เข้า internet explorer ไม่ได้ windows 7

Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA30U5

hp-support-head-portlet

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า HP - ฐานความรู้

Z7_41I02JG0KOLGD0QK67BGRL1004

hp-contact-secondary-navigation-portlet

ฝ่ายบริการลูกค้า

เลือกรุ่นผลิตภัณฑ์ของคุณ

นโยบายความเป็นส่วนตัว © Copyright 2022 HP Development Company, L.P.

Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA3014

hp-share-print-widget-portlet

• ข้อมูล

  เรียนรู้วิธีอัปเกรดเป็น Windows 11

  คู่มือการอัปเกรด Windows 11

• ข้อเสนอแนะ

Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA30N0

hp-concentra-wrapper-portlet

PC ของ HP - การแก้ไขปัญหา Internet Explorer 9 (Windows 7, Vista, XP)

เอกสารนี้ใช้กับ PC ของ HP ที่ใช้ Internet Explorer เวอร์ชัน 7, 8, 9, 10 และ 11

อาจมีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นได้ขณะใช้ซอฟต์แวร์เว็บเบราว์เซอร์ Microsoft Internet Explorer (Internet Explorer) เลือกส่วนด้านล่างที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่คุณพบใน Internet Explorer หากคุณไม่พบหัวข้อที่ตรงกับปัญหาของคุณที่สุด ให้ใช้หัวข้อการแก้ไข Internet Explorer

ปัญหาจากสปายแวร์และการเข้ายึดครองการทำงานของเบราว์เซอร์

หากคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โฮมเพจของคุณเปลี่ยนเป็นหน้าที่คุณไม่ต้องการทุกครั้ง แสดงลิงก์ที่ไม่ต้องการบนเดสก์ท็อป หน้าต่างโฆษณาปรากฏขึ้นซ้ำๆ หรือแถบค้นหาปรากฏขึ้นมาโดยไม่ได้เรียก หมายความว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีสปายแวร์หรือแอดแวร์

การลบสปายแวร์และแอดแวร์ออกจากเครื่องทำได้ยาก ดูเอกสารสนับสนุนต่อไปนี้ของ HP สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสปายแวร์และวิธีลบสปายแวร์ออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณ: HP PC - คอมพิวเตอร์อาจติดไวรัสหรือมัลแวร์ (Windows 10, 8)

ขั้นตอนที่ 1: การตั้งค่าการรีเซ็ต Internet Protocol (IP)

ปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ในส่วนนี้เพื่อ ตั้งค่า Internet Protocol ใน Windows ใหม่ การตั้งค่า TCP/IP (Internet Protocol) ใหม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การได้รับข้อความ ไม่สามารถแสดงเพจ หรือข้อความ 404 ตลอดเวลา ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อรีเซ็ต TCP/IP โดยขึ้นอยู่กับเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้งานอยู่:

การรีเซ็ต IP ใน Windows 7 และ Vista

วิดีโอแสดงการรีเซ็ตค่าอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลใน Windows 7 และ Vista

ดูวิดีโอใน YouTube

ใน Windows 7 หรือ Vista ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อรีเซ็ตอินเทอร์เน็ตโพรโทคอล

1. คลิก Start (เริ่ม)

   
   .

2. คลิก All Programs (โปรแกรมทั้งหมด)

3. คลิก Accessories (เบ็ดเตล็ด)

4. คลิกขวาที่ Command Prompt (พร้อมท์คำสั่ง)

5. เลือก เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแล

   รูปภาพ : การเปิดพร้อมท์คำสั่ง

   

6. ที่พร้อมท์คำสั่ง พิมพ์ข้อความต่อไปนี้: netsh int ip reset

   คำสั่งนี้จะส่งกลับการตอบสนองจำนวนมากที่ลงท้ายด้วย ตกลง! จากนั้นจึงเป็นคำขอรีสตาร์ทเครื่อง

   รูปภาพ : รีเซ็ต IP

   

7. ที่พร้อมท์คำสั่ง พิมพ์ข้อความต่อไปนี้: netsh winsock reset

   ข้อความการดำเนินการสำเร็จจะปรากฏเมื่อคำสั่งผ่านไป

   รูปภาพ : รีเซ็ต Winsock Catalog

   

8. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ รีเซ็ต IP แล้ว

การรีเซ็ต IP ใน Windows XP

ใน Windows XP ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อรีเซ็ต Internet Protocol:

1. คลิก Start (เริ่ม) จากนั้นคลิก Run (เรียกใช้)

2. พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ลงในช่อง Open (เปิด): netsh int ip reset c:\resetlog.txt

3. คลิก OK (ตกลง)

4. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ และลองล็อกอินและเรียกดูอินเทอร์เน็ต หากปัญหายังมีอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป

5. หากคุณมี Windows XP Service Pack 2 หรือสูงกว่า คลิก เริ่ม แล้วคลิก เรียกใช้

6. พิมพ์ netsh winsock reset ในช่อง (เปิด)

   หากคุณไม่มี Service Pack 2 ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อลบและเรียกคืนไฟล์ winsock:

     หมายเหตุ

   ขั้นตอนต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรีจิสทรี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสร้างจุดเรียกคืนหรือสำรองข้อมูลรีจิสทรีก่อนดำเนินการต่อ

   1. คลิก Start (เริ่ม) จากนั้นคลิก Run (เรียกใช้)

   2. พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ลงในช่อง Open (เปิด): regedit

      ตัวแก้ไขรีจิสทรีจะปรากฏขึ้น

   3. คลิกเครื่องหมายบวก (+) ถัดจากปุ่มต่อไปนี้: HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\

   4. คลิก Winsock และจากนั้น กดปุ่ม Delete (ลบ)

   5. คลิก Yes (ใช่) เพื่อยืนยันการลบคีย์

   6. กด Winsock2 จากนั้นกด Delete (ลบ)

   7. คลิก Yes (ใช่) เพื่อยืนยันการลบคีย์

   8. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ คุณต้องดำเนินการขั้นตอนนี้

   9. เปิดหน้าต่าง Network Connections (การเชื่อมต่อเครือข่าย) (จากแผงควบคุมหรือ แถบด้านข้าง Network Places (ที่ตั้งบนเครือข่าย))

   10. คลิกขวาที่ Network Connections (การเชื่อมต่อเครือข่าย) แล้วเลือก Properties (คุณสมบัติ)

   11. คลิก Install(ติดตั้ง).

   12. คลิก Protocol (โปรโทคอล).

   13. คลิก Add (เพิ่ม).

   14. คลิก Have Disk (มีดิสก์).

   15. ป้อน c:\windows\inf เข้าไปในช่อง

   16. คลิก OK (ตกลง) และเลือกInternet Protocol (TCP/IP) จากรายการโปรโตคอลที่มีอยู่

   17. คลิก OK (ตกลง)

7. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ และลองล็อกอินและเรียกดูอินเทอร์เน็ต

การรีเซ็ต IP ใน Windows 98 หรือ Windows Me

ใน Windows 98 และ Me ใช้ บทความของ Microsoft หมายเลข Q241344 เรื่อง ข้อความแสดงข้อผิดพลาด: ไม่สามารถแสดงหน้านี้ (เป็นภาษาอังกฤษ) เพื่อตั้งค่า IP ใหม่และข้อความการแก้ไขปัญหาข้อความ page cannot be displayed (ไม่สามารถแสดงหน้า) ขั้นตอนในการแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคขั้นสูงเกี่ยวกับ Windows

ขั้นตอนที่ 2: การตั้งค่า Internet Explorer ใหม่

วิดีโอแสดงการรีเซ็ตค่า Internet Explorer ใน Windows 7

ดูวิดีโอใน YouTube

การรีเซ็ตค่าใน Internet Explorer อาจสามารถแก้ไขปัญหาหลายประการได้

บันทึก

หลังจากใช้ขั้นตอนเหล่านี้ คุณอาจต้องป้อนข้อมูล เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว ในเว็บเพจที่เชื่อถือได้ใหม่

หากต้องการวินิจฉัยและตั้งค่า Internet Explorer ใหม่โดยอัตโนมัติ ให้คลิก Microsoft Fix it Solution:

หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ได้ ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตั้งค่าใหม่ด้วยตนเอง:

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู) แล้วคลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

2. คลิกที่แท็บ Advanced (ขั้นสูง)

3. คลิก Reset (รีเซ็ต)

   รูปภาพ : ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต: ปุ่มรีเซ็ต

   

4. หลังจากเสร็จสิ้น ให้ปิดหน้าต่าง Internet Explorer ที่เปิดอยู่ทั้งหมด เปิด Internet Explorer ขึ้นมาใหม่ จากนั้นลองเรียกดูหน้าเว็บอีกครั้ง

   สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและวิดีโอ ดูบทความสนับสนุนของ Microsoftวิธีการรีเซ็ตค่า Internet Explorer

ขั้นตอนที่ 3: การแก้ไข Internet Explorer

หาก Internet Explorer มีปัญหาที่ไม่ได้แสดงอยู่ในเอกสารนี้ ให้แก้ไข Internet Explorer

บันทึก

หลังจากที่ใช้ขั้นตอนเหล่านี้ คุณอาจต้องป้อนข้อมูล เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว ในเว็บเพจที่เชื่อถือได้ใหม่

บันทึก

หากคุณไม่สามารถแก้ไข Internet Explorer โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้ ให้รับ Internet Explorer เวอร์ชันล่าสุดจาก Microsoft (ดาวน์โหลดหรือสั่งซื้อซีดี) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บเพจของ Microsoft www.microsoft.com/windows/Internet Explorer/ (เป็นภาษาอังกฤษ)

เลือกหนึ่งในส่วนต่อไปนี้ที่ตรงกับเวอร์ชัน Windows บนคอมพิวเตอร์ของคุณ:

การซ่อมแซม Internet Explorer ผ่าน System File Checker ใน Windows 7 หรือ Vista

วิดีโอแสดงการซ่อมแซม Internet Explorer โดยใช้ System File Checker

ดูวิดีโอใน YouTube

Internet Explorer รวมอยู่ใน Windows 7 และ Vista แล้ว ใช้ตัวแก้ไขไฟล์ระบบเพื่อแก้ไข Internet Explorer:

1. คลิก Start (เริ่ม)

   
   .

2. คลิก All Programs (โปรแกรมทั้งหมด).

3. คลิก Accessories (เบ็ดเตล็ด).

4. คลิกขวาที่ Command Prompt (พร้อมท์คำสั่ง) จากนั้นคลิก Run as administrator (เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบ)

   รูปภาพ : การเปิดพร้อมท์คำสั่ง

   

5. คลิก ตกลง หากข้อความการควบคุมบัญชีผู้ใช้เปิดขึ้นมา

6. ที่พร้อมท์บรรทัดคำสั่ง พิมพ์ข้อความต่อไปนี้: SFC /SCANNOW

   รูปภาพ : ตัวตรวจสอบไฟล์ระบบ

   

   หน้าต่างจะเปิดขึ้นมาเพื่อแจ้งสถานะไฟล์ที่พบและแก้ไขแล้ว

การแก้ไข Internet Explorer ใน XP

หากต้องการแก้ไขหรือติดตั้ง Internet Explorer ใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Windows XP SP2 ให้ติดตั้ง SP2 ใหม่เพื่อติดตั้ง Internet Explorer ด้วยตนเองอีกครั้ง

การแก้ไข SP1 หรือคอมพิวเตอร์ XP รุ่นก่อนหน้า ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม).

2. คลิก Run (เรียกใช้).

3. ป้อนคำว่า SFC /SCANNOW เข้าไปในช่อง Open (เปิด)

4. คลิก OK (ตกลง) และรอจนกว่าเสร็จสิ้น

บันทึก

หากคอมพิวเตอร์ของคุณมี Media Center 2005 อาจมีข้อความแสดงขึ้นมาที่ระบุให้ ใส่ซีดี Windows XP Profession แผ่นที่ 2 ทันที คลิก ยกเลิก เพื่อดำเนินการต่อ ข้อความนี้อาจแสดงขึ้นมาหลายครั้ง และไม่มีผลต่อการแก้ไขไฟล์มาตรฐานที่มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ของคุณ

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่หัวข้อ Microsoft 318378

การแก้ไข Internet Explorer ใน 98 และ Me

1. คลิก Start (เริ่ม)

2. คลิก Settings (ค่าปรับตั้ง)

3. คลิก Control Panel (แผงควบคุม)

4. ดับเบิลคลิกไอคอน เพิ่มหรือเอาโปรแกรมออก

5. คลิกแท็บ ติดตั้งหรือถอนการติดตั้ง

6. เลือก Internet Explorer และเครื่องมือในอินเทอร์เน็ต จากนั้นคลิก เพิ่มหรือเอาออก เมนูที่มี 3 ตัวเลือกจะปรากฏขึ้น

7. เลือก Repair Internet Explorer (แก้ไข Internet Explorer) และปฏิบัติตามพร้อมท์จนกว่าระบบจะรีสตาร์ท

8. หากมี Internet Explorer เวอร์ชันใหม่จาก Microsoft ให้ดาวน์โหลดได้ ให้อัพเกรดเป็น Internet Explorer เวอร์ชันใหม่

ขั้นตอนที่ 4: การถอนการติดตั้ง Internet Explorer เวอร์ชันปัจจุบัน

Internet Explorer นำเสนอฟังก์ชันที่สำคัญต่อระบบปฏิบัติการและไม่ควรเอาออก อย่างไรก็ตาม หากมีการอัพเดต Internet Explorer บนคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้าได้

หากต้องการถอนการติดตั้ง Internet Explorer โดยอัตโนมัติและกลับไปใช้เวอร์ชันที่ติดตั้งล่าสุด คลิก Microsoft Fix it Solution:

หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนในการถอนการติดตั้ง Internet Explorer เวอร์ชันอัพเดตด้วยตนเอง

เลือกหนึ่งในส่วนต่อไปนี้ที่ตรงกับเวอร์ชัน Windows บนคอมพิวเตอร์ของคุณ:

Windows 7 หรือ Vista

วิดีโอแสดงวิธีถอนการติดตั้ง Internet Explorer เวอร์ชั่นปัจจุบันใน Windows 7

หากต้องการถอนการติดตั้ง Internet Explorer ในคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม)

   
   .

2. คลิก Control Panel (แผงควบคุม แล้วเลือก Uninstall a program (ถอนการติดตั้งโปรแกรม)

3. คลิก ดูการปรับปรุงที่ติดตั้งไว้ จากด้านซ้าย

4. เลือกอัพเดต Internet Explorer จากรายการอัพเดตที่ติดตั้ง ซึ่งอาจแสดงอยู่ใต้ Microsoft Windows

5. คลิก ถอนการติดตั้ง และปฏิบัติตามข้อความที่เปิดขึ้นมาเพื่อถอนการติดตั้ง Internet Explorer

Windows XP

หากต้องการถอนการติดตั้ง Internet Explorer ในคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม)

2. คลิก Control Panel (เพิ่มหรือเอาโปรแกรมออก) แล้วเลือก Add or Remove programs (เพิ่มหรือเอาโปรแกรมออก)

3. เลือกกล่องกาเครื่องหมาย แสดงการปรับปรุง ที่ด้านบน

4. เลือกอัพเดต Internet Explorer จากรายการอัพเดตที่ติดตั้ง

5. คลิก Remove (เอาออก) และปฏิบัติตามข้อความที่เปิดขึ้นมาเพื่อถอนการติดตั้ง Internet Explorer

ขั้นตอนที่ 5: การเปิด Internet Explorer 7 โดยไม่ใช้โปรแกรม add-on

เมื่อเวลาผ่านไป เบราว์เซอร์จะมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นและอาจทำให้เกิดปัญหาสปายแวร์ ข้อความแสดงข้อผิดพลาด หรือปัญหาการเริ่มการทำงานของ Internet Explorer คุณสามารถเริ่ม Internet Explorer 7 ได้โดยไม่ต้องมีโปรแกรม add-on ของบุคคลที่สาม โดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้

เลือกหนึ่งในส่วนต่อไปนี้ที่ตรงกับเวอร์ชัน Windows บนคอมพิวเตอร์ของคุณ:

Windows 7 หรือ Vista

วิดีโอแสดงวิธีการเปิด Internet Explorer โดยไม่มีโปรแกรม add-on ของบุคคลที่สาม

หากต้องการเปิด Internet Explorer 7 โดยไม่มี add-on ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม)

   
   .

2. พิมพ์คำต่อไปนี้เข้าไปใน Search (ค้นหา): iexplore -extoff

3. คลิก iexplore -extoff จากผลลัพธ์การค้นหา

   รูปภาพ : การเปิด Internet Explorer โดยไม่ใช้โปรแกรม add-on

   

   เปิด Internet Explorer โดยไม่ใช้โปรแกรม add-on

Windows XP

หากต้องการเปิด Internet Explorer 7 โดยไม่มี add-on ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม)

2. คลิก Run (เรียกใช้)

3. พิมพ์คำต่อไปนี้เข้าไปในช่องข้อความ: iexplore -extoff

4. คลิก ตกลง เพื่อเปิด Internet Explorer โดยไม่ใช้โปรแกรม add-on

ขั้นตอนที่ 6: ค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ตรงกับอาการของคอมพิวเตอร์ของคุณ

หัวข้อนี้จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาที่ระบุตามอาการ

ไม่สามารถเปลี่ยนโฮมเพจได้

ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสปายแวร์ หรือเนื่องจากมีการติดตั้ง Norton Internet Security 2006 โดยที่เปิดใช้งานการปกป้องโฮมเพจอยู่

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. จากแท็บ General (ทั่วไป) ในส่วนโฮมเพจ เปลี่ยนโฮมเพจในช่องที่อยู่ (ตัวอย่างเช่น www.hp.com)

   รูปภาพ : เปลี่ยนโฮมเพจ

   

4. คลิก OK (ตกลง)

5. หากติดตั้ง Norton Internet Security 2006 หน้าต่างแจ้งเตือนการป้องกันโฮมเพจของ Norton Antivirus จะเปิดขึ้นมา ทำตามขั้นตอนต่อไป

   หากโฮมเพจไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนเป็นที่อยู่อื่นแทนที่จะเป็นที่อยู่ที่คุณเลือกเป็นโฮมเพจ ให้อัพเดตคำอธิบายไวรัสหรือแอดแวร์ และสแกนคอมพิวเตอร์เพื่อหาสปายแวร์ ลบสปายแวร์ที่พบ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู HP PC - คอมพิวเตอร์อาจติดไวรัสหรือมัลแวร์ (Windows 10, 8)

6. ในข้อความ Home Page Protection Alert (แจ้งเตือนการป้องกันโฮมเพจ) เลือกที่อยู่โฮมเพจที่แสดงอยู่ด้านหลังของ Change to (เปลี่ยนเป็น): (เช่น Change to: http://www.hp.com/)

   รูปภาพ : แจ้งเตือนการป้องกันโฮมเพจ

   

7. คลิก OK (ตกลง)

8. โฮมเพจเปลี่ยนและหน้าโฮมเพจใหม่จะเปิดขึ้นมาเมื่อเปิด Internet Explorer

ภาพไม่ปรากฏขึ้นมา

หากภาพไม่โหลดขึ้นมาในเว็บเพจ ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

รูปภาพ : ตัวอย่างการแทนที่กราฟิกที่หายไป

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. คลิกแท็บ Advanced (ขั้นสูง) และเลือก Show pictures (แสดงภาพ) ภายใต้ Multimedia (มัลติมีเดีย)

   • หาก Show picture (แสดงภาพ) ไม่ได้ถูกเลือกเอาไว้ ให้ทำเครื่องหมายช่องที่อยู่ติดกับ Show pictures (แสดงภาพ) คลิก OK (ตกลง) และเปิด Internet Explorer ใหม่ หากภาพปรากฏขึ้น แสดงว่าคุณทำสำเร็จแล้ว

   • หากเลือก แสดงภาพ แล้ว ให้คลิก ยกเลิก ปิดหน้าต่างตัวเลือกอินเทอร์เน็ต และดำเนินการต่อโดยใช้ขั้นตอนเหล่านี้

   รูปภาพ : แท็บขั้นสูงของหน้าต่างตัวเลือกอินเทอร์เน็ต

   

4. ปิด Internet Explorer

5. เปิดหน้าต่าง Run (เรียกใช้)

   ใน Windows 7 หรือ Vista:

   1. คลิก Start (เริ่ม)

      
      .

   2. พิมพ์ run ในช่อง Search (ค้นหา)

   3. คลิก เรียกใช้ จากผลลัพธ์การค้นหา

   ใน Windows XP:

   1. คลิก Start (เริ่ม)

   2. คลิก Run (เรียกใช้)

6. พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ลงในช่อง Open (เปิด): regsvr32 /I mshtml.dll

7. คลิก OK (ตกลง) และเปิด Internet Explorer

   ขณะนี้ภาพจะปรากฏขึ้นเมื่อเรียกดูเว็บเพจ

มีการแจ้งขอให้ติดตั้ง ActiveX control ตลอดแม้ว่าจะทำการติดตั้งแล้ว

หากคุณร้องขอการติดตั้งตัวควบคุม ActiveX จากเว็บไซต์เดิมซ้ำๆ ให้ปิดการกรอง ActiveX

วิดีโอแสดงการแก้ปัญหา ActiveX ใน Internet Explorer

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก ActiveX Filtering (การกรอง ActiveX) เพื่อลบเครื่องหมายออก การกรอง ActiveX ถูกปิดใช้งานเมื่อลบการกาเครื่องหมาย

Error: ไม่สามารถแสดงหน้า

เมื่อเปิด Internet Explorer หลังจากเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ข้อความ Page Cannot be Displayed (ไม่สามารถแสดงหน้า) จะปรากฏขึ้น ดำเนินการขั้นตอนต่อไปนี้จนกว่าข้อความแสดงข้อผิดพลาดจะได้รับการแก้ไข:

1. เว็บเพจที่คุณพยายามเข้าถึงอาจไม่สามารถให้บริการได้ในขณะนี้ ลองเยี่ยมชมเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อดูว่าข้อความนี้จะยังแสดงจากไซต์อื่นๆ หรือไม่ หากการไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ก็ปรากฏข้อความดังกล่าว่นกัน ให้ดำเนินการต่อในขั้นตอนต่อไป

2. ตั้งค่า Internet Explorer ใหม่และลองอีกครั้ง หากปัญหาการแสดงหน้ายังคงอยู่ ให้ดำเนินการต่อ

3. เปิดหน้าต่าง Run (เรียกใช้)

   ใน Windows 7 หรือ Vista:

   1. คลิก Start (เริ่ม)

      
      .

   2. พิมพ์ run ในช่อง Search (ค้นหา)

   3. คลิก เรียกใช้ จากผลลัพธ์การค้นหา

   ใน Windows XP:

   1. คลิก Start (เริ่ม)

   2. คลิก Run (เรียกใช้)

4. พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ลงในช่อง Open (เปิด): regsvr32 softpub.dll

5. คลิก OK (ตกลง) หากคุณพิมพ์รายการถูกต้อง ข้อความจะแสดงขึ้นเพื่อแจ้งว่าคำสั่ง RegSrv32 สำเร็จแล้ว

   รูปภาพ : ข้อความระบุความสำเร็จ

   

6. เปิดหน้าต่าง Run (เรียกใช้)

   ใน Windows 7 หรือ Vista:

   1. คลิก Start (เริ่ม)

      
      .

   2. พิมพ์ run ในช่อง Search (ค้นหา)

   3. คลิก เรียกใช้ จากผลลัพธ์การค้นหา

   ใน Windows XP:

   1. คลิก Start (เริ่ม)

   2. คลิก Run (เรียกใช้)

7. พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ลงในช่อง Open (เปิด): regsvr32 urlmon.dll

   หากคุณพิมพ์รายการถูกต้อง ข้อความจะแสดงขึ้นเพื่อแจ้งว่าคำสั่ง RegSrv32 สำเร็จแล้ว

8. คลิก OK (ตกลง) หน้าต่างระบุความสำเร็จจะปรากฏขึ้น

9. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ แล้วลองเรียกดูอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

   หากปัญหายังมีอยู่ ให้ทำต่อ

10. เปิด Internet Explorer และไปที่เว็บไซต์ที่เป็นสาเหตุของการหยุดทำงาน

11. กดปุ่ม Alt (ทั้งหมด) เพื่อเปิดแถบเมนู จากนั้นคลิก Tools (เครื่องมือ) จากนั้นคลิก Compatibility View settings (ค่าการแสดงผลการทำงานร่วมกัน)

    รูปภาพ : การตั้งค่ามุมมองที่เข้ากันได้

    

12. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กาเลือกในช่องติดกับ Display all websites in Compatibility View (แสดงผลเว็บไซต์ทั้งหมดในมุมมองความเข้ากันได้)

    รูปภาพ : การตั้งค่ามุมมองความเข้ากันได้ที่กาเลือกแสดงผลเว็บไซต์ทั้งหมดในมุมมองความเข้ากันได้

    

13. คลิก Close (ปิด) และรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ จากนั้นลองเรียกดูอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

    หากข้อผิดพลาดยังคงอยู่ ให้ตั้งค่า Internet Explorer ใหม่

    บันทึก

    หากยังเกิดข้อผิดพลาดในบางไซต์ แต่ไม่เกิดในไซต์อื่นๆ ให้ไปที่บทความการสนับสนุนของ Microsoft ข้อความแสดงข้อผิดพลาด 'The page cannot be displayed' (ไม่สามารถแสดงหน้านี้) เมื่อคุณพยายามดูเว็บเพจบนเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัย

Error: Internet Explorer หยุดทำงาน

ข้อความต่อไปนี้จะแสดงใน Internet Explorer: Internet Explorer หยุดทำงาน ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดขึ้นจากฮาร์ดแวร์หรือไดรเวอร์ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ หากต้องการแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ ให้เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมดการแสดงผลด้วยซอฟต์แวร์:

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. เลือก ใช้การแสดงผลด้วยซอฟต์แวร์แทนการแสดงผลด้วย GPU

   รูปภาพ : ใช้การแสดงผลด้วยซอฟต์แวร์

   

4. คลิก OK (ตกลง)

5. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ จากนั้นลองใช้อินเทอร์เน็ต

   บันทึก

   หากยังเกิดปัญหาอยู่ โปรแกรมเสริมที่เบราเซอร์อาจทำให้เกิดปัญหานี้ เปิด Internet Explorer โดยไม่ใช้โปรแกรม Add-on (ดูขั้นตอนที่ 5: การเปิด Internet Explorer ที่ไม่มีโปรแกรม Add-on) เพื่อทดสอบว่าปัญหาหายไปหรือไม่ หากหายไป ให้ถอนการติดตั้งหรือปิดใช้งานโปรแกรมเสริม

Error: "เปิดใช้งาน ActiveX" หรือ "การตั้งค่าความปลอดภัยปัจจุบันของคุณห้ามการเรียกใช้ตัวควบคุม ActiveX"

หากต้องการแก้ไขปัญหานี้ ดูหัวข้อ การตั้งค่า Internet ใหม่

หากต้องการดำเนินต่อ เลือก "Allow Blocked Content (อนุญาตเนื้อหาที่ถูกบล็อค) ..."

รูปภาพ : Allow Blocked Content (อนุญาตเนื้อหาที่ถูกบล็อค) ...

ข้อความเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยจะปรากฏขึ้นมา หากคุณยังต้องการดำเนินการต่อ คลิก Yes (ใช่)

  หมายเหตุ

โปรดทราบว่า ข้อมูลที่เป็นอันตรายหรือประสงค์ร้ายอาจถูกอนุญาตให้เข้าถึงเครื่องของคุณได้โดยการคลิกที่ Yes (ใช่) ดูเอกสารสนับสนุนต่อไปนี้ของ HP สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสปายแวร์และวิธีลบสปายแวร์ออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณ: HP PC - คอมพิวเตอร์อาจติดไวรัสหรือมัลแวร์ (Windows 10, 8)

รูปภาพ : Security Warning (การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัย)

Error: Internet Explorer พบข้อผิดพลาดและจำเป็นต้องปิด

หากต้องการแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ ทำการเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้ใน Internet Explorer:

บันทึก

หลังจากที่ใช้ขั้นตอนเหล่านี้ คุณอาจต้องป้อนข้อมูล เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว ในเว็บเพจที่เชื่อถือได้ใหม่

เริ่มจาก รีเซ็ต Internet Explorer เพื่อปิดใช้งานโปรแกรมเสริมของบุคคลภายนอกที่อาจทำให้เกิดปัญหา หากข้อผิดพลาดยังคงอยู่ ให้ใช้ขั้นตอนต่างๆ ในส่วนต่อไปนี้:

จากเมนู ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต ลบประวัติการเรียกดู คุกกี้ และจัดการโปรแกรมเสริม

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. คลิกแท็บ ทั่วไป แล้วคลิกลบ ใต้ประวัติการเรียกดู

   รูปภาพ : ลบประวัติการใช้งานเว็บ

   

4. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่ช่องหน้า Cookies (คุกกี้)

   รูปภาพ : ลบคุกกี้

   

5. คลิก ลบ

6. ในหน้าต่าง Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต) คลิกแท็บ Programs (โปรแกรม) จากนั้นคลิกปุ่ม Manage add-ons (จัดการโปรแกรม add-on)

   รูปภาพ : โปรแกรม

   

   โปรแกรมเสริมคือตัวควบคุม ActiveX ที่เปลี่ยนวิธีการทำงานของ Internet Explorer โดยอาจเป็นแถบเครื่องมือ ปลั๊กอิน และรหัสอื่นๆ ที่สามารถรบกวนการทำงานของ Internet Explorer

7. เลือกโปรแกรม add-ons ต้องสงสัยจากรายชื่อ จากนั้นคลิก ปิดใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรม add-on เปิด เมื่อเปิด Internet Explorer

8. คลิก ปิด เมื่อเสร็จสิ้น

   รูปภาพ : จัดการโปรแกรมเสริม (Add-on)

   

9. ในหน้าต่างตัวเลือกอินเทอร์เน็ต ให้คลิกแท็บ ขั้นสูง

10. ภายใต้การเรียกดู ลบเครื่องหมายเลือกจาก เปิดใช้งานโปรแกรมเสริมเบราว์เซอร์ของบริษัทอื่น (ต้องรีสตาร์ท)

    บันทึก

    การป้องกันไม่ให้โปรแกรมเสริมเบราว์เซอร์ของบริษัทอื่นลบแถบเครื่องมือค้นหา โปรแกรมเบ็ดเตล็ด และการแจ้งเตือนตัวกรองฟิชชิ่งของ Symantec จากเมนูบนสุด

    รูปภาพ : เปิดใช้งานโปรแกรมเสริมเบราว์เซอร์ของบริษัทอื่น

    

11. คลิก OK (ตกลง)

12. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

    ข้อผิดพลาดจะไม่แสดงอีกต่อไป

    บันทึก

    ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจเกิดจากโปรแกรมเสริมเบราว์เซอร์ที่ถูกเพิ่มโดยสปายแวร์หรือแอดแวร์ หากคุณต้องการใช้โปรแกรมเสริมเบราว์เซอร์ของบริษัทอื่น โปรดอ่านเอกสารสนับสนุนของ HP HP PC - คอมพิวเตอร์อาจติดไวรัส หรือมัลแวร์ (Windows 10, 8) เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบสปายแวร์และแอดแวร์ และวิธีการปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณจากซอฟต์แวร์ประเภทเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อได้รับการปกป้อง คุณจะสามารถเปิดใช้งานโปรแกรมเสริมของบริษัทอื่นได้อีกครั้ง

Error: เกิดข้อผิดพลาดรันไทม์ คุณต้องการแก้ไขจุดบกพร่องหรือไม่

ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อ Internet Explorer ไม่สามารถใช้สคริปต์จากเว็บเพจได้ ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่เป็นอันตราย แต่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งและสร้างความรำคาญ คุณสามารถปิดข้อความด้วยการปิดใช้งานการแก้ไขปัญหาสคริปต์

หากต้องการปิดใช้งานการแก้ไขปัญหาสคริปต์อัตโนมัติ คลิก Microsoft Fix it Solution:

หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ให้ใช้ขั้นตอนในส่วนต่อไปนี้เพื่อปิดใช้งานการแก้ไขสคริปต์ด้วยตนเอง:

การปิดใช้งานการแก้ไขปัญหาสคริปต์ด้วยตนเองจากแท็บขั้นสูงของตัวเลือกอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้คุณเองสามารถปิดสคริปต์แก้ไขปัญหาใน Internet Explorer ได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. คลิกที่แท็บ ขั้นสูง

4. ลบเครื่องหมายเลือกจาก แสดงการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อผิดพลาดจากสคริปต์ทั้งหมด ออก

   รูปภาพ : แท็บขั้นสูง

   

5. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่ช่องหน้า Disable script debugging (ใน Internet Explorer) และ Disable script debugging (ในบราวเซอร์อื่นๆ)

6. คลิก OK (ตกลง) และรีสตาร์ท Internet Explorer

ปัญหาในการติดตั้ง Internet Explorer 11

Internet Explorer 11 สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ที่มี Windows 7 ซึ่งมี Service Pack 1 ขึ้นไป ทำการอัพเดตโดยข้อมูลอัพเดต Windows เพื่อให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์อัพเดตอื่นๆ ทั้งหมดจะเป็นไปตามข้อกำหนด ตรวจสอบข้อกำหนดอื่นๆ ของระบบสำหรับ Internet Explorer 11 และ Windows 7 (เป็นภาษาอังกฤษ)

ปัญหาในการติดตั้ง Internet Explorer 10

Internet Explorer 10 สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ที่มี Windows 7 ซึ่งมี Service Pack 1 ขึ้นไป ทำการอัพเดตโดยข้อมูลอัพเดต Windows เพื่อให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์อัพเดตอื่นๆ ทั้งหมดจะเป็นไปตามข้อกำหนด ตรวจสอบข้อกำหนดอื่นๆ ของระบบสำหรับ Internet Explorer 10 และ Windows 7 (เป็นภาษาอังกฤษ)

ปัญหาในการติดตั้ง Internet Explorer 9

Internet Explorer 9 สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ที่มี Windows 7 หรือ Windows Vista พร้อม Service Pack 2

หากคุณมีปัญหาในการติดตั้ง Internet Explorer 9 เลือกหนึ่งในส่วนต่อไปนี้ที่ตรงกับ Windows เวอร์ชันที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ:

Windows 7

การอัพเดตประสิทธิภาพและการทำงานจาก Microsoft จำเป็นต้องติดตั้ง Internet Explorer 9 ก่อน หากต้องการติดตั้งโปรแกรมอัพเดตนี้ ให้ไปที่บทความสนับสนุนของ Microsoft Supportการอัพเดตประสิทธิภาพและการทำงานที่มีสำหรับ Windows 7 (เป็นภาษาอังกฤษ)

อัพเดตนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 7 Service Pack 1 หากต้องการติดตั้ง Service Pack 1 ไปที่บทความสนับสนุนของ Microsoftเรียนรู้วิธีการติดตั้ง Windows 7 Service Pack 1 (SP1) (เป็นภาษาอังกฤษ)

หลังจากติดตั้งโปรแกรมอัพเดตหรือ SP1 คุณจะพร้อมสำหรับการติดตั้ง Internet Explorer 9

Windows Vista

หากคอมพิวเตอร์ของคุณมี Windows Vista ตรวจสอบให้แน่ใจว่าติดตั้ง Service Pack 2 เป็นอันดับแรก หากต้องการติดตั้ง SP2 ไปที่บทความสนับสนุนของ Microsoft วิธีการรับ service pack ชุดล่าสุดของ Windows Vista (เป็นภาษาอังกฤษ)

หลังจากติดตั้ง SP2 คุณจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมอัพเดตอีก 2 โปรแกรมจาก Microsoft ก่อนติดตั้ง Internet Explorer 9:

บันทึก

จะต้องติดตั้ง Windows Graphics, Imaging และ XPS Library ก่อน

1. Windows Graphics, Imaging และ XPS Library (เป็นภาษาอังกฤษ)

2. ส่วนเสริมอัพเดตแพลตฟอร์มสำหรับ Windows Vista (เป็นภาษาอังกฤษ)

หลังจากติดตั้งโปรแกรมอัพเดตเหล่านี้ คุณจะพร้อมสำหรับการติดตั้ง Internet Explorer 9

Error: ไม่สามารถติดตั้ง Internet Explorer 7

ข้อความต่อไปนี้จะปรากฏขึ้นหลังจากที่คุณพยายามติดตั้งโปรแกรมอัพเดต Internet Explorer 7:

ไม่สามารถติดตั้ง Internet Explorer 7 คณต้องรีสตาร์ทระบบเพื่อยืนยันการยกเลิกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ทำกับระบบของคุณ

ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดขึ้นหากไม่สามารถอัพเดตไฟล์ระบบได้ หรือตัวติดตั้งไม่สามารถเขียนไปยังรีจิสทรีคีย์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าติดตั้ง Internet Explorer จากบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิพิเศษระดับผู้ดูแลระบบแล้ว หากคุณพยายามติดตั้งโปรแกรมอัพเดตจากบัญชีผู้ดูแลระบบ และข้อผิดพลาดยังคงอยู่ อาจจำเป็นต้องตั้งค่าสิทธิ์หรือการอนุญาตในรีจิสทรี

ใช้ Fix it solution อัตโนมัติจาก Microsoft ก่อนติดตั้ง Internet Explorer

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูบทความสนับสนุนของ Microsoft วิธีการแก้ไขปัญหาในการติดตั้ง Internet Explorer 7

ไม่สามารถปิด Internet Explorer

หากคุณไม่สามารถปิด Internet Explorer ด้วยการกด X ที่มุมขวาบน โปรแกรม add-on ของบริษัทอื่นอาจเปิด Window ตลอดเวลา รีเซ็ต Internet Explorer เพื่อปิดใช้งานโปรแกรม add-on ของบริษัทอื่น

ไม่สามารถดูเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยใน Internet Explorer (เช่น ธนาคารออนไลน์)

ดูเว็บเพจปกติได้ แต่ไม่สามารถดูเว็บเพจที่มีความปลอดภัย เช่น หน้าช้อปปิ้ง หรือหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

รูปภาพ : ตัวอย่างเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัย

หากต้องการเรียกคืนการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยของ Windows เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น ให้คลิก Microsoft Fix it Solution:

หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้ในการรีเซ็ตการเข้ารหัส SSL เพื่อให้สามารถดูหน้าที่มีความปลอดภัยได้:

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. คลิกแท็บ ความปลอดภัย

4. เลือก ไซต์ที่เชื่อถือได้

5. หากมี คลิกปุ่ม ระดับเริ่มต้น

   รูปภาพ : แท็บความปลอดภัย

   

6. คลิกแท็บ ขั้นสูง และเลื่อนไปที่ส่วนตัวเลือกการรักษาความปลอดภัย

7. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่ช่องหน้า Use SSL 2.0 (ใช้ SSL 2.0) และ Use SSL 3.0 (ใช้ SSL 3.0)

   รูปภาพ : ใช้ SSL

   

8. คลิกแท็บ เนื้อหา

9. คลิกปุ่ม ล้างสถานะ SSL

   รูปภาพ : ล้างสถานะ SSL

   

10. คลิก ปรับใช้

    เรียกดูเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบว่าคุณสามารถเรียกดูได้ หากคุณยังไม่สามารถเข้าถึงหน้าดังกล่าวได้ ให้ใช้ขั้นตอนที่เหลือเพื่อแก้ไขปัญหา

11. หากคุณใช้ Internet Explorer 7 หรือ 8 ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อปิดตัวกรองฟิชชิ่งในโปรแกรมชั่วคราว:

    1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

    2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

    3. ไปที่เว็บไซต์และลองอีกครั้ง

       บันทึก

       ขณะปิดตัวกรองฟิชชิ่ง คุณจะต้องรู้จักและมั่นใจในเว็บไซต์ที่คุณกำลังพยายามดู อย่าพิมพ์ข้อมูลส่วนตัวในแบบฟอร์มบนเว็บ เว้นแต่คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าไซต์ดังกล่าวมีชื่อเสียงเชื่อถือได้

    4. ภายหลังจากเยี่ยมชมไซต์ดังกล่าว ให้เปิดใช้งานตัวกรองฟิชชิ่ง

12. ลงทะเบียนไฟล์ .dll ใหม่:

    หากต้องการลงทะเบียนไฟล์ .dll ใหม่โดยอัตโนมัติ คลิก Microsoft Fix it Solution:

    

    หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อลงทะเบียนไฟล์ .dll ด้วยตนเอง:

    1. ใน Windows 7 หรือ Vista: คลิก) Start (เริ่ม

       
       .

       พิมพ์ run ในช่อง Search (ค้นหา)

       คลิก เรียกใช้ จากผลลัพธ์การค้นหา

       ใน Windows XP: คลิก Start (เริ่ม)

       คลิก Run (เรียกใช้)

    2. พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ในช่อง Open (เปิด): regsvr32 softpub.dll

       คลิก OK (ตกลง)

       หากคุณพิมพ์รายการถูกต้อง ข้อความจะแสดงขึ้นเพื่อแจ้งว่าคำสั่ง RegSrv32 สำเร็จแล้ว คลิก ตกลง ในข้อความที่แสดงบนหน้าจอ

       รูปภาพ : ข้อความระบุความสำเร็จ

       

    3. ทำ ขั้นตอนที่ 2 ซ้ำ สำหรับรายการที่เหลือในรายการ:

       • regsvr32 wintrust.dll

       • regsvr32 initpki.dll

       • regsvr32 dssenh.dll

       • regsvr32 rsaenh.dll

       • regsvr32 gpkcsp.dll

       • regsvr32 sccbase.dll

       • regsvr32 slbcsp.dll

       • regsvr32 cryptdlg.dll

    4. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

    ขณะนี้คุณสามารถดูเว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยได้แล้ว

ไม่สามารถดูบางเว็บไซต์ที่ต้องใช้คุกกี้ใน Internet Explorer

วิดีโอแสดงการเปิดใช้คุ้กกี้ใน Internet Explorer

ดูเว็บเพจปกติได้ แต่ไม่สามารถเปิดเว็บเพจที่ต้องใช้คุกกี้หรือเปิดได้อย่างช้าๆ ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่ออนุญาตการใช้คุกกี้:

บันทึก

การใช้ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้เว็บไซต์สามารถติดตั้งคุกกี้การติดตาม (คุกกี้ที่ปกติแล้วจะติดตามข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งบางครั้งถูกมองว่าเป็นสปายแวร์)

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

3. คลิกแท็บ ความเป็นส่วนตัว จากนั้นคลิก ขั้นสูง

   รูปภาพ : แท็บความเป็นส่วนตัว

   

4. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่ช่องหน้า Override automatic cookie handling (แทนที่การจัดการคุกกี้อัตโนมัติ)

   รูปภาพ : การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวขั้นสูง

   

5. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่ช่องหน้า Always allow session cookies (อนุญาตเซสชันคุกกี้เสมอ)

6. เลือก Accept (ยอมรับ) ภายใต้คุ First-party cookies และ Third-party cookies

7. คลิก OK (ตกลง)

8. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

ไอคอน Internet Explorer หายไปจากเดสก์ท็อป

วิดีโอแสดงวิธีการจัดทำชอร์ตคัทเดสก์ทอปสำหรับ Internet Explorer

หากต้องการเพิ่มไอคอน Internet Explorer อัตโนมัติ ให้คลิก Microsoft Fix it Solution:

บันทึก

Microsoft Fix it Solution นี้ไม่ทำงานใน Windows 7 ใช้ขั้นตอนต่างๆ ด้านล่างเพื่อเรียกคืนไอคอนที่หายไป

หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ให้เพิ่มไอคอนดังกล่าวด้วยตนเองดังต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม)

2. คลิก All Programs (โปรแกรมทั้งหมด)

3. คลิกรายการเมนูเริ่ม Internet Explorer ค้างไว้

4. ลากรายการเมนูเริ่มใน Internet Explorer ไปยังพื้นที่ว่างบนเดสก์ท็อปและปล่อยปุ่มเมาส์ซ้าย

   รูปภาพ : การย้ายไอคอน Internet Explorer

   

เมนูไฟล์ แถบที่อยู่ หรือรายการเมนูทั้งหมดหายไป

หากต้องการเปิดใช้งานเมนูไฟล์ แถบที่อยู่ หรือรายการเมนูทั้งหมดใหม่ ให้คลิก Microsoft Fix it Solution:

หากคุณไม่สามารถใช้ Microsoft Fix it Solution ให้เปิดใช้งานรายการเมนูที่หายไปใหม่ด้วยตนเองดังต่อไปนี้:

• หากรายการในเมนูส่วนใหญ่หายไป ให้กด F11 เพื่อปิดโหมดเต็มหน้าจอ กดปุ่ม F11 เพื่อปิดใช้งานโหมดเต็มหน้าจอ

• หากเมนู File (ไฟล์) หายไปจากแถบเมนู ให้กดปุ่ม Alt เพื่อเปิดเมนูไฟล์

  หากต้องการแสดงเมนูไฟล์ถาวร ให้คลิกขวาจากที่ใดก็ได้ด้านบนของหน้าต่าง Internet Explorer แล้วเลือก Menu bar (แถบเมนู)

  รูปภาพ : แถบเมนูที่ถูกเลือกอยู่

  

• หากแถบเครื่องมืออื่นๆ หายไป คลิก View (เรียกดู)

  คลิกที่ Toolbars (แถบเครื่องมือ) และจากนั้นเลือกชื่อเครื่องมือที่หายไป

  แถบเครื่องมือที่มีเครื่องหมายจะแสดงขึ้นมาทุกครั้ง

ไม่มีเสียงจากเว็บเพจใน Internet Explorer

ใน Windows 7 โปรดดู ไม่มีเสียงจากลำโพงใน Windows 7

ใน Windows Vista โปรดดู ไม่มีเสียงจากลำโพงใน Windows Vista

ใน Windows XP ให้ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้:

1. คลิก Start (เริ่ม)

2. คลิก Control Panel (แผงควบคุม)

3. คลิกSounds, Speech and Audio Devices (เสียง เสียงพูด และอุปกรณ์เล่นเสียง)

4. คลิกที่ Sounds and Audio Devices (เสียง และอุปกรณ์เล่นเสียง)

5. คลิกแท็บ เสียง

6. ในรายการ เหตุการณ์ของโปรแกรม ค้นหาและเลือก Windows Explorer

7. เลือก Complete Navigation (เสร็จสิ้นการนำทาง) และตั้งค่า sounds (เสียง) เป็น notify.wav

8. เริ่ม Navigation (การนำทาง) และตั้งค่า "sounds (เสียง)" เป็น Windows XP Start.wav

9. คลิก OK (ตกลง)

   หากคุณยังไม่ได้ยินเสียง โปรดดูหัวข้อ ไม่มีเสียงใน Windows 98, ME และ XP

รายการแสดงไม่ครบถ้วนขณะตรวจสอบร้านค้าออนไลน์

หากมีรายการหายไปจากหน้าเพจขณะเข้าไปที่ร้านค้าออนไลน์ใน Internet Explorer ให้ปิด Tracking Protection List (รายการป้องกันการติดตาม):

1. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

2. คลิก Tracking Protection (การป้องกันการติดตาม)

3. เลือกรายการ แล้วคลิก ปิดใช้งาน

   รูปภาพ : การป้องกันการติดตาม

   

   ขณะนี้รายการทั้งหมดแสดงบนหน้าแล้ว

Internet Explorer หยุดทำงานขณะที่ฉันเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีปลั๊กอินของ Java

วิดีโอแสดงการใช้มุมมองการใช้งานร่วมกันใน Internet Explorer

ใช้ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งดังต่อไปนี้เพื่อเปิดเว็บไซต์ที่มีปลั๊กอินของ Java ด้วย Internet Explorer:

• อัพเดต Java บนคอมพิวเตอร์เป็นเวอร์ชัน 6 อัพเดต 24 หรือสูงกว่า

• เพิ่มเว็บไซต์ไปยังรายการมุมมองที่เข้ากันได้:

  1. เปิด Internet Explorer และไปที่เว็บไซต์ที่เป็นสาเหตุของการหยุดทำงาน

  2. ใน Internet Explorer ให้คลิก Tools (เครื่องมือ) จากแถบเมนู (หากแถบเมนูไม่ปรากฏขึ้นมา กด Alt เพื่อเปิดแถบเมนู)

  3. คลิก Compatibility View Settings (การตั้งค่ามุมมองความเข้ากันได้)

     รูปภาพ : การตั้งค่ามุมมองที่เข้ากันได้

     

  4. ป้อน URL สำหรับเว็บไซต์แล้วคลิก Add (เพิ่ม).

ไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ใน Internet Explorer 10

ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อแก้ไขปัญหาหากคุณไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ใน Internet Explorer ทดสอบหลังจากแต่ละขั้นตอน ปิดและเปิดใหม่ Internet Explorer จากนั้นพยายามเปิดไฟล์ PDF

1. ปิดใช้งานโปรแกรมแอดออนใน Internet Explorer และเพิ่มเข้าไปเพื่อค้นหาว่ามีโปรแกรมแอดออนตัวใดที่ขัดขวางไม่ให้แสดงผลไฟล์ PDF

   1. ใน Internet Explorer คลิกที่ปุ่ม Tools (เครื่องมือ) จากนั้นคลิก Manage add-ons (จัดการแอดออน)

      รูปภาพ : เมนู Tools (เครื่องมือ) ของ Internet Explorer

      

   2. หากต้องการปิดใช้งานโปรแกรมแอดออน เลือกรายการ และคลิก Disable (ปิดใช้งาน)

      รูปภาพ : การปิดโปรแกรมเสริม

      

   3. เปิดโปรแกรมแอดออนอีกครั้งทีละตัว ตรวจสอบดูว่าสามารถเปิดไฟล์ PDF ได้หรือไม่หลังจากเปิดใช้งานโปรแกรมแอดออนแต่ละตัว หากคุณพบว่าโปรแกรมแอดออนตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหา ให้ปิดใช้งานโปรแกรมตัวนั้น

      หากยังไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป

2. รีเซ็ตการตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer หากตั้งค่าความปลอดภัยของคุณเข้มงวดมากเกินไป Internet Explorer อาจไม่สามารถแสดงผลบางเว็บไซต์ หากต้องการตรวจสอบว่านี่เป็นสาเหตุของปัญหาหรือไม่ ให้แปลงกลับไปสู่การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น

   1. ใน Internet Explorer คลิก Tools (เครื่องมือ) จากนั้นคลิก Internet Options (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)

      รูปภาพ : การเปิดตัวเลือกอินเทอร์เน็ต

      

   2. คลิกแท็บ ความปลอดภัย เลือก Reset all zones to default level (รีเซ็ตพื้นที่ทั้งหมดเป็นระดับเริ่มต้น) จากนั้นคลิก OK (ตกลง)

      รูปภาพ : การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความปลอดภัย

      

   3. ลองเปิดไฟล์ PDF

      หากยังไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป

3. รีเซ็ตการตั้งค่า Internet Explorer สามารถทำได้โดยไปที่ ส่วนการตั้งค่ารีเซ็ต Internet Explorer ในเอกสารชุดนี้

   หากยังไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป

4. ถอนการติดตั้งทุกเวอร์ชันของ Adobe Acrobat Reader และติดตั้งใหม่เพียงหนึ่งเวอร์ชันเท่านั้น หลายเวอร์ชันสามารถทำให้เกิดข้อขัดแย้งของซอฟต์แวร์และข้อผิดพลาด ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชั่นล่าสุดได้ที่ http://get.adobe.com/reader/otherversions/ (ภาษาอังกฤษ)

การเปลี่ยนขนาดตัวอักษรใน Internet Explorer

วิดีโอแสดงการเปลี่ยนขนาดแบบอักษรใน Internet Explorer

หากต้องการเปลี่ยนขนาดอักษรใน Internet Explorer ให้คลิก มุมมอง จากนั้นคลิก ขนาดอักษร หรือ ขนาดข้อความ) จากนั้นเลือกแบบอักษรที่ต้องการ

นอกจากนี้ยังสามารถปรับขนาดอักษรได้โดยกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ขณะเลื่อนขึ้นหรือลงโดยใช้ล้อเลื่อนเมาส์

หากต้องการซูมใน Internet Explorer ให้มองหาไอคอนแว่นขยายที่มุมด้านล่างขวาของหน้าต่าง Internet Explorer ค่าเริ่มต้นจะตั้งไว้ที่ 100% คลิกที่ลูกศรเลื่อนลงถัดจากแว่นขยายเพื่อปรับการขยาย การทำเช่นนี้จะเปลี่ยนขนาดตัวอักษรเพิ่มเติมจากทุกอย่างที่แสดงใน Internet Explorer