กอง ปราบปราม อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หน้าที่

     หากพี่น้องประชาชนไม่ว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวของกับเรื่องอาชญากรรมอบายมุข ถูกรังแกจากกลุ่มอิทธิพลทีท้าทายต่ออำนาจของกฎหมายตลอดจนเรื่องเดือดร้อนไม่ได้รับความยุติธรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบ เราพร้อมทำหน้าที่และยืนอยู่ข้างประชาชนผู้ทุกข์ยากเสมอ โดยสามารถเดินทางมาติดต่อเราด้วยตนเองตามแผนที่หรือโทรศัพท์ติดต่อหน่วยงานต่างๆภายในกองบังคับการปราบปรามที่ท่านต้องการได้ที่นี่

กอง ปราบปราม อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หน้าที่

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เคยคุยกับเพื่อนนักข่าวอาชญากรรมเกี่ยวกับการเขียนวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจ ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่เรื่องไม่ดีจนมีเสียงเตือนด้วยความห่วงใยว่าไม่กลัวตำรวจเขาไม่พอใจหรือเพราะเล่นแต่ข่าวทางลบ ไม่เคยวิจารณ์ทางบวก คำตอบก็คือก็รู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองเหมือนกัน หลายเดือนก่อนยังเคยถูกมือดีบุกสาดน้ำมันเบรกใส่รถถึงบ้านพักมาแล้ว จนป่านนี้ไม่ทราบว่าตำรวจ สน.โชคชัย ท่านติดตามคดีไปให้ถึงไหน เผลอๆอาจจะเป็นอย่างที่เขานินทาคือรับแจ้งให้เหมือนจริง พอลงจากโรงพักให้โยนทิ้งเลยก็ได้ นี่ไม่ได้กล่าวหาลอยๆนะแต่ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นกรุณาแจ้งความคืบหน้าคดีสักนิดจักเป็นพระคุณอย่างสูง

พวกถามก็เลยย้อนกลับว่าอะไรบ้างล่ะที่เห็นว่าดี ถ้าดีในสายตาเพื่อนก็ต้องดีในความรู้สึกของชาวบ้านเขาด้วยนะ แบบนี้เอามาเถอะจะเขียนให้สามวันแปดวันไม่มีซ้ำ เหตุที่มีแต่ข่าวทางลบ(ตำรวจ)และวิพากษ์แต่ในเรื่องไม่ค่อยดีก็เพราะเนื้อแท้มันเป็นอย่างนั้นไง...อันนี้ตามข่าวที่ปรากฏ และข้อเท็จจริงต่างๆที่เราสามารถหาเสพได้จากสื่อทุกชนิดยกเว้นสื่อเลียแข้งเลียขาตำรวจ

วันนี้มีเรื่องฉ่าวโฉ่มารายงานคนไทยกันอีก....เกี่ยวกับการทำงานของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( ปอศ.) ซึ่งไม่ค่อยมีใครเขียนถึงหน่วยงานนี้มากนัก ส่วนใหญ่ที่เห็น - ที่เป็นอยู่มักจะมีแต่ผลงานจับนู่น นี่ นั่น โดยเฉพาะสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า หรือละเมิดลิขสิทธิ์มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ชุดกีฬา รองเท้า ซีดี.และขอประทานโทษ..สากกระเบือยันจานบินตามแต่จะปลอมกันได้

แหล่งผลประโยชน์ขนาดใหญ่เริ่มที่โรงงานผลิตเฉพาะใน กทม.มีทั้งย่านถนนสุขสวัสดิ์ ถนนเจริญนคร ถนนพระราม 2 บางขุนเทียน มีนบุรี ลาดกระบัง ยานนาวา สายไหม ย่านใจกลางกรุงฯคือหลังโรงแรมอินทรา ประตูน้ำและกระจายอยู่ในหลายพื้นที่มีตั้งแต่โรงงานขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ขยับไปอีกนิดคือย่านปริมณฑลคือ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สมุทรสาคร เป็นต้น

เมื่อหลุดจากโรงงานแหล่งการค้าที่ใหญ่สุด มีการบันทึกเป็นลายแทงสำหรับตำรวจ “นักบิน” เริ่มจากเมืองหลวงก็คือย่านประตูน้ำทั้งหมด ห้างดังแถวถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง  พัฒน์พงษ์ มาบุญครอง สุขุมวิท 3-9  สีลม ห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้าฯ ตะวันนา  ย่านดอนเมือง สะพานพุทธ รวมทั้งตลาดนัดขนาดใหญ่หลายแห่งเช่นตลาดรถไฟ เลียบด่วน หัวมุม เขยิบออกไปคือห้างดังบางใหญ่ จ.นนทบุรี ตลาดศรีเมือง เซียร์รังสิต ตลาดกำนันหลัก จ.ราชบุรี ตลาดเซฟวัน โคราช ห้างโอเอซิส ขอนแก่น อุดรธานี พัทยา ชลบุรี ตลาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ป่าตอง จ.ภูเก็ต เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ จ.สงขลา ตลาดไนท์พลาซ่า ตลาดริมคำ เชียงใหม่ ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว

ที่กล่าวมาทั้งหมดใครเป็นใคร อาเฮียหรืออาเจ้ ทั้งกลุ่มขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ กลุ่มขาย ซีดี.ก็อปปี้ และซีดีลามก ตำรวจ  ปดส.(บางคน) มีรายชื่อ-ลายแทงขุมทรัพย์อยู่ในมือ....ผู้ค้าผิดกฏหมายเหล่านี้ใครจ่ายดีมีปลอกคอแข็งจ่ายแล้วๆไปไม่มีการเจ๊าะแจ๊ะ แต่ถ้าจ่ายรายสะดวกแถมไม่มีปลอกคออาจถูกป่วน โดน “ชี้เป้า”ให้หน่วยอื่น หรือกองอื่นมากวนหมุนเวียนจนถึงขั้นอาจถอดใจยอมแพ้...พ่อค้าแม่ขายบางคนใช้ระบบเกลือจิ้มเกลือถ้าจ่ายแล้วยังมาจับก็จะมีปฏิบัติการด่าประจานตามที่เห็นในคลิป

เส้นทาง “ส่วยละเมิดลิขสิทธิ์” ไม่แตกต่างจากส่วยอื่นๆคือมี “หัวเบี้ย”เป็นตำรวจชั้นประทวน หรืออาจมีระดับสัญญาบัตรเป็นผู้หมวด-ผู้กอง เดินสายเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปทุกที่...ไปโรงงานเจ้าของต้องจ่าย หากเจอแรงงานต่างด้าวโดน 2 เด้ง...จากโรงงานลงพื้นที่ซึ่งจะมีสายคอยดูแลเก็บส่วยตามความสำคัญของตลาด คนเดินเยอะ ล็อกกว้างสินค้ามากก็หนักหน่อยตกเดือนละ 2 พันบาทจนถึงหลักหมื่น บางรายใช้ระบบเหมาเช่น ซีดี.เถื่อนทั่ว กทม. 1 ล้านบาท ภาคอีสาน -เหนือ-อีสาน-ตะวันออก-ใต้ จ่ายกันหลักล้านเช่นเดียวกัน ส่วนตำรวจท้องที่เคลียร์กันอีกต่างหากแล้วแต่ระบบพื้นที่ใครพื้นที่มัน

เขียนกันแบบนี้อาจจะสงสัยว่า ถ้าจ่ายแล้วทำไมยังจับให้ปรากฏเห็นข่าวกันบ่อยๆ...มีคำอธิบายว่าที่จับเพราะมีหลายปัจจัยตามที่บอกไว้ตอนต้นกล่าวคือปลอกคอยังไม่แข็งพอ อย่าลืมว่าตำรวจไทยมีไว้ทำอะไร!!??...ตำรวจไทยมีหลายหน่วย...ไม่มีใครยอม “ตกหล่น” ไม่มีใครยอมมองผ่านผลประโยชน์ เชื่อหรือ ไม่ว่าในเขตพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังขึ้นชื่อว่ามีตำรวจของกองบังคับการเด็กและสตรี (บก.ดส.) บางคนออกเดินสายเก็บส่วยทุกประเภทรวมทั้งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย

อธิบายให้เห็นกันชัดๆอีกภาพก็คือโครงสร้างของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( ปอศ.) แบ่งพื้นที่รับผิดชอบและลักษณะงาน 5 กองกำกับ กก. 1 บก.ปอศ.มีอำนาจจับกุมเฉพาะ กทม. กก.2 บก.ปอศ. มีอำนาจจับกุมทั่วประเทศยกเว้น กทม. กก. 3 ปอศ.และ 4 หน้างานเหมือนกับ กก. 2 อย่างแยกไม่ออก และ กก. 5 บก.ปอศ.ทำหน้าที่เกี่ยวกับอาชญากรรมธนาคาร ทุกประเภท

จึงเป็นหน้าที่ของพ่อค้า แม่ขายที่ทำผิดกฎหมายต้องรู้ชะตากรรมของตัวว่าเมื่อเข้าสู่วงจรนี้จะต้องดูแล-รับใช้ตำรวจหน่วยไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจเศรษฐกิจ ตำรวจท้องที่อันมีตั้งแต่โรงพัก กองบังคับการจังหวัด และกองบัญชาการภาค

จ่ายยิบจ่ายย่อย จ่ายแล้วจ่ายอีกแถมยังมีขบวนการ “ชี้เป้า” แกล้งให้จับ....ที่กำลังจะ “ฝีแตก”ต้องแฉบัญชีส่วยใครเป็นใคร มีตำรวจหน่วยไหนก็เพราะกลุ่มค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ย่านประตูน้ำทำการค้ากลุ่มอื่นไม่ได้จึงใช้วิชามารยัดเงินตำรวจบางคนที่อยู่ในเครือข่ายยกโขยงไปกวาดจับแหล่งผลิตแถวๆชานเมืองกรุงเทพฯ

เจ้าของกิจการเจอซ้ำๆ “จ่ายแล้วยังถูกจับ” ถึงกับหมดอาลัยตายอยากคิดจะปิดโรงงาน ผูกคอตายประชดแต่พอคิดขึ้นได้ก็เสียดายเพราะตำรวจตัวแสบยังลอยนวล เขาจึงตัดสินใจขอเลือกดับเครื่องชนให้พังกันไปข้าง...รายชื่อบัญชีส่วยมีการยืนยันว่าจะส่งให้ถึงมือพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ.ในเร็ววันนี้...ทั้ง “บิ๊กแป๊ะ” กับ “บิ๊กปิง”อย่าปล่อยให้เรื่องงามหน้าอย่างนี้ผ่านไป

หมวกใบหนึ่งของท่านปิยะพันธ์ คือเพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 กับท่าน ผบ.ตร. หมวกอีกใบเป็นถึงรองโฆษก สตช. ส่วนหมวกใบสุดท้ายคือผู้รับผิดชอบสูงสุดในกองบังคับการตำรวจเศรษฐกิจฯ....รีบใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดบ้านตัวเองโดยด่วน!!??