ติดตามอุปกรณ์ของคุณและสินทรัพย์ถาวรอื่นๆ ด้วยเทมเพลตสเปรดชีตที่สามารถเข้าถึงได้นี้ บันทึกรายละเอียดสินทรัพย์ รวมถึงหมายเลขลำดับประจำสินค้า ที่ตั้งทางกายภาพ ข้อมูลการซื้อ และค่าเสื่อมราคาจะถูกคำนวณให้คุณตามวิธีคำนวนค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง แบบยอดดุลบัญชีที่ลดลง150% และแบบยอดดุลบัญชีที่ลดลง 200% Excel บทความนี้ เราจะมาดูในเรื่องของการคิดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินกันนะค่ะ เนื่องจากทรัพย์สินถาวรเป็นบัญชีที่มีความพิเศษกว่าบัญชีทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น วัตถุดิบหรือสินค้าคงเหลือ นั่นคือ ทรัพย์สินถาวรมีการเสื่อมสภาพ และสามารถนำค่าที่เกิดจากการเสื่อมสภาพมาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้ ในโปรแกรม Express คุณสามารถบันทึกรายการทรัพย์สินทั้งหมดที่คุณครอบครองอยู่ ซึ่งโปรแกรมจะคำนวณค่าเสื่อมราคาและบันทึกบัญชีให้โดยอัตโนมัติ บางท่านอาจจะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการคำนวณค่าเสื่อมของตัวโปรแกรมใน แต่ละวิธี ว่ามีหลักการในการคำนวณในรูปแบบไหน จึงขออธิบายหลักการในการคำนวณค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินในแต่ละวิธี ดังนี้ คิด ค่าเสื่อมโดยเอาอายุการใช้งานเป็นจำนวนปีมาหาร ทำให้ได้ค่าเสื่อมราคาเท่ากันทุกปี เป็นวิธีที่นิยมใช้กัน ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์มูลค่า 10,100.- มูลค่าซาก 100.- อายุการ โปรแกรมจะคำนวณโดยใช้สูตรการคำนวณดังนี้ กรณีคิดค่าเสื่อมรายเดือน โปรแกรมจะคำนวณค่าเสื่อมของเดือนแรกที่มีการซื้อดังต่อไปนี้ 2. วิธีลดยอด (The Constant Percentage of Declining Book-Value Method) หรือเรียกเต็มๆ ว่า วิธีอัตราคงที่ของราคาตามบัญชีที่ลดลง วิธีนี้จะคำนวณหาอัตราค่าเสื่อมราคาที่คงที่ไว้ แล้วนำอัตรานั้นมาคูณกับราคาตามบัญชี ณ วันต้นรอบบัญชีของปีนั้นๆ เพื่อให้ได้ค่าเสื่อมประจำปี ดังนั้นอัตราค่าเสื่อมราคาคงที่ = 100 x (1 – รากที่ 5 ของ (100/ 10,100)) ค่าเสื่อมแต่ละปีจะเป็นดังนี้ ** หมายเหตุ : การคำนวณด้วยวิธีนี้ หากราคาซากกำหนดไว้น้อย จะมีผลทำให้เปอร์เซ็นอัตราค่าเสื่อมสูงขึ้นมาก ดังนั้นจึงควรกำหนดราคาซากให้เหมาะสมตามจริง (ไม่ใช่กำหนดเป็น 1 บาท) 3. คิดค่าเสื่อมต่อปีเอง เป็นการคิดค่าเสื่อมจากผลผลิต หรือ ชั่วโมงทำงาน วิธีนี้โปรแกรมจะไม่คำนวณค่าเสื่อมให้ คุณจะต้องป้อนตัวเลขค่าเสื่อมราคาเข้าไปเอง โดยคลิกที่แท็บค่าเสื่อมรายเดือน , คลิกปุ่มแก้ไข แล้วป้อนค่าเสื่อมแต่ละงวดเข้าไปเอง การคิดค่าเสื่อมในกรณีพิเศษต่างๆ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ (ไม่รวมโปรแกรม) 40% ส่วนที่เหลือให้หักได้ใน 3 ปี ทั้งนี้เฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ที่มีทรัพย์สิน(ไม่รวมที่ดิน) ไม่เกิน 200 ล้าน และมีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ดังนั้นค่าเสื่อมราคาที่คิดในปีแรกของทรัพย์สินเหล่านี้ จะประกอบด้วยค่าเสื่อม 2 ยอดคือ จึงต้องมีการกำหนดให้ป้อนค่าเสื่อมราคาเบื้องต้น ที่คำนวณเป็นเงินแล้วในช่องค่าเสื่อมเบื้องต้นเอาไว้ด้วย เพื่อโปรแกรมจะนำไปใช้ในการคำนวณค่าเสื่อมราคาส่วนที่เหลือให้เอง และเมื่อปิดประมวลผลสิ้นปีโปรแกรมจะนำยอดค่าเสื่อมหรือค่าสึกหรอในปีนั้น บวกด้วยค่าเสื่อมเบื้องต้น เพื่อบันทึกเป็นยอดค่าเสื่อมสะสมยกมาปีใหม่ (แต่โปรแกรมจะไม่ลบยอดค่าเสื่อมเบื้องต้นนี้ทิ้ง เพราะว่าในปีถัดไปจะเก็บไว้คำนวณมูลค่าทรัพย์สิน ดังนั้นห้ามลบยอดเงินในช่องนี้ออกค่ะ) 2. ทรัพย์สินที่ถูกจำกัดการคำนวณค่าเสื่อม กรณี ทรัพย์สินที่นำมาบันทึก เป็นทรัพย์สินที่ถูกจำกัดการคำนวณค่าเสื่อมราคาตามกฎหมาย เช่น รถยนต์ที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายจะยินยอมให้คำนวณค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ในกรณีนี้ ให้คุณบันทึกข้อมูลตามวิธีการดังต่อไปนี้ โดยในส่วนของราคาซื้อให้ป้อนมูลค่าตามที่ซื้อมาจริง ตัวอย่างเช่น ซื้อรถยนต์ 1 คัน ราคา 1,500,000 บาท ให้คุณป้อนในช่องราคาซื้อ 1,500,000 บาท ส่วนที่เกินอีก 500,000 บาท ให้นำไปป้อนไว้ในช่องราคาซาก ซึ่งจะทำให้โปรแกรมคำนวณค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าทรัพย์สินเพียง 1,000,000 บาทเท่านั้น กรณีข้างต้นนี้สามารถบันทึกข้อมูลในหน้าจอทรัพย์สินถาวรได้ดังรูป |