สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ 2022

สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ 2022

เสื้อผ้าหน้าผมที่ปังที่สุด มือที่ชื้นเหงื่อ ความตื่นเต้นรอคอยกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

    เรากำลังพูดถึงการสัมภาษณ์งาน! ซึ่งไม่ว่าจะกี่ครั้งก็น่าตื่นเต้นเสมอ หลายคนสัมภาษณ์งานจนเจนสนามแล้วก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นหน้างานจริงๆ การเตรียมตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก (ก.ไก่ล้านตัว) เพราะนอกจากจะช่วยลดความตื่นเต้นแล้ว ยังช่วยไกด์การตอบคำถามจริงๆ ได้ด้วย

    ลองนึกดูว่าหากไม่เตรียมตัวสัมภาษณ์ไป เจอคำถามที่คาดไม่ถึง คงให้คำตอบที่ดีที่สุดไม่ได้แน่ๆ บางคนอาจอึ้งอยู่จนนึกคำตอบไม่ได้ก็มี ดังนั้นเตรียมตัวไปมีชัยไปกว่าครึ่งจริงๆ

    วันนี้ Hotcourses Thailand เลยจะลิสต์คำถามคร่าวๆ ที่ต้องเจอแน่ๆ มาให้ พร้อมไกด์ไลน์คำตอบด้วย เอาไปปรับใช้ในการสัมภาษณ์งานของตัวเองได้เลย

Tell me about yourself

    ขั้นแรกก็เป็นการแนะนำตัวนั่นเอง แต่! มันไม่ใช่การแนะนำตัวแบบชั้นชื่อนี้ อายุเท่านี้ เรียนจบที่นี่นะ เพราะคำถามนี้เค้าถามเพราะ ‘อยากจะรู้จักผู้สมัครงาน’ นั่นแหละ คำถามนี้จะช่วยเซ็ทบรรยากาศการสัมภาษณ์งานขึ้น และช่วยเบรคความตื่นเต้นต่างๆ ระหว่างคนสัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ นอกจากนี้คำถามนี้ผู้ถูกสัมภาษณ์จะมีโอกาสได้ขายตัวเองด้วย

    การตอบคำถามนี้สามารถใช้หลัก Present, Past, Future ได้ ง่ายๆ คือคำตอบควรจะบอกว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่บ้าง (Present) เคยทำอะไรมาบ้าง (Past) และอยากทำอะไรในอนาคต (Future) ซึ่งบางครั้งอาจเอา Past ขึ้นก่อนก็ได้

    ตัวอย่างการตอบ

    Well, I’m currently an account executive at Company A, where I handle our top performing client. Before that, I worked at an agency where I was on three different major national healthcare brands. And while I really enjoyed the work that I did, I’d love the chance to dig in much deeper with one specific healthcare company, which is why I’m so excited about this opportunity with your company.

    I've been in the marketing industry for over five years, primarily working in account and project management roles. I most recently worked as a senior PM for a large tech company managing large marketing campaigns and overseeing other project managers. And now I'm looking to expand my experience across different industries, particularly fintech, which is why I'm so interested in joining an agency like yours.

Why Do You Want to Work at This Company

    อีกหนึ่งคำถามที่ต้องเจอแน่ๆ การจะตอบคำถามนี้ให้แตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นๆ คือต้องชัดเจน เจาะจงไปเลย โดยการจะทำอย่างนั้นได้ต้อง

    - ไปศึกษา ไปดูมาเลยว่าส่วนไหนของบริษัท/องค์กรที่ดึงดูดเราให้สมัครเข้ามา

    - บอกไปเลยว่าเราติดตามบริษัท/องค์กรนี้มานานแล้ว เห็นพัฒนาการของบริษัทเป็นยังไง

    - บอกไปว่าบริษัท/องค์กรนี้จะช่วยพัฒนาสายอาชีพเรายังไง และเราจะทำอะไรให้บริษัทได้บ้าง

    - บอกไปว่าเราประทับใจอะไรบ้างตอนเข้าไป หรือจากการ interact กับผู้สัมภาษณ์ก็ได้

    ถ้าใครรู้สึกว่าหาคำตอบให้คำถามนี้ไม่ได้ก็ต้องกลับมาคิดแล้วล่ะว่าเราเหมาะสมที่จะทำงานที่องค์กรนี้รึเปล่า เพราะมันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าที่นี่อาจไม่ใช่

What Are Your Greatest Strengths and Weakness

    คำถามประเมินตัวเอง หลายครั้งผู้สัมภาษณ์จะให้เราบอกข้อดี-ข้อเสียของตัวเอง คำถามนี้เป็นคำถามปลายเปิดมากๆ เราจะตอบยังไงก็ได้ แต่จำไว้เสมอว่านี่เป็นคำถามที่ให้เราขายตัวเอง คำถามพวกนี้จะบ่งบอกว่าผู้สมัครมองตัวเองเป็นคนยังไงด้วย

    จุดแข็ง

    ถ้าถามถึงข้อดี หลายคนอาจจะลิสต์ Adjective ไปเป็นข้อๆ เลย เช่น I’m a good team player/hard-working/fast-learner/creative etc. แต่! อย่าทำแบบนั้นจ้า! เพราะมันหว่านแห กว้างเกินไปมากๆ ที่เราควรทำคือให้นึกหลัก Quality not Quantity. คือให้เลือกคุณภาพมากกว่าปริมาณ เราเลือก Adj. มาได้ แต่ต้องเลือกอันที่เด่นจริงๆ เท่านั้น เจาะจงไปเลย จากนั้นเราก็ยกตัวอย่าง (example) เพื่อให้คำตอบมีเรื่องราว (stories) มากขึ้น

    ตัวอย่างเช่น “My strongest trait is in customer service. I listen and pay close attention to my customer’s needs and I make sure they are more than satisfied”

    จุดอ่อน

    คำถามนี้วัดความตระหนักรู้เกี่ยวกับตัวเองและความซื่อสัตย์ของผู้สมัครงาน แต่ควรจำไว้ว่า คำตอบเกี่ยวกับจุดอ่อนต้องพลิกให้เป็นจุดแข็งให้ได้ หรือบอกว่าเรากำลังปรับปรุงจุดอ่อนนี้อยู่ เช่น ถ้าพรีเซนต์งานไม่เก่งเลย ก็บอกไปตามตรง แต่ต้องบอกว่า ชั้นกำลังไปเรียน public speaking เพิ่มเติมเพื่อจะได้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นตอนพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เป็นต้น

    ตัวอย่างการตอบ “I feel my English ability is my weakest trait. I know this is only a temporary problem. I’m definitely studying hard to communicate more effectively.”

What’s a Time You Disagreed With a Decision That Was Made at Work

    ในการทำงานต้องมีข้อขัดแย้งกันอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่ว่าแต่ละคนจะรับมือยังไง คำถามนี้จึงเป็นการวัดกึ๋นการจัดการความขัดแย้ง/ปัญหาที่เกิดขึ้นนั่นเอง อย่าลืมว่ากำลังสัมภาษณ์งาน สถานการณ์ที่ควรจะตอบควรเป็นสถานการณ์จากการทำงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเด้อ

    STAR method คือหลักการตอบคำถามนี้ โดยควรจะยกตัวอย่างสถานการณ์คร่าวๆ ก่อน (Situation) เป็นแบ็คกราวน์ให้ผู้ฟังเข้าใจ จากนั้นก็บอกว่าเรามีหน้าที่ (Task) อะไรในสถาการณ์นั้น เราทำอะไร จากนั้นก็บอกว่าเราแก้ไขปัญหานั้นยังไง (Action) ปิดท้ายด้วยการบอกว่าผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร (Result)

    ในตอนท้ายควรบอกด้วยว่าเราเรียนรู้อะไรบ้าง คู่กรณีล่ะอาจจะเรียนรู้อะไรบ้าง แล้วเราจะนำเหตุการณ์นี้ไปใช้ในอนาคตได้ยังไง เป็นต้น

    ส่วนสิ่งที่ไม่ควรทำเลยคือ ใส่ดีเทลยิบย่อยลงไป เอาเนื้อไม่เอาน้ำ, ให้ความเห็นด้านลบ คือไม่ควรไปเบลมคู่กรณี (เช่นบอกว่าหัวหน้าเก่าเป็นคนขี้บ่นหรือจุกจิกอยู่แล้ว) ควรโฟกัสไปที่การกระทำของตัวเองและเหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่า, ไม่ต้องพยายามบอกผู้สัมภาษณ์ว่าเราเป็นคนถูก เพราะมันไม่มีประโยชน์ เค้าอยากรู้ว่าเราแก้ไขปัญหายังไงมากกว่า

Where Do You See Yourself in Five Years

    คำถามที่ HR หลายคนถามนะ คำถามนี้เค้าต้องการรู้ถึงเป้าหมายในอนาคตของเรา การตอบคำถามนี้ควรจะซื่อสัตย์และเจาะจงไปเลยว่าในอนาคตเราอยากทำอะไร เป็นอะไร ดังนั้นถ้าเรามีเป้าหมาย ความฝันอะไรก็บอกไปเลย แต่ทั้งหมดควรจะ based on ความเป็นจริงด้วยอะ

    การตอบคำตอบเอาตำแหน่งนี้เข้ามาพิจารณาด้วยว่า หากเราสมัครตำแหน่งนี้ไป แล้วตำแหน่งนี้จะพาเราไปสู่เป้าหมายในอนาคตของเราได้ยังไง หรือถ้าเรายังไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดก็อาจบอกไปว่าตำแหน่งนี้จะช่วยให้เราตัดสินใจเป้าหมายในอนาคตได้ง่ายขึ้นอะไรก็ว่าไป

What Are Your Salary Requirements

    คำถามนี้อาจทำให้หลายๆ คนอึดอัดใจ 55555 แบบตอบว่าอะไรดี มากไปก็กลัวเค้าไม่ให้ น้อยไปก็กลัวว่าจะได้ขึ้นมาจริงๆ ดังนั้นคำตอบนี้เราต้องไปดูก่อนว่าตำแหน่งเราเนี่ย ที่อื่นๆ ให้เงินเดือนเท่าไหร่ ซึ่งสามารถดูได้จากเว็บไซต์อย่าง Payscale หรือถามเพื่อน รุ่นพี่ก็ได้ คำตอบก็อาจจะตอบเป็นช่วงไปเช่น 25,000-30,000 หรือตอบจำนวนที่สูงที่สุดก็ได้ โดยทั้งหมดควรจะคิดจากประสบการณ์ และทักษะของเราด้วย

    พอเราบอกเงินเดือนที่เราต้องการไปแล้ว แน่นอนว่าเค้าก็ต้องไปคิดแหละ เราก็อาจจะบอกเค้าไปด้วยว่าเรายืดหยุ่นนะ ตกลงกันได้อีกที หรือถ้าหากคำถามนี้มาโดยที่เรายังงงๆ อยู่ก็อาจจะถามกลับไปก่อนได้ว่า “แล้วตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง?”

Do You Have Any Questions for Us

    นี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ถามเค้ากลับบ้าง! ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับตำแหน่งงาน ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานก็ถามไปเลย คำถามอาจจะเป็น

    - What's your favorite part about working here? ชอบอะไรเกี่ยวกับการทำงานที่นี่?

    - What are the skills and experiences you’re looking for in an ideal candidate? ทักษะและประสบการณ์แบบไหนที่อยากได้?

    - What training programs are available to your employees? มีเทรนนิ่งอะไรให้บ้าง?

    - What are the performance expectations of this position over the first 12 months? คาดหวังอะไรจากตำแหน่งนี้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

    - Who will I work with most closely? จะทำงานกับใคร?

ไดอารี่เรียนต่อนอก by น้องจินต์ - แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์งานในอังกฤษ

ลดความผิดพลาดในระหว่างสัมภาษณ์งาน

สัมภาษณ์งานต้องไม่พลาด! เคล็ดลับวิธีใช้ประสบการณ์เรียนต่อเมืองนอกให้เป็นประโยชน์สูงสุด

Source: Muse, Talkenglish

สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ 2022