กระบวนการทางเทคโนโลยีมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การสร้างสิ่งของเครื่องใช้ตามกระบวนการทางเทคโนโลยี from lukhamhan school

รหัสวิชา ง 22101 ชื่อวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี 34
ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นปีที่ 2
ครูผู้สอน ดรุณี กันธมาลา
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่


บทที่ 2 เรื่องกระบวนการเทคโนโลยี

สาระที่ 3: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 3.1 : เข้าใจธรรมชาติและกระบวนการของเทคโนโลยี ใช้ความรู้ ภูมิปัญญา จินตนาการ และความคิดอย่างมีระบบในการออกแบบ สร้างสิ่งของเครื่องใช้ วิธีการเชิงกลยุทธ์ ตามกระบวนการเทคโนโลยี สามารถตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม โลกของงานและอาชีพ

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. เข้าใจความหมาย ความสำคัญของกระบวนการเทคโนโลยี
2. อธิบายกระบวนการของเทคโนโลยี 7 ขั้นตอน
3. สร้างต้นแบบสิ่งของเครื่องใช้ตามความต้องการโดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี
4. ชื่นชมผลงานการทำงานด้วยตนเอง
5. เห็นคุณค่าของการใช้กระบวนการเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมาย ความสำคัญของกระบวนการเทคโนโลยีได้
2. อธิบายกระบวนการของเทคโนโลยี 7 ขั้นตอนได้ถูกต้อง
3. สร้างต้นแบบสิ่งของเครื่องใช้ตามความต้องการโดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีอย่างถูกต้องและ
ปลอดภัย
4. สามารถถ่ายทอดความคิดเป็นภาพจำลองสิ่งของเครื่องใช้ตามจินตนาการและรายงานผลได้
5. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้กระบวนการเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้
6. สามารถเขียนผังมโนทัศน์เกี่ยวกับ ความหมาย ความสำคัญ ระบบของเทคโนโลยีและ
กระบวนการของเทคโนโลยี 7 ขั้นตอนได้

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

สาระที่ 3 : การออกแบบเทคโนโลยี.
มาตรฐาน ง 3.1 : เข้าใจธรรมชาติเเละกระบวนการของเทคโนโลยี ใช้ความรู้ ภูมิปัญญา จินตนาการ เเละ
ความคิดอย่างมีระบบในการออกแบบ สร้างสิ่งของเครื่องใช้ วิธีการเชิงกลยุทธ์ ตามกระบวนการเทคโนโลยี สามารถตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อม โลกของงานและอาชีพ.

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง.
1. เข้าใจความหมาย ความสำคัญของกระบวนการเทคโนโลยี.
2.อธิบายกระบวนการของเทคโนโลยี 7 ขั้นตอน.
3. สร้างต้นแบบสิ่งของเครื่องใช้ตามความต้องการ โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี.
4. เข้าใจการออกแบบ บล็อก (Blog) หรือเว็บไซต์ ตามกระบวนการเทคโนโลยี.
5.ชืนชมผลงานการทำงานของผู้อื่นและตนเอง.
6. เห็นคุณค่าของการใช้งานกระบวนการเทคโนโลยีชิวิตประจำวัน.

จุดประสงค์การเรียนรู้.
1. บอกความหมาย ความสำคัญของกระบวนการเทคโนโลยี.
2. อธิบายกระบวนการของเทคโนโลยี 7 ขั้นตอนได้ถูกต้อง.
3. สร้างต้นแบบสิ่งของเครื่องใช้ตามความต้องการโดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีได้ถูกต้องและปลอดภัย.
4. สามารถถ่ายทอดความคิดเป็นภาพจำลองสิ่งของเครื่องใช้ตามจินตนาการและรายงานผลได้.
5. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้กระบวนการเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้.
6. สามารถออกแบบ บล็อก (Blog) หรือเว็บไซต์ ตามกระบวนการ เทคโนโลยีได้.
7. สามารถเขียนผังมโนทัศน์เกี่ยวกับความหมาย ลักษณะผลผลิตของการออกแบบทางเทคโนโลยีหลักการวาดภาพเพื่อการสื่อสาร หลักการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ 5W1H หลักการออกแบบและเทคโนโลยี.
8. ชื่นชมผลงานการทำงานของผู้อื่นและตนเอง.
9. เห็นคุณค่าของการใช้กระบวนการเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน.

กระบวนการทางเทคโนโลยี(Technological Process).

กระบวนการทางเทคโนโลยีมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process). คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรือตอบสนองต่อความต้องการซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทรัพยากรให้เป็นผลผลิตหรือผลลัพธ์ระบบเทคโนโลยีประกอบด้วยกระบวนการเทคโนโลยีก่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอย ตามที่มนุษย์ต้องการและเปลี่ยนแปลงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีความต้องการในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการดำรงชีวิต ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาที่อาจเกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น และบางครั้งปัญหาอาจเกิดการผลิตสิ่งของต่างๆไม่ตรงตามความต้องการไม่ได้คุณภาพจึงต้องมีการออกแบบ เพื่อจะนำมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว.
ความสำคัญของกระบวนการทางเทคโนโลยี.
1. เป็นพื้นฐานปัจจัยจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์.
2. เป็นปัจจัยหลักที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา.
3. เป็นเรื่องราวของมนุษย์ และธรรมชาติ.

ระบบเทคโนโลยีประกอบด้วยกระบวนทางเทคโนโลยีทั้งหมด 7 ขั้นตอน ได้แก่.
1.กำหนดปัญหาหรือความต้องการ (Identification the problem,need or preference).
ละเอียด หรือกำหนดขอบเขตการแก้ปัญหา ระบุความต้องการให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร โดยเขียนเป็นข้อความสั้น ๆให้ได้ใจความชัดเจน.
2.รวบรวมข้อมูลเพื่อแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ(Information).
เมื่อกำหนดปัญหาหรือความต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ เก็บรวบรวมข้อมูลและความรู้ทุกด้านที่ เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือความต้องการเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมสำหรับแก้ปัญหา หรือสนองความต้องการที่กำหนดไว้ ทำได้หลายวิธี เช่น.
• รวบรวมข้อมูลจากหนังสือ วารสารต่างๆ.
• สำรวจตัวอย่างในท้องตลาด.
• สัมภาษณ์พูดคุยกับคนอื่น.
• ระดมสมองหาความคิด.
• สืบค้นจากอินเตอร์เน็ต และจากแผ่นซีดีเสริมความรู้ ฯลฯ.
ข้อมูลเหล่านี้จะนำไปสู่การได้วิธีการแก้ปัญหา หรือสนองความต้องการในหลายแบบ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สามารถใส่เนื้อหาที่เราต้องการให้นักเรียนได้เรียนรู้ และถือว่าเป็นช่องทางของการบูรณาการได้ดีที่สุด.
3.เลือกวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ (Selection of the best possible solution).
ในขั้นนี้ เป็นการตัดสินใจเลือกแนวคิดที่ดีที่สุดสำหรับแก้ปัญหา โดยนำข้อมูล และความรู้ที่รวบรวมได้มาประกอบกันจนได้ข้อสรุปว่า จะเลือกวิธีการแก้ปัญหาหรือวิธีการสนองความต้องการเป็นแบบใด โดยวิธีการที่เลือกอาจยึดแนวที่ว่า เมื่อเลือกแล้วจะทำให้สิ่งนั้นดีขึ้น (Better) สะดวกสบายหรือรวดเร็วขึ้น(Fasterspeed) ประหยัดขึ้น (Cheaper) รวมทั้งวิธีการเหล่านี้ จะต้องสอดคล้องกับทรัพยากร (Resource) ที่มีอยู่.
4.ออกแบบและปฏิบัติ (Design and making).
ขั้นตอนนี้ต้องการให้นักเรียนรู้จักคิดออกแบบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเครื่องใช้เสมอไป อาจเป็นวิธีการก็ได้ และการออกแบบไม่จำเป็นต้องเขียนแบบเสมอไป อาจเป็นแค่ลำดับความคิด หรือจินตนาการให้เป็นขั้นตอนซึ่งรวมปฏิบัติการลงไปด้วย นั่นคือเมื่อออกแบบแล้วต้องลงมือทำ และลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ออกแบบไว้.
5.ทดสอบ (Testing to see if it works).
เป็นการนำสิ่งประดิษฐ์หรือวิธีการนั้นทดลองใช้เพื่อทดสอบว่าใช้งานหรือทำงานได้ หรือไม่มีข้อบกพร่องอย่างไร ถ้ายังไม่ได้ก็ไปสู่ขั้นตอนต่อไป คือ ปรับปรุง แก้ไข.
6.การปรับปรุง (Modification and improvement).
หลังจากการทดสอบผลแล้วพบว่า สิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้น หรือวิธีการที่คิดขึ้นไม่ทำงานมีข้อบกพร่อง ก็ทำการปรับปรุงแก้ไข โดยอาจเลือกวิธีการใหม่ก็ได้คือย้อนไปขั้นตอนที่ 3.
7.ประเมินผล (Assessment).
หลังจากปรับปรุงแก้ไขจนใช้งานได้ดีตามวิธีการที่ออกแบบแล้ว ก็นำมาประเมินผลโดยรวมโดยพิจารณาดังนี้
• สิ่งประดิษฐ์สามารถแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่ระบุไว้ได้หรือไม่.
• สวยงาม ดึงดูดใจผู้ใช้หรือไม่.
• แข็งแรงทนทานต่อการใช้งานหรือไม่.
• ต้นทูนสูงเกินไปหรือไม่.

กระบวนการทางเทคโนโลยีมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ.
ไม่ว่าเราจะทำงานใดก็ตาม ปัญหาเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ การแก้ปัญหามีหลายวิธี ขึ้นกับชนิดของาน วิธีการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งอาจแก้ปัญหาอีกอย่างหนึ่งไม่ได้ และการแก้ปัญหาอาจจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรือไม่ก็ได้ ดังนั้น จึงควรยึดหลักการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เสียเวลา หลงทาง และสับสน วิธีการแก้ปัญหาแต่ละวิธีมีความเหมาะสมกับงานแตกต่างกันไป ก่อนที่จะใช้วิธีแก้ปัญหา ด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จะขอยกวิธีการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอนโดยทั้วไป มาให้พิจารณาดูจำนวนหนึ่ง
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อนด้วยวิธีการต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ส่วนมากจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้าช่วยเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถทำซ้ำได้ง่ายในกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าช่วยแก้ปัญหา จำเป็นต้องปรับรูปแบบวิธีการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
วิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวิธีคล้ายกับการแก้ปัญกาทางวิศวกรรมมาก แต่ในการนำระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานใดๆ ก็ตาม จะต้องมีการวิเคราะห์ปัญหาและศึกษาความเป็นไปได้ให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งนี้เนื่องจากคอมพิวเตอร์ไม่ใช้เครื่องมือวิเศษที่จะแก้ปัญหได้ทุกเรื่อง
นอกจากนี้ยังจะต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน เพื่อไม่ให้เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า ต้องเลือกวิธีการแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับงาน จัดหาเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ไม่เกินความจำเป็น
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เหมาะกับระบบงานที่ต้องทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งซากและมีปริมาณงานมากหรืองานที่ต้องการความรวดเร็วในการคำนวณเกินกว่าคนธรรมดาจะทำได้ วิธีการโดยทั้วไปคือ ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือระบบการทำงานแบบเดิม มาใช้ระบบงานที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทำงานเป็นบางส่วน หรือทั้งหมด เท่าที่สามารถจะทำแทนคนได้.

แผนภูมิ

กระบวนการทางเทคโนโลยี เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา โดยการคิดริเริ่มสร้างสรรค์
เพื่อนำไปสู่การประดิษฐ์และปฎิบัติ ก่อใก้เกิดประโยชน์ใช้สอย ตามที่มนุษย์ต้องการและเปลี่ยนแปลง
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีความต้องการในการสร้างสิ่งอำนวย
ความสะดวกต่างๆในการดำรงชีวิต ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาที่อาจเกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น
และบางครั้งปัญหาอาจเกิดการผลิตสิ่งของต่างๆไม่ตรงตามความต้องการไม่ได้คุณภาพจึงต้องมีการออกแบบ เพื่อจะนำมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว

กระบวนการเทคโนโลยี มีอยู่ด้วยกัน 7 ขั้นตอน ได้แก่
1.กำหนดปัญหาหรือความต้องการ
เมื่อมนุษย์เกิดปัญหาหรือความต้องการ ขั้นแรกคือการทำความเข้าใจ
ปัญหานั้นๆ อย่างละเอียดหรือกำหนดขอบเขต การแก้ปัญหา ระบุความต้องการให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร โดย
เขียนเป็นข้อความสั้นๆให้ได้ใจความชัดเจน

2. รวบรวมข้อมูบเพื่อแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ
เมื่อกำหนดปัญหาหรือความต้องการแล้ว
ขั้นตอนต่อไปนี้คือ เก็บรวบรวมข้อมูลและความรู้ทุกด้านที่เกี่ยวข้องก้บปัญหาหรือความต้องการพื่อหาวิธีการที่เหมาะสม
สำหรับแก้ปัญหา หรือสนองความต้องการที่กำหนดไว้ ทำได้หลายวิธี เช่น
รวบรวมข้อมูลจากหนังสือ วารสารต่างๆ
- สำรวจตัวอย่างในท้องตลาด
- สัมภาษณ์พูดคุยกับคนอื่นๆ
- ระดมสมองคิดหาวิธีการ
- สืบค้นจากอินเทอร์เนต และจากแผ่นซีดีเสริมความรู้ ฯลฯ
ข้อมูลเหล่านนี้จะนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการในหลายแบบขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญซึ่งจะเป็น
ช่องทางที่สามารถใส่เนื้อหา ที่เราต้องการให้นักเรียนได้เรียนรู้ และถือว่าเป็นช่องทางของการบูรณาการได้ดีที่สุด

3. เลือกวิธีการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ
ในขั้นนี้เป็นการตัดสินใจเลือกแนวคิดที่ดีที่สุดสำหรับแก้ปัญหา
โดยนำข้อมูลและความรู้ที่รวบรวมได้มาประกอบกัน จนได้ข้อสรุปว่าจะเลือกวิธีการแก้ปัญหาหรือวิธีการสนองความ
ต้องการเป็นแบบใด โดยวิธีการที่เลือกอาจยึดแนวที่ว่า เมื่อเลือกแล้วจะทำให้สิ่งนั้นดีขึ้น สะดวกสบายหรือรวดเร็วชึ้น
ประหยัดขึ้น รวมที้งวิธีการเหล่านี้จะต้องสอดคล้องกับทรัพยาการที่มีอยู่

4. ออกแบบและปฎิบัติการ
ขั้นตอนนี้ต้องการให้นักเรียนรู้จักคิดออกแบบซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเครื่องใช้เสมอไป
อาจเป็นวิธีการก็ได้และการออกแบบไม่จำเป็นต้องเขียนแบบเสมอไปอาจเป็นแค่ลำดับความคิดหรือจินตนาการให้เป็น
ขั้นตอนซึ่งรวมปฎิบัติการลงไปด้วย นั่นคือ เมื่อออกแบบแล้วต้องลงมือทำ และลงมือปฎิบัติในสิ่งที่ออกแบบไว้

5. ทดสอบ
เป็นการนำสิ่งประดิษฐ์หรือวิธีการนั้นทดลองเพื่อใช้ทดสอบว่าใช้งานหรือทำงานได้หรือไม่ มีข้อบกพร่อง
อย่างไร ถ้ายังไม่ได้ก็ไปสู่ขั้นตอนต่อไป คือ ปรับปรุง แก้ไข

6.การปรับปรุงแก้ไข
หลังจากการทดสอบผลแล้วพบว่าสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นกรือวิธีการที่คิดขึ้นไม่ทำงานมีข้อบกพร่อง ก็ทำการปรับปรุงแก้ไข โดยอาจเลือกวิธีการใหม่ก็ได้คืนย้อนไปขั้นตอนที่ 3

7.ประเมินผล
หลังจากการปรับปรุงจนใช้งานได้ดีตามวิธีการที่ออกแบบแล้วก็นำมาประเมินผลโดยรวมโดยพิจารณาดังนี้ -สิ่งประดิษฐ์สามารถแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่ระบุไว้ได้หรือไม่
-สวยงามดึงดูดใจผู้ใช้หรือไม่
-แข็งแรงทนทานต่อการใช้งานหรือไม่
-ต้นทุนสูงเกินไปหรือไม่

บางกิจกรรมอาจไม่ครบทั้ง 7 ขั้นตอนก็ได้ บางกิจกรรมบางขั้นตอนอาจสลับกันไปบ้างก็ได้ แต่เมื่อนำไปใช้แล้ว สามารถ
ที่จะทำงานเป็นขั้นตอนเป็นระบบสามารถย้อนกลับมาดูหรือแก้ไขได้ตามขั้นตอนที่ทำไปได้

ขอบคุณข้อมูล รูปภาพจาก

http://bluehuat.myreadyweb.com/article/category-24628.html

http://chutcha.com/home/lession1/page4.html

http://songsdownload.myreadyweb.com/article/category-47416.html

ข้อใด คือ ขั้นตอนที่ 3 ในกระบวนการเทคโนโลยี

ขั้นตอนของกระบวนการเทคโนโลยี 1. ก าหนดปัญหาหรือความต้องการ (Identify the problem) 2. รวบรวมข้อมูล (Information gathering) 3. เลือกวิธีการ (Selection) 4. ออกแบบและปฏิบัติการ (Design and making) 5. ทดสอบ (Testing) 6. ปรับปรุงแก้ไข (Modification and improvement) 7. ประเมินผล (Assessment)

ขั้นตอนแรกของกระบวนการเทคโนโลยีคืออะไร

กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process) คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรือตอบสนองต่อความต้องการซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทรัพยากรให้เป็นผลผลิตหรือผลลัพธ์ระบบเทคโนโลยีประกอบด้วยกระบวนทางเทคโนโลยีทั้งหมด 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1.กำหนดปัญหาหรือความต้องการ (Identification the problem,need or preference)

กระบวนการทางเทคโนโลยีคืออะไร? *

กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process). คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรือตอบสนองต่อความต้องการซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทรัพยากรให้เป็นผลผลิตหรือผลลัพธ์ระบบเทคโนโลยีประกอบด้วยกระบวนการเทคโนโลยีก่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอย ตามที่มนุษย์ต้องการและเปลี่ยนแปลงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีความ ...

ระบบทางเทคโนโลยีมีกี่องค์ประกอบ อะไรบ้าง

ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) ผลผลิต (output)