บุคคลใดได้รับการประกาศยกย่องจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติในสาขาปราชญ์และกวีประจำปี 2551
Rate this: Show Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading... การเมืองการปกครองหลัง พ.ศ. 2475
สังคมและวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทยได้รับอิทธิพลจากจีน และอินเดีย ได้แก่
ศิลปสมัยศรีวิชัยที่สำคัญได้แก่
ศิลปสมัยเชียงแสน
ศิลปวัฒนธรรมสมัยสุโขทัย
ศิลปสมัยอยุธยา
ศิลปวัฒนธรรมสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ศิลปวัฒนธรรมสมัยรัชกาลที่ 4 – พ.ศ.2475
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading... จงลำดับเหตุการณ์วิกฤตการณ์การเมืองสมัยพระนารายณ์มหาราช
จงอธิบายการเสียดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสและอังกฤษในสมัยรัชกาลที่ 5
จงสรุปไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 1
จงอธิบายการแก้ไขสนธิสัญญากับต่างประเทศ
จงลำดับเหตุการณ์ไทยกับสงครามอินโดจีน
จงลำดับเหตุการณ์ไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 2
จงลำดับเหตุการณ์นโยบายต่างประเทศของไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
จงลำดับเหตุการณ์สำคัญไทยกับสงครามเวียดนาม
จงลำดับเหตุการณ์การต่างประเทศของไทยหลังสงครามเวียดนามถึงปัจจุบัน
จงสรุปปัญหาปราสาทเขาพระวิหารและเขตแดนไทย กัมพูชา
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
รัฐประหาร พ.ศ.2490 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พลเรือนที่มีบทบาทต่อต้านญี่ปุ่นและมีบทบาททางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี เช่น ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายปรีดี พยมยงค์ แต่มีปัญหาการฉ้อราษฏร์บังหลวง และการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทำให้ทหารใช้เป็นข้ออ้างในการทำกระทำรัฐประหาร โดยมีพันเอก พลวงกาจสงครามและพลโท ผิน ชุณหะวัณ เป็นผู้นำ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เข้ามามีบทบาททางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรีอีก จนกระทั่่งปี พ.ศ.2500 ทหารเข้ามามีบทบาทรวมทั้งกลุ่มซอยราชครู ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกาในฐานะมหามิตรได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง มีการร่วมมือเพื่อต่อต้านการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ในเอเซีย รัฐประหาร พ.ศ.2501 ในปี พ.ศ.2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ทำการรัฐประหารรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยมีพลเอกถนอม กิตติขจร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ.2501 จอมพลสฤษดิ์ได้ทำการรัฐประหารอีกครั้ง ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร นานถึง 16 ปี รัฐธรรมนูญให้อำนาจอย่างมากแก่นายกรัฐมนตรีซึ่งได้แก่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจร อุดมการณ์ทางการเมืองที่สำคัญของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ก็คือ การนำแนวคิดการปกครองแบบพ่อปกครองลุก สมัยสุโขทัย มาประยุกต์ใช้ แนวคิดนี้ให้ความสำคัญแก่ พ่อขุน ในฐานะผุ้นำที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ข้าราชการและประชาชนเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบายของผุ้นำหรือพ่อขุน วันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 วันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 เป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครอง เป็นวันที่ประชาชนลุกฮือร่วมกันต่อต้านเผด็จการทหารที่ครอบงำประเทศอยู่เป็นเวลานาน โดยมีศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรที่เป็นผู้นำในการเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นผลให้จอมพลถนอม กิตติขจรนายกรัฐมนตรีต้องสิ้นอำนาจไป สัญลักษณ์ของการเป็นประชาธิปไตยที่สำคัญคือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2517 ซึ่งถือเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดฉบับหนึ่ง เหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยหลังเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 ได้ถูกคัดค้านจากหลายฝ่ายที่มองว่าได้รับการหนุนหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กระแสการคัดค้านการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยได้นำไปสู่การปราบปรามนักศึกษาและประชาชนในวันที่ 6 ต.ค.2519 และการรัฐประหารล้มรัฐธรรมนูญ โดยมีพลเรือเอกสงัด ชลออยู่เป็นผู้นำ มีการกวาดจับบุคคลต่างๆ ที่เคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทำให้นักศึกษาและประชาชนจำนวนมากหนีเข้าป่า เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเวลาที่นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้เผด็จการรัฐบาลพลเรือน รัฐประหาร พ.ศ.2520 นโยบายขวาหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ทำให้เกิดการคัดค้านจากภายในและภายนอกประเทศ ในที่สุด วันที่ 20 ตุลาคม 2520 พลเรือเอกสงัด ชลออยู่จึงกระทำรัฐประหารล้มรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร และแต่งตั้งให้ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทร์เป็นนายกรัฐมนตรี มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 และในปี พ.ศ.2522 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและอยู่ในตำแหน่งนานถึง 9 ปี ในระยะเริ่มต้นของการใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 การเมืองการปกครองไทยได้ชื่อว่า เป็นสมัยประชาธิปไตยครึ่งใบ ซึ่งช่วงนี้มีความพยายามที่จะทำการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2524 และวันที่ 9 ก.ย.2525 แต่ไม่สำเร็จ ภายหลังการเลือกตั้ง ทั่วไปใน ปี พ.ศ.2531 พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ หัวหน้าพรรคชาติไทยได้เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐประหารของคณะ ร.ส.ช.และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 ถูกยกเลิกโดยคณะผู้รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ร.ส.ช) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 หลังจากนั้นได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี กำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในวันที่ 22 มี.ค.2535 หลังจากเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ได้เกิดเหตุการณ์ คือ พฤษภาทมิฬ วันที่ 17-18 พ.ค.2535 จากการต่อต้าน พอเอกสุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีที่ไมได้มาจากการเลือกตั้ง พลเอกสุจินดา คราประยูร ลาออกจากตำแหน่ง และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้นายอานันท์ ปันยารชุนเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นวาระที่ 2 และได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2535 โดยพรรคประชาธิปปัตย์ ซึ่งได้รับคะแนนเสียงมากที่สดเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีนายชวน หลีกภัยหัวหน้าพรรคประชาฺธิปัตย์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลกระทบของเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
รัฐบาลชวน 1 ถึงรัฐบาลทักษิณ 2 เมื่อรัฐบาลนายชวน หลีกภัย บริหารประเทศได้ไม่ครบเทอม เนื่องจากปัญหาการแจกที่ดินทำกินหรือ สปก.4-01 และการถอนตัวของพรรคพลังธรรม รัฐบาลจึงยุบสภาและจัดให้ีมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 2 ก.ค.2538 ผลการเลือกตั้ง ทำให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกอภิปรายไม่่่ไว้วางใจรัฐบาลจนต้องประกาศ มีการเลือกตั้งใหม่ พ.ศ.2539 พรรคความหวังใหม่ได้เสียงข้างมาก สามารถจัดตั้งรัฐบาล โดยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจจนถึงขั้นประกาศลดค่าเงินบาท ส่งผลให้เศณษฐกิจทรุดตัวอย่างหนัก รัฐบาลขาดความไว้วางใจจากประชาชนต้องประกาศลาออก ปลายปี 2540 พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเสียงข้างมากสามารถจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อหมดสมัย มีการเลือกตั้งใหม่ ครั้งที่ 22 พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้พรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงตั้งพรรคผสมกับพรรคชาติไทย ชาติพัฒนา และบริหารประเทศได้ครบวาระ 4 ปี และยังชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 2 ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียวครั้งแรกในปรวัติศาสตร์การเมืองไทยและเป็นรัฐบาลสมัยที่ 2 รัฐบาล ค.ม.ช. รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลทักษิณ บริหารประเทศจนถึง 19 ก.ย.2549 ถูกพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน และคณ 4 เสือ ภายใต้ชื่อรัฐบาล ค.ม.ชหรือคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ รัฐประหารด้วยข้อหา ทุจริต คอรัปชั่น และทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ จนต้องลี้ภัยไปอยู่อังกฤษ รัฐบาล ค.ม.ช แต่งตั้ง พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศจนครบหนึ่งตามปัญญา ก็จัดให้มีการเลือกตั้งและร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 18 พ.ศ.2550 ประกาศใช้จนสำเร็จ ผลการเลือกตั้ง พรคพลังประชาชน (ชื่อใหม่ของพรรคไทยรักไทย) ภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช ชนะการเลือกตั้ง ร่วมกับพรรครัฐบาลอีก 5 พรรคจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่่ายค้าน ต่อมานายสมัคร สุนทรเวชต้องคดีความ พรรคพลังประชาชนเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 รัฐบาลนายสมชาย บริหารประเทศได้ 4 เดือน ก็ถูกศาลปกครองสั่งยุบพรรคพลังประชาชน พรรคประชาธิปัตย์สามารถรวบรวมสมาชิกสภาผู้แทน โดยมีพรรครัฐบาลเดิมมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ คือ พรรคชายไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 เข้าบริหารประเทศตั้งแต่ปลายปี 2551 แต่รัฐบาลต้องเผชิญปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจและอุทกภัยตลอดปี 2552-2553 เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เกิดจลาจลกลางกรุงเทพมหานคร ผลการปราบปรามทำให้มีผู้เสียชีวิต 91 คน ส่งผลให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างหนัก รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะโดยได้เสียงข้างมาก จึงจัดการบริหารประเทศ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2554 โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย Rate this:Share this:Like this:Like Loading...
มีสาเหตุจากการที่รัชกาลที่ 5 ทรงตรากตรำกับพระราชกรณียกิจมากเกินไป แพทย์จึงทูลให้พักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ พระองค์จึงเสด็จแปรพระราชฐานไปที่พระราชวังบางปะอิน จ.นครศรีอยุธยา และมีพระราชประสงค์ไปยังเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นการประพาสไปตามลำน้ำ เป็นการเสด็จอย่างไม่เป็นทางการ ไม่มีหมายกำหนดการใดๆ ถือเป็นการไปเพื่อทรงพักผ่อนอิริยาบถ
รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสต้น 2 ครั้ง มีความสำคัญต่อสังคมไทยดังนี้
ทรงเสด็จประพาสยุโรป 2 ครั้ง เมื่อ พ.ศ.2440 2450
ครั้งที่ 2 พ.ศ.2450
เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ของราษฏรมัีทั้งที่เสด็จไปตรวจราชการอย่างเป็นทางการและเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ (เสด็จประพาสต้น) ทั้งทางเรือ ทางรถไฟอย่างสามัญชน ทรงแต่งพระองค์อย่างคนธรรมดา ทำให้ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิด ทำให้ทรงทราบทุกข์สุขและความเป็นไปของราษฏร ตลอดจนการปฏิบัติงานของข้าราชการในสว่นท้องถิ่น
กลุ่มข้าราชการหัวใหม่กราบทูลขอให้รัชกาลที่ 5 เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตย โดยพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่าคนไทยยังไม่พร้อม คำกราบบังคมทูลนี้ ถือว่าเป็นแผนพัฒนาการเมืองไทยฉบับแรก
ในสมัยรัชกาลที่ 6 เกิดการกบฏจากกลุ่มทหารขั้นผู้น้อย ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่สำเร็จ เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นกบฏทหารครั้งแรก และมีความสำคัญต่อกลุ่มปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ซึ่งได้อิทธิพลแนวคิดและแบบแผนไปใช้
ดุสิตธานีหรือเมืองประชาธิปไตยของรัชกาลที่ 6 เป็นเมืองตุ๊กตาทดลองประชาธิปไตย โดยจัดเมืองทดลองประชาธิปไตย ซึ่งเริ่มในหมู่ขุนนางข้าราชบริพาร แต่ต่อมาได้ยกเลิกไป
เพื่อให้คนไทยมีอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยทรงพระราชนิพนธ์บทประพันธ์แนวรักชาติไว้หลายเรือง เช่น หัวใจนักรบ ปลุกใจเสื่อป่า ภัยผิวเหลือง
การแก้ไขสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมก้ับต่างชาติในสมัยรัชกาลที่ 6 ไทยร่วมราบในสงครามโลกครั้งที่ 1 สหรัฐอเมริกาเป็นชาติแรกที่ยอมแก้ไขและทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ซึ่งมีความเท่่าเทียมกัน
มี 2 ส่วน คือ ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ส่วนกลางดำเนินงานเหมือนสมัยรัชกาลที่ 5 วางรากฐานไว้ ส่วนภูมิภาค ทรงรวมมณฑลเป็นภาค แต่ละภาคมีตำแหน่งอุปราชดูแล เปลี่ยนคำว่า เมือง เป็นจังหวัด มีทั้งหมด 4 ภาค คือ ภาคพายัพ ภาคใต้ ภาคอีสาน และมณฑลบูรพา
คล้ายคลึงสมัยรัชกาลที่ 6 และมีการเตรียมการวางรากฐานประชาธิปไตย เช่น รูปแบบการปกครองแบบเทศบาล —————— การเรียนแม้เหนื่อยยาก ย่อมลำบากอย่าท้อแท้ สุดท้ายที่รอคอย คืออนาคตอันงดงาม Rate this:Share this:Like this:Like Loading... ความหมายของภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาพื้นบ้านหรือภูมิปัญญาชาวบ้าน(Popular Wisdom) หมายถึง องค์ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมและสืบทอดกันมา อันเป็นความสามารถและศักยภาพในเชิงแก้ปัญหา การปรับตัวเรียนรู้และสืบทอดไปสู่คนรุ่นใหม่ เพื่อการดำรงอยู่รอดของเผ่าพันธุ์จึงตกทอดเป็นมรดก ทางวัฒนธรรมของธรรมชาติ เผ่าพันธุ์ หรือเป็นวิธีของชาวบ้าน ( ยิ่งยง เทาประเสริฐ) ภูมิปัญญาท้องถิ่น หมายถึง กระบวนทัศน์ของบุคคลที่มีต่อตนเอง ต่อโลกและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระบวนการดังกล่าว จะมีรากฐานคำสอนทางศาสนา คติ จารีต ประเพณี ที่ได้รับการถ่ายทอดสั่งสอนและปฏิบัติสืบเนื่องกันมา ปรับปรุงเข้ากับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ละสมัย ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อความสงบสุขในส่วนที่เป็นชุมชน และปัจเจกบุคคล ซึ่งกระบวนทัศน์ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น จำแนกได้ 3 ลักษณะ คือ 1.ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติแวดล้อม ( เสรี พงศ์พิศ) ลักษณะของแหล่งเรียนรู้ จัดได้ 3 ประเภท คือ 1. แหล่งเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติ สวนพฤกษชาติ ภูเขา แม่น้ำ ทะเล น้ำพุรอน ปรากฏการทางธรรมชาติ เช่น ฝนตก แดดออก น้ำท่วม ความแห้งแล้ง 2. แหล่งเรียนรู้ที่จัดขึ้นหรือสร้างขึ้น ซึ่งมีในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้สะดวกและรวดเร็ว 3. แหล่งเรียนรู้ที่เป็นทรัพยากรบุคคล ได้แก่ ครู ผู้ปกครอง พ่อแม่ พระภิกษุสงฆ์ ตลอดจนผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญในอาชีพแขนงต่างๆ ที่มีอยู่ในชุมชน รวมทั้งสถานที่ประกอบการ ร้านค้า หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ในท้องถิ่น ( เอกสาร ศน. ที่ 5/2545) ความเป็นมาและความสำคัญของแหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเภทของภูมิปัญญาไทย 1. ภูมิปัญญาด้านคติธรรม ความคิด ความเชื่อ หลักการที่เป็นพื้นฐานขององค์ความรู้ที่เกิดจากการสั่งถ่ายทอดกันมา 2. ภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นแบบแผนการดำเนินชีวิตที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา 3. ภูมิปัญญาด้านการประกอบอาชีพในท้องถิ่น ที่ยึดหลักการพึ่งตนเองและได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับกาลสมัย 4. ภูมิปัญญาด้านแนวความคิด หลักปฏิบัติ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ชาวบ้านนำมาดัดแปลงใช้ในชุมชนอย่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดสาขาภูมิปัญญาไทย เพื่อนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ในการเรียนรู้และส่งเสริมโดยแบ่งภูมิปัญญาออกเป็น 10 สาขา ดังนี้ 1. สาขาเกษตรกรรม หมายถึง ความสามารถในการผสมผสานองค์ความรู้ ทักษะ และเทคนิคด้านการเกษตรกับเทคโนโลยี โดยการพัฒนาบนพื้นฐานคุณค่าดั้งเดิมสามารถพึ่งพาตนเองในสภาวการณ์ต่าง ๆได้ เช่น การทำการเกษตรแบบผสมผสานการแก้ปัญหาการเกษตร การแก้ปัญหาด้านการผลิต ด้านการตลาด เช่น การแก้ไขโรคและแมลง การรู้จักปรับใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการเกษตร เป็นต้น 2.สาขาอุตสาหกรรมและหัตถกรรม (ด้านการผลิติและการบริโภค) หมายถึง การรู้จักประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการแปรรูปผลผลิตเพื่อชะลอการนำเข้าตลาดเพื่อแก้ปัญหาด้านการบริโภคอย่างปลอดภัย ประหยัด และเป็นธรรม อันเป็นขบวนการใช้ชุมชนท้องถิ่นสามารถพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจได้ ตลอดทั้งการผลิตและการจำหน่ายผลผลิตทางหัตถกรรม เช่น การรวมกลุ่มของกลุ่มโรงงานยางพารากลุ่มโรงสีกลุ่มหัตถกรรม เป็นต้น 3.สาขาการแพทย์แผนไทย หมายถึง ความสามารถในการจัดการป้องกันและรักษาสุขภาพของคนในชุมชน โดยเน้นให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองทางสุขภาพและอนามัยได้ 4. สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติละสิ่งแวดล้อม หมายถึงความสามารถเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งการอนุรักษ์ พัฒนาและใช้ประโยชน์จากคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน 5. สาขากองทุนและธุรกิจชุมชน หมายถึง ความสามารถในการบริหารจัดการ ด้านการสะสมและบริหารกองทุนและธุรกิจชุมชน ทั้งที่เป็นเงินตราและโภคทรัพย์ เพื่อเสริมสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของสมาชิกในชุมชน 6.สาขาสวัสดิการ หมายถึง ความสามารถในการจัดการสวัสดิการในการประกันคุณภาพชีวิตของคนให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม 7. สาขาศิลปกรรม หมายถึง ความสามารถในการผลิตผลงานทางศิลปะสาขาต่าง ๆเช่นจิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม ทัศนศิลป์ คีตศีลป์ เป็นต้น 8.สาขาการจัดการ หมายถึง ความสามารถในการบริหารการจัดการดำเนินงานด้านต่าง ๆทั้งองค์กรชุมชน องค์ทางศาสนา องค์กรทางการศึกษา ตลอดทั้งองค์กรทางสังคมอื่น ๆในสังคมไทย เช่น การจัดการองค์กรของกลุ่มแม่บ้าน ระบบผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน การจัดศาสนสถาน การจัดการศึกษา ตลอดทั้งการจัดการเรียนการสอน เป็นต้น กรณีการจัดการศึกษาเรียนรู้นับได้ว่าเป็นภูมิปัญญาสาขาการจัดการที่มีความ สำคัญ เพราะการจัดการศึกษาเรียนรู้ที่ดี หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ พัฒนาและถ่ายทอดความรู้ทางภูมิปัญญาไทยที่มีประสิทธิผล 9.สาขาภาษาและวรรณกรรม หมายถึง ความสามารถสร้างผลงานทางด้านภาษาทั้งภาษาโบราณ ภาษาไทยและการใช้ภาษา ตลอดทั้งด้านวรรณกรรมทุกประเภท 10.สาขาศาสนาและประเพณี หมายถึง ความสามารถประยุกต์และปรับใช้หลักธรรมคำสอนทางศาสนา ความเชื่อ และประเพณีดั้งเดิมที่มีค่าให้ความเหมะสมต่อการประพฤติปฏิบัติ |