สั่งของ ใน Apple Store กี่วันได้

เตือนภัยการส่งของ เมื่อสั่งจาก Apple store (ประสบการณ์ของเพื่อน)

เป็นปัญหาของเพื่อนผู้หญิงของผมครับ เธอได้ Post ลง Facebook ของเธอ ผมเลยอาสาที่จะมีกระจายใน Pantip เพื่อจะได้เป็นขอเตือนใจ และเพื่อการแก้ไขปัญหาของทางบริษัทที่รับผิดชอบในการจัดส่งครับ ข้อมูลเพิ่มเติม ที่อยู่ของเธอ อยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ครับ (ซึ่งการจัดส่งจาก Apple Store อาจจะแตกต่างจากการจัดส่งใน กทม.)

โดยมีปัญหา ดังข้อความด้านล่างครับ......

"เตือนภัยการสั่งซื้อ iPhone จาก Apple Store เราได้สั่งของไปคือ iPhone 5s และ iPhone5s case Product Red ซึ่งตอนที่สั่ง Apple ใช้บริษัทขนส่งชื่อว่า UPS เรารอของนานพอสมควรกว่าจะได้รับ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ iPhone 5s Case

การสั่งของได้มีการระบุชื่อผู้รับ ที่อยู่ และเบอร์โทรอย่างถูกต้องครบถ้วน ระบบของ UPS จะมีการ update s tatus ตลอดว่าของถึงไหนแล้ว โดยเฉพาะเมื่อของใกล้จะถึง

วัน 6 พ.ย. เป็นวันที่กำหนดว่าของจะมาส่งเราเปิดมือถือทั้งวัน คิดว่าจะมีการติดต่อเข้ามาก่อนที่จะส่งของเหมือนพวก Ensogo หรือ FedEx แต่ไม่มีการโทรศัพท์แจ้งการส่งของเลย จะกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มแล้ว เราได้เชคเมล์ มี status update ว่าของได้ส่งถึงผู้รับแล้ว ลงชื่อการรับว่า Massupa เราโทรไปถามที่ Office ว่าคุณป้าได้รับไว้รึเปล่า เพราะที่นั่นมีท่านคนเดียว คุณป้าบอกว่าไม่มีของมาเลย ซึ่งปกติแล้วถ้ามีของมาส่งคุณป้าจะนำมาให้อย่างรวดเร็ว สรุปคือปลายทางจริงๆคือเราไม่ได้รับ แต่มีคนแอบอ้างเซ็นต์รับไป.....

ในคืนนั้นติดต่อทาง UPS Live chat จนได้เบอร์โทรของ UPS ประเทศไทยมา (02 7289000) ในวันที่ 7 พ.ย. เวลาประมาณบ่ายโมง เราจึงโทรเข้าไปแจ้ง tracking number และแจ้งข้อมูลดังที่ได้เล่ามา พนักงานคนที่ 1 รับเรื่องเป็นอย่างดี และแจ้งเปิดเรื่องเป็น Urgent ให้ และ Note ให้ว่า Package ถัดไปให้โทรมาก่อนที่จะส่งของ พร้อมทั้งให้เบอร์เฉพาะเวลาสั่งของของ Apple มาให้ (02 7289596)

เราจึงโทรไปเป็นรอบที่ 2 ตามเบอร์นั้น พนง.ท่านที่ 2 (ที่จริงตั้งใจว่าจะกำชับเรื่องการส่ง iPhone 5s) แต่เราก็เล่าถึงปัญหาข้างต้นให้ฟังก่อน พนักงานบอกว่าที่อยู่ก็ถูก ชื่อผู้รับก็ออกเสียงเหมือนกัน จะผิดที่ได้ไง เราจึงตอบว่า เราไม่ได้รับของจริงๆ มีคนแอบอ้างและรับของไปแน่นอน ถ้าเป็นเราอย่างน้อยชื่อที่ sign ก็ต้องสะกดถูกสิ พนักงานส่งของไม่ได้ตรวจบัตรประชาชนแน่ๆ แล้วก็ให้ของไปเนี่ยนะ แล้วถ้ามันเป็นของที่มีมูลค่ามากกว่านี้ล่ะคะจะทำอย่างไร

ทีแรกเหมือนว่าพนักงานจะปัดความรับผิดชอบไป เราจึงบอกว่าอย่างน้อยก็ต้องเชคว่าใครเป็นคนส่งของได้สิ แล้วส่งให้ที่ไหน ใครเป็นคนรับ จะได้ตามถูก เธอจึงรับเรื่องไว้ และดูเหมือนว่าจะเข้าใจเราขึ้นอีกหน่อยหนึ่ง รอไปอีกสักพัก....
โทรไปรอบที่ 3 พนักงานท่านที่ 3 ได้แจ้งความคืบหน้าว่ากำลังตรวจสอบอยู่ เราถามว่าจะรู้ภายในเมื่อไหร่ เพราะเราจะได้ไปแจ้งความ เค้าบอกว่าภายในวันนี้จะติดต่อกลับ เราเลยบอกว่าเราจะรอนะ หลังจากนี้จะไปแจ้งความแล้วล่ะ ถามไปว่าคนของคุณทุจริตรึเปล่า.... แล้วก็ขอบคุณและจบบทสนทนาไป

หลังจากนั้นสักพัก มีคนมาส่งของที่ Office และคุณป้าก็เอาของมาให้ทันที ไม่มีการให้เซ็นต์ชื่อใดๆทั้งสิ้น แค่ถามว่าใช่ที่อยู่คุณมาสสุภารึเปล่า เอาของวางให้แล้วก็ไป ช่วงเย็นๆมีคนโทรมาแล้วถามว่าเราได้ของรึยัง เราบอกว่าได้แล้ว เพิ่งได้วันนี้ เค้าบอกว่าของถึงตั้งแต่เมื่อวาน ฝากของเอาไว้ที่คุณป้า ซึ่งเราตอบทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะถ้าถึงแล้วเค้าจะเอาของมาให้ชั้นทันที คนที่โทรมาก็เงียบไป เราจึงถามว่าแล้วของมาถึงตั้งแต่เมื่อวาน เอาไปส่งที่ไหนมาคะ แถมมีคนแอบอ้างเซ็นต์ชื่อด้วยมันแย่มากเลยนะคะ เค้าก็พูดอ้ำอึ้งว่า ฝากไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่คุณป้า เราก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ ของเพิ่งมาส่งวันนี้ ถามไปถามมาว่าคุณส่งของเหรอ เค้าก็ตอบปฏิเสธว่าเปล่า และถามว่าห่อมีการเปิดไหม เราก็บอกว่ายังไม่มีค่ะ ของได้รับละขอบคุณมาก เกือบไปแจ้งตำรวจแล้ว

สรุปคือ เรารู้สึกไม่ปลอดภัยเลยที่ Apple ใช้บริษัทนี้ส่งของให้ เพราะถ้ามันของแพงกว่านี้ล่ะ ซึ่งก็กำลังมาอ่ะนะ.... แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะได้รับของ แต่ก็ยังรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยต่อของที่สั่งไปอยู่ดี

หมายเหตุ ถ้าใครสั่งของ Apple ไปแล้วมีปัญหาก็ลองโทรเบอร์ 02 728 9000 หรือ 02 728 9596 (UPs Thailand) หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ค่ะ"

ทีมา: pantip.comจากกระทู้คุณ สมาชิกหมายเลข 771032 เว็บพันทิป pantip.com/topic/31211436

คุณมีหลายช่องทางในการซื้อโทรศัพท์ iPhone สักเครื่อง เช่น Studio 7 สาขาต่าง ๆ หรือไม่ก็ไปซื้อจากช็อปของค่ายมือถืออย่าง AIS, True, Dtac หรือจะสั่งซื้อจากทางออนไลน์ผ่านทาง Official Shop ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์สอย่าง Shopee และ Lazada ซึ่งข้อดีของช่องทางเหล่านี้ อย่างหนึ่งที่ทำให้หลายคนเลือกก็คือ มีโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ทั้งลดราคาหรือผ่อนชำระค่อย ๆ ทยอยจ่ายอะไรแบบนี้ก็มี แต่อีกช่องทางที่บางคนนิยมใช้บริการกันบ่อยเช่นกัน ก็คือการซื้อ iPhone จาก Apple โดยตรง ซึ่งอาจจะไปที่สโตร์หรือสั่งจากเว็บไซต์ก็แล้วแต่ คำถาม แล้วถ้าเราสั่งซื้อโดยตรงของแอปเปิ้ล แล้วมันดีกว่ายังไง หรืออาจจะมีข้อเสียตรงไหน เราควรจะใช้บริการจากช่องทางนี้ หรือจะไปซื้อจากตัวแทนดีกว่า บทความนี้จะขอเล่าเป็นไอเดีย พอประมาณ เผื่อเอาไว้ให้คนที่กำลังตัดสินใจ เอาไว้เป็นข้อมูลที่พอจะมีประโยชน์ เป็นแนวทางในการตัดสินใจ

ข้อดีของการสั่งซื้อ iPhone โดยตรงกับ Apple

ก็พยายามหาคำตอบโดยการดูรายละเอียดต่าง ๆ แล้ว เอาจริงเลยคือ ไม่มีข้อเสียอะไรนะ ดีที่สุดแล้ว ซื้อตรงกับ Apple สั่งตรงได้เองจากเว็บ Kerry มาส่งถึงหน้าบ้าน เค้าทำเซอร์วิสไว้ดีและรอบคอบไว้มากอยู่แล้ว โดยเฉพาะบริการหลังการขายดีที่สุด ไปที่อื่นมีค่าบริการ อย่างการให้เราทดลองใช้ iPhone ที่ซื้อไปก่อนตั้ง 14 วัน ถ้าไม่พอใจ หรือเจอตำหนิ หรือเจอปัญหาอื่น เคลมง่ายไม่ยาก ก็แจ้งส่งคืนโดยไม่ถามสาเหตุใด ๆ (อย่าลืมซื้อประกันก่อนด้วยนะ) สามารถเปลี่ยนรุ่นได้ (จ่ายส่วนต่างตามราคาที่เลือก) การบริการหลังการขายฟรี (ถ้าซื้อไอโฟนที่สาขาสโตร์ และไม่เคยแกะเครื่องที่อื่น)

สำหรับ iStudio เค้าเป็นตัวแทนจำหน่าย แต่ Apple คือ ผู้ผลิตและจำหน่าย ในการเคลมก็ต้องเคลมผ่านแอปเปิ้ล ส่วนไอสตูดิโออาจจะแค่รับเรื่องไว้ และส่งไปให้แอปเปิ้ล ซื้อกับผู้ผลิตโดยตรงไม่ต้องกลัวอะไร (ยกเว้นเรื่องราคา) ซื้อที่ไหนก็เคลมไอแคร์อยู่ดี เคยมีคนสั่งซื้อมือถือมาให้ผิดรุ่น ก็ส่งเปลี่ยน ได้ของมาผิดสีก็ส่งเปลี่ยนได้ เปลี่ยนได้หลายครั้ง จนได้ทั้งสีและรุ่นที่ต้องการ ไม่มีค่าใช้จ่าย มีขนส่งมารับถึงบ้าน ติดต่อยากหน่อยตอนทำเรื่องเปลี่ยน ถ้าซื้อไอโฟนกับ iStudio ตอนได้เครื่องมาอยู่ที่ร้าน เราหาตำหนิไม่เจอ พอกลับบ้านเจอตำหนิ เคลมไม่ได้นะ ถ้าแต่ถ้าซื้อโดยตรง หรือสั่งออนไลน์ผ่านเว็บ Apple ภายใน 14 วัน ไม่ชอบ หรือเจอตำหนิ ก็เอาไปคืนได้ (แต่ไม่ใช่ทำพังซะเองนะ)

ข้อเสียของการสั่งซื้อ iPhone จาก Apple โดยตรง

อย่างไรตาม ก็พอนึกข้อเสียได้อย่างนึง ก็คือ ทาง Apple Store อาจจะไม่มีโปรโมชั่นจัดหนักเหมือนที่อื่น ราคาอาจจะไม่มีการลดพิเศษใด ๆ เราต้องจ่ายเต็มเท่าราคาเปิดตัว เอาตรง ๆ โปรโมชั่น ไม่ดีเท่า iStudio รวมถึงค่ายมือถืออย่างพวก AIS, True, Dtac ถ้าคิดว่าอยากได้โปรลดราคา ซื้อผ่านโปรบัตร แนะนำซื้อข้างนอก ถูกกว่าพอควร แต่ไม่มีการคืนเครื่องเท่านั้นเอง

ข้อเสียอีกอย่างที่พอนึกออกก็คือ แม้ว่าการซื้อ iPhone โดยตรงกับแอปเปิ้ล บริการหลังการขายจะดีมากผ่าน iCare เคลมง่าย (กรณีมีประกันนะ) แต่ตอนเคลม คุณต้องไปที่สาขา Apple Store ที่เซ็นทรัลเวิร์ด หรือสาขาไอคอนสยาม ถ้าเป็นคนต่างจังหวัด ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเสียเวลาเพิ่ม ต่างจากคุณซื้อไอโฟนจากช็อปของตัวแทนจำหน่าย ที่มีสาขาย่อยอยู่ทั่วไป ในต่างจังหวัดก็มี

iPhone 13 / 13 Mini

iPhone 13 Pro / 13 Pro Max

iPhone 12 จอ 6.1 นิ้ว ความจุ 64GB/128GB/256GB มีให้เลือกหลายสี ได้แก่ สีดำ ขาว แดง เขียว น้ำเงิน และสีม่วง