อุณหภูมิร่างกาย ท้อง สัปดาห์แรก

ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ คุณผู้หญิงต้องใส่ใจและหมั่นสังเกตสภาพร่างกายของตัวเองอยู่เป็นประจำ เพื่อช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติโดยเร็วที่สุด สิ่งที่คุณแม่สามารถทำได้เองในทุกวัน คือการวัดอุณหภูมิของร่างกายในทุกวัน

อุณหภูมิที่ปกติของหญิงตั้งครรภ์ ควรอยู่ระหว่าง 36.2 ถึง 37.5 องศา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอุณหภูมิในร่างกายของผู้หญิงจะสูงขึ้น สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย ช่วงระยะแรกอุณหภูมิของร่างกาย หากวัดจากใต้รักแร้ จะอยู่ในระหว่าง 36.9 ถึง 37.2 หลังจากฮอร์โมนคงที่ อุณหภูมิร่างกายของหญิงตั้งครรภ์จะค่อยๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ถึงแม้ว่าในช่วงแรกผู้หญิงตั้งครรภ์จะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น แต่ถ้าหากอุณหภูมิภายในร่างกายเกิน 37.5 องศา อย่างต่อเนื่อง และมีอาการอาเจียนร่วมด้วย แสดงว่าเป็นอาจมีอาการผิดปกติ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย และอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์

การมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น คนท้องอาจมีอาการไข้หวัด ในระหว่างตั้งครรภ์หรือมีโรคประจำตัว ที่ต้องทานยาอยู่เป็นประจำ ดังนั้นในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์จึงควรปรึกษาแพทย์ในเรื่องการใช้ยาที่เคยใช้อยู่ หรือหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภูมิสูงขึ้น เพื่อที่จะไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

EFB Form OTHER PAGE

กรุณากรอกข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับการเป็นสมาชิก Enfa Smart Club

*โปรดระบุข้อมูล

lastname *

Telephone *

วันกำหนดคลอด หรือ วันเกิดของลูกน้อย *

วัน

เดือน

ปี

Email

เข้าร่วม Enfa Smart Club

EFB Form popup

×

กรุณากรอกข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับการเป็นสมาชิก Enfa Smart Club

*โปรดระบุข้อมูล

Firstname *

lastname *

Telephone *

ระบุวันเกิด หรือ วันกำหนดคลอดลูกน้อยของคุณ *

วัน

เดือน

ปี

Email

เข้าร่วม Enfa Smart Club

การตั้งครรภ์ในระยะแรกที่ถือว่ายังมีความเสี่ยงต่อสภาวะแท้งสูง และอาการคนท้อง 1 เดือนก็มักจะเป็นกันอย่างรุนแรง เพื่อเป็นการเตือนให้รู้ว่าคุณกำลังจะมีชีวิตน้อยๆ อยู่ในท้องของคุณ ซึ่งอาการคนท้องนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเด็กเริ่มสร้างตัวจนเป็นตัวอ่อนที่มีอวัยวะเกือบครบทุกส่วน หรือในช่วงตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 เดือนขึ้นไป แต่ก็อาจจะมีบางคนที่แพ้ท้องยาวนานได้ถึง 6 เดือน ซึ่งอาการแบบนี้ต้องปรึกษาแพทย์เจ้าของเคสเลยทันที ส่วนคนที่กำลังมีลุ้นว่าเด็กตัวน้อยกำลังก่อตัวอยู่ในท้องหรือไม่ ก็อาจจะต้องสังเกตอาการคนท้องที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ ดังนี้

• อาการคนท้องจะมีความผิดปกติทางด้านร่างกายที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม และสามารถที่จะสังเกตได้อย่างชัดเจน คือง่วงนอนบ่อย อ่อนเพลียทั้งวัน รู้สึกหงุดหงิดง่ายมากขึ้นกว่าเดิม มีความไวต่อกลิ่นสูงและมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องอาหารที่เห็นได้ชัด เช่น เคยชอบอาหารลักษณะน้ำซุป ก็อาจจะไม่ชอบขึ้นมาเฉยๆ แล้วเปลี่ยนไปทานอาหารที่ไม่เคยชอบแทน เป็นต้น
• อาการคนท้อง 1 เดือน จะมีความผิดปกติจนบางครั้งก็อาจจะคิดว่าตัวเองเป็นโรคร้าย จากอาการที่อาจจะไม่เคยเป็นแต่กลับเป็นอย่างหนัก เช่น อาการปวดหัวอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียนตลอดเวลา เวียนหัวมากจนลุกไม่ได้ รับประทานอาหารไม่ได้จนผอมมาก หรือการมีเลือดไหลคล้ายประจำเดือนแต่จะมีสีเข้มจนเกือบดำและไม่ใช่แค่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งอาการเป็นการบ่งบอกว่าคุณอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการแท้ง ถ้าไม่แน่ใจก็ควรรีบซื้อที่ตรวจครรภ์มาใช้งานทันที เพื่อที่จะได้ไปพบแพทย์อย่างทันท่วงที

• ประจำเดือนขาดหายไม่มาตามเวลา โดยเฉพาะในผู้ที่มีประจำเดือนมาตรงตามเวลาตลอด เมื่อประจำเดือนขาดไปก็ย่อมต้องรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ซึ่งถ้าขาดหายไปยาวนานถึง 1 เดือน แบบไม่เคยเป็นมาก่อน ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าตัวเองได้ตั้งครรภ์แล้ว ทางที่ดีที่สุดคือซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพมาตรวจเบื้องต้นด้วยตัวเอง
• อาการคนท้องจะมีอุณหภูมิตัวสูงกว่าคนทั่วไปแต่ไม่ใช่การเป็นไข้ แต่จะทำให้กลายเป็นคนขี้ร้อนและต้องอยู่ใกล้ความเย็นตลอดเวลา จึงทำให้เกิดอาการหายใจถี่เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น และยิ่งเด็กเติบโตมากเท่าไหร่ก็ต้องแย่งออกซิเจนกับคุณแม่มากเท่านั้น จึงทำให้ร่างกายเกิดสภาวะที่ร้อนและเหนื่อยง่าย

• อาการคนท้อง 2 เดือน จะมีความรุนแรงของอาการที่กล่าวมาทั้งหมดเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า คุณแม่จึงควรเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเรื่องการดูแลตัวเอง รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และรับประทานอาหารให้ตามมื้อปกติ แต่ในคุณแม่บางคนช่วงเวลานี้ก็อาจจะไม่มีปัญหาอาการแพ้เลยก็ได้เช่นกัน
• อาการคนท้อง 2 เดือน จะมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด คือโมโห หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายกว่าปกติ เปลี่ยนอารมณ์เร็ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ในบางรายถึงขั้นเห็นหน้าคนรักแล้วรู้สึกอยากทะเลาะด้วยเลยทีเดียว

• ปวดเกร็งช่องท้องคล้ายการปวดประจำเดือนแต่ไม่ใช่ โดยจะปวดแบบหน่วงๆ ที่บริเวณท้องน้อยอยู่พักใหญ่แล้วก็คลายตัวลง แล้วก็กลับมาปวดใหม่อีกครั้ง ถือว่าเป็นสัญญาณการขยายตัวของมดลูก โดยจะมีลักษณะอาการแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนอายุครรภ์ประมาณ 4-5 เดือนอาการปวดนี้ก็จะดีขึ้น
• อาการคนท้องจะคัดตึงเต้านมคล้ายลักษณะกำลังจะเป็นประจำเดือน การคัดตึงเต้านมนี้เกิดจากการเริ่มสร้างน้ำนมให้ลูก พร้อมอาการเจ็บที่หัวนม จนบางคนอาจจะมีรอยแตกจนเป็นสีแดงที่หัวนมเพิ่ม แต่ไม่นานนักอาการนี้ก็จะดีขึ้น

• ปัสสาวะบ่อยหรือถี่มากต่อวัน โดยเฉพาะในอาการคนท้อง 2 เดือนขึ้นไป ไตจะเกิดการทำงานหนักกว่าเดิมเป็น 2 เท่า เพราะเนื่องมาจากเลือดต้องไปเลี้ยงทารกภายในครรภ์ ทำให้ไตต้องกรองเลือดและปัสสาวะเพิ่มมากขึ้นและถ้าครรภ์ใหญ่มากกว่า 5 เดือน หน้าท้องก็จะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คุณแม่เกิดปัสสาวะบ่อยมากกว่าเดิม
• เมื่อไปตรวจช่องคลอดจะเห็นได้ชัดว่าเนื้อเยื่อภายในช่องคลอด เริ่มมีสีที่คล้ำลงมากกว่าปกติ ซึ่งแพทย์ผู้ที่ความชำนาญเพียงแค่เห็นก็จะรู้ได้ทันทีว่าเกิดความเสียหายในช่องคลอดและอาการบวมน้ำตรงอุ้งเชิงกราน ที่เกิดมาจากสาเหตุที่มดลูกกำลังเริ่มจะฝังตัวอ่อนของเด็กนั่นเอง

อาการคนท้อง 3 เดือนขึ้นไปนั้น จะเริ่มมีอาการแพ้ท้องน้อยลงกว่าเดิม เพราะเด็กเริ่มที่จะเติบโตมากขึ้นและถ้าอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่ฝากครรภ์ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่คุณแม่ในเรื่องของความปลอดภัยได้มากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับของอาการคนท้อง 3 เดือนขึ้นไป คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและสภาพอารมณ์ที่จะเห็นอย่างชัดเจนมากที่สุด ซึ่งอาการคนท้อง 3 เดือนที่น่าสนใจ คือ

• การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง เพราะเด็กในครรภ์จำเป็นที่จะต้องสร้างผิวหนังและร่างกาย จนทำให้ร่างกายต้องเพิ่มโครงสร้างชั้นผิวหนังให้มากขึ้นกว่าปกติ แต่จะไปมีผลทำให้คุณแม่มีผิวคล้ำหรือเป็นสีดำตรงบริเวณรักแร้ ใบหน้าบางจุด ลำคอ และที่อวัยวะเพศ พร้อมทั้งมีเส้นกลางท้องสีน้ำตาลเกิดขึ้นมาตามธรรมชาติอีกด้วย
• อาการคนท้อง 3 เดือน จะเริ่มมีสภาวะความต้องการทางเพศที่ลดต่ำลงมาก หรือฝนบางรายก็อาจจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเหล่าคุณแม่ก็ต้องเตรียมใจให้พร้อมและเมื่อเข้าสู่การท้องในช่วง 5-6 เดือนขึ้นไป สภาวะนี้ก็จะกลับเข้าสู่ปกติ
• อาการคนท้องจะมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย มีสะโพกที่ขยายใหญ่ขึ้น หน้าท้องเต่งตึงขึ้น และอาจจะมีช่วงหน้าอก แขนและขาที่ขยายมากกว่าเดิมจนเห็นได้ชัด โดยที่บางคนนั้นท้องได้เพียง 4 เดือนก็อาจจะน้ำหนักขึ้นไปถึง 5 กิโลกรัม
• อาการคนท้อง 3 เดือนขึ้นไปอาจจะมีอาการปวดเกร็งที่ท้องน้อย มีลมในกระเพาะจำนวนมากจนรู้สึกอึดอัดท้อง และอาจจะมีอาการท้องผูกร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเป็นบางวันและก็อาจจะเป็นทุกวันได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาลดกรดที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อเด็กในครรภ์

อาการคนท้องเป็นสัญญาณแรกเริ่มที่จะทำให้คุณแม่ได้รู้ว่าชีวิตน้อยๆ ที่เฝ้ารอกำลังจะเติบโตขึ้นในตัวของเรา คุณแม่ทั้งหลายที่ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมืออาชีพ จึงต้องใส่ใจต่อสัญญาณเตือนนี้ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะสามารถรักษาชีวิตของลูกน้อยเอาไว้ได้อย่างทันเวลา และไม่ก่อให้เกิดความอันตรายใดๆ ต่อทั้งตัวคุณแม่และเด็ก โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ที่มีอาการคนท้อง 2 เดือนไปจนถึงอาการคนท้อง 3 เดือน ที่จะออกอาการได้อย่างชัดเจนมากที่สุด และเป็นช่วงที่มีความบอบบางสูง เด็กมีสิทธิ์เสี่ยงต่อการแท้งจากพฤติกรรมหรือการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องของคุณแม่ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ผู้หญิงที่ท้องในช่วงเวลา 2-3 เดือนนี้จึงเป็นช่วงเฝ้าระวังและฟื้นฟูให้ร่างกายสมบูรณ์ เตรียมพร้อมที่จะสร้างชีวิตใหม่ได้อย่างดีที่สุด