบหนึ่งที่มักใช้กันคือ การใส่เสียงบรรยายลงไปในสไลด์เพื่ออธิบายเนื้อเรื่อง ใช้เพื่อการนำเสนอแบบอัตโนมัติแบบไม่มีผู้ควบคุม หรือเวลาที่ต้องการฉายสไลด์โชว์ในงานต่าง ๆ โดยสามารถอัดเสียงลงไปในสไลด์แต่ละแผ่นเพื่อเล่าเรื่องแทนได้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การจัดการเสียงในสไลด์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อแทรกไฟล์เสียงเข้ามาจะแสดงแท็บเครื่องมือ AUDIO TOOLS (เครื่องมือเสียง) ขึ้นมาให้ปรับแต่งการแสดงของเสียง โดยหลัก ๆ จะอยู่ในแท็บ การเล่น ดังนี้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ซึ่งส่วนของคำสั่งที่ใช้ในการจัดการเสียงจะอยู่ในกลุ่มของ ตัวเลือกของเสียง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ระดับเสียงการนำเสนอสไลด์ ใช้สำหรับกำหนดระดับความดังของเสียงที่แทรกลงในสไลด์ โดยให้คลิกที่คำสั่ง จากนั้นจะปรากฏรายการของระดับเสียง ได้แก่ เบา , ปานกลาง , ดัง และปิดเสียง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ซ่อนระหว่างนำเสนอ คือ ให้ทำการซ่อนไอคอนของเสียง ซึ่งก็คือรูปลำโพง ในขณะที่ทำการแสดงสไลด์นั่นเอง โดยให้คลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้าคำสั่ง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
วนรอบจนกว่าจะสั่งหยุด คือ เมื่อทำการแสดงสไลด์แล้ว เสียงจะเล่นซ้ำไปเรื่อยจนกว่าจะ เปลี่ยนไปสไลด์ถัดไป โดยที่ให้คลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้าคำสั่ง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

จะมีปุ่มเครื่องมือเพื่อให้กำหนดค่าเกี่ยวกับเสียงได้แก่

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อฟังเสียง หรือ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อหยุดเล่นชั่วคราว
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อแทรกบุ๊คมาร์ก หรือระบุตำแหน่งเอาไว้ เพื่อใช้อ้างอิงในการตัดต่อเสียง,
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ลบตำแหน่งบุ๊คมาร์กที่สร้างขึ้น
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อตัดต่อไฟล์เสียงให้สั้นลง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Fade Duration กำหนดค่าการลด-เพิ่มเสียง โดยคลิก
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เสียงเริ่ม
จากค่อยไปดัง คลิกปุ่ม
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อกำหนดเวลาการ Fade In,
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

เสียงเริ่มจากดังไปค่อย คลิกปุ่ม
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อกำหนดเวลาการ Fade Out
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
กำหนดการเริ่มเล่นไฟล์เสียง โดยปกติจะแสดงตัวเลือกเป็น Automatically เล่นทันทีเฉพาะสไลด์ที่แทรกเสียง, On Click คลิกเมาส์เสียงจึงจะทำงาน (เฉพาะสไลด์ที่แทรกเสียง), Play across slides เล่นเพลงแม้เปลี่ยนสไลด์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การใช้งาน Bookmark
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เราสามารถแทรก Bookmark ลงไปยังตำแหน่งเวลาที่ต้องการบนไฟล์คลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ เพื่อเป็นตัวกำหนด ตำแหน่งเอาไว้ โดยตำแหน่งดังกล่าวอาจใช้งานตำแหน่งในการตัดทิ้ง เป็นต้น

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ตัดไฟล์เสียงให้สั้นลง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คุณสามารถตัดไฟล์เสียงได้ เพื่อทำให้เวลาของเสียงสั้นลง โดยจะตัดได้จากต้นเสียงและท้ายเสียงดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ในปัจจุบันสื่อการบันทึกข้อมูลมีความสามารถสูง ทำให้คุณสามารถบันทึกข้อมูลและภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะบันทึกเสียงหรือวีดีโอคลิป คุณสามารถนำข้อมูลมัลติมีเดียเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการนำเสนอ เช่น ใส่เสียงประกอบ เสียงเพลง เสียงบรรยาย ไฟล์วีดีโอ หรือแทรกไฟล์มูฟวี่ จาก Flash เข้ามานำเสนอได้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ใน PowerPoint 2013 จะนำไฟล์เสียงและไฟล์วีดีโอมาใส่ลงในสไลด์ได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ และมีคำสั่งให้นำวีดีโอจาก YouTube มาวางในสไลด์ได้ด้วย นอกจากนี้ยังปรับแต่งการทำงานของข้อมูลประเภทนี้ ได้เหมือนจัดการภาพที่ผ่านมาไม่ว่าจะปรับสีใส่สไตล์ หรือตัดต่อภาพและเสียงได้ด้วย
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การนำเสนองานบางเรื่องอาจจะมีไฟล์วีดีโอแสดงประกอบเนื้อหาอื่นๆ คุณสามารถแทรกไฟล์วีดีโอลงในสไลด์ และปรับแต่งได้ง่าย ๆ จากคำสั่ง Video (วีดีโอ) บนแท็บ Insert (แทรก) ดังนี้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Online Video (วีดีโอแบบออนไลน์) เลือกแทรกวีดีโอออนไลน์จากอินเตอร์เน็ต, YouTube และ Facebook ได้
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Video on My PC (วีดีโอบนพีซีของฉัน) เลือกไฟล์วีดีโอที่เก็บไว้ในเครื่อง

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแทรกไฟล์วีดีโอ Video on My PC

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของการแทรกภาพยนตร์ขึ้นมา เพื่อให้เลือกไฟล์วีดีโอ ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ประเภทของไฟล์วีดีโอที่สามารถนำมาใช้งานบนสไลด์ได้ จะเป็นไฟล์วีดีโอเพื่อทุกประเภท เช่น .avi, .mov, .m4v, .wmx, .wm, .qt และอื่นๆ ซึ่งเป็นไฟล์วีดีโอที่มาจากการถ่ายจากมือถือ ,กล้องถ่ายภาพ หรือกล้องถ่ายวีดีโอทั่วไป

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแทรกไฟล์วีดีโอออนไลน์จาก YouTube
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
หากคุณต้องการแทรกไฟล์จากเว็บไซต์ดัง อย่าง YouTube ให้เลือกการแทรกวีดีโอแบบออนไลน์ (Online Video) ได้แต่ต้องเชื่อมอินเทอร์เน็ตขณะแทรก และในขณะที่เล่นในงานนำเสนอด้วยโดยจะเลือกแทรกได้ 2 แบบดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การแทรกไฟล์วีดีโอออนไลน์ One Drive
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
นอกจากการนำคลิปวีดีโอจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรามาวางบนสไลด์แล้ว เรายังสามารถนำคลิปวีดีโอ ที่เก็บไว้บนสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เช่น OneDrive, Facebook และ YouTube มาวางบนสไลด์ได้อีกด้วย โดยการใส่คลิปวีดีโอออนไลน์ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การจัดรูปแบบภาพและกรอบของวีดีโอ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ภาพวีดีโอสามารถจัดรูปแบบภาพได้ เช่น ปรับแสงให้สว่างหรือมืด, ปรับสีภาพให้เป็นโทนสีต่าง ๆ หรือจะเลือกปรับแต่งกรอบแสดงภาพด้วย Video Styles ให้มีเงา, การสะท้อน หรือหมุนแบบ 3 มิติเหมือนการจัดรูปแบบรูปภาพที่ผ่านมา โดยเลือกคำสั่งจากแท็บ FORMAT ของ VIDEO TOOLS ได้ดังนี้
เลือกสไตล์พื้นที่แสดงวีดีโอ (Video Styles)

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เปลี่ยนพื้นที่แสดงภาพวีดีโอ (Video Shape)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
พื้นที่การแสดงภาพวีดีโอปกติจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือพื้นที่รูปแบบสไตล์ที่คุณเลือก แต่คุณสามารถเลือก ให้แสดงให้รูปร่างหรือรูปทรงอื่นๆ ได้โดยเลือกจากปุ่ม รูปร่างวีดีโอ Video Shape ดังภาพ

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

เลือกสีเส้นขอบวีดีโอ (Video Border)

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การเลือกเส้นขอบสำหรับพื้นที่การแสดงภาพได้ เพื่อเน้นการแสดงผลวีดีโอได้เด่นชัดขึ้นในการนำเสนอ เช่น ใส่ขอบให้หนาเหมือนขอบจอทีวี เป็นต้น โดยเลือกได้จากปุ่ม Video Border (เส้นขอบวีดีโอ) แล้วเลือกสี, ขนาดหรือลักษณะของเส้นได้เหมือนการจัดรูปแบบรูปภาพจากบทที่ผ่านมา

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

เลือกเอฟเฟ็กต์ วีดีโอ (Video Effects)

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
กรอบพื้นที่ของวีดีโอนอกจากกำหนดเส้นขอบได้แล้ว คุณสามารถใส่เอฟเฟ็กต์ ได้ เหมือนใส่เอฟเฟ็กต์ รูปภาพ เช่น ใส่เงา, เงา, สะท้อน, ยกนูน หรือหมุนกรอบให้แสดงแบบ 3 มิติได้ โดยคลิกปุ่ม Video Effects แล้วเลือกรูปแบบเอฟเฟ็กต์ ที่ต้องการได้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เปลี่ยนสีภาพวีดีโอ (Color)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การเปลี่ยนสีภาพวีดีโอคือ การปรับสีภาพให้เป็นโทนสีต่าง ๆ เหมือนการย้อมสีภาพให้ออกมาเป็นโทนสีตามความต้องการเช่น ต้องการให้เป็นภาพวีดีโอเก่า ๆ ก็เลือกเป็นสีขาวดำ หรือสีซีเปียน้ำตาลอ่อน ๆ ได้โดยคลิกเลือกจากปุ่ม Color (สี) แล้วคลิกเลือกสีที่ต้องการได้ หรือคลิกที่ More Variations เพื่อเลือกสีอื่นด้วยตนเอง

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การยกเลิกการจัดรูปแบบวีดีโอ (Reset Video)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
การจัดรูปแบบวีดีโอ เช่น ปรับสี ใส่กรอบ หรือใส่เอฟเฟ็กต์ หากไม่ต้องการใช้งานก็ยกเลิกออกได้ โดยคลิกปุ่ม Reset Design (ตั้งค่าการออกแบบใหม่) ซึ่งจะเลือกได้ 2 แบบ คือ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
- Reset Design (ตั้งค่าการออกแบบใหม่) ยกเลิกรูปแบบทั้งหมดแล้วกลับไปใช้ค่าเริ่มต้นครั้งแรก
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
- Reset Design & Size (ตั้งค่าการออกแบบและขนาดใหม่) ยกเลิกรูปแบบและการปรับขนาดวีดีโอด้วย

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ลบวีดีโอ (Delete Video)

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ไฟล์วีดีโอที่ใส่ลงในสไลด์แล้ว หากไม่ต้องการใช้งานก็ลบออกไปได้เหมือนการลบรูปภาพทั่วไป โดยคลิกเลือกพื้นที่ของวีดีโอแล้วกดปุ่ม Delete ที่แป้นพิมพ์
การจัดการไฟล์วีดีโอในสไลด์
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เมื่อแทรกวีดีโอลงในสไลด์ได้แล้ว ยังสามารถกำหนดรูปแบบการเล่นของวีดีโอขณะฉายสไลด์ เพื่อช่วยให้งานนำเสนอดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งมีวิธีการกำหนดดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ซึ่งส่วนของคำสั่งที่ใช้ในการจัดการเสียงจะอยู่ในกลุ่มของ ตัวเลือกของเสียง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
1. ระดับเสียงการนำเสนอสไลด์ ใช้สำหรับกำหนดระดับความดังของเสียงที่แทรกลงในสไลด์ โดยให้คลิกที่คำสั่ง จากนั้นจะปรากฏรายการของระดับเสียง ได้แก่ เบา , ปานกลาง , ดัง และ ปิดเสียง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
2. ซ่อนขณะที่ไม่มีการแล่น คือ ซ่อนในที่ในขณะที่ไม่ได้เล่น

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
3. วนรอบจนกว่าจะสั่งหยุด คือ เมื่อทำการแสดงสไลด์แล้ว เสียงจะเล่นซ้ำไปเรื่อยจนกว่าจะ เปลี่ยนไปสไลด์ถัดไป โดยที่ให้คลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้าคำสั่ง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
3. วนรอบจนกว่าจะสั่งหยุด คือ เมื่อทำการแสดงสไลด์แล้ว เสียงจะเล่นซ้ำไปเรื่อยจนกว่าจะ เปลี่ยนไปสไลด์ถัดไป โดยที่ให้คลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้าคำสั่ง ดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
4. จะมีปุ่มเครื่องมือเพื่อให้กำหนดค่าเกี่ยวกับวิดีโอ ได้แก่

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อดูวิดีโอ หรือ
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อหยุดเล่นชั่วคราว
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อแทรกบุ๊คมาร์ก หรือระบุตำแหน่งเอาไว้เพื่อใช้อ้างอิงในการตัดต่อไฟล์วิดีโอ,
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ลบตำแหน่งบุ๊คมาร์กที่สร้างขึ้น
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
คลิกเพื่อตัดต่อไฟล์วิดีโอให้สั้นลง
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
Fade Duration กำหนดค่าการลด-เพิ่มของการปรากฏของไฟล์วิดีโอ โดยคลิก
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
วิดีโอเริ่มจะค่อยๆ ปรากฏขึ้น คลิกปุ่ม
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
เพื่อกำหนดเวลาการ Fade In,
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
วิดีโอเริ่มจะค่อยๆ หายไป คลิกปุ่ม เพื่อกำหนดเวลาการ Fade Out
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
กำหนดการเริ่มเล่นไฟล์วิดีโอ โดยปกติจะแสดงตัวเลือกเป็น อัตโนมัติ เล่นทันทีเฉพาะสไลด์ที่แทรกเสียง, เมื่อคลิก คลิกเมาส์เสียงจึงจะทำงาน (เฉพาะสไลด์ที่แทรกเสียง), Play across slides เล่นเพลงแม้เปลี่ยนสไลด์

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
ตัดวิดีโอให้สั้นลง (Trim Video)
ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
หากไฟล์วีดีโอที่นำมาใช้นั้นมีความยาวมากเกินไปคุณอาจใช้คำสั่ง Trim Video (ตัดแต่งวีดีโอ) ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกได้โดยจะตัดได้ที่ต้นไฟล์และท้ายไฟล์เท่านั้น เพื่อทำให้วีดีโอนั้นสั้นลงดังนี้

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด
หากต้องการยกเลิกการตัดหรือกำหนเขอบเขตใหม่ให้คลิกปุ่ม Trim Video (ตัดแต่งวีดีโอ) อีกครั้งเพื่อปรับขอบเขตเวลาใหม่วีดีโอใหม่

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด

ต้องการ ให้ เสียง audio เล่น อัตโนมัติ เมื่อ ถึง สไลด์ นั้น ต้อง ใช้ คำ สั่ง ใด