นิยาย นางเอก เปลี่ยนแปลง ตัว เอง ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

🖤ใครสักคนช่วยฉันทีปลดปล่อยความอ่อนแอพวกนี้ของฉันที🖤

ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้อีกต่อไปอีกแล้ว

"ช่วยด้วยค่ะ  มีคนถูกขังอยู่ในนี้ฮือๆ ช่วยด้วย!! ช่วยหนูที    เปิดประตูให้หนูทีอึก ฮือๆ"

เด็กสาวร่างอ้วนที่เพื่อนๆในห้องต่างรังเกียจกับรูปร่างหน้าตาของเธอ            เธอมักโดนแกล้งเป็นประจำ   เด็กร่างอ้วนกำลังร้องไห้อย่างหน้าสงสารน้ำตาเห็นความเจ็บปวดหลั่งไหลออกมาเหมือนปานเขื่อนน้ำเเตก! ขาของเด็กสาวค่อยๆอ่อนแรงลงอย่างช้าๆก่อนร่างของเด็กร่างอ้วนจะล้มตัวลงไปนั่งที่พื้นห้อง

"อีอ้วน อีช้างน้ำ อีมนุษย์ต่างดาว อย่าโดนตัวฉัน สกปรก!"คำพูดพวกนนี้ที่เธอได้ยินเเทบทุกวันมันเป็นดังเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทงใจเด็กสาว  คนพูดอาจจะชินปากไปแล้วที่ต้องด่าแต่คนฟังกลับไม่!!

เพราะเมื่อไหร่ที่เด็กร่างอ้วนอย่างบีถูกเพื่อนล้อเรื่องปมด้อยเรื่องหน้าตาหรือรูปร่างของเธอ  เธอเสียใจและเจ็บปวดทุกครั้ง  เสียงในใจของเธออยากจะบอกให้พวกเค้าเหล่านั้นหยุดสักที !! แต่มันคงดังอยู่แค่ในใจของเธอเท่านั้นเพราะเธออ่อนแอเกินไป

🥀7ปีต่อมา🥀

สาวร่างเพรียวใบหน้าสวยกำลังนั่งทานอาหารกับเพื่อนสาวที่ร้านอาหารหรู

"แกๆ ดูคนนั้นสิ ทำจมูกเปล่าว่ะ ฉันว่าทำนะ!! ปลอมทั้งตัวอ่ะ"เสียงผู้หญิงสองคนกำลังนั่งนินทราหญิงสาวสวยที่ทุกคนในร้านต่างจับตามองกันทั้งร้านอาหารหรู บางคนก็อิจฉาบางคนก็ชื่มชมในรูปร่างหน้าตาที่สวย

"พูดอะไรกันอ่ะ ฟังด้วยสิ พูดต่อสิ !!"

"อ้าว นึกว่าใครที่ไหน อีเอเลี่ยนนี่เอง"หญิงสาวปากแดงยกยิ้มอย่างดูถูก

"นี่ก็นึกว่าใครที่ไหน  อีหมาหัวเน่า!!นี่เอง"

บี:อ่อนแอก็แพ้ไป  ฉันจะไม่มีวันแพ้อีกเด็ดขาด เพราะฉันไม่อยากอ่อนแอ

"จุ๊ๆ เรื่องนี้อย่าบอกให้ใครรู้ล่ะ เก็บไว้รู้กันเเค่สองคนนะ"ศิมันต์ชายร่างสูงใบหน้าหล่อเป็นถึงลูกนักธุรกิจที่ติดอันดับรวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทยที่ไม่ว่าจะมีธุรกิจส่งออกสินค้า ธุรกิจด้านความงาม ด้านอสังหารริมทรัพท์และอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ตระกูลของชายที่เพรียบพร้อมทั้งด้านรูปร่างหน้าตาชื่อเสียเงินทองอย่างศิมันต์จะมี เค้าเพอร์เฟ็ต!!

"ก็แค่หลอกให้รัก ก็เเค่อยากเล่นกับความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งตามกระเเส!!        ก็แค่หลอกให้รัก!  เด็กโง่เอ้ย"

"เออ  สนุกดี น้องแม่งชอบกูจริงๆว่ะ"ศิมันต์พูดอย่างตลกขบขันในกลุ่มเพื่อน

"ศิมันต์อ่า ไม่น่าไปแกล้งเพื่อนนัทเชลแบบนั้นเลยนี่คะ"หล่อนยิ้มอย่างสนุกสนานจะใครล่ะที่ยุยงให้รุ่นพี่คนหล่อไปแกล้งคนที่ตัวเองเเสเเสร้งแกล้งเรียกว่าเพื่อน

"อ๊ะ ฮ๊า  อือ  อ่าาา   แน่นจังเลยของ มึงเนี่ย"เสียงการร่วมรักของหญิงชายอย่างดิบเถื่อน

"ได้เงินแล้วก็ออกไปซะ"

ศิมันต์:นิยามผู้หญิงสำหรับผมน่ะหรอ  ที่ระบายอารมณ์เงี่ยนของผมมั้ง  ยกยิ้มที่มุมปาก

จะเป็นยังไงที่เด็กสาวคนที่พวกเค้าต่างมองว่าเป็นเศษขยะที่รอวันเก็บใส่ถังขยะอย่างบีกลับ เปลี่ยนเเปลงตัวเองจนสวยชนิดที่นางแบบในนิตยยายสารยังอายเธอมาพร้อมกับความมั่นใจที่เปี่ยมล้มและโชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกนำพาให้บีกลับมาเจอคนพวกนั้นอีกครั้ง ในเมื่อเธอพยายามหลบและหลีกยังไงก็ไม่อาจหลุดพ้นจากคนพวกนี้ได้   งั้น  !!! ถ้าจะต้องสู้กับพวกเค้าเหล่านั้นอีกครั้ง                    

  ❤️‍🔥"  เธอ ก็จะต้องเป็นฝ่ายชนะก่อนเสมอ"❤️‍🔥

********************************

นิยาย นางเอก เปลี่ยนแปลง ตัว เอง ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

ลีโน่ TALK :

          หลังจากที่ยัยบ้านั่นออกจากห้องไปผมก็ค่อยๆประคับประคองลูกชายของผมแล้วเดินไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนหน้านี้โดนยัยนั่นเตะผ่าหมากทำเอาทั้งเจ็บทั้งจุกไปหมด แต่แม่ตัวดีกลับแค่ส่งสายตาสำนึกผิดน้อยๆแล้วก็เดินออกจากห้องไป ทำให้ผมไม่ทันได้เอาคืน ฝากไว้ก่อนเถอะยัยขี้เหร่ แต่ผมก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่าทำไมช่วงนี้ผมถึงรู้สึกแปลกๆยิ่งกับยัยนั่นแล้วด้วย ที่ออกจะขี้เหร่ไม่ใช่สเปคผู้หญิงที่ผมชอบเลย แต่เมื่อกี้ผมกลับอยากจูบยัยนั่นซะงั้น สงสัยอาจเพราะ 2-3 วันมานี้ผมไม่ได้ขึ้นเตียงกับบรรดาสาวๆก็เป็นได้ เนื่องจากช่วงนี้ผมก็กำลังยุ่งๆกับเรื่องของศัตรูตัวฉกาจอย่างไอ้เอริค มันจะจองล้างจองผลาญอะไรผมนักหนาวะ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าเคยไปทำอะไรให้มัน แต่เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนที่ไอ้เอริคเริ่มเข้ามามีเรื่องกับผม แล้วคิดว่าคนอย่างผมจะยอมให้มันมาลบคมได้ฝ่ายเดียวเหรอ ไม่มีทางล่ะ!

Rrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น โชว์เบอร์ของเพื่อนซี้หน้าหล่อดูเหมือนเจ้าชาย แต่ที่จริงแล้วก็แค่เจ้าชายในคราบมารร้ายล่ะนะ ผมคิดในใจพลางเอื้อมไปกดรับสาย

"เออ ว่าไง"

[แกจะเข้าสนามกี่โมง.. คงไม่ลืมนะว่าวันนี้เป็นวันอะไร]  

        ไอ้แซคถามผมกลับมา มันคงโทรมาเตือนผมสินะ ใช่แล้วล่ะ...วันนี้เป็นวันที่ผมนัดแข่งรถกับไอ้เอริค จำวันที่ผมเดินชนยัยขี้เหร่ได้มั้ย วันนั้นไอ้แซคโทรมาบอกผมว่าไอ้เอริคมันมาหาเรื่องคนของผมที่สนาม ถ้าจะพูดให้ถูกมันมาหาเรื่องผมต่างหากล่ะ แต่ด้วยการที่มันทำอะไรผมไม่ได้ มันเลยไปลงกับคนของผมแทน

"เออจำได้ ยังไม่ถึงเวลาซักหน่อย จะโทรมาทำไมป่านนี้วะ"  ผมพูดอย่างขำๆ

[เอ้า แกไม่คิดจะเตรียมตัวหรอวะ แกคงไม่เคยเห็นไอ้เอริคมันลงสนามเลยสิ จะบอกว่า...โคตรเมพพพพ]  เอ้าไอ้เวรนี่ ตกลงมันเพื่อนใครกันแน่วะ ยังมีหน้ามาออกปากชมคู่อริผมอีก

"เห้ยไอ้แซค ตกลงฉันหรือมันวะที่เป็นเพื่อนแกน่ะ"

[ฮ่าๆๆ ก็แกไง ทำงอนไปได้ไอ้คุณชาย ถ้าไม่ใช่เพื่อนคงไม่ทุกข์ไม่ร้อนแทนหรอก แล้วตกลงเอาไง ฉันว่าแกไม่ต้องไปรับคำท้ามันก็ได้นี่ ถ้าแพ้..สนามแข่งของแก...]  

       ไอ้แซคกำลังจะพูดว่าถ้าผมแพ้ สนามแข่งรถจะตกไปเป็นของไอ้เอริคมัน ผมเลยต้องพูดขัดปากอัปมงคลของมันไว้ก่อน ใช่แล้วล่ะ ไอ้เอริคมันท้าผมแข่งรถกับมัน โดยของเดิมพันที่ว่าคือสนามแข่งรถที่ผมรักไงล่ะ เพื่อแลกกับให้มันเลิกมาก่อความวุ่นวายที่สนามแข่งผมซักที

"พอๆๆ นี่แกไม่เชื่อมือฉันหรอวะ คนอย่างฉันไม่รู้จักคำว่าแพ้ และสนามแข่งก็เป็นของฉัน ไม่มีวันยกให้มันเด็ดขาด!" ผมบอกมันด้วยความมั่นใจ

[เออๆ แล้วจะเข้ามาตอนไหน จะได้โทรไปบอกไอ้ออสตินถูก]

"คงซัก 6 โมง แข่งตั้งทุ่มนึงนี่ ว่าแต่แกนี่ตัวติดเมียเนอะ ฮ่าๆๆๆ"  ผมแกล้งหยอกมันจนคนปลายสายทำเสียงฟึดฟัดไม่สบอารมณ์ ที่จริงเพื่อนผมสองคนมันเป็นชายแท้ครับ ไม่นิมยมไม้ป่าเดียวกันแถมยังชอบเนื้อนมไข่อีก ยิ่งถ้าสวยเซ็กซี่อกตู้มมันยิ่งชอบเลย แต่เรื่องมันก็เริ่มมาจากไอ้ออสตินที่แกล้งแหย่ไอ้แซคก่อน ถ้าวันไหนไอ้แซคควงสาวสวยน่าฟัดแล้วเกิดถูกใจมัน มันเลยคิดจะสอยผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา โดยไอ้ออสตินมันจะแกล้งเข้าไปแหย่ว่าเป็นคู่รักคู่ผัวตัวเมียกับไอ้แซค เลยทำให้สาวสวยคนนั้นต้องเซย์กู๊ดบายให้ไอ้แซคมัน สุดท้ายพอวันรุ่งขึ้นถึงได้รู้ว่าผู้หญิงที่ไอ้แซคควงด้วยเมื่อคืน ดันถูกไอ้ออสตินเพื่อนรักสอยไปกินแล้ว จะว่าไปก็อดสงสารไอ้แซคมันไม่ได้ เพราะตอนที่ไอ้ออสตินแหย่ มันได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ แถมไม่พูดปฏิเสธให้ผู้หญิงคนนั้นฟังอีก ผมเลยอดขำพวกมันสองคนไม่ได้ บางทีไอ้แซคก็เลยเอาคืนบ้าง ซึ่งพวกมันก็ชอบเอาคืนกันอยู่ตลอดน่ะแหละ แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าไอ้ออสตินมันทำยังไง ผู้หญิงคนนั้นถึงยอมให้มันพาขึ้นเตียงด้วย ถามเท่าไหร่ก็ไม่บอกแถมยังยิ้มเจ้าเล่ห์อีก ไอ้นี่มันน่ากลัวแฮะ

[หยุดๆ เลิกล้อซักที ขนลุก จะอ้วกว่ะ คิดแล้วแหยงๆว่ะ]  ไอ้แซคทำเสียงแหยงๆ ตอบกลับมา

"เออๆ งั้นเย็นนี้เจอกัน"  ผมบอกพลางวางสายแล้วรีบลงไปข้างล่าง เพื่อเอาคืนยัยขี้เหร่ซักหน่อย

โต๊ะอาหาร

"พีต้าไปไหน ทำไมไม่มาอยู่รับใช้ฉัน"  ผมถามโรซ่าที่ยืนอยู่แทนยัยคนก่อเรื่อง

"เห็นบอกว่าจะไปช่วยเกลจัดดอกไม้ค่ะ คุณลีโน่ต้องการอะไรรึเปล่าคะ"  โรซ่าบอกผม

"งั้นช่วยไปตามยัยขี้เหร่ เอ๊ย พีต้ามาให้หน่อย บอกว่าฉันจะพาไปข้างนอก แล้วช่วยแต่งตัวดีๆออกมาด้วยล่ะ"  ผมบอกโรซ่าที่ตอนนี้ทำหน้างงๆ เธอคงสงสัยว่าทำไมผมถึงจะพายัยพีต้าออกไปข้างนอกด้วย ทั้งที่ปกติผมไม่ชอบให้มีคนมาวุ่นวายหหรือทำตัวติดผม เพราะขนาดพวกลูกน้องหรือบอดี้การ์ด ผมก็ไม่เคยจ้างมาซักคน ซึ่งผมคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องมีเลย เพราะปกติผมก็ดูแลตัวเองได้ดีอยู่แล้ว ออกจะยุ่งยากน่ารำคาญซะมากกว่าที่มีคนคอยตาม

"เอ่อ..ค่ะ"

ลีโน่ END


             เช้านี้หลังจากขึ้นไปปลุกเจ้านายตัวดีแถมยังไปเตะผ่าหมากหมอนั่นอีก ป่านนี้คงโกรธฉันเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว ฉันเลยต้องหลบมาอยู่ช่วยจัดดอกไม้กับยัยหน้าปลาตาย ฉันนั่งมาเกือบจะครึ่งชั่วโมงละ แต่ยัยเกลไม่เห็นจะคุยกับฉันซักคำ ถามคำตอบคำ แต่ก็ยังดีกว่าเงียบล่ะนะ

"เกล... เธอทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอ"  ฉันถามหญิงสาวแสนเย็นชาตรงหน้า

"อืม"  อืม..อืม ?

"เอ่อ..ดูเหมือนเธอจะยังเด็กอยู่เลยนี่ อาจจะเด็กกว่าฉันอีก ฉันอายุ 22 แล้วเธอล่ะ"  ฉันถามคนตรงหน้าเพื่อทำลายความเงียบ

"20"  ดูเหมือนเธอจะเด็กกว่าฉันจริงๆด้วย

"งั้นฉันก็แก่กว่าเธอน่ะสิ เรียกฉันว่าพี่ก็ได้นะ ฉันไม่มีน้องสาวน่ะ อยากลองมีน้องสาวดูบ้างเหมือนกัน"  ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าและบอกไปตามความจริง ที่จริงแล้วฉันก็อยากจะลองเปิดใจและรู้จักคนอื่นดูบ้าง บางทีคนเราก็ไม่ควรตัดสินคนอื่นจากภายนอกอย่างเดียว เพราะบางทีเนื้อแท้แล้วเขาอาจจะเป็นคนดีก็ได้ นึกแล้วก็คิดถึงตัวเองด้วยเหมือนกันที่ตอนนี้ยังอยู่ในคราบยัยขี้เหร่อยู่เลย

"....."  เงียบ 

"เอ่อ..หรือถ้าไม่อยากเรียกก็ไม่เป็นไร คือฉันแค่.."

"...พี่พี..ตะ...../พีต้าจ้ะ คุณลีโน่บอกให้มาตาม เห็นบอกว่าจะพาไปข้างนอก แล้วก็..เอ่อ เขาย้ำมาว่าให้แต่ตัวดีๆออกมาด้วยจ้ะ"  เกลเหมือนจะพูดอะไรกับฉัน แต่อยู่ๆก็ได้ยินเสียงโรซ่าเรียกขัดซะก่อน เมื่อกี้โรซ่าบอกว่าอะไรนะ.. หมอนั่นจะพาฉันออกไปข้างนอกเหรอ ไปไหน? แล้วยังให้แต่งตัวดีๆอีก คงกลัวว่าจะอับอายสินะถ้าเดินกับยัยขี้เหร่เฉิ่มเชยอย่างฉัน งั้นคงต้องจัดให้ซะหน่อย ฉันคิดพลางนึกอะไรสนุกๆได้

"อ๋อค่ะ เข้าใจแล้ว ขอบคุณโรซ่ามากนะ"  ฉันยิ้มน้อยๆให้โรซ่า เพราะก่อนหน้านี้ฉันเป็นคนขอร้องให้โรซ่าอยู่บริการอีตาคุณชายที่โต๊ะอาหารแทนฉัน โรซ่าเธอใจดีจริงๆ

           ฉันรีบแต่งตัวตามคำขอของหมอนั่นก่อนจะเดินไปหาเขาที่รถ หนุ่มหล่อมีเสน่ห์ตรงหน้าสวมแจ็คเกตสียีน กางเกงยีนสีเดียวกับแจ็คเกต สวมแว่นกันแดดสุดเท่กำลังยืนกอดอกพิงรถสปอร์ตคันหรูอยู่ พอฉันเดินไปถึงคนตรงหน้าเขาก็จ้องฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วจิ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงของตัวเอง แล้วหันมาบอกฉัน

"นี่ดีสุดแล้วเหรอหะยัยขี้เหร่"  เขาถามฉันพลางทำหน้าหนักใจ

"ก็ได้แค่นี้แหละค่ะ แล้วนี่จะพาฉันไปไหนคะ"  ฉันตอบและถามเขากลับไป

"ไปซื้อของ"

"ห๊ะ! ซื้อของ ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะ แล้วนี่คุณไม่ไปทำงานแล้วเหรอ มันสายมากแล้วนะ"  ฉันถามคนตรงหน้า

"วันนี้ไม่ไปละ ไหนๆก็สายแล้ว ขึ้นรถสิ"  เขาสั่งเสียงเข้ม ทำเอาฉันได้แต่ทำตามอย่างจำใจ

"ไปซื้ออะไร แล้วทำไมฉันต้องไปด้วย"

"ของใช้ แล้วก็..อยากจะพิสูจน์อะไรซักหน่อย"  เขาวา่พลางหันมามองฉันที่นั่งเบาะข้างๆแว๊บนึง ก่อนจะหันกลับไปจดจ่อบนถนนต่อ พิสูจน์..พิสูจน์อะไรของเค้า ฉันได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าถามต่อ จนประมาณ 30 นาทีก็มาถึงห้างดังใจกลางเมือง

          ฉันเดินตามลีโน่ไปเรื่อยๆ ระหว่างทางที่เดินก็มีคนมองดูและพูดจาซุบซิบนินทาจนบางประโยคเล่นเอาฉันจุกและต้องกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองไว้ในใจ ซึ่งคงหนีไม่พ้นประโยคที่ว่า "นั่นยัยเพิ้งที่ไหนน่ะ ดูแต่งตัวเข้าสิ อย่างกับคนบ้าแหนะ"  หรือไม่ก็ "นี่ถ้าฉันหน้าตาอย่างยัยนั่น ฉันจะไม่เดินออกจากบ้านเลย"  และยังมี "นางช่างไม่ดูหนังหน้าตัวเองบ้างเล้ยย"  บ้างล่ะ แต่ก็มีบางประโยคที่เอ่ยถึงคนตัวสูงข้างๆฉัน ซึ่งก็ไม่พ้นคำปลาบปลื้มและเคลิบเคลิ้มที่ว่า  "อ๊ายยย เธอๆดูผู้ชายตรงนั้นสิ หล่อหุ่นดีน่าฟัดมาก กรี๊ดๆๆ"   ไม่ก็ "ฉันอยากจะวิ่งเข้าไปซบอกแล้วลูบไล้ไปให้ทั่ว เขินๆอ่ะแก"และอีกหลายๆประโยคที่ตามมา แต่ดูเหมือนคนข้างๆจะไม่ได้ใส่ใจ ยังคงเดินหน้านิ่งอย่างเป็นปกติ คงจะชินแล้วสินะพ่อคนหล่อ เชอะ! แต่แล้วอยู่ๆก็มีบทสนทนานึงลอยผ่านหูเข้ามา

"ทำไมสุดหล่อถึงเดินมากับยัยหน้าปลวกนั่นล่ะ"  ผู้หญิงคนแรกเอ่ยถามเพื่อนสาวที่เดินข้าง ฉันได้ยินอะไรแว่วๆว่าปลวกๆ ก่อนจะเงี่ยหูฟัง

"สงสัยจะเป็นคนงานต่างด้าวที่บ้านมั้ง คงพามาถือของแหละ" คนถูกถามตอบกลับไป ว่าไงนะ! คนงานต่างด้าวเหรอ ฉันหันขวับไปจ้องหน้ายัยสองคนนั้น จนยัยคนพูดได้แต่ทำหน้าเฝื่อนๆ พอรู้ว่าฉันกำลังมองเขม็งอยู่ ยัยนั่นได้แต่สะกิดเพื่อนตัวเองให้รู้ตัว

"เออก็จริง อย่างสุดหล่อคนนั้นน่ะคงไม่ควงยัยหน้าปลวกนั่นเพราะเหตุผลอื่นหรอก ฮ่าๆๆๆๆ แล้วนี่จะสะกิดทำมะ..เอ่อ ฉันนึกได้ว่าลืมซื้อสบู่ ไปกันเหอะ"  ผู้หญิงคนแรกยังพูดเจื้อยๆกับคนข้างๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกฉันมองอยู่ แต่พอได้จังหวะหล่อนเลยหันมาเห็นฉันจ้องอยู่ เลยหยุดนินทาระยะเผาขน และชวนเพื่อนข้างๆไปซื้อสบู่ทันที แหม พอทีนี้ล่ะทำกลัว แม่ไม่วิ่งเข้าไปตบก็บุญแค่ไหนละ ถ้าเป็นพีต้าคนเก่า ป่านนี้ยัยปากเสียนั่นคงไปนอนกองกับพื้นแล้ว แต่ด้วยการที่ฉันอยู่ในสถานะแบบนี้เลยได้แต่ปลอบใจตัวเองให้เย็นลงเท่านั้น ทำไมคนเราถึงชอบดูคนที่หน้าตานักนะ

"เป็นอะไร"  คนตัวสูงข้างๆเอ่ยถามฉัน

"ไม่ได้เป็นอะไรนี่ค่ะ"  ฉันตอบแต่ก็คงทำหน้ากระฟัดกระเฟียดกลับไป

"ฮ่าๆๆๆ อย่าบอกว่าเธอโกรธที่โดนผู้หญิงพวกนั้นว่าน่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ "  ตาบ้านี่ยังมีหน้ามาหัวเราะคนอื่นอีก ฉันทำหน้ามุ่ยๆจ้องกลับไปยังคนตรงหน้า

"ตลกมากใช่มะที่พาฉันมาให้อับอายคนอื่นน่ะ"  ฉันว่ากลับไปจนคนตรงหน้าพยายามกลั้นหัวเราะที่ตอนนี้น้ำหูน้ำตาเล็ดอยู่คนเดียว

"ฮ่ะๆ ฮะ คือฉันไม่คิดว่าเธอจะใส่ใจคำพูดพวกนั้น"  เขาตอบพลางยิ้มขำๆ

"ใช่สิ ก็ฉันมันขี้เหร่ ไม่สวยนี่ แล้วคุณจะพาฉันมาเดินด้วยทำไมล่ะ ทำไมไม่ไปควงผู้หญิงสวยๆแบบที่คุณชอบล่ะ"  ฉันเถียงคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงปนน้อยใจ

"งั้นเหรอ.. แต่ฉันช่วยเธอได้นะ ไม่งั้นวันนี้ฉันคงไม่พาเธอมาที่นี่หรอก รับรองว่าเธอจะต้องขอบใจฉัน"  ลีโน่ว่าพลางยิ้มสนุกมาที่ฉัน ช่วยฉันงั้นเหรอ..ช่วยอะไรน่ะ รอยยิ้มนั่นทำเอาฉันขนลุกซู่ขึ้นมาซะเฉยๆ

         ลีโน่พาฉันเดินมาถึงหน้าร้านๆหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นร้านเสริมสวย อ้อ..หรือว่าหมอนี่จะมาทำผม จะว่าไปสีผมสีนี้ของเขาก็ยังสวยอยู่เลยนะ มันดูเข้ากับหน้าหล่อเนียนใสมีเสน่ห์นั่นมากๆ ฉันอดสงสัยเลยถามคนตรงหน้าไปว่า

"คุณจะมาทำผมเหรอ"

"เข้ามาสิ"  เขาเลี่ยงไม่ตอบคำถามฉัน แต่เรียกฉันเข้าไปแทน จนฉันได้แต่ตามเข้าไปอย่างงงๆ

"อ๊ายยย สวัสดีค่ะคุณลีโน่วันนี้มาทำอะไรคะ เปลี่ยนทรง หรือทำสีดีคะ"  พนักงานที่ดูเหมือนจะไม่ใช่หญิงแท้ตรงเข้ามาทักทายลีโน่ ก่อนจะเหลือบมามองฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ

"วันนี้ผมไม่ได้จะมาทำให้ตัวเองครับ แต่พาผู้หญิงคนนี้มาทำต่างหาก"  เขาว่าพลางดึงแขนฉันเบาๆให้มาอยู่ตรงหน้าคุณเจ๊สาวประเภทสอง ยัยเจ๊คนนี้เลยสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหันไปคุยกับลีโน่

"เอ่อ..ใครกันคะเนี่ย ปกติพี่จะเห็นคุณควงแต่สาวๆสวยๆหุ่นสะบึ้มทั้งนั้นนี่คะ แล้วเอ่อ..น้องคนนี้.."  ก่อนที่ยัยเจ๊คนนั้นจะถามจบลีโน่เลยพูดขัดขึ้นมาก่อน

"ทำไม่ได้เหรอครับ งั้นไปร้านอื่น"  หมอนั่นว่าแล้วเอื้อมมาจับมือฉันทำท่าจะเดินออกไป แต่ถูกยัยเจ๊ขัดขึ้นมาซะก่อน

"แหมมม ทำน้อยใจพี่ไปได้ ก็แค่สงสัยน่ะค่ะ แล้วนี่จะให้โมดิฟายทั้งตัวเลยเหรอคะ"  ยัยเจ๊หัยหน้าแป้นแล้นไปถามหนุ่มหล่อ

"ครับ ทำออกมาให้สวยที่สุด"  เขาว่าพลางหันมาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉัน ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆ

"เอ่อ...เดียวสิคุณลีโน่ ฉันไม่ได้อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองซักหน่อย ไม่เอาอ่ะ กลับกันเถอะ"  ฉันพูดอ้อนคนตรงหน้าเพื่อให้เขาเปลี่ยนความคิด ใช่แล้ว! ฉันจะมาทำสวยได้ยังไงล่ะ อุตส่าห์ปลอมตัวเป็นยัยขี้เหร่เฉิ่มเชย อยูู่ๆให้เข้าร้านเสริมสวยเนี่ยนะ แบบนี้แผนการก็ล่มกันพอดีน่ะสิ

"....."  แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่สนใจเสียงเรียกร้องจากฉันแล้ว และแล้วฉันคนโดนยัยเจ๊ประเภทสองกับสาวแท้ผิวเข้มมาลากตัวไป

"เอ้ยยย ไม่เอา ปล่อยฉันนนน ฉันไม่อยากสวยยย!!!! คุณลีโน่ช่วยด้วยยย !!"  ฉันร้องแหกปากตะโกนให้เขาช่วย แต่คนถูกเรียกกลับทำไม่สนใจ แล้วหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ หน็อยอีตานี่ อย่าบอกนะว่าที่พูดแปลกๆก่อนหน้านี้ว่าจะพิสูจน์ คือการพาฉันมาที่นี่น่ะ หรือว่าเขาจะรู้ความจริงแล้วนะ

         ฉันถูกยัยเจ๊สาวประเภทสองกับสาวแท้ผิวเข้มอีกคนพามาที่ห้องแต่งตัว พอได้คุยกันถึงได้รู้ว่าคนที่ฉันเรียกว่ายัยเจ๊ชื่อจีจี้ ส่วนสาวผิวเข้มอีกคนชื่อนิโคล ทั้งสองคนบอกให้ฉันไปล้างหน้า แต่ด้วยการที่ฉันไม่อยากให้เมคอัพที่อำพรางผิวหน้าที่แท้จริงไว้ถูกล้างออก จึงได้แต่อิดออดและพยายามจะออกไปจากที่นี่ให้ได้ จนทั้งสองหมดความอดทนกับฉัน เลยเรียกพนักงานหญิงอีกสองคนให้มาจับฉันไว้ แรกๆฉันได้แต่ดิ้นขลุกขลักบนเก้าอี้ แต่สุดท้ายก็รู้สึกเหนื่อยก็เลยปล่อยให้พวกเธอทำตามใจชอบ เห้อ...นี่ฉันพลาดแล้วสินะ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงต่อไป และก็อดสังสัยอยากถามคนพามาไม่ได้ว่าทำไมต้องให้เธอมาแปลงโฉมด้วยเนี่ย

         ผ่านไปราว 3 ชั่วโมง ที่นานไม่ใช่ว่าต้องจับแต่งอะไรมากหรอกนะ เพราะมัวแต่คอยจับฉันให้อยู่นิ่งๆก็ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมงละ หลังจากที่พี่จีจี้และพี่นิโคลล้างเมคอัพของเดิมของฉันออกหมด พวกเธอก็ต่างมองหน้ากันเอง แล้วหันมาพูดกับฉันว่า

"แหมมคุณน้อง หน้าออกจะสวยเนียนใสกิ๊ง ทำไมต้องมาเมคอัพเพิ่มรอยกระ ขี้แมลงวันอีกคะเนี่ย นึกสนุกอะไรล่ะเนี่ย คริๆ" พี่จีจี้พูดกับฉันพลางหันไปยิ้มหัวเราะกับพี่นิโคล ส่วนฉันก็ได้แต่นิ่งทำเนียนส่งยิ้มแหยๆกลับไป

          หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จ พี่นิโคลก็เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ชุดที่เอามาให้เป็นเดรสสั้นสีดำโชว์แผ่นหลังเนียนสวย สีดำของชุดตัดกับผิวขาวเนียนละเอียด พอใส่ออกมาแล้วทำให้ดูสวยเปรี้ยว แต่ก็ไม่เข็ดฟัน ยังมีความน่ารักปนอยู่ ซึ่งดูเข้ากันกับเทคนิคการเมคอัพที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตาฉันยิ่งขึ้น อ้อ..ลืมบอกไป ว่าพอพี่จีจี้กับพี่นิโคลเอาแว่นฉันออก เลยทำให้รู้ว่าที่จริงแล้วฉันไม่ได้สายตาสั้นแถมยังออกปากชมด้วยว่าตาสวยมีเสน่ห์ แล้วก็หันไปหัวเราะคิกคักกันสองคน สุดท้ายการแปลงโฉมครั้งนี้ก็เสร็จสมบูรณ์ แล้วนี่ฉันควรจะทำยังไงกับคนหล่อที่นั่งรอฉันอยู่ดีนะ ไม่รู้ว่ารอจนหลับไปแล้วรึเปล่า

"คุณลีโน่ขาาา เสร็จแล้วค่ะ"  พี่จีจี้เดินนำหน้าฉันมาก่อนจะหันไปบอกคนนั่งรอที่ตอนนี้ละสายตาจากโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะหันหน้ามาหาคนเรียก

"........"  ลีโน่หันหน้ามามองหน้าฉัน ก่อนจะสบตาฉัน แล้วยืนนิ่งไม่แม้แต่จะฟังเสียงเจื้อยแจ้วของพี่จีจี้เลย หมอนั่นยังคงจ้องหน้าฉันอย่างไม่วางตา แถมยังจ้องนานซะจนฉันรู้สึกอึดอัด หายใจติดขัด แล้วพลันทำให้รู้สึกเลือดสูบฉีดที่หน้าขึ้นมา จนเป็นฉันเองที่ต้องหลบตาเขา

"เป็นยังไงคะฝีมือพี่ ที่จริงคุณน้องพีต้าเธอก็สวยอยู่แล้วนะคะ ไม่ได้แต่งอะระ.."

"เอ่อ..พี่จีจี้คะ"  ฉันเรียกชื่อพี่จีจี้เพื่อเน้นย้ำให้รู้ว่าอย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้เลย

"แหมม อึ้งตาค้างไปเลยเหรอคะ คุณลีโน่.. คุณลีโน่ๆ"  พี่จีจี้พยายามส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ได้สติและรู้สึกตัว แล้วละสายตาจากฉันก่อนจะมาตอบพี่จีจี้แทน

"อืม.. ก็ไม่เลว"  เขาตอบด้วยเสียงเรียบๆ ทำหน้าเฉยๆ แล้วก็ไม่หันมามองที่ฉันอีกเลย เมื่อกี้ตานี่ว่าไงนะ!! ก็ไม่เลว.. ก็ไม่เลว..งั้นเหรอ เชอะ!! งั้นสาวๆที่พามาคงสวยกว่านี้สินะ แล้วนี่ฉันจะรู้สึกโมโหทำไม ทำไมถึงรู้สึกเสียใจกับคำพูดแค่ไม่กี่คำจากลีโน่ แล้วนี่ฉันกำลังหวังอะไรจากคนตรงหน้าอยู่ล่ะ ฉันบอกกับตัวเองในใจ

"เหรอคะ พี่นึกว่าสวยจนตาค้างซะอีก"  พี่จีจี้ได้ทีพูดแหย่คนหล่อหน้ามึนตรงหน้า 

"ช่างเถอะค่ะพี่จีจี้ พีต้าคงไม่สวยเหมือนสาวๆที่เค้าควงหรอกค่ะ"  ฉันพูดกับพี่จีจี้แต่ก็ยังแอบเหน็บคนตรงหน้าด้วยสายตาเคืองๆ

"เห็นมั้ยล่ะคะคุณลีโน่ว่าน้องพีต้างอนแล้วเนี่ย พี่จะบอกอะไรให้นะคะน้องพีต้า ว่าน้องพีต้าเป็นผู้หญิงคนแรกเลยที่คุณลีโน่พามาที่ร้านพี่เลย แถมยังสวยกว่านางแบบดังๆที่คุณลีโน่เคยควงอีกนะคะ"  พี่จีจี้บอกพลางส่งรอยยิ้มเป็นกำลังใจมาให้

"พูดจบกันรึยัง ถ้าเสร็จแล้วจะได้ไปซักที"  ลีโน่พูดพลางเอื้อมมาจับมือฉันและเดินออกจากร้านไป ซึ่งฉันก็ได้แต่ส่งยิ้มจางๆลาพี่จีจี้และคนอื่นๆในร้าน

         ตลอดทางที่นั่งมาด้วยกันบนรถ ลีโน่ยังคงเงียบไม่พูดกับฉันเลย ฉันถามคำก็ตอบคำ จนฉันเหนื่อยที่จะคุยด้วยเลยนั่งเงียบไม่หันไปสนใจคนข้างๆอีก แล้วนี่หมอนี่จะพาฉันไปไหนนะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่ ฉันเลยถามคนหล่อข้างๆไป

"นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่ เรากำลังจะไปไหนกันน่ะ"

"เดี๋ยวถึงก็รู้เองแหละ ฉันไม่พาเธอไปขายหรอกหน่า"  เขาตอบแต่ก็ยังไม่หันหน้ามาหาฉัน สายตายังคงจดจ่อมองเส้นทางข้างหน้า ส่วนฉันก็ได้แต่สงสัยแต่ก็นั่งเงียบ รอว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหนกันแน่...

นิยาย นางเอก เปลี่ยนแปลง ตัว เอง ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

แถมๆอิมเมจลีโน่ซักรูป

+++ เป็นไงบ้างคะรีดดด สนุกมั้ยๆ สุดท้ายก็ยังไม่ได้ NC ซักทีสิเนอะ 555 อย่าเพิ่งลงแดงกันไปก่อนน๊าา รับรองตอนหน้า NC แน่นอนค่ะ +++

อย่าลืมนะคะ รักเรื่องนี้ชอบเรื่องนี้ กดโหวต กดถูกใจ คอมเมนต์ให้กำลังใจไรต์กันเยอะๆนะ ไรต์ชอบอ่านคอมเมนต์ 555 ไม่รู้ว่าแต่งถูกใจรีดมั้ย อยากให้ปรับหรือแก้ไขตรงไหน เม้นบอกกันได้เลยค่ะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นเลยค่ะ รักคนอ่านจ้าา

นิยาย นางเอก เปลี่ยนแปลง ตัว เอง ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ