ค่ากำเหน็จ คืออะไร ทำไมต้องรู้ก่อนซื้อทองด้วย สาว ๆ ทุกคนอาจเคยได้ยินกันมาบ้างแหละว่า ซื้อทองต้องดูค่ากำเหน็จด้วยนะ เดี๋ยวจะมาไขข้อสงสัยให้ได้ทราบกันค่ะ หลังจากอ่านจบก็จะร้องว่า อ๋ออออ! โอเค เข้าใจถึงแก่นแล้วว่าค่ากำเหน็จมีผลอย่างไรเมื่อซื้อทอง ค่ากำเหน็จ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญพอ ๆ กับราคาซื้อ - ราคาขาย ทองคำค่ากำเหน็จ คือ ค่าผลิตทองคำรูปพรรณ ค่าแรงช่างหรือค่าจ้างในการผลิตจากทองคำแท่งให้สามารถมีลวดลายสวยงาม โดยราคาจะขึ้นอยู่กับความยาก - ง่ายของทองรูปพรรณชิ้นนั้น ๆ รวมถึงค่าการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจร้านทองค้าปลีก (ร้านทองตู้แดง) ค่าการตลาดในที่นี้ คือ ค่าใช้จ่ายในการบริหารร้าน ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงพนักงาน ค่าประกันภัย ค่าเช่าสถานที่ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นภายในร้านทอง โดยตามมาตรฐานค่าแรงในประเทศไทยจะคิดเป็นราคาต่อบาทของน้ำหนักทอง (ส่วนใหญ่ค่าคำเหน็จต่อราคาทอง 1 บาท จะอยู่ที่ประมาณ 600 - 800 บาท ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่ที่ร้านทองเป็นผู้กำหนด) ยกตัวอย่างให้เห็นชัดขึ้น ราคาทองวันนี้ มีราคาขายออกที่บาทละ 26,550 บาท และมีค่ากำเหน็จ 700 บาท
*ค่ากำเหน็จที่ต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของทองที่เราซื้อ หากซื้อทองมากกว่า 1 บาท ก็คูณค่ากำเหน็จตามน้ำหนักที่ซื้อเข้าไป แล้วหากซื้อ แหวนทอง 1 สลึง ล่ะ? จะมีค่ากำเหน็จเท่าไหร่?เชื่อเลยว่าสาวสไตล์ตัวเล็ก ชอบทองเส้นเล็ก ๆ หรือชอบสะสมทองทีละเล็กทีละน้อย ต้องสงสัยแน่นอนว่า แล้วถ้าซื้อทองไม่ถึงบาทล่ะ จะคิดค่ากำเหน็จยังไง มาจ้ะ จะมาคำนวณให้ดู หากเราซื้อ แหวนทอง 1 สลึง ราคาที่จะต้องจ่ายคือ 26,550/4 + 700 = 7,337.50 บาท *หมายเหตุ ราคาทอง ณ ปัจจุบัน ราคาขายอยู่ที่บาทละ 26,550 และค่ากำเหน็จที่ร้านทองกำหนด 700 บาท แล้ว ทองคำแท่ง มีค่ากำเหน็จไหม?มีสิจ๊ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วทองคำแท่งที่เคยได้ยินกันจะเรียกว่า “ค่าบล็อก” คือ การนำทองมาหลอมจนละลายและเทลงพิมพ์ที่เป็นบล็อกนั่นเอง และแต่ละร้านทองก็จะคิดค่าบล็อกที่แตกต่างกัน แต่จะมีค่าบล็อกหรือค่ากำเหน็จที่ถูกกว่าทองรูปพรรณ เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ไม่มีความซับซ้อน และถ้าหากไม่อยากเสียค่าบล็อก จะต้องซื้อทองคำแท่งที่มีน้ำหนักขนาด 5 บาทขึ้นไปนั่นเอง โดยตามมาตรฐานค่าแรง (ค่าบล็อก) ในประเทศไทยของทองคำแท่งจะอยู่ที่บาทละ 100 - 400 บาท แต่หากทองมีลวดลายสั่งทำเป็นพิเศษก็จะมีค่าบล็อกเพิ่มขึ้น อยู่ที่ความมาก - น้อยของลวดลายด้วยค่ะ ทำไม ค่ากำเหน็จ จะมีผลต่อการซื้อ - ขายทองคำแน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะรู้กันดีอยู่แล้วว่าการเลือกซื้อทองคำระหว่างทองคำแท่งกับทองคำรูปพรรณนั้นผู้ซื้อย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันอยู่แล้ว ทำความเข้าใจเพิ่มเติมหากกำลังตัดสินว่าจะ ซื้ออะไรดี ระหว่าง ทองแท่ง กับ ทองรูปพรรณ และเป็นความเข้าใจตรงกันว่าทำไมทองรูปพรรณถึงมีราคาแพงกว่าทองคำแท่ง ซึ่งหนึ่งในเหตุผลนี้ก็เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บค่ากำเหน็จ และค่าบล็อกของทองแต่ละแบบ เพราะฉะนั้น ราคาขายระหว่างทองรูปพรรณและทองแท่ง ก็จะแตกต่างเช่นกัน แต่อย่างเพิ่งเข้าใจผิดว่าเราซื้อทองประเภทเครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน มาในราคาที่แพงกว่าทองคำแท่ง เวลาขายก็ต้องได้ราคาที่ไม่ขาดทุนเหมือนตอนซื้อสิ แต่ความจริงแล้วคือ หากเราต้องการขายทองรูปพรรณที่จุดประสงค์หลักคือใช้เป็นเครื่องประดับ แน่นอนว่าต้องผ่านการใช้งาน การสวมใส่ ในระยะเวลานานก็ส่งผลให้ทองสึกหรอ หรือเสื่อมสภาพไปบ้าง ก็ส่งผลให้ร้านทองที่รับซื้อคืนทองรูปพรรณโดยอิงตามหลักเกณฑ์ตามประกาศของ สคบ. จะมีการหัก 5% จากราคาทองคำประจำวันที่สมาคมประกาศ หรือที่เราเห็นที่ตามร้านทองเขียนไว้ที่หน้าร้านนั่นแหละค่ะว่าวันนี้ราคาซื้อ - ขายทอง ณ วันนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ในทางกลับกัน หากวันนึงเราต้องการขายทองคำแท่ง ราคาที่ร้านรับซื้อคืนจะถูกหักหรือไม่ถูกหักค่าสึกหรอของทองเลย อ้างอิงจากประกาศของกรมการค้าภายใน เรื่อง แนวทางปฏิบัติทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจร้านทองที่เป็นธรรม (มีผลบังคับใช้ 20 เมษายน 2552) มีข้อกำหนดให้ร้านทองค้าปลีกต้องแสดงราคารับซื้อคืนทองและรับซื้อไม่ต่ำกว่าที่กำหนด โดยทองคำแท่งมีสูตรคำนวณคือ ทองคำแท่ง 1 บาท ราคารับซื้อคืนเต็มจำนวน หัก 100 บาท เท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาที่รับซื้อคืนของทองคำแท่งจะคุ้มค่ามากกว่าสำหรับผู้ที่นำทองมาขายค่ะ และจำนวนเงินที่จะได้คือ ราคาของทองคำ ณ ปัจจุบันในวันที่เราไปขายทองนะคะ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นอีก สมมติซื้อทองคำแท่งบวกค่ากำเหน็จมาแล้วในราคา 20,000 บาท ผ่านไปสักระยะต้องการขายทองชิ้นนี้ เลยบึ่งไปร้านทองที่ติดประกาศราคารับซื้อทองอยู่ที่ 23,000 บาท คุณก็จะได้เงินจากการขายทองตามราคาที่ร้านรับซื้อ ณ ปัจจุบันวันนั้นเลยค่ะ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ราคารับซื้อทองแท่งจะได้ราคามากกว่าเพราะส่วนใหญ่คนนิยมซื้อเก็บเป็นทรัพย์สิน หรือเก็งกำไร ทำให้โอกาสที่ทองจะเกิดความเสียหายมีน้อยมาก ทำให้น้ำหนักทองยังอยู่เต็มจำนวน ไม่มีน้ำประสานทอง มีแต่น้ำหนักของทองคำล้วน ๆ จึงทำให้เราขายได้ราคาไปแบบเต็ม ๆ นั่นเองจ้ะ แต่ที่อยากแนะนำเลยค่ะ หากคุณอยากได้ทองที่ลดค่ากำเหน็จลดลงนิดนึง การซื้อทองออนไลน์ผ่าน ทองช่วย ก็ช่วยแบ่งเบาเรื่องค่ากำเหน็จได้เหมือนกันนะคะ แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่าแค่เฉพาะค่ากำเหน็จนะ ไม่เกี่ยวกับราคาทองนะจ๊ะ ซึ่งอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าค่ากำเหน็จนั้นรวมถึงค่าการตลาดของร้านทองค้าปลีกด้วย นั่นก็หมายถึงว่าการที่เราช้อปปิ้งทองออนไลน์ก็ส่งผลให้ค่าบริการอื่น ๆ ลดลงได้ เช่น ค่าแรงพนักงานที่ต้องคอยให้บริการ แต่ที่ประหยัดอย่างเห็นได้ชัดอีกทางนึงก็คือ ประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยล่ะ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่บ้านค่อนข้างไกลกับร้านทอง และไม่ต้องกังวลด้วยว่าพอไปถึงร้านแล้วจะเสียเที่ยวเพราะแบบและลายที่มีไม่ถูกใจ โดยเราจะยกถนนเยาวราชมาให้อยู่ในช่องทางออนไลน์ให้คุณได้จับจ่ายได้สะดวก แถมได้แบบและลวดลายที่มีให้เลือกอย่างมากมาย หรืออยากลองเริ่มจากเลือกทองชิ้นเล็ก ๆ ก่อนเลยก็ได้ค่ะ คลิก ทองช่วย : มิติใหม่แห่งการซื้อทองกับร้านทองที่คุณคุ้นเคย ที่คุณสามารถมั่นใจได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องทองปลอม ตัวทองทุกชิ้นมีใบ Certificate การันตีโดยร้านทอง ซึ่งร้านทองที่อยู่ในระบบเครือข่ายของทองช่วย เป็นร้านทองที่มีตัวตนจริง จากสมาชิกสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทยการันตีคุณภาพทองคำ ด้วยบริการส่งฟรี และมั่นใจได้ว่าทองจะส่งถึงมือคุณอย่างแน่นอนด้วยระบบ E parcel ของไปรษณีย์ไทยที่มีการรับประกันมูลค่าสินค้าเต็มจำนวน ทำความรู้จัก ทองช่วย ให้มากขึ้น
Tags: ทองรูปพรรณ แหวนทอง 1 สลึง ทอง 1 สลึง ค่ากำเหน็จ สร้อยทอง 1 สลึง แชร์ ค่ากําเหน็จทอง กี่บาทค่ากำเหน็จ คือ ค่าแรงหรือค่าจ้างในการผลิตทองคำจากทองคำแท่งให้กลายมาเป็น ทองรูปพรรณในรูปแบบต่างๆ ซึ่งราคาค่ากำเหน็จจะแตกต่างกันตามความยากง่าย ของแบบทองรูปพรรณที่ทำขึ้น ตามมาตรฐานค่าแรงของไทยจะคิดเป็นราคาต่อบาท ทอง (ปัจจุบันค่ากำเหน็จจะอยู่ที่ประมาณบาทละ 600 - 800 บาทต่อน้ำหนักทอง
ซื้อทองคําแท่งมีค่ากําเหน็จไหมไม่เสียค่ากำเหน็จในการซื้อขาย แต่เป็นลักษณะของส่วนต่างราคาซื้อขาย กำไรจากการลงทุนทองคำไม่เสียภาษี ต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดีทำให้อาจมีต้นทุนค่าเก็บรักษา
ออมทองที่ไหนดี 2565ออมทองที่ไหนดี ปี 2565. ออมทองที่ YLG.. ออมทองที่ AUSIRIS.. ออมทองที่ Gcap.. ออมทองที่ แม่ทองสุก. ออมทองที่ ฮั่วเซ่งเฮง. ออมทองที่ Globlex.. ออมทองที่ Savvy Gold.. ออมทองที่ Zipmex กับเหรียญ GOLD (Xbullion). ค่าบล็อกทองแท่ง คืออะไรค่าบล็อค คือ ค่าใช้จ่ายที่บวกเพิ่มเข้าในการซื้อขายทองคำแท่ง ซึ่งทางร้านทองมักจะคิดค่าบล็อคกับการซื้อขายทองคำแท่งที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 5 บาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการหลอมทองคำให้ออกมาเป็นแท่ง
|