จากที่เราคุยกันเมื่อสักครู่ ภาษาอังกฤษ

ข้างบนนี้ทั้งหมดแปลว่า “ตามที่ได้คุยกันทางโทรศัพท์แล้ว …” บรรทัดที่สอง As we had agreed over the phone ย้ำหน่อยว่า ตามที่เราได้ตกลงกันทางโทรศัพท์

ในที่นี้ เราใช้ over the phone ไม่ใช่ on the phone เพราะ over the phone ให้ความหมายในทางสื่อสารกันด้วยโทรศัพท์ ในขณะที่ on the phone บอกถึงการกระทำ เช่น She’s on the phone. เธอคุยโทรศัพท์อยู่

สังเกตว่า As per หรือ Per หรือ According to จะตามด้วย noun เช่น our conversation

แต่ As ตามด้วย noun  ไม่ได้ แต่จะตามด้วยประโยคแบบเต็มหรือย่อก็ได้ เช่น As we had agreed on the phone, …  หรือ As agreed over the phone, …  (ตัด we had ออก) หรือ As requested… ย่อจาก As I was requested…

“Per” the teacher’s instructions, the students wrote their reports.
“As per” the teacher’s instructions, the students wrote their reports.

ตามที่คุณครูสั่ง นักเรียนก็ได้เขียนรายงาน

ไม่ว่าจะเป็นคำไหน ก็ย้ายมาอยู่ในตำแหน่งกลางประโยคได้ เช่น
The patient rested for a week “per” the doctor’s advice.
The patient rested for a week “as per” the doctor’s advice.

The patient rested for a week “according to” the doctor’s advice.

คนไข้พักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ “ตาม” คำแนะนำของแพทย์

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการบอกปริมาณต่อหน่วยวัด ห้ามใช้ AS PER  ต้องใช้ PER เฉย ๆ ค่ะ  เช่น

He eats 2 meals per day. หรือจะใช้ He eats 2 meals a day. ก็ได้ค่ะ (ใช้ a แทน per)

เขารับประทานอาหาร 2 มื้อต่อวัน

She drives 50 miles per hour. หรือ She drives 50 MPH. (MPH = miles per hour)

เธอขับรถด้วยความเร็ว 50 ไมล์ต่อชั่วโมง

Being able to make, change and cancel appointments is an important skill in business English. Here are some expressions you can use to do this concisely and clearly.

Asking for an appointment

(formal situations)
I would like to arrange an appointment to discuss….
Please would you indicate a suitable time and place to meet?

(neutral)
Would it be possible to meet on (date) at your / our offices to discuss…?

(informal)
Can we meet (up) to talk about…?

Suggesting a time

(neutral)
Would Tuesday suit you?
Would you be available on Tuesday?

(informal)
What about…?
Let's say…

Agreeing to an appointment

(formal)
Thank you for your email. I would be available to discuss…. on (date) at (time and place)

(neutral / informal)
Tuesday sounds fine. Shall we say around (time) at (place)?

Saying a time is not convenient

(formal)
Unfortunately, I will be away on business during the week of July 6 – 11, so I will be unable to meet you then. However, if you were available in the following week, I would be glad to arrange a meeting with you.

I will be out of the office on Wednesday and Thursday, but I will be available on Friday afternoon.

Cancelling an appointment

(formal)
Unfortunately, due to some unforeseen business, I will be unable to keep our appointment for tomorrow afternoon.

Would it be possible to arrange another time later in the week?

(neutral)
I’m afraid that I have to cancel our meeting on Wednesday, as something unexpected has come up.

Would you be free to meet early next week?

Apologising

I apologise for any inconvenience. (formal)
I'm sorry about cancelling. (informal)

Asking for confirmation

Please confirm if this date and time is suitable / convenient for you. (neutral)
Can you let me know if this is OK for you? (informal)

Writing to someone you don't know

If you don't know the person, you'll need to give some background information about yourself or your company.

หลายคนอาจจะยกมือขอผ่าน หากต้องพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างประเทศ บอกเลยว่าน่าเสียดายมากๆ หากคุณละทิ้งโอกาสที่จะได้ฝึกสกิลภาษา หรือผูกมิตรกับคนในบริษัท  เอ๋ แล้วแบบนี้เราจะเริ่มต้นยังไงดี ถ้าอยากจะคุย หรือต้องพูดคุย ทำงานรวมกับชาวต่างนะ ?

มาพิชิตความกลัว ทลายกำแพงภาษา กับ วอลล์สตรีทอิงลิช ด้วย 10 ประโยคง่ายๆ สำหรับคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติดีกว่า

 

 

1. Sorry to bother (disturb) you, but… (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่…)

หากคุณต้องการขอความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องงานที่ต้องรบกวนอีกฝ่าย ลองเริ่มต้นด้วยประโยคขอโทษที่รบกวน ตามด้วยเรื่องที่ต้องการจะให้ช่วยดูสิ เช่น

Sorry to bother you, but could you check this report for me? (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณช่วยตรวจสอบรายงานนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม ?)

Sorry to disturb you, but can I borrow the stapler? (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันขอยืมที่เย็บกระดาษหน่อยได้ไหม ? )

 

 

2. Do you have a minute? (ว่างคุยซักนิดไหม ? / มีเวลาซักเดี๋ยวไหม ?)

ถ้าให้แปลตรงๆ จะแปลว่า มีเวลาซักนาทีมั้ย ประโยคเหล่านี้ มักจะใช้ในเวลาเราอยากกวนเวลาใครสั้นๆ อาจจะเป็นการถามงานสัก 2 – 3 นาที  หรือถ้าใครเบื่อประโยคเดิมๆ จะลองใช้ประโยคต่อไปนี้ ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ เพราะให้ความหมายที่ไม่แตกต่างกันเลย

“Can I have a word with you?”

“Can I talk to you for a minute/a second ?”

 

 

3. Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง ? (ขอสายคุณ…หน่อยได้ไหมคะ/ครับ)

ประโยคข้างต้น เป็นประโยคที่เหมาะกับใคร ที่ต้องติดต่องานทางโทรศัพท์กับชาวต่างชาติมากๆ หรือจะใช้ติดต่อสื่อสาร ขอพบ หรือขอพูดคุยก็ได้ เช่น ไปถึงโต๊ะเลขาหน้าห้อง แล้วอยากขอคุยกับเจ้านายหน่อยก็ได้เหมือนกันนะ

 

 

4. When (What time) can I call you back ? (ฉันโทรกลับหาคุณได้เมื่อไร)

ไหนๆ ประโยคก่อนหน้านี้ก็เป็นการขอพูดคุย ขอพูดสายด้วยแล้ว ประโยคนี้จะเป็นประโยคต่อเนื่องกัน เมื่ออีกฝ่าย หรือคนที่เราต้องการคุยด้วบ ยังไม่ว่างคุย ณ ตอนนั้น  

โดยปรกติแล้ว ประโยคนี้ หากเราถามกลับไปได้ ส่วนมากคำตอบส่วนมากอีกฝ่าย (หรืออาจจะตัวเราเอง) ก็จะบอกช่วงเวลา หรือระยะเวลากลับมา เพื่อเป็นการนัดหมายในการโทรครั้งต่อไปนั่นเอง

 

 

จากที่เราคุยกันเมื่อสักครู่ ภาษาอังกฤษ

5. Can you join the meeting on + วันที่ + at + เวลา? (คุณเข้าร่วมประชุมวันที่…เวลา…ได้ไหม ?)

เรื่องการนัดหมายประชุม หรือมีตติ้ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำงานบริษัท แต่ถ้าใครที่ยังงงๆ ลองดูประโยคเต็มๆ นี้ ได้ เช่น “Can you join the meeting on Friday at 10 a.m.?” (คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าได้ไหม?)

หรือใช้ประโยคนี้ก็ได้ “Are you available for the meeting on Friday at 10 a.m.?” (คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าไหม ?)

 

 

6. Would you mind helping me with … ? (รังเกียจไหม ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับ…)

อีกหนึ่งรูปแบบประโยค ที่ใช้เวลาต้องการขอความช่วยเหลือ ที่แตกต่างจากประโญคก่อนหน้านี้คือ นี่เป็นประโยคแบบสุภาพมากๆ โดยใจความหลักของประโยคนี้ เหมือนถามรวมๆ ว่า ช่วยฉันเรื่องนี้ได้มั้ย ถ้าอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก็เอาศัพท์มาต่อท้ายได้เลย เช่น

“Would you mind helping me with this document ?” (รังเกียจไหม ? ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเอกสารนี้)

“Would you mind helping me with the project ?” (รังเกียจไหม ? ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับโปรเจคนี้)

หรือถ้าอยากจะลดระดับความสุภาพลง เพราะบางคนคงนึกจั๊กจี้ไม่น้อย ถ้าต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิท คุณอาจจะเปลี่ยนใช้คำว่า  “Can you help me with + N.?”  ก็ได้เหมือนกัน จะดูเป็นกันเองมากกว่า

 

 

7. Would you mind if + ประโยค  (จะเป็นอะไรมั้ยถ้า…)

เอ๋ ? แลวประโญคนี้ แตกต่างจากประโยคก่อนหน้ายังไงนะ ? เพราะทั้งคู่เล่นใช้คำว่า “Would you mind…” ทั้งคู่เลย ? เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ประโยคดั่งกล่าว สามารถ “จะเป็นอะไรไหม ?” ได้ด้วย  ส่วนมากประโยคนี้ จะเน้นใช้โยนหินถามทาง (สังเกตได้จากคำว่า if ตามด้วยสิ่งที่ต้องการจะทำ) เช่น

“Would you mind if I skip the meeting?” (จะเป็นอะไรไหม ? ถ้าฉันจะขอไม่เข้าประชุม)

“Would you mind if I postpone the deadline?” (จะเป็นอะไรไหม ? ถ้าฉันจะขอเลื่อนกำหนดส่งงาน)

 

 

จากที่เราคุยกันเมื่อสักครู่ ภาษาอังกฤษ

8. Can I take + วันที่อยากลา off? (ฉันขอลาในวัน…ได้ไหม?)

เรื่องป่วย ลา เป็นเรื่องปรกติมากๆ แหม ก็มนุษย์นี่น่า ต่อให้แข็งแรงมากแค่ไหน ก็ต้องมีบ้างทีต้องลาป่วย หรือติดธุระอื่นๆ จนต้องลาได้ โดยการลา คุณอาจจะบอกเพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านาย ได้ว่า

Can I take Monday off? (ฉันขอลาวันจันทร์ได้มั้ย)

Can I take this Friday off? (ฉันขอลาวันศุกร์นี้ได้มั้ย)

หรือถ้าอยากถามก่อนว่าขอลาสักวันได้ไหม (แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหน) ก็ใช้ประโยคว่า “Can I take a day off?” (ฉันขอลาซักวันได้ไหม ?) ก็ได้เช่นกัน

 

 

9. Did you catch the news today? (คุณอ่านข่าววันนี้หรือยัง)

พูดถึงเรื่องงานกันมาก็มากแล้ว สำหรับใครที่อยากจะลองผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานที่มาใหม่ หรืออยากจะเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องงานบ้าง ลองชวนเขาคุยในเรื่องสัพเพเหระทั่วไป เริ่มง่ายๆ อย่างเรื่องข่าวสักข่าว ในเช้าวันนี้สิ! แต่ก่อนจะทักอะไร อย่าลืมเช็กด้วยล่ะ ว่าเพื่อนร่วมงานต่างชาติของคุณสนใจไปในทิศทางเดียวกับคุณบ้างไหมด้วยนะ

 

 

10. I’d like you to meet someone (ฉันอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับใครบางคน)

ประโยคนี้ นอกจากจะเป็นประโยคง่ายๆ สำหรับแนะนำเพื่อนใหม่ของเราให้กับรู้จักกับคนอื่นๆ แล้ว คุณยังสามารถใช้ประโยคดังกล่าวได้ในที่ทำงาน ในกรณีที่ มีพนักงานใหม่เข้ามา และคุณต้องการจะแนะนำให้กับคนอื่นๆ ในแผนก ในที่ทำงาน  หรืออาจจะเป็นการแนะนำลูกค้าให้รู้จักกับคนในทีม ก็สามารถทำได้เช่นกันนะ

 

ภาษาอังกฤษในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องยาก อย่าอายที่จะใช้ภาษาอังกฤษ ครั้งแรกอาจจะไม่ได้ดี สมบูรณ์แบบไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหมั่นใช้ หมั่นฝึกฝนเองบ่อยๆ ภาษาของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน!  

Post Views: 18,532

การเรียนภาษา, ฝึกพูดภาษาอังกฤษ, ฝึกฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกภาษาอังกฤษ, ฝึกใช้ภาษาอังกฤษ, พูดภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน, เรียนภาษา, ใช้ภาษาอังกฤษ